ทอรุ้งก้าวเดินออกมาจากห้องนั้นแบบไม่พูดไม่จา เมื่อได้ยินสิ่งที่ดินเอ่ยพูดมา
"มันยอมกินบ้างไหมล่ะหนูรุ้ง" ธิมาพรที่ยืนรออยู่หน้าห้อง พอเห็นทอรุ้งออกมาก็เลยรีบถามดู
"กินเข้าไปคำหนึ่งค่ะน้า ที่เหลือฝากน้าดูแลมันด้วยนะ" พอพูดออกไปแล้วก็นึกขำตัวเอง เป็นบ้าหรือไงไปฝากแม่ให้ดูแลลูก ..แล้วตัวเองเป็นอะไรกับเขา "ฉันไปนะน้า"
"ถ้ามันพูดอะไรไม่ดีก็อย่าไปสนใจนะมันเมา" ธิมาพรรู้ดีว่าลูกชายปากไม่ค่อยดีถ้ามีแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกาย
คนเมานี่แหละที่พูดตามความคิดตัวเองที่สุดแล้ว "..ค่ะน้า"
วันต่อมา..
"แล้วพี่ศักดิ์เป็นอะไรมากไหม"
"ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะมากน้อยแค่ไหน"
"ทำไมไม่ให้ทางบริษัทส่งตัวกลับมารักษาที่บ้านเราล่ะ"
"ใครเป็นอะไรคะแม่" ทอรุ้งซึ่งแอบฟังอยู่รีบเดินออกมาเมื่อได้ยินเรื่องรักษาตัว
"ลุงศักดิ์น่ะสิ เกิดอุบัติเหตุในบริษัท"
"เป็นอะไรมากไหมคะน้า"
"ก็เจ็บตัวมากอยู่" ที่ธิมาพรเลือกจะเดินมาส่งข่าวกับคนบ้านนี้ เพราะมีเรื่องอยากจะฝากฝัง "ทอรุ้งจ๊ะ"
"คะ"
"น้าคงต้องได้เข้ากรุงเทพฯ สักระยะ น้าอยากจะฝากเราดู.."
"พรไปเถอะเรื่องทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" คนที่รับปากรับคำก็คือแม่ของทอรุ้ง เพราะเวลาที่ตัวเองออกรถกับสามี ก็ฝากลูกสาวไว้กับเพื่อนเหมือนกัน
"ขอบใจมากนะ"
"ไม่ต้องขอบใจหรอก พูดเหมือนฉันไม่เคยฝากลูกไว้กับเธออย่างนั้นแหละ"
"น้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวรุ้งจะดูแลมันเอง" เพิ่งจะสัญญากับตัวเองไว้เมื่อเย็นวานนี้ ว่าจะไม่ไปให้เขาเห็นหน้าอีก
เย็นวันเดียวกัน..
พ่อและแม่ของทอรุ้งเป็นคนมาส่งแม่ดินที่ บขส.ในตัวจังหวัด เพื่อจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
"ถ้าไปถึงแล้วก็ส่งข่าวมานะ"
"ได้จ้า..ฉันต้องขอบใจเธอมากนะ ฝากทางนี้ด้วย"
"ไม่ต้องห่วงหรอกพร"
พอร่ำลาเพื่อนเสร็จธิมาพรก็ก้าวขึ้นรถทัวร์พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบหนึ่ง
ครอบครัวของทั้งสองไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็พอมีอยู่มีกินไม่ขัดสน ส่วนพ่อของดินเป็นช่างซ่อมเครื่องจักรอุตสาหกรรมในบริษัทที่กรุงเทพฯ ปีหนึ่งจะได้กลับมาบ้าน 2-3 ครั้งแค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น
ในเวลาเดียวกันนั้น ตอนที่พ่อและแม่ของทอรุ้งไปส่งแม่เขาในตัวจังหวัด หญิงสาวก็ได้ทำตามสัญญา
"มึงรู้เรื่องอะไรบ้างหรือเปล่าเนี่ยไอ้ดิน" เปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นว่าดิน ยังนอนอยู่ในชุดเดิมเมื่อวานนี้
"ใครวะ" ดินดึงผ้าห่มมาคลุมหัวไว้อีกครั้งเมื่อถูกคนที่เข้ามาในห้องดึงมันออก
"มึงรู้ไหมว่าตอนนี้พ่อมึงประสบอุบัติเหตุอยู่ที่กรุงเทพฯ" จบประโยคคำพูดผ้าห่มผืนนั้นก็ถูกกระชากออกมาอีกครั้ง "เมื่อไรมึงจะได้สติสักที ผู้หญิงเขาไม่รักมึงแล้ว คนที่มึงควรจะแคร์มากกว่า คือพ่อกับแม่ของมึงเข้าใจไหม!"
"มึงเลิกมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของกูสักที" มือหนากระชากผ้าห่มกลับคืนมาอย่างแรง จนคนที่ยังไม่ปล่อยมือออก กระเด็นตามแรงกระชากผ้าห่มนั้นมาด้วย
"โอ๊ย"
ดวงตาทั้งสองประสานกันในระยะใกล้แค่ลมหายใจเข้าออก
"ปล่อยนะดิน อืมม!!" คำพูดของเธอถูกกลืนหายเข้าไปในปากของอีกฝ่าย เมื่อถูกเขากดท้ายทอยลงมาจูบ
หญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ ก็เลยยังไม่ทันตั้งตัว เขาคงเมาจนขาดสติคิดว่าเธอเป็นแฟนเก่าแน่เลย แต่ทำไม..ในเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าเขาคิดแบบนั้นเธอถึงไม่ปฏิเสธ
คนเสเพล [ ตอนพิเศษ 2 ]"เราไม่ได้ไปเยี่ยมคุณป้าร้านเย็นตาโฟนานเลยนะ""หือ??" ดินซึ่งกำลังเคลิ้มใกล้จะหลับ เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และฟ้าใสก็นอนหลับไปแล้วด้วย วันนี้ฟ้าใสอ้อนอยากจะนอนกับพ่อและแม่ ทอรุ้งก็เลยให้ลูกสาวนอนกลาง"ตกใจอะไร เดี๋ยวลูกก็ตื่นหรอก" ทอรุ้งตบสะโพกฟ้าใสเบาๆ เพื่อกล่อมให้นอนต่อเช้าวันต่อมา.."ฝากฟ้าใสด้วยนะครับแม่""ได้จ้า..แล้วนี่จะไปไหนกันทำไมรุ้งถึงไปด้วยล่ะ" เดือนถามลูกเขย เพราะวันนี้เขาให้ทอรุ้งเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปพร้อมกัน"มีธุระครับ เลยจะพาไปด้วย""รุ้งก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าดินจะพาไปไหน เดี๋ยวตอนเย็นแม่กลับมานะจ๊ะฟ้าใส" หญิงสาวพูดพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวเบาๆนั่งรถมาด้วยกันทั้งสองก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเลย และเธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปที่ไหน พอมาถึงบริษัท ทอรุ้งทำได้แค่เดินตามเขาไปที่ห้องทำงาน"นั่งรออยู่นี่ เดี๋ยวเราประชุมเสร็จจะพาออกไปข้างนอก" ชายหนุ่มพาเธอไปนั่งลงที่โซฟารับแขก แล้วก็เดินกลับมาหยิบเอกสารเพื่อที่จะเข้าห้องประชุม"ทำเป็นลับลมคมในไปได้" หญิงสาวได้แต่พูดพึมพำเพราะตอนนี้เขาออกจากห้องไปแล้วสองชั่วโมงผ่านไป.."ตอนบ่ายผมถึงจะเข้ามานะ" ประตูห้องทำงานถูกเ
คนเสเพล [ ตอนพิเศษ 1 ]หลายวันต่อมา..ชนกันต์เพิ่งจะพาภรรยากลับมาถึงบ้านมาถึงได้เพียงไม่นาน ก็มีคนมาตามบอกว่าแม่ของแพรไหมมาขอพบ แน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้เธอไปพบแม่แค่คนเดียวแน่"ไหม.. แม่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย" ใบหน้าของแม่แสดงอาการออกมาให้เห็นชัดมากว่าเป็นกังวล"แม่มีอะไรอยากจะคุยกับฉันเหรอ""ไหมช่วยแม่หน่อยนะลูก" หญิงวัยกลางคนเอื้อมมือไปกุมมือของลูกสาวไว้ เพื่อสื่อให้รู้ว่านางต้องการความช่วยเหลือจริงๆ "ตอนนี้พี่มีเรื่อง.."หึ..