ขนิษฐาจำต้องยื่นเด็กน้อยในอ้อมกอดส่งคืนให้ชายตรงหน้า ดวงตาคู่สวยแดงก่ำเจ็บช้ำเกินบรรยาย ครั้นเสียงกรีดร้องของเด็กชายราวกับรู้ว่าต้องห่างจากอ้อมกอดแม่อีกตลอดกาล ยิ่งกรีดหัวใจคนเป็นแม่
หญิงสาวอยากพูดอะไรหลายอย่าง ทว่าลำคอกลับตีบตัน และเพียงไม่นานรถหรูคันโตก็แล่นออกจากหน้าโรงพยาบาลทันที
หล่อนกำลัง 'สูญเสีย' อีกครั้งแล้วใช่ไหม?
“ฮึก..ลูก” หญิงสาวร้องไห้ปล่อยโฮ เท้าเล็กรีบวิ่งอ้าวตามรถด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แม้จะรู้ว่าไม่มีทางทันก็ตาม
“โอ๊ย” ร่างเล็กถลาล้มบนถนนปูน หัวเข่าเจ็บแสบจากแรงถลอก ทว่าก็ยังน้อยกว่าใจคนเป็นแม่ที่ถูกบีบรัดเหลือเกิน
ดวงตาคู่สวยได้แต่เหม่อมองไปยังไฟท้ายรถจนลับสายตา
ภายในรถหรูบรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบงัน ความเย็นยะเยือกชวนให้คนในรถเต็มเริ่มกระสับกระส่าย เลขาหนุ่มที่นั่งข้างคนขับเหล่มองชายหนุ่มผู้มีฉายา ‘ซาตานหน้ายิ้ม’ ซึ่งบัดนี้ใบหน้าหล่อเหลาปราศจากรอยยิ้มผิดกับฉายาโดยสิ้นเชิง
อยู่กับนายต้อง 'เดาใจ' นายให้ออก เวลานี้เขารู้นายเองก็คงรู้สึกแย่ที่ต้องพรากแม่กับลูกออกจากกัน
แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้แม่ลูกก็เสี่ยงอันตรายเช่นกัน...พูดตามตรงมันเป็นสถานการณ์ที่เขาก็ลำบากใจไม่น้อย
ชินณธรก้มมองเด็กชายตัวเล็กหน้ายู่ยี่บนอ้อมอกที่พึ่งหยุดร้อง..ความรักลึกซึ้งพาดผ่าน
เขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกน้อย และปกป้องเธอให้จงได้!!
“คุณชินครับ คุณน้อง..เธอ” เสียงอ้ำๆ อึ้งๆ เต็มไปด้วยความไม่สบายใจปนเห็นใจกับชะตากรรมที่หญิงสาวหน้าสวยต้องประสบ เจ้านายหนุ่มยังคงนิ่ง เขาเองก็ไม่กล้าพูดช่วยด้วยรู้นิสัยชายหนุ่มดีว่าลองได้ตัดสินใจไปแล้วพูดอะไรไปเขาก็ไม่ฟัง
“ยังคงคำสั่งเดิมไหมครับ”
“อืม”
ขนิษฐาจ้องมองโทรศัพท์มือถือด้วยสายตาว่างเปล่า หลังจากโดนยื้อแย่ง ‘ลูกชาย’ สิ่งแรกที่หล่อนคิดถึงคือคนใน ‘ครอบครัว’ ทว่าโทรไปกลับไม่มีคนรับสาย หรือแม้แต่ตอบกลับข้อความสักคน ทั้งครอบครัว 'ในสายเลือด’ หรือ 'นอกสายเลือด’ ก็ตาม
พวกเขาคงไม่รู้กันว่าเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว...
คนตัวเล็กกล่อมตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าแท้จริงแล้วไม่มีใครสักคนที่สนใจ หรือรักเธอเลย
ใจดวงเล็กปวดหน่วงด้วยไม่เข้าใจความหมายของคำว่า 'ครอบครัว' นั้นคืออะไร
มนุษย์แม่หลังคลอดทำได้เพียงแต่เรียกรถสาธารณะเพื่อเดินทางกลับเอง
ราวๆ หนึ่งชั่วโมงรถแท็กซี่สีชมพูจึงมาจอดเทียบบริเวณบ้านเดี่ยวชานเมืองหลังใหญ่ หญิงสาวคล้องกระเป๋าผ้าขนาดกลางไว้ตรงแขน ก่อนจะชำระเงินค่าบริการกับคนขับรถ
ร่างเล็กเปิดประตูอัลลอยด์ด้านข้างเข้าไป นึกประหลาดใจกับรถยนต์ซูเปอร์คาร์สีชมพูที่มีเพียงไม่กี่คันในประเทศ อีกทั้งเลขทะเบียนยังคุ้นตาจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน
ธาริน?
