“ตื่นเต้น ตื่นเต้น” บ่นกับตัวเองในกระจก อย่าตื่นเต้นจนเกินไป กลัวว่าผาจะจับได้
ไม่มีโอกาสไหนดีเท่านี้อีกแล้ว ฉันได้เจอผาอาทิตย์ละหกวันเลยนะ มีติวเตอร์สุดหล่อส่วนตัว ดีมาก นี่แหละโอกาสของฉันมาแล้ว มันคือปีทองของฉันแล้ว
“ปลาย เพื่อนมาหา” เสียงของย่าเรียกฉัน ฉันรีบวิ่งลงบันไดไปอย่างตื่นเต้น เพราะตอนนี้เพิ่งจะเก้านาฬิกาเอง ทำไมเขามาถึงแล้ว ดีนะฉันแต่งตัวตั้งแต่เช้า
“ผามาเร็วจัง ผา นี่ย่าเรา ย่า นี่ผาค่ะ เพื่อนปลายจะมาติวหนังสือให้” ฉันรีบแนะนำผาให้ย่ารู้จัก
“สวัสดีครับ ภูผาครับ” แขกผู้มาบ้านแนะนำตัวและยิ้มให้ย่า แน่นอนย่าต้องชอบอีกฝ่ายอย่างไม่ต้องสงสัย หล่อ นิสัยดี เรียนเก่ง แล้วนั่นแขกยังหิ้วขนมมาฝากย่าด้วย
โอยผา...ทำคะแนนไม่หยุดเลย แบบนี้ปลายจะหัวใจวายตายเพราะความเขินแล้ว
“ไปนั่งติวกันที่ศาลาในสวนก็ได้” ย่าแนะนำให้ไปติวหนังสือที่ศาลาเรือนไม้ขนาดใหญ่กลางสวน ห่างจากตัวบ้านไปสักหนึ่งร้อยเมตร
“ค่ะย่า เดี๋ยวปลายไปบอกพี่แจ่มเตรียมขนมก่อน” ฉันรับคำ แล้วรีบวิ่งเข้าครัวไปหาพี่แจ่มแม่บ้านทันที ทิ้งให้ย่าอยู่กับแขกสองคน ฉันรู้ว่าคนอย่างผาสามารถเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดีแน่นอน
และก็เป็นอย่างที่ฉันคิด หลังจากพวกเรามานั่งติวหนังสือที่ศาลาเรือนไทยในสวนแล้ว ผาเล่าให้ฟังว่าย่าถามอะไรบ้าง ถามว่าผาจะเรียนต่ออะไร แล้วมาจากไหน บ้านอยู่ตรงไหน มาหาฉันยังไง ถามอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างมาก
ฉันได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ตอนที่ผาเล่า ไม่น่าเชื่อเวลาแค่ไม่กี่นาที ย่าสามารถถามเขาได้เยอะขนาดนั้น ไม่ธรรมดาจริง ๆ ย่าฉัน ความคลั่งรักของฉันคงถ่ายทอดมาจากดีเอ็นเอของย่าแน่นอน
“ผารำคาญไหม เราเกรงใจจัง”
“ไม่รำคาญ สนุกดีออก ยายเราเสียไปนานแล้ว ได้คุยกับย่าเหมือนได้คุยกับยายเลย ผาชอบคุยกับคนแก่ ปลายไม่ต้องคิดมาก” คำพูดของผาทำให้ฉันน้ำตารื้น น่ารัก น่ารัก ตัวเขามีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมดเลย ดีใจจังที่เป็นผา ดีใจที่คนที่ฉันรักเป็นภูผาคนนี้
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ฉันและผาเจอกันหกวันต่อสัปดาห์ เขาเข้าออกบ้านฉันทุกเสาร์ ทั้งย่าและพ่อชอบเขามาก เผลอ ๆ ชอบมากกว่าฉันเสียอีก ทำไมฉันคิดอย่างนั้นน่ะเหรอ เพราะวันเสาร์จะเป็นวันที่อาหารอร่อย ๆ เยอะมาก และส่วนมากเป็นของชอบผาเกือบทั้งนั้น
และแล้วความพยายามของเราสองคนก็เป็นผล เพราะต่างคนต่างได้เข้าในมหาวิทยาลัยที่เราเลือก และวิชาเอกที่เราเลือก ผาได้เรียนหมอสมใจ ฉันเองก็ได้เรียนพยาบาลตามที่ใจต้องการ