แพรไหมยกยิ้มมุมปากแบบรู้ทัน เป็นแบบที่เธอคิดไว้จริงๆ เห็นแค่แววตาของแม่ก็รู้แล้วว่าเรื่องที่แม่มาคงมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น "แล้วไงคะแม่ แม่พูดเหมือนกับว่าลูกชายของแม่ไม่เคยมีเรื่องกับใครอย่างนั้นแหละ""ไหม""พี่ธงโตแล้วนะแม่ ปล่อยให้เขาแก้ไขปัญหาที่ก่อขึ้นมาด้วยตัวเองบ้างเถอะ มีเรื่องทีไรแม่ต้องให้ฉันเป็นคนตามแก้ไขให้ทุกครั้ง แทนที่แม่จะเป็นห่วงฉันที่เป็นลูกสาว แต่แม่กลับเป็นห่วง.." หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลแล้ว เพราะเธออายสามีที่เอาแต่ยืนมองอยู่ ถึงแม้จะรู้ว่าเขามองด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ยังอายอยู่ดี"แม่ขอร้องหนูเป็นครั้งสุดท้ายนะลูก ต่อจากนี้ไปแม่จะไ
"เซอร์ไพรส์""????""ทำไมเห็นพวกกูแล้วมึงดูไม่ดีใจเลยวะ"ชนกันต์ยังไม่ได้พูดอะไรกับกลุ่มเพื่อนก็รีบหันไปรูดซิปปิดเต็นท์ไว้ก่อนโชคดีก่อนออกมาเขาได้เอาผ้าห่มคลุมร่างของเธอไว้แล้ว เพราะตอนนี้เธอยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า"พวกมึงตามกูมาถูกได้ยังไงวะ" ชายหนุ่มถามขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองไปที่เพื่อนทั้งสี่"มึงคิดว่าจะแอบมาเที่ยวคนเดียวได้หรือไง ทำไมถึงมาไม่ชวนพวกกูเลยวะ""กูมาคนเดียวที่ไหน มากับแพรต่างหาก""มึงพูดเหมือนกับว่าพวกกูไม่เคยมากับน้องแพรอย่างนั้นแหละ""เออกูยอมแพ้พวกมึงก็ได้ หาที่กางเต็นท์เองแล้วกัน""จะหาทำไมให้ยาก ก็กางมันข้างๆ นี่แหละ" ว่าแล้วพวกเพื่อนๆ ทั้งสี่คนก็ลงมือจัดการกับข้าวของที่เพิ่งจะขนลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์พอมีเสียงกุกกักอยู่ด้านนอก คนที่นอนหลับก็ได้ตื่นขึ้นมา ..แพรไหมรีบใส่เสื้อผ้าแล้วก็ออกมาจากเต็นท์"พวกคุณมาได้ยังไงคะ" หญิงสาวแปลกใจที่ออกมาแล้วเห็นเพื่อนทั้งสี่คนของเขาครบก๊วนเลย"ตามกลิ่นมันมาครับ""จริงเหรอคะ??" ดวงตางามตวัดมองไปที่ผู้เป็นสามี"ไม่ใช่กลิ่นแบบนั้นครับ" ทั้งสี่ถึงกับขำที่เธอเชื่อเรื่องกลิ่น"มึงก็พูดให้เคลียร์หน่อยสิวะ" มนตรีเอ่ยขึ้นแล้วก็ถือโอกาสอธิบ
พอทานข้าวเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นอยู่ที่หน้าเต็นท์ต่ออีกนานพอสมควร เพราะเขาอยากให้เธอดื่มด่ำกับบรรยากาศในยามค่ำคืน"หนาวแล้วเข้าไปข้างในกันดีกว่า" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองต่ำลงไปดูหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตัก โดยมือหนาโอบกอดร่างของเธอไว้"จะหนาวได้ยังไงนายกอดแน่นขนาดนี้""อึดอัดเหรอ" ได้ยินเธอบอกว่าเขากอดแน่นชายหนุ่มก็รีบปล่อยมือออก แต่เธอกลับคว้าแขนของเขาให้กลับมากอดไว้เหมือนเดิม"ยังไม่ได้บอกว่าอึดอัดสักหน่อย" แพรใหมแนบใบหน้าลงไปแผ่นอกกว้างของผู้เป็นสามี"เข้าไปอ้อนในเต็นท์ต่อดีกว่า" ไอ้นั่นมันแข็งไม่รู้จะแข็งยังไงแล้ว แต่ติดที่อยากให้เธอชมวิวนานๆ หน่อย"นายง่วงแล้วเหรอ""ไม่ได้ง่วงแต่..." สายตามองต่ำลงไปดูความแข็งแกร่งของตัวเองที่มันดันกางเกงออกมา"กันต์" หญิงสาวตะคอกสามีเสียงแผ่วเบาแบบไม่จริงจังนัก"ทนไม่ไหวแล้วนะ!" ชนกันต์พูดพร้อมกับลุกขึ้นกำลังจะอุ้ม แต่ถูกแพรไหมต่อว่า เพราะทั้งสองไม่ได้อยู่สถานที่ลับตาคนหญิงสาวเดินเข้ามาในเต็นท์ ..เต็นท์อันนี้เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ ถ้าให้นอนจริงๆ คงได้ 5-6 คน และมีที่นอนแบบเป่าลม โดยไม่ต้องนอนกับพื้นเหมือนที่เขามากับพวกเพื่อนๆ"เต็นท์แบบนี้ดีจังเลยนะ""ถ้า