น้องสาวนอกไส้ที่มีชะตากรรมเฮงซวยไม่ต่างจากเธอ
รอยยิ้มยินดีผุดขึ้น คิดอย่างโง่เขลาว่าในวันที่เลวร้ายก็ยังมีคนในครอบครัวอยู่เคียงข้าง เท้าเล็กจ้ำอ้าวเข้าไปด้านใน ทว่าเสียงคล้ายกับคนทะเลาะกัน พาให้เรียวขาที่กำลังก้าวเข้าห้องรับแขกชะงักลง เสียงคุ้นหูของชายหนุ่มใกล้หกสิบตะโกนด่าขึ้น
“อกตัญญู!!”
“เหอะ ทำไมรินต้องช่วยด้วยละคะ?” หญิงสาวรูปร่างบอบบางสวมใส่เสื้อหรูแบรนด์เนมไปทั้งตัว แปะยี่ห้อคำว่า ‘ไฮโซ’ หรา นั่งกอดอกกล่าวยิ้มเยาะ สีหน้าเหยียดหยิ่งช่างแตกต่างจากบุคลิกอ่อนหวานที่ขนิษฐารู้จักโดยสิ้นเชิง
ด้วยอะไรดลใจไม่อาจรู้ได้ หญิงสาวตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเริ่มอัดเสียงสนทนาทั้งหมดไว้
“ข้าเป็นพ่อเอ็งนะนังริน ถ้าไม่ใช่เพราะข้ากับแม่ของเอ็ง..เอ็งจะมีโอกาสได้เกิดไหม?”
“แล้วไงคะ? ยังไงคนที่เลี้ยงรินมาไม่ใช่คุณทั้งสองคนอยู่ดี” ธารินลอยหน้าลอยตาตอบ เมื่อเจอคำนี้ของลูกสาวไป ‘สาลี่’ มารดาแท้ๆ ถึงกับหัวร้อน
“แกจะพูดอย่างนี้ไม่ได้นะยัยริน”
“ทำไมรินจะพูดไม่ได้?”
“ที่แกได้ไปอยู่ในตระกูลวรรณศิลป์ก็เพราะฉันให้พี่สาวช่วยสลับตัวเด็ก” แม่ที่แท้จริงพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ทำไมลูกแท้ๆ ดันเห็นอีครอบครัวร่ำรวยสำคัญกว่าครอบครัวที่ให้กำเนิดนะ
“ฮึก...แกรู้ไหมฉันคิดถึงแกมากแค่ไหน เวลาที่ฉันเห็นแกจากที่ไกลๆ แต่เข้าไปบอกแกไม่ได้ว่าฉันคือแม่แท้ๆ ของแก ฉันพยายามทำทุกอย่างให้แกมีชีวิตที่ดี ฮึก..ทำไมแกไม่เข้าใจ!”
บทสนทนาส่งผลให้คนที่แอบฟังยืนช็อก ไหนว่าทั้งหมดมันคือ ‘อุบัติเหตุ’ ไง? หล่อนหูฝาดไปใช่ไหม?
