"ทานข้าวสักหน่อยนะครับแม่เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งเอา"ต้นกล้าเอ่ยพูดกับผู้เป็นแม่ที่เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่เงียบ ๆ ตรงหน้าโลงศพของต้นน้ำด้วยความเสียใจเมื่อลูกสาวคิดสั้นแขวนคอตายหมายจบชีวิตพร้อมทิ้งจดหมายคำว่า"ขอโทษ"ไว้ก่อนจะจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
"แม่ครับทานข้าวสักหน่อยเถอะนะ" "แม่ยังไม่หิว กล้าเอาไปเก็บเถอะลูก" "แต่แม่ไม่ทานอะไรมาหลายวันแล้วนะครับ"ตั้งแต่ต้นน้ำตัดสินใจจบชีวิตผู้เป็นแม่ก็เอาแต่นั่งร้องไห้ไม่ยอมกินอะไรเอาแต่โทษตัวเองที่เลี้ยงลูกไม่ดีจนต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ "กล้าอย่าบังคับแม่เลยนะลูก ฮึก แม่ทานอะไรไม่ลงจริง ๆ "ต้นกล้ามองหน้าผู้เป็นแม่สลับกับมองรูปของพี่สาวฝาแฝดในกรอบสีทองก็พลันน้ำตาจะไหล 'พรุ่งนี้แล้วสินะที่ต้นน้ำจะต้องจากพวกเราไปยังที่ไกลแสนไกลและจะไม่มีวันได้หวนกลับมาพบกันอีก' "เป็นยังไงบ้างลูก" "เหมือนเดิมครับพ่อ แม่ไม่ยอมทานอะไรเลย"เด็กหนุ่มบอกกับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงสื่อถึงความหนักใจอยู่ไม่น้อย ไม่ต่างอะไรกับผู้เป็นสามีจ้องมองแผ่นหลังของภรรยาที่นั่งอยู่บนศาลา "การที่ต้นน้ำตัดสินใจจากพวกเราไปมันเกินกว่าที่จะรับไหว คงต้องใช้เวลา ต้นกล้าลูก" "ครับพ่อ" "อย่าคิดน้อยใจ พ่อกับแม่ยังคงรักลูกเหมือนเดิมต่อจากนี้ไปพ่อออยากให้ลูกเข้มแข็งเข้าไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะลูก" "พ่อพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ" "ไม่มีอะไรหรอกลูก พ่อแค่อยากจะบอกว่าพ่อกับแม่รักลูกมากนะต้นกล้า"บิดามองหน้าลูกชายน้ำตาก็พานจะไหล ตอนนี้อะไร ๆ มันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วตั้งแต่เขาได้สูญเสียลูกสาวอีกคนไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา การจากลาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ยากต่อการทำใจ เช่นเดียวกับครอบครัวนี้ "นั่นลูกจะไปไหนวาดฝัน"สองเท้าเล็กหยุดชะงักก่อนที่คุณหนูของบ้านจะหันไปมองยังทิศทางของเสียง "หนูจะไปร่วมงานศพของพี่ต้นน้ำค่ะคุณพ่อ"วาดฝันหญิงสาวผู้มีความสวยงามกิริยาอ่อนหวานน่ารักถอดแบบออกมาจากผู้เป็นแม่สาวเข้าเดินเข้าไปใกล้ผู้เป็นพ่อ ใบหน้าอ่อนเยาว์ซบลงบนไหล่ของท่านอย่างออดอ้อนเรียกรอยยิ้มจากผู้เป็นพ่อได้ทุกครั้ง "ให้หนูไปเถอะนะคะ พรุ่งนี้ก็จะถึงวันเผาแล้ว" "พ่อก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ดีเสียอีกที่ลูกไปร่วมงาน"ริมฝีปากเล็กคลี่ยิ้มกว้างอย่างน่ารัก "ขอบคุณนะคะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ไปร่วมงานกับหนูด้วยเหรอคะ"คนถูกถามถึงกับชะงักไปครู่หนึ่งแต่สามารถกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม แววตาอ่อนโยนมองใบหน้าของลูกสาวฝ่ามือใหญ่ลูปแผ่วเบาบนผมนุ่มลื่นด้วยความเอ็นดูบุตรสาว "วันนี้พ่อมีนัด เอาไว้วันเผาพรุ่งนี้พ่อจะไปก็แล้วกัน" "ถ้าอย่างนั้นหนูไปก่อนนะคะ อาจจะกลับดึกคุณพ่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง" "ถ้าอย่างนั้นให้คนของพ่อไปส่งแล้วรอรับกลับเลยก็แล้วกันนะลูก" "ก็ได้ค่ะ" วาดฝันเดินทางมาถึงวัดที่ตั้งบำเพ็ญศพ บรรยากาศเย็นยะเยือกหนาวเหน็บบริเวณวัดให้ความร่มรื่นมีผู้คนต่างพากันทยอยมาร่วมงานไม่ขาดสายด้วยความโศกเศร้าเสียใจ "ฝัน"เสียงแตกหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อ วาดฝันรีบเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มเมื่อเห็นเขาเดินมารับตรงบริเวณลานจอดรถ "ขอโทษด้วยนะที่มาช้า" "ไม่เป็นอะไรหรอก กล้ารู้ว่าฝันมีงานต้องทำ"ต้นกล้าไม่คิดโทษ การเป็นลูกคนเดียวของอภิมหาเศรษฐีทำให้วาดฝันต้องเสียสละเวลาศึกษาเรียนรู้งานต่อจากผู้เป็นพ่อซึ่งข้อนี้ต้นกล้าก็รับรู้มาตลอด "ฝันต้องขอแสดงความเสียใจเรื่องพี่ต้นน้ำด้วยนะกล้า"เธอแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินข่าวการจากไปอย่างกะทันหันของต้นน้ำ นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน "ขอบใจนะ และขอบคุณมากที่มา" "อยากกอดเราไหม กอดเราได้นะ" พรึ่บ ความอ่อนแอภายในใจไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกต่อไป ต้นกล้าวินาทีนี้หัวใจแตกสลายเขาต้องพยายามทำตัวเข้มแข็งมากแค่ไหนใครจะรู้ น้ำตาของลูกผู้ชายไหลหยดลงบนเสื้อตัวเล็กจนเปียกชุ่ม ความเสียใจของคนในอ้อมกอดวาดฝันสัมผัสมันได้ทั้งหมด สายเลือดของสองพี่น้องที่คลานตามกันออกมามันยากที่จะตัดให้ขาดแค่ภายในไม่กี่วัน "ต้นน้ำทิ้งกล้าไปแล้วฝัน ฮึก" "อย่าร้องไห้เลยนะกล้า ถ้าหากพี่ต้นน้ำมองลงมาจากสวรรค์ก็คงจะไม่สบายใจ"แม้แต่วาดฝันเองน้ำตาก็ไหล เห็นมาตั้งแต่จำความได้ไม่คิดเลยว่าต้นน้ำที่เธอเคารพเปรียบเสมือนพี่สาวจะคิดสั้น วาดฝันโอบกอดร่างของแฟนหนุ่มเอาไว้แน่นถึงแม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มากแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ต้นกล้าได้รู้ว่าเธอจะไม่มีวันทิ้งจะยื่นอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน "เสียใจด้วยนะเรื่องลูกสาวของมึง และต้องขอโทษด้วยที่กูไม่ได้มาร่วมงานช่วงนี้ยุ่ง ๆ จนได้มาวันเผาเลยทีเดียว"เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมาร่วมงานศพลูกสาวเพื่อนพร้อมกับบอกกล่าวถึงสาเหตุที่ตนไม่ได้มาร่วมงาน "ขอบใจมึงมาก กูรู้ว่ามึงงานเยอะแค่มึงมากูก็ดีใจแล้ว" "กูเห็นข่าวแล้วก็ตกใจ ทำไมหลานสาวของกูถึงได้คิดสั้นแบบนี้"ผู้เป็นพ่อถอนหายใจมองไปยังเมรุ อีกไม่นานก็จะถึงเวลาทำพิธีฌาปนกิจของบุตรสาว "ก็อย่างที่ทุกคนเขารู้ ๆ เรื่องที่ต้นน้ำตั้งท้อง" "อืม กูก็พอจะได้ยินเรื่องข่าวนี้มาบ้าง มันคงส่งผลกระทบต่อต้นน้ำอยู่ไม่น้อยเลยสินะ" "อืม ตอนนั้นกูโกรธต้นน้ำมากเผลอตัวพูดทำร้ายจิตใจลูก ขังลูกเอาไว้ในห้องเพราะต้นน้ำไม่ยอมบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกของใคร"มุมปากหยักกดยิ้มนัยน์ตาสีดำแวววับพึงพอใจในสิ่งที่ได้ยิน "แล้วมึงคิดจะทำยังไงต่อหลังจากเสร็จงานศพของต้นน้ำ"นี่คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้คนเป็นพ่อและสามีถึงกับแสดงสีหน้าลำบากใจ "ตอนนี้ฝนกำลังเสียใจและจิตตก กูก็คงต้องดูแลเธอ" "แล้วงานที่บริษัทของมึงล่ะใครจะทำ" "กูก็มอบหน้าที่นี้ให้เลขาดูแลงานไปก่อน" "เลขาของมึงไว้ใจได้ถึงขนาดนั้น?" "แล้วมึงจะให้กูทำยังไงล่ะ ในเมื่อตอนนี้กูแทบไม่เหลือทางให้เดิน"เขาถอนหายใจออกมาด้วยความอัดอั้นเรื่องราวทุกอย่างถาโถมเข้ามาพร้อมกันเกินกว่าที่เขาจะรับไหว "งั้นเอาอย่างนี้ ในระหว่างที่มึงดูแลเมียกูจะเข้าไปดูแลบริษัทให้มึงเอง มึงอย่าลืมสิว่ากูก็เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทของมึงอยู่เหมือนกัน" "เอาอย่างที่มึงว่าก็ได้ กูไว้ใจมึงนะเพื่อนขอบใจมึงมากนะ"แม้จะรู้สึกเกรงใจแต่คงไม่มีหนทางอื่นที่ดีไปกว่านี้แล้ว "ไม่เป็นไร กูกับมึงเป็นเพื่อนกันมานานมีอะไรก็ต้องพึ่งพากันอยู่แล้ว" "ว่าแต่กูอยากขอร้องอะไรมึงอีกสักอย่างจะได้ไหมวะ"สีหน้าของคนที่สูญเสียลูกเริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่ออำนาจมากไปด้วยพวกพ้องของเพื่อนสนิทอาจจะทำให้เขารู้ได้ในเรื่องที่สงสัยและค้างคาใจมานาน "มึงอยากจะขอร้องอะไร" "มึงช่วยสืบให้กูที กูอยากรู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้องต้นน้ำ" "ได้สิ ไม่มีปัญหา" "กูต้องขอขอบใจมึงมาก ๆ เลยนะ" "ไอ้ชัชชัย เพื่อนรัก"มีใครเคยบอกคุณไหมว่าให้ทำดีกับคนรักเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราทั้งสองจะหมดบุญวาสนาตายจากกันไป ถึงครานั้นแม้เราอยากจะย้อนหมุนทวนเข็มนาฬิกาไปมากเท่าไหร่มันก็เป็นได้เพียงแค่ความคิดส่วนลึกของคนที่ยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้นภายในห้องมืดทึบไร้ซึ่งแสงสว่างเปรียบเสมือนดั่งหัวใจของชายหนุ่มผู้นี้ ที่เอาแต่นั่งดูรูปคนรักพร้อมกับภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยซึ่งติดอยู่บนแผ่นกระดาษในสมุดฝากครรภ์เสียงสะอื้นร่ำไห้ยังคงดังติดต่อกันทุกวันทุกเวลานับตั้งแต่คนรักตัดสินใจโบกมือลาโลกใบนี้โดยไม่คิดจะหวนกลับมาหาหรือปรับความเข้าใจ"ฮึก ขอโทษ"หัวใจที่เต้นรัวแรงและความรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกคมมีดกรีดแทงเกิดขึ้นเพราะอะไรมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจ"ขอโทษที่ทำร้าย"น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นลงบนฝ่ามือด้วยความรู้สึกรวดร้าวอาลัยหัวใจของเขาร่วงดิ่งลงสู่ห้วงทะเลลึก"กลับมานะ กลับมารักกันเหมือนเดิม""...""ขอโทษที่โกหก ขอโทษที่เอาแค่ทำร้าย ขอโทษที่ปากบอกว่าไม่รัก""...""ผู้ชายสารเลวคนนี้ยังรักวาดฝันสุดหัวใจนะรู้ไหม"น่าเศร้ายิ่งนักที่เธอไม่ทันได้ฟังคำบอกรักจากปากของเขา ความโกรธแค้นเปรียบเสมือนเกาะกำแพงสูงใหญ่คอ
พิธีในช่วงเช้าใกล้จะเริ่มขึ้น เหล่าขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวเดินทางมาถึง ใบหน้าของเจ้าบ่าวประดับด้วยรอยยิ้มพลอยทำให้ท่านอาร์มันโด้และแองเจลิน่าสบายใจเมื่อท่านทั้งสองได้รับข่าวดีเรื่องล้มเลิกการแก้แค้น ส่วนเรื่องในอดีตของชัชชัยปล่อยให้เป็นไปตามหน้ากระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ"แดดดี้ดีใจนะที่ลูกคิดได้และยอมปล่อยวาง""ผมต้องขอขอบคุณแดดดี้กับมัมมากเลยนะครับที่คอยเตือนสติไม่ทำให้ผมหลงทำผิดไปมากกว่านี้""ที่มัมกับแดดดี้คอยกล่าวตักเตือนก็เพราะไม่อยากให้ลูกทำผิดพลาด แม้เราจะมีเงินมีอำนาจมากเท่าไหร่แต่มันก็ไม่สามารถช่วยให้เราย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้"คำสอนของท่านทั้งสองช่วยฉุดดึงไม่ให้เขาทำร้ายผู้หญิงที่ตนเองรักไปมากกว่านี้ "ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ผมเองก็รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ทำร้ายเธอ""มัมอยากจะขอให้ลูกเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน ต่อไปภายในภาคหน้าลูกจะต้องมีสติให้มากกว่านี้จะได้ไม่ทำผิดพลาดอีก มัมรักลูกนะโทมัส""แดดดี้ก็รักลูกเหมือนกัน"โทมัสอ้าแขนโอบกอดท่านทั้งสองด้วยความรัก แม้จะไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ แต่ท่านทั้งสองก็เลี้ยงดูเขามาคอยเติมเต็มความรักให้อย่างไม่ขาดหายเช่นเดียวกับคามิล่าบุตรสาวแท้
