“วันนี้เลิกเรียนเร็ว เลยอยากเจอปลาย ไม่ได้เจอกันนานเลย” ผาพูดขึ้นพร้อมทั้งยิ้มให้ฉันอย่างที่เคยทำ เพราะรอยยิ้มแบบนี้ คำพูดแบบนี้ไง ฉันเลยไปไหนไม่รอดสักที
ผาเลื่อนถุงกระดาษใบเล็ก ๆ ส่งมาให้ฉัน
“อะไรเหรอ”
“ของขวัญวันเกิดย้อนหลัง” อ๋อ วันเกิดฉันเมื่ออาทิตย์ก่อน ผาไม่ได้แวะมาหาที่บ้าน คงเพราะติดธุระมั้ง ฉันไม่ได้ซีเรียสหรอก แค่คำอวยพรฉันก็ดีใจแล้ว
“ขอบคุณนะ” ฉันยิ้มด้วยความดีใจ รีบแกะของขวัญออกมาทันที
“กระเป๋าใส่ตังค์เหรียญ เห็นปลายชอบใช้” คนให้อธิบาย ฉันมองดูแม้กระเป๋าใส่ตังค์เหรียญหนังแบรนด์ดัง ถึงใบจะเล็ก แต่ราคาของมันก็ไม่ได้เล็กตามขนาด
“ขอบคุณนะผา ปลายจะใช้อย่างดี”
“ผาใส่เงินเป็นขวัญถุงให้ด้วยนะ”
“เหรอ ๆ” ฉันตาโตกับสิ่งที่ผาบอก รีบเปิดดูเงินขวัญถุงที่เขาว่า มีเงินอยู่ในกระเป๋าจริง ๆ ด้วย
“ปลายเกิดวันอาทิตย์ ควรมีแบงก์ห้าร้อยและลงท้ายด้วยเลขแปด เงินทองจะได้ไม่ขาดมือ” ผาอธิบาย แบงก์ห้าร้อยที่เขาใส่ไว้ในกระเป๋า ผารู้ว่าฉันคือสายมูตัวยง เขาเลยไปหาข้อมูลมาแน่นเลย ฉันยิ้มจนเมื่อยหน้าหมดแล้วตอนนี้
“ขอบคุณนะผา”
“ไม่เป็นไร ปลายเป็น...เพื่อนเรา”
เออใช่ ฉันเป็นเพื่อนผานี่นา เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย ย้ำจัง ฉันแอบค้อนในใจ แต่ไม่เป็นไร เป็นเพื่อนไปก่อนก็ได้ วันหนึ่งต้องมีโอกาสของฉันบ้างแหละ
และแล้วความหวังของฉันก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อขึ้นปีหนึ่งเทอมสอง ผาเลิกกับรุ่นพี่คนนั้นเพราะต่างคนต่างความคิด เขาบอกว่าเธอเป็นฝ่ายขอเลิกเพราะไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน
ฉันกับผายังคุยไลน์กันตลอด จึงรับรู้ว่าเขาเลิกกับรุ่นพี่คนนั้น แต่ผาไม่เคยเอาเรื่องแฟนเขาไม่ว่าคนไหนมาปรึกษาหรือเล่าให้ฉันฟังเลยนะ ไม่ว่าจะตอนคบกัน ตอนเลิกกัน เขาเป็นคนให้เกียรติผู้อื่นเสมอ และนั่นฉันยิ่งรักผา
ห้องไลน์ส่วนตัว ภูผา ปลายฟ้า
PP_Sky : เลิกเรียนหรือยัง
Pha_phu : เลิกแล้วแต่มีติวต่อ
PP_Sky : เคเคอย่าลืมกินข้าว ปลายฝากไว้ที่นิติ
Pha_phu : น่าจะบอกก่อนจะได้เจอกัน
PP_Sky : ไม่เป็นไรปลายไม่อยากกวนผา
Pha_phu : ไม่กวนเลย ขับรถดี ๆ นะ
PP_Sky : จ้า..(สติกเกอร์ OK)
ตั้งแต่ฉันเรียนมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้อยู่หอพัก แต่กลับบ้านมาอยู่กับพ่อและย่าเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้ฉันมีรถยนต์ส่วนตัวขับมาเรียนแล้ว ส่วนผานั้นพักอยู่หอใน เขาเองก็มีรถยนต์ส่วนตัวแล้วเหมือนกัน ทำให้บางวันฉันต้องอาศัยจอดรถไว้ในมอ ถ้าเรามีนัดกินข้าวหรือนัดเที่ยวด้วยกัน