“ทำไมเลือกเรียนพยาบาล” คำถามของพี่รหัสทำฉันสะดุ้งเล็กน้อย
“เอาความจริงหรือโลกสวยคะ” ฉันถามในตอนที่เราเลี้ยงสายรหัสกัน ฉันเริ่มเมานิด ๆ จึงกล้าต่อปากต่อคำกับพี่รหัสของตัวเอง
“เอาความจริงสิคุณน้อง”
“คนที่ปลายชอบเขาเรียนหมอ ปลายเลยอยากเป็นพยาบาล” ฉันตอบรุ่นพี่ จากนั้นตัวเองก็สะอึก
“หมอเขาก็แต่งกับหมอสิ เขาไม่มาสนใจพยาบาลต๊อกต๋อยอย่างเราหรอก” น้ำเสียงกึ่งประชดประชันของรุ่นพี่ดังเข้าโสตประสาท ทะลุถึงใจ
ฉันลืมไปเลยว่าพี่รหัสก็แอบชอบรุ่นพี่หมออยู่เหมือนกัน หรือนี่จะเป็นพรหมลิขิต ทำให้ฉันมาเจอพี่รหัสที่มีชะตากรรมเดียวกัน
อกหักรักคุดเพราะแอบรักหมอ
ไม่สิ สำหรับฉัน ตราบใดที่ผายังไม่มีแฟน ฉันก็มีโอกาสนั้นสิ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร ใกล้แล้วแหละ ฉันมั่นใจ
แต่แล้วความหวังของฉันก็พังทลายอีกครั้ง เมื่อเขามีแฟนที่เป็นรุ่นพี่ปีสองหรือที่ใคร ๆ เรียกว่าพี่รหัสของเพื่อนผาอีกที เพิ่งเปิดเทอมได้เดือนเดียวก็มีแฟน ทิ้งฉันแล้ว
น่าโมโหจริง แล้วนี่จะส่งอะไรมาให้ดูอีก
ระหว่างเราก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขายังคงทักทายฉันผ่านทางไลน์ ชวนไปกินข้าวด้วยกันอย่างเช่นวันนี้
“ผา” ฉันเดินเข้าร้านอาหารที่อีกฝ่ายนัดอย่างดีใจ ไม่ได้เจอเขาเป็นเดือนแล้ว ส่วนมากก็ไลน์คุยกันเห็นแค่ข้อความ วันนี้ดีใจมากได้เจอตัวเขาเป็น ๆ
“ปลายเป็นไงบ้าง เรียนหนักไหม” ผาในชุดนักศึกษายิ่งหล่อกว่าเดิมอีก หล่อขึ้นเป็นกองเลย
“เรียนหนักอยู่นะ มีทำไม่ได้ด้วย” ฉันบ่นให้เขาฟัง แบบอยากได้คนติวหนังสือ โอ๊ะ! ไม่ได้สิ ผามีแฟนแล้วนี่นา เดี๋ยวทะเลาะกันเพราะฉันอีก ถึงฉันจะชอบเขา ถึงความรู้สึกฉันจะไม่บริสุทธิ์ใจ
แต่ฉันก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ผาไม่สบายใจ
“แต่ไม่เป็นไรนะ ปลายถามเพื่อนที่เรียนด้วยกันมีคนติวให้หลายคนอยู่” ฉันรีบบอกเขาเมื่อเห็นถึงสีหน้าหนักใจของผา
“ดีแล้ว เราสั่งข้าวไว้ให้ปลายละนะ”
“ขอบคุณนะ” ผารู้ว่าฉันชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไร ยิ่งร้านอาหารญี่ปุ่นแบบนี้ฉันชอบกินปลาดิบที่สุด ส่วนผาชอบกินเนื้อ อันนี้ฉันรู้ดี โดยเฉพาะแกงอ่อมเนื้อที่ย่าทำ เขากินเยอะมากเวลาไปที่บ้าน
“กว่าผาจะรักปลาย”“ที่ไหนล่ะ ผารักปลายมาตลอดเลย ปลายนั่นแหละไม่ชัดเจน” ผมจะสารภาพทีไรมีแต่เรื่องให้ผมอกหัก“ผามีแฟนทิ้งปลายตั้งหลายครั้ง”“ก็ใครย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นเพื่อนไง” เธอแหละวางผมไว้เป็นเพื่อนตลอดใครจะกล้าล้ำเส้น ผมแสดงออกตั้งหลายครั้งว่าชอบเธอ“ปลายอยากเป็นมากกว่าเพื่อนตลอดแหละ แล้วใครกันล่ะเมื่อไหร่ก็มีแฟน พอมีแฟนก็หายหัวไปเลย” เธอย่นหน้าให้ผม“อยากตัดใจจริง ๆ นะ มันเจ็บ ว่าแต่คุยกันเรื่องลูกอยู่ดี ๆ แล้วเรามาเรื่องนี้กันได้ยังไงเนี่ย”“เออ นั่นสิมาเรื่องนี้ได้ยังไงกัน” ปลายเองก็งงว่าเรามากันเรื่องของตัวเองได้อย่างไรกัน แล้วยังโกรธย้อนหลังกับอดีตที่ผ่านมา เราทั้งคู่หัวเราะชอบใจ“ขอบคุณนะผา ที่เตือนสติปลาย ปลายชอบมองว่าลูกยังเด็กไม่อยากให้ลูกมีแฟน ทั้ง ๆ ที่ลูกอายุเท่าเราในตอนนั้นเลย” ในตอนนั้นที่เธอหมายถึงคือตอนที่ผมกับปลายเริ่มชอบกัน ตอนนั้นพวกเราอายุเท่ากับลูก ๆ ในตอนนี้นั่นแหละ“ผาเข้าใจ ไม่ผิดหรอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แบบนี้ทั้งนั่นแหละ ผาเองก็เป็นห่วงลูกไม่ต่างกับปลาย แต่เราดูแลเขาไม่ได้ไปตลอดชีวิตประสบการณ์จะทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและดูแลตัวเองได้” ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชายด้ว
ใช่ ตอนนี้เต็มไม้เต็มมือ แถมยังร้อนอีกต่างหาก“ปลาย...” เสียงผาเซ็กซี่จนฉันสะท้าน เสียงทรมานแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันอ่อนยวบไปทั้งตัว ปลายนิ้วเขาปัดผ่านตุ่มไตบนเนินทรวง ยอดถันหดเกร็งอย่างอัตโนมัติ ความชื้นฉ่ำตรงกลางกายบ่งบอกว่าฉันเองก็อยากได้เขาไม่ต่างกัน “ผา...ไม่ไหว” ฉันไม่ไหวแล้วตอนนี้ อยากเหลือเกิน ยิ่งเขาปลุกปั่นฉันยิ่งอยาก คงเพราะเราทั้งสองร้างรามาหลายเดือน เขาเองคงไม่ต่างจากฉัน“อยากทำหรืออยากให้ผาทำ” วันนี้ฉันอยากเป็นฝ่ายกระทำมากกว่าโดนกระทำย่ำยี“ปลายจะย่ำยีผาให้หนำใจ”“เอาเลยทูนหัว ย่ำยีผัวให้หนำใจ”“อา....” ฉันเริ่มย่ำยีเขาอย่างที่ใจต้องการ บดเนินเนื้อเข้าหาส่วนแข็งขึงให้แข็งกว่าเดิม ส่ายร่อนเอวอย่างที่เขาชอบ เสียงครางต่ำของเขาบ่งบอกว่าทรมานแค่ไหนในการโดนย่ำยีครั้งนี้“ปลายจ๋า” เสียงผาหวานเหลือเกิน ฉันตอบรับเขาเสียงหวาน ก่อนจะโน้มตัวให้หน้าอกคัปดีในตอนนี้บดเบียดกับหน้าอกแกร่งของเขา จูบเร่าร้อน ลิ้นร้อนร้ายไล้ชิมในโพรงปากของเราทั้งคู่ดูดดึง หยอกล้อกันฝ่ามือหนาของผาบีบแก้มก้นฉันแน่น เขาจับของเขาจ่อตรงร่องรักฉ่ำชื้น ฉันโยกตัวขยับให้ทุกอย่างเข้าหากันได้ง่ายขึ้น เมื่อเป้าหมายไม่พล