ป้านวลทำตามความต้องการของวาดฝันเธอนำซองใส่สิ่งของมาฝากไว้กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของโทมัสพร้อมกำชับไว้อย่างดีว่าให้ส่งซองใส่สิ่งของในซองนี้ให้โทมัสในตอนเวลาเสร็จจากงานแต่งงาน"ป้าเป็นใครกัน""ป้าชื่อป้านวล เป็นคนรับใช้ของคุณหนูวาดฝัน"มือขวาคนสนิทก้มมองสิ่งขอภายในมือก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อสูทรักษามันไว้อย่างดีรอนำส่งให้กับผู้เป็นเจ้านายในวันพรุ่งนี้ตามความต้องการของหญิงสาว"โทมัส ลูกคิดดีแล้วเหรอหนูวาดฝันเธอไม่รู้อะไรด้วยเลยนะ"อาร์มันโด้เอ่ยแย้มขึ้นทันทีเมื่อเขาเดินทางมาถึงประเทศไทยพร้อมกับภรรยาเพื่อเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวในพิธีการแต่งงาน"เธอกับพ่อของเธอคือคนละคน ลูกอย่าเอาความแค้นมาปิดบังความรักถ้าพรุ่งนี้เกิดอะไรขึ้นมันไม่สามารถย้อนเวลากลับมาแก้ไขอะไรได้แล้วนะ"แองเจลิน่าเกลี้ยกล่อมลูกชายเพราะไม่อยากให้โทมัสทำผิดไปมากกว่านี้ แม้การกระทำจะบอกว่าเกลียดและไม่ต้องการแต่ทั้งคู่รู้ดีว่าโทมัสยังรักวาดฝันเพียงแค่เจ้าตัวปากแข็งไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น"คิดให้ดีนะโทมัส ล้มล้างความคิดในตอนนี้ก็ยังไม่สายแดดดี้ไม่อยากเห็นลูกเสียใจไปตลอดชีวิตนะลูก"ถ้อยคำสั่งสอนของบิดาและมารดาบุญธรรมเริ่ม
"ตอนนี้นายชัชชัยไปรับตัวคุณวาดฝันกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วครับท่าน""ดี ฉันจะได้จัดการพวกมันทั้งสองคนเลยทีเดียว""แต่ท่านครับ คุณวาดฝันเธอกำลังตั้งท้องท่านคิดดีแล้วหรือครับที่จะ"ปัง"ชีวิตของกูต้องพังย่อยยับเพราะพวกมัน พี่สาวของกูต้องมาผูกคอยตาย กูต้องสูญเสียพี่สาวและลูกในท้องไปพร้อม ๆ กัน""...""พ่อของมันลงมือฆ่าพ่อแม่ของกูอย่างเลือดเย็น แล้วมึงคิดจะให้กูปรานีคนอย่างพวกมันสองคนอย่างนั้นเหรอ ฮะ"ความคับแค้นใจถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตา ภาพการตายในอดีตของครอบครัวมันยังคอยตามติดชีวิตของเขาไม่เคยเลือนหายไปไหน"แต่คุณวาดฝันเธอน่าสงสาร เธอไม่รู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเลวที่พ่อของเธอได้ทำ""แดดดี้ส่งให้มึงมาพูดเกลี้ยกล่อมกูใช่ไหม"ลูกน้องคนสนิทยืนก้มหน้าอย่างจำยอม แม้อาร์มันโด้จะอยู่ห่างออกไปไกลแต่เรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้านเขารับรู้มันทั้งหมดผ่านการรายงานของบอดี้การ์ด"เธอเป็นคนรักของนายท่าน ผมรู้ว่านานท่านยังคงรักเธออยู่ อย่าทำร้ายผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เลยนะครับ""ออกไป""อย่าทำร้ายคุณวาดฝันกับคุณหนูเลยนะครับท่าน ท่านยังรักคุณวาดฝันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ""กูไม่ได้รักเธอแล้ว มึงออกไปจัดการทุกอย่างตามที่กูสั
ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูไม้ดังขึ้นปลุกให้วาดฝันรู้สึกตัวตื่นนอนในยามรุ่งเช้า "ใครคะ""หนูเอาอาหารมาส่งค่ะ"เสียงคุ้นเคยของพนักงานหญิงดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าของประตู โดยที่วาดฝันไม่ได้เอะใจหรือนึกสงสัย เธอก้าวขาลงจากเตียงรีบเดินไปเปิดประตูให้พนักงานสาวที่มักจะมาส่งอาหารให้เธอในทุก ๆ เช้า "คุณพ่อ"ริมฝีปากเรียวเปล่งเสียงเรียกชื่อของบิดาเมื่อเห็นว่าท่านกำลังยืนประกบหลังพนักงานผู้หญิงคนนั้นแถมยังมองมาที่เธอด้วยสายตาแข็งกระด้าง"นี่เงินของเธอ""ขอบคุณค่ะ"พนักงานสาวคนนั้นคว้าเงินอย่างลุกลี้ลุกลนรีบวิ่งออกไปโดยทันทีหลังจากได้รับเงินค่าจ้างเสร็จ"คุณพ่อมาที่นี่ได้ยังไงคะ""พ่อต้องเป็นคนถามลูกมากกว่าวาดฝันว่าลูกกำลังเล่นอะไรอยู่ ทำไมถึงได้หนีออกมาจากบ้านของคุณโทมัสเขาแบบนั้น""เขาให้คุณพ่อมาตามหนูเหรอคะ"ริมฝีปากซีดเซียวเม้มเขาหากันด้วยความประหม่า สองเท้าเล็กก้าวถอยหลังหมายจะปิดประตูหนีแต่ลูกน้องผู้ภักดีของผู้เป็นพ่อไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น"หนูต้องกลับไปกับพ่อเดี๋ยวนี้วาดฝัน นี่คือคำสั่ง""ปล่อยหนูไปเถอะนะคะคุณพ่อ อย่าส่งตัวหนูไปให้ผู้ชายคนนั้นเลย"เธอวิงวอนแผ่วเบาด้วยความร้าวราน หัวใจเธอพลันดิ่งว
อ้วก อ้วกเสียงอาเจียนอย่างรุนแรงดังขึ้นภายในห้องน้ำพร้อมกับหยาดเลือดกำเดาไหลทะลักออกมา เส้นผมสีดำสนิทขับดวงหน้าซีดให้ขาวดังหิมะ ความมืดมิดไร้ขอบเขตกำลังห้อมล้อมรอบตัวของเธอเมื่อผลตรวจเลือดในครั้งนี้เป็นไม่น่ายินดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างเธอเลยสักนิด'คนไข้คิดดีแล้วหรือครับ ตอนนี้เซลล์มะเร็งมันลุกลามจนน่าเป็นห่วงถ้าคนไข้ยืนยันจะรักษาเด็กในครรภ์เอาไว้หมอเกรงว่า''ฝันไม่เป็นอะไรค่ะคุณหมอ ฝันทนได้''แต่ถ้าคนไข้ไม่รักษา ทั้งตั้งคนไข้เองรวมไปถึงเด็กอาจจะ...''แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ ในเมื่อฝันไม่สามารถเลือกทางไหนได้'ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนชีวิตของเธอมันก็จะต้องเกิดความสูญเสียขึ้น'ขอร้องเถอะค่ะหมอ เมตตาคนที่กำลังใกล้จะตายอย่างฝันด้วยเถอะนะคะ'"แม่ขอโทษนะลูก ถ้าหากชาติหน้ามีจริงขอให้เราสองคนได้เกิดมาเป็นแม่ลูกอย่าให้ได้มีเหตุร้ายทำให้เราสองคนต้องพลัดพรากกันอีกเลย"เธอไม่เคยท้อแท้หรือสิ้นหวังอะไรเท่านี้มาก่อน ชะตาชีวิตคงลิขิตให้เธอได้เจอแต่กับความทุกข์ไร้ความสุขจนวินาทีสุดท้ายสองเท้าก้าวไปยังเตียงนอนหลังจากจัดการอาบน้ำแต่งตัวในชุดใหม่แต่ใบหน้าสวยยังคงขาวซีดไม่มีชีวิตชีวา ขอบดวงตาบวมช้ำ