ปีสอง ใกล้วันวาเลนไทน์
ตอนนี้ผาไม่ได้อยู่หอในแล้วเพราะที่มหาวิทยาลัยจะให้นักศึกษาอยู่หอในมอแค่ช่วงปีหนึ่งเท่านั้น เขามีคอนโดส่วนตัวอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
“เป็นอะไรปลาย” หน้าฉันคงแสดงความคิดหนัก ทำให้เพื่อนถามออกมาแบบนี้
“พิมเอาอะไรให้แฟนเหรอ วันวาเลนไทน์” ฉันไม่ตอบคำถาม แต่กลับถามพิมกลับไป พิมมีแฟนเป็นรุ่นพี่หนุ่มวิศวะ เพิ่งคบกันได้ไม่กี่เดือน
“เฮ้อ ไม่อยากให้อะไรหรอก เพิ่งทะเลาะกัน” พิมถอนหายใจ เอนหัวพิงไหล่ฉัน แล้วเริ่มเล่าเรื่องที่ทะเลาะกัน
“เรื่องเดิมนั่นแหละ เพื่อนเขาแอบชอบเขา ฉันบอกว่าให้เขาห่างจากเพื่อน เขาก็ไม่ยอม บอกว่าไม่มีอะไร ไม่มีอะไร” ทำไมสิ่งที่พิมพูดทำให้ฉันรู้สึกตีบตันที่ลำคอจังเลย
“อาจไม่มีอะไรก็ได้แก”
“ปลาย ผู้หญิงด้วยกันดูผู้หญิงด้วยกันออก สายตามันซ่อนไม่ได้หรอก” พิมยังคงพูดต่อไป ดีนะที่พิมไม่ได้จ้องตาฉันอยู่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นพิมต้องรู้แน่ ว่าฉันแอบชอบเพื่อนของตัวเอง
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมอะ ถ้าแอบชอบเพื่อนตัวเองก็น่าจะบอก ๆ ไป ไม่ใช่มาคอยเป็นหอกข้างแคร่อยู่แบบนี้” พิมยังบ่นต่อ คำพูดของพิมเข้ามาในหัวฉันราวกับคลื่นซัด
หรือว่าฉันควรทำอะไรสักที...
สารภาพไปเลยดีไหม จะได้รู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ ถ้าเขาไม่ชอบจะได้เลิกหวัง ถ้าเขาชอบ ฉันจะได้คบกัน
แล้วความเป็นเพื่อนจะมีอยู่ไหมนะ!
ฉันอยากซื้อกระเป๋าสตางค์ให้ผาบ้าง เพราะเขาเคยซื้อให้ฉันแล้ว ผาเกิดวันจันทร์ ฉันเลือกสีดำให้ดีกว่า ดูเหมาะกับผู้ชายอย่างเขาด้วย
วันนี้วันที่สิบสามแล้วสินะ รีบไปซื้อดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ทันให้ผา ฉันเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อยู่หลายร้าน กว่าจะได้แบบกระเป๋าที่ต้องการ รีบกลับไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาสวย ๆ ไปหาผา
เช้าวันแห่งความรักแสนสดใส ฉันตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวสวย ๆ แต่ชุดนักศึกษาคงสวยมากไม่ได้ ทำผมลอน ๆ หน่อยดีกว่า หน้าจะได้หวานขึ้นอีกหน่อย