ผากำลังอุ้มลูกของเราในวัยแรกคลอด เด็กผู้ชายแฝดสองคนหนึ่งผาอุ้มไว้ในอ้อมกอดแสนอบอุ่น ก่อนที่เราจะมีลูกผาตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางกุมารเวชลูกชายอีกคนแม่ของฉันอุ้มไว้แนบอกหลานยาย แม่ของฉันเกษียณอายุจากการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแล้ว ฉันจึงขอร้องให้แม่ช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนฉันกับผา เราสองคนปลูกบ้านหลังใหม่ ไม่ห่างจากบ้านหลังเดิมของพ่อมากนัก เพราะลูกแฝดทำให้ผาค่อนข้างกังวลเมื่อลูกเขยสุดที่รักขอร้องให้มาอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวกับหลาน แม่ที่อยู่คนเดียวตอนนี้จึงตัดสินใจไม่ยาก เพราะความห่วงฉันและหลานใจลึก ๆ ฉันก็อยากให้พ่อกับแม่ลองได้พูดคุยกันอีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละ ความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ยุติมาแสนนานแล้วจึงค่อนข้างยากที่จะให้กลับมาเหมือนเดิม“น้องไปป์ น้องโป๊ป” เสียงเรียกของคนที่เพิ่งมาถึง พ่อของฉันมาถึงพร้อมย่า ตอนนี้ฉันย้ายกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว เด็ก ๆ อายุได้หนึ่งเดือนแล้วแข็งแรงทั้งคู่ น้ำหนักและความยาวถึงจะน้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกันแต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ“ไหนขอทวดดูหน้าหน่อย” ย่านั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น เรียกดูหน้าเหลน ผากับแม่ฉันจึงอุ้มเด็กทั้งคู่มาให้ย่าดูหน้าชัด ๆ ย่าท่องคาถาอะไร
“ขอโทษ” ผาค้อมศีรษะให้น้ำปั่นอย่างรู้สึกผิด“ไม่ต้องขอโทษเรา ไปขอโทษปลายโน่น รักเขาแต่ไม่ยอมบอก เป็นเรานะปลาย จะเล่นตัวให้เข็ด” น้ำปั่นยังปล่อยพลังทำลายล้าง ผานั่งตัวงออย่างรู้สึกผิดกับฉันและน้ำปั่น“ไม่ต้องขอโทษแล้วผา ตอนนั้นเรายังเด็กด้วยกันทั้งคู่ กว่าน้ำปั่นจะมาเจอแฟนคนนี้ น้ำปั่นเองก็คบมาเยอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ของคนสวยก็แล้วกัน ว่าไหมปลาย”ฉันสะอึกเพราะกลายเป็นผู้มีประสบการณ์น้อยขึ้นมาทันทีน้ำปั่นยกข้อมือดูเวลา เราทั้งสองแลกคอนแท็กต์กันไว้หลายช่องทาง“ไปก่อนนะปลาย ผา ขอให้รักกันแบบนี้ตลอดไปให้เหมือนที่ผ่านมานะ เราไปก่อน” น้ำปั่นอวยพรพร้อมทั้งล่ำลากัน คำอวยพรของน้ำปั่นทำให้ฉันรู้ว่า เธอรู้ว่าผารักฉันตั้งแต่ตอนนั้น“น้ำปั่นรู้ว่าผารักปลาย” เขาย้ำความคิดฉันด้วยคำพูดอีกครั้ง นี่เป็นเหมือนสิ่งค้างคาใจฉันมาตลอด เพราะน้ำปั่นคือแฟนคนแรกของผา และเป็นแฟนคนเดียวที่เขาแนะนำให้ฉันรู้จักอย่างเป็นทางการ“น้ำปั่นแมนมากเลย”“น้ำปั่นมีลูกแล้วปลาย” ผาทำหน้าตาตกใจ คงกลัวฉันจะชอบน้ำปั่นสินะ“ที่บอกว่าแมนหมายถึงเขาไม่งี่เง่าใส่ปลายเหมือนหมอฝ้าย” ฉันคิดว่าถ้าเจอหน้าน้ำปั่นคงมองหน้ากันไม่ติด ใครจะคิด