“แล้วไงคะ? รินก็ให้เงินพวกคุณไปแล้วนี่”
เช้าวันต่อมานางจึงชักชวนเพื่อนอีกสองคนไปดักรอลูกสาวถึงหน้าตึกคณะมหาวิทยาลัยแทนที่จะไปรอหน้าหอเหมือนทุกครั้ง และไล่ถามนักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมาว่ารู้จักลูกสาวแกไหมขนิษฐาเองถึงแม้ไม่ร่วมกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความสวยน่ารักเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เพียงไม่นานนางสาลี่กับเพื่อนจึงหาตึกเรียนได้ไม่ยาก“นังลี่ๆ นั่นใช่ยัยน้องไหม?” ป้าข้างบ้านที่มาด้วยกันชี้ไปทางร่างอรชรที่สวมใส่ชุดนักศึกษายาวคลุมเข่า ผมสีแดงสลวยถูกรวบเป็นหางม้าขลับผิวที่ขาวอยู่แล้วให้โดดเด่นท่ามกลางผู้คน ด้านข้างมีนักศึกษาร่างอวบผู้เป็นเพื่อนสนิทเดินมาคู่กัน“ใช่ๆ ลูกฉันเอง” นางสาลี่พูดพลางยิ้มแป้นลากเพื่อนไปดักรอตรงหน้าโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าชั่วพริบตาดวงตายาวรีคู่สวยเผยประกายเย็นชาอาฆาต ก่อนจะเปลี่ยนเป็นใบหน้าอ่อนโยนใสซื่อ “แม่..มาได้ยังไงจ๊ะ” เสียงหวานพูดพร้อมกับกุมมือมารดาตัวปลอมราวกับรักใคร่เป็นนักหนา‘นังลูกโง่ก็ยังโง่อยู่วันยังค่ำ’คนเป็นแม่คิดปรามาสอยู่ในใจ แต่ภายนอกยังคงแสร้งทำตัวเป็นแม่ที่ห่วงใยลูกสาว“แม่ก็ห่วงน้องนะสิ น้องไม่รับสายโทรศัพท์แม่เลย แม่ไลน์มาก็ไม่อ่าน แล้วนี่น้องหายป่วยหรือยังลูก”“ก็ยังเจ็บ
ในเวลาไม่ถึงสองเดือนเงินกู้นอกระบบแค่หนึ่งวันก็หาหมุนจ่ายดอกเหนื่อยแล้ว ไหนจะหนี้พนันที่ทั้งลูกและผัวไปติดมา ไหนจะค่าใช้จ่ายเล่าเรียนของนุชจรี ส่วนลูกสาวคนกลางที่ปกติช่วยหาเงินส่งเสียให้ที่บ้าน เวลานี้กลับป่วยออดแอดๆ ไปทำงานบ้างไม่ไปทำงานบ้าง ไม่มีเงินส่งให้ครอบครัวเหมือนเก่าครอบครัวแสงคำมิ่งจึงแทบลุกเป็นไฟ“นังสาลี่ เอ็งเลิกเดินไปเดินมาได้แล้ว ข้ามึนหัว” ผัวนักพนันพ่นบุหรี่ไม่ทุกข์ร้อนราวกับไม่ใช่เรื่องของตน“พี่มานพ วันนี้พี่ไม่เห็นเหรอว่าร้านฉันโดนพังหมดแล้ว ฮึก..ไหนจะทองยัยนุช ไหนจะหนี้นอกระบบอีก เราจะเอาเงินไหนมาใช้หนี้”“เอ็งจะโอดครวญทำไม”“พี่!!”“ข้ามีวิธี”“วิธีอะไร?” นางสาลี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงกลุ้มใจ ทั้งลูกทั้งผัวต่างใช้งานใช้การไม่ได้สักคน วันๆ ก็เอาแต่สร้างปัญหา“เอ็งยังมีลูกอีกคน เอ็งลืมไปแล้วเหรอ?”“พี่มานพหมายถึง…” หญิงวัยห้าสิบคิดตามคำพูด หน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยเคร่งขึ้นดวงใจคนเป็นแม่ปวดหนึบเมื่อคิดถึงลูกสาวสุดที่รักธารินลูกที่หล่อนได้โอบอุ้มเพียงแค่ครั้งเดียวลูกที่หล่อนได้แต่แอบมองจากที่ไกลๆลูกที่หล่อนได้เห็นผ่านเพียงสื่อออนไลน์ลูกที่หล่อนได้รู้
ทว่าใบหน้าสวยหวานตรงหน้าที่มองกลับมากลับไม่สามารถซ่อนร่องรอยเจ็บปวดได้มิด ชินณธรทอดถอนหายใจ ก่อนจะย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“เรื่องแต่งงาน..ฉันพูดจริงๆ นะน้อง”“….”“เอาใหม่..ฉันต้องบอกว่า…คุณปู่ฉันต้องการให้ฉันแต่งงาน” อธิบายอย่างใจเย็น ดวงตาทอดมองจริงจัง ก่อนจะเสริมต่อว่า “เพื่อแลกกับสิทธิ์ผู้สืบทอดตระกูลอรุณเวยท์”เหตุผลน่าฟังของเขาส่งผลให้หัวคิ้วได้รูปของคนหน้าหวานขมวดเข้าหากัน ถ้าจำไม่ผิดในชาติที่แล้วหลังจากหล่อนกลายเป็นเด็กเลี้