“กว่าผาจะรักปลาย”“ที่ไหนล่ะ ผารักปลายมาตลอดเลย ปลายนั่นแหละไม่ชัดเจน” ผมจะสารภาพทีไรมีแต่เรื่องให้ผมอกหัก“ผามีแฟนทิ้งปลายตั้งหลายครั้ง”“ก็ใครย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นเพื่อนไง” เธอแหละวางผมไว้เป็นเพื่อนตลอดใครจะกล้าล้ำเส้น ผมแสดงออกตั้งหลายครั้งว่าชอบเธอ“ปลายอยากเป็นมากกว่าเพื่อนตลอดแหละ แล้วใครกันล่ะเมื่อไหร่ก็มีแฟน พอมีแฟนก็หายหัวไปเลย” เธอย่นหน้าให้ผม“อยากตัดใจจริง ๆ นะ มันเจ็บ ว่าแต่คุยกันเรื่องลูกอยู่ดี ๆ แล้วเรามาเรื่องนี้กันได้ยังไงเนี่ย”“เออ นั่นสิมาเรื่องนี้ได้ยังไงกัน” ปลายเองก็งงว่าเรามากันเรื่องของตัวเองได้อย่างไรกัน แล้วยังโกรธย้อนหลังกับอดีตที่ผ่านมา เราทั้งคู่หัวเราะชอบใจ“ขอบคุณนะผา ที่เตือนสติปลาย ปลายชอบมองว่าลูกยังเด็กไม่อยากให้ลูกมีแฟน ทั้ง ๆ ที่ลูกอายุเท่าเราในตอนนั้นเลย” ในตอนนั้นที่เธอหมายถึงคือตอนที่ผมกับปลายเริ่มชอบกัน ตอนนั้นพวกเราอายุเท่ากับลูก ๆ ในตอนนี้นั่นแหละ“ผาเข้าใจ ไม่ผิดหรอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แบบนี้ทั้งนั่นแหละ ผาเองก็เป็นห่วงลูกไม่ต่างกับปลาย แต่เราดูแลเขาไม่ได้ไปตลอดชีวิตประสบการณ์จะทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและดูแลตัวเองได้” ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชายด้ว
ใช่ ตอนนี้เต็มไม้เต็มมือ แถมยังร้อนอีกต่างหาก“ปลาย...” เสียงผาเซ็กซี่จนฉันสะท้าน เสียงทรมานแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันอ่อนยวบไปทั้งตัว ปลายนิ้วเขาปัดผ่านตุ่มไตบนเนินทรวง ยอดถันหดเกร็งอย่างอัตโนมัติ ความชื้นฉ่ำตรงกลางกายบ่งบอกว่าฉันเองก็อยากได้เขาไม่ต่างกัน “ผา...ไม่ไหว” ฉันไม่ไหวแล้วตอนนี้ อยากเหลือเกิน ยิ่งเขาปลุกปั่นฉันยิ่งอยาก คงเพราะเราทั้งสองร้างรามาหลายเดือน เขาเองคงไม่ต่างจากฉัน“อยากทำหรืออยากให้ผาทำ” วันนี้ฉันอยากเป็นฝ่ายกระทำมากกว่าโดนกระทำย่ำยี“ปลายจะย่ำยีผาให้หนำใจ”“เอาเลยทูนหัว ย่ำยีผัวให้หนำใจ”“อา....” ฉันเริ่มย่ำยีเขาอย่างที่ใจต้องการ บดเนินเนื้อเข้าหาส่วนแข็งขึงให้แข็งกว่าเดิม ส่ายร่อนเอวอย่างที่เขาชอบ เสียงครางต่ำของเขาบ่งบอกว่าทรมานแค่ไหนในการโดนย่ำยีครั้งนี้“ปลายจ๋า” เสียงผาหวานเหลือเกิน ฉันตอบรับเขาเสียงหวาน ก่อนจะโน้มตัวให้หน้าอกคัปดีในตอนนี้บดเบียดกับหน้าอกแกร่งของเขา จูบเร่าร้อน ลิ้นร้อนร้ายไล้ชิมในโพรงปากของเราทั้งคู่ดูดดึง หยอกล้อกันฝ่ามือหนาของผาบีบแก้มก้นฉันแน่น เขาจับของเขาจ่อตรงร่องรักฉ่ำชื้น ฉันโยกตัวขยับให้ทุกอย่างเข้าหากันได้ง่ายขึ้น เมื่อเป้าหมายไม่พล