“ปลายรักผา รักมานานแล้ว อ๊ะ” ฉันบอกรักเขาพร้อมกับรัดเขาแน่น ๆ ด้วยร่องรักที่เต้นตุบ ๆ บดร่องรักเข้ากับตัวตนของเขาจนแทบไม่มีช่องว่าง พร้อมกับเขี่ยระรัวตรงส่วนของเกสรให้เขาดูด้วย“ปลาย ท่านี้โคตรเอกซ์” เขาพูดพร้อมทั้งบีบหน้าอกฉันแรงกว่าเดิม ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าท่านี้โคตรเอกซ์และเขาชอบแค่ไหน ทุกครั้งที่ทำท่านี้ ทุกครั้งที่มองเขา สายตาเขาและตัวตนเขาที่จมอยู่ในร่องรักจะกระตุกตลอด“ผาก็โคตรเอกซ์ ปลายชอบทุกส่วนของผา” ฉันบีบกล้ามอกเขาแรง ๆ อย่างที่เขาบีบฉัน กล้ามนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่ม หากแต่ให้ความรู้สึกเคร่งครัด แน่นไปทุกสัดส่วน“ปลายแต่งงานกันไหม” ใครมาขอแต่งงานตอนที่ผู้หญิงกำลังขย่มอยู่บ้าง ฉันควรจะร้องไห้เพราะความดีใจหรือเพราะความเสียวดี“ผาเอาเสร็จก่อนค่อยขอ” ขอแต่งงานควรสวมแหวนสิ ไม่ใช่สวมอะไรอย่างตอนนี้“ตอนนี้อารมณ์มันได้”“อื้อ ผาไม่เล่น” เขาจูบฉันทั้งยังสวนเอวเข้ามาไม่หยุด“ไม่ได้เล่น แต่งไหม”“อื้อ แต่ง แต่ง แตกแล้ว”“จะแต่งหรือจะแตก” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อฉันแตกกับตัวตนของเขาพร้อมทั้งตอบตกลงแต่งงานกับเขา รักข้างเดียวตลอดหลายปีของฉัน สุดท้ายฉันก็ได้เขามาครอบครองทั้งกายแ
“ไม่รู้สิ คนถูกจีบบื้อไปหน่อยมั้ง” เขายักไหล่พร้อมทั้งหัวเราะอย่างชอบใจที่ได้ว่าฉัน“ปากหนัก มโนเก่ง” ฉันว่าพร้อมทั้งเบ้ปากให้เขา เพราะความปากหนักและขี้มโนของเขานั่นแหละ ทำให้เราสองคนต้องอดทนรอกันและกันมาถึงสิบสองปี“ถือว่าแยกกันไปเติบโต พอผาได้บรรจุ ผาคิดเลยนะว่าจะไม่ยอมให้ปลายหลุดมือผาไปอย่างแน่นอน”“ขนาดนั้นเลย” ฉันแกล้งแซว“ทั้งพาไปเลือกคอนโด ทั้งจับมือ ทั้งหอมมือ ยังไม่รู้อีกว่าอยากเป็นมากกว่าเพื่อน”จริง ๆ ตอนนั้นฉันก็แอบหวั่นไหวมาก ถึงได้ขอคบเขาเป็นเพื่อนนอน เพราะคิดว่าจะหลบอยู่ในซอกหลืบของความเป็นเพื่อนต่อไปคงไม่ไหว“ก็รู้แล้วไงตอนนี้ ทำไมชอบว่าเนี่ย” ฉันปั้นปากใส่เขาอย่างหมั่นไส้“ผารักปลาย”พอเขาพูดคำนี้ทีไร ฉันที่ปั้นปากอย่างอารมณ์ไม่ดีแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างอย่างดีใจ คำบอกรักของเขาฟังกี่ทีฉันก็ไม่เคยเบื่อ เหมือนน้ำฝนที่ไหลลงพื้นดินมอบความชุ่มฉ่ำหัวใจได้ตลอดเราสองคนกลับจากตลาดในเวลาเกือบสามทุ่ม พนักงานของรีสอร์ตพาเราสองคนกลับมาส่งที่ห้องอย่างปลอดภัย ฉันตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที เหนียวตัวเพราะฝุ่นควันจากตลาด และร้อนเพราะเครื่องดื่มที่กระดกเข้าไปหลายแก้ว“ผา อย่าเพิ่ง