"กลับบ้านเรา" มือหนาเอื้อมไปกุมมือของเธอไว้ "อย่าเสียน้ำตากับอะไรแบบนี้อีก" มืออีกข้างเขายื่นไปซับน้ำตาให้ เพราะเขาได้ยินทุกคำที่เธอคุยกับครอบครัว ที่จริงชนกันต์เกือบจะอดทนฟังต่อไม่ได้ แต่เขาต้องรู้ให้ลึกกว่านี้ เพราะถ้าถามเธอคงไม่บอกความจริงแน่"มันไม่ใช่แบบที่น้องเขยเห็นนะ น้องสาวของพี่มันมารยา"พั๊วะ!! ชนกันต์ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหันกลับมาแล้วกำหมัดแน่ๆ ชกเข้าใบหน้าพี่ชายของเธออย่างแรง "เลว""แม่!!" ธงซึ่งตอนนี้ล้มคว่ำลงไปกองกับพื้น รีบตะเกียดตะกายเข้าไปหาแม่ เพราะกลัวว่าจะถูกซ้ำอีก"ไหมฟังแม่ก่อนสิลูก""แม่มันชกผมนะ! แม่ยังจะไปพูดกับมันอีกเหรอ""เจ็บไหมลูก" พอเห็นเลือดที่มุมปากของลูกชาย จากที่กำลังจะรั้งลูกสาวไว้ นางก็เลยนั่งยองๆลงกับพื้น เพื่อซับเลือดให้กับลูกชายก่อน"เจ็บสิแม่ โอ๊ยย""ไม่ต้องไปมอง" ชนกันต์พูดพร้อมกับจูงมือเธอแล้วเดินออกมาจนถึงมอเตอร์ไซค์ "ขึ้นรถ" กุญแจยังคาอยู่กับรถ พอสตาร์ทเขาก็หันมาบอกให้เธอขึ้นที่จริงเขาเดินตามหลังรถของเธอมาจนถึงบ้านหลังนี้ ถ้าขับรถ..เขาคงไม่เห็นอะไรแบบนี้เพราะพวกนั้นคงจะรู้ตัวก่อน"นายตามฉันไปทำไม" หญิงสาวก้าวลงจากรถเมื่อถึงบ้านของเขา"ถ้าไม
"ยังไม่มีใครพูดอะไรหรอก""ยังไม่มีใครพูด??" เพราะคำตอบของเขามันดูแปลกๆ เธอก็เลยสงสัย"ใช่ยังไม่มีใครกล้าตอบเราเรื่องเงินห้าล้าน""นายถามเรื่องเงินเหรอ""มีอะไรหรือเปล่า" ชายหนุ่มคิดว่าหรือเธอไม่อยากจะให้เขาพูดเรื่องเงินสินสอดกับครอบครัวของเธอ"ฉันถามว่า นายถามแม่เรื่องเงินเหรอ""ไม่ได้ถามแม่ แต่ถามพี่ชาย""แล้วเขาว่ายังไง""พี่ชายยังไม่ตอบแม่ก็ออกมาก่อน"หึ.. ขนาดเรื่องเงินค่าตัวของเธอแม่ยังปกป้องพี่ชายเลย "ทีหลังนายไม่ต้องไปตามฉันบ้านหลังนั้นหรอก" ความกตัญญูที่มีให้มันไม่สามารถทำให้แม่รักเธอได้เลยเหรอ"ยังงอนเราเรื่องนั้นอยู่เหรอ" เห็นดวงตาของเธอมีน้ำตาคลอออกมาเขาก็เริ่มใจไม่ดี"อืม" ถึงแม้ว่าเธอจะคิดมากเรื่องครอบครัว แต่กับเรื่องของเขาเธอก็ยังไม่ลืมใครจะไม่โกรธไม่งอนล่ะเล่นเอาเรื่องบนเตียงกับผู้หญิงคนอื่นมาพูด ถึงแม้ว่าจะเผลอพูดก็ตามที"หึงเหรอ" เห็นท่าทางของเธอแบบนี้ แอบดีใจที่ตัวเองเผลอพูด จะได้รู้ความในใจของเธอด้วย"ไม่รู้ แต่ไม่อยากได้ยินนายพูดถึงผู้หญิงคนอื่น""ไอ้ดิน! มึงจะมาเอาลูกมึงไหม!!" จะง้อเมียก็ง้อไม่ถนัด เพราะตอนนี้มีดวงตากลมโตใสแป๋วของเด็กน้อย มองจ้องพวกเขาทั้งสองอยู