ผากำลังอุ้มลูกของเราในวัยแรกคลอด เด็กผู้ชายแฝดสองคนหนึ่งผาอุ้มไว้ในอ้อมกอดแสนอบอุ่น ก่อนที่เราจะมีลูกผาตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางกุมารเวชลูกชายอีกคนแม่ของฉันอุ้มไว้แนบอกหลานยาย แม่ของฉันเกษียณอายุจากการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแล้ว ฉันจึงขอร้องให้แม่ช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนฉันกับผา เราสองคนปลูกบ้านหลังใหม่ ไม่ห่างจากบ้านหลังเดิมของพ่อมากนัก เพราะลูกแฝดทำให้ผาค่อนข้างกังวลเมื่อลูกเขยสุดที่รักขอร้องให้มาอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวกับหลาน แม่ที่อยู่คนเดียวตอนนี้จึงตัดสินใจไม่ยาก เพราะความห่วงฉันและหลานใจลึก ๆ ฉันก็อยากให้พ่อกับแม่ลองได้พูดคุยกันอีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละ ความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ยุติมาแสนนานแล้วจึงค่อนข้างยากที่จะให้กลับมาเหมือนเดิม“น้องไปป์ น้องโป๊ป” เสียงเรียกของคนที่เพิ่งมาถึง พ่อของฉันมาถึงพร้อมย่า ตอนนี้ฉันย้ายกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว เด็ก ๆ อายุได้หนึ่งเดือนแล้วแข็งแรงทั้งคู่ น้ำหนักและความยาวถึงจะน้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกันแต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ“ไหนขอทวดดูหน้าหน่อย” ย่านั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น เรียกดูหน้าเหลน ผากับแม่ฉันจึงอุ้มเด็กทั้งคู่มาให้ย่าดูหน้าชัด ๆ ย่าท่องคาถาอะไร
“ขอโทษ” ผาค้อมศีรษะให้น้ำปั่นอย่างรู้สึกผิด“ไม่ต้องขอโทษเรา ไปขอโทษปลายโน่น รักเขาแต่ไม่ยอมบอก เป็นเรานะปลาย จะเล่นตัวให้เข็ด” น้ำปั่นยังปล่อยพลังทำลายล้าง ผานั่งตัวงออย่างรู้สึกผิดกับฉันและน้ำปั่น“ไม่ต้องขอโทษแล้วผา ตอนนั้นเรายังเด็กด้วยกันทั้งคู่ กว่าน้ำปั่นจะมาเจอแฟนคนนี้ น้ำปั่นเองก็คบมาเยอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ของคนสวยก็แล้วกัน ว่าไหมปลาย”ฉันสะอึกเพราะกลายเป็นผู้มีประสบการณ์น้อยขึ้นมาทันทีน้ำปั่นยกข้อมือดูเวลา เราทั้งสองแลกคอนแท็กต์กันไว้หลายช่องทาง“ไปก่อนนะปลาย ผา ขอให้รักกันแบบนี้ตลอดไปให้เหมือนที่ผ่านมานะ เราไปก่อน” น้ำปั่นอวยพรพร้อมทั้งล่ำลากัน คำอวยพรของน้ำปั่นทำให้ฉันรู้ว่า เธอรู้ว่าผารักฉันตั้งแต่ตอนนั้น“น้ำปั่นรู้ว่าผารักปลาย” เขาย้ำความคิดฉันด้วยคำพูดอีกครั้ง นี่เป็นเหมือนสิ่งค้างคาใจฉันมาตลอด เพราะน้ำปั่นคือแฟนคนแรกของผา และเป็นแฟนคนเดียวที่เขาแนะนำให้ฉันรู้จักอย่างเป็นทางการ“น้ำปั่นแมนมากเลย”“น้ำปั่นมีลูกแล้วปลาย” ผาทำหน้าตาตกใจ คงกลัวฉันจะชอบน้ำปั่นสินะ“ที่บอกว่าแมนหมายถึงเขาไม่งี่เง่าใส่ปลายเหมือนหมอฝ้าย” ฉันคิดว่าถ้าเจอหน้าน้ำปั่นคงมองหน้ากันไม่ติด ใครจะคิด
“ปลายรักผา รักมานานแล้ว อ๊ะ” ฉันบอกรักเขาพร้อมกับรัดเขาแน่น ๆ ด้วยร่องรักที่เต้นตุบ ๆ บดร่องรักเข้ากับตัวตนของเขาจนแทบไม่มีช่องว่าง พร้อมกับเขี่ยระรัวตรงส่วนของเกสรให้เขาดูด้วย“ปลาย ท่านี้โคตรเอกซ์” เขาพูดพร้อมทั้งบีบหน้าอกฉันแรงกว่าเดิม ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าท่านี้โคตรเอกซ์และเขาชอบแค่ไหน ทุกครั้งที่ทำท่านี้ ทุกครั้งที่มองเขา สายตาเขาและตัวตนเขาที่จมอยู่ในร่องรักจะกระตุกตลอด“ผาก็โคตรเอกซ์ ปลายชอบทุกส่วนของผา” ฉันบีบกล้ามอกเขาแรง ๆ อย่างที่เขาบีบฉัน กล้ามนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่ม หากแต่ให้ความรู้สึกเคร่งครัด แน่นไปทุกสัดส่วน“ปลายแต่งงานกันไหม” ใครมาขอแต่งงานตอนที่ผู้หญิงกำลังขย่มอยู่บ้าง ฉันควรจะร้องไห้เพราะความดีใจหรือเพราะความเสียวดี“ผาเอาเสร็จก่อนค่อยขอ” ขอแต่งงานควรสวมแหวนสิ ไม่ใช่สวมอะไรอย่างตอนนี้“ตอนนี้อารมณ์มันได้”“อื้อ ผาไม่เล่น” เขาจูบฉันทั้งยังสวนเอวเข้ามาไม่หยุด“ไม่ได้เล่น แต่งไหม”“อื้อ แต่ง แต่ง แตกแล้ว”“จะแต่งหรือจะแตก” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อฉันแตกกับตัวตนของเขาพร้อมทั้งตอบตกลงแต่งงานกับเขา รักข้างเดียวตลอดหลายปีของฉัน สุดท้ายฉันก็ได้เขามาครอบครองทั้งกายแ
“ไม่รู้สิ คนถูกจีบบื้อไปหน่อยมั้ง” เขายักไหล่พร้อมทั้งหัวเราะอย่างชอบใจที่ได้ว่าฉัน“ปากหนัก มโนเก่ง” ฉันว่าพร้อมทั้งเบ้ปากให้เขา เพราะความปากหนักและขี้มโนของเขานั่นแหละ ทำให้เราสองคนต้องอดทนรอกันและกันมาถึงสิบสองปี“ถือว่าแยกกันไปเติบโต พอผาได้บรรจุ ผาคิดเลยนะว่าจะไม่ยอมให้ปลายหลุดมือผาไปอย่างแน่นอน”“ขนาดนั้นเลย” ฉันแกล้งแซว“ทั้งพาไปเลือกคอนโด ทั้งจับมือ ทั้งหอมมือ ยังไม่รู้อีกว่าอยากเป็นมากกว่าเพื่อน”จริง ๆ ตอนนั้นฉันก็แอบหวั่นไหวมาก ถึงได้ขอคบเขาเป็นเพื่อนนอน เพราะคิดว่าจะหลบอยู่ในซอกหลืบของความเป็นเพื่อนต่อไปคงไม่ไหว“ก็รู้แล้วไงตอนนี้ ทำไมชอบว่าเนี่ย” ฉันปั้นปากใส่เขาอย่างหมั่นไส้“ผารักปลาย”พอเขาพูดคำนี้ทีไร ฉันที่ปั้นปากอย่างอารมณ์ไม่ดีแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างอย่างดีใจ คำบอกรักของเขาฟังกี่ทีฉันก็ไม่เคยเบื่อ เหมือนน้ำฝนที่ไหลลงพื้นดินมอบความชุ่มฉ่ำหัวใจได้ตลอดเราสองคนกลับจากตลาดในเวลาเกือบสามทุ่ม พนักงานของรีสอร์ตพาเราสองคนกลับมาส่งที่ห้องอย่างปลอดภัย ฉันตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที เหนียวตัวเพราะฝุ่นควันจากตลาด และร้อนเพราะเครื่องดื่มที่กระดกเข้าไปหลายแก้ว“ผา อย่าเพิ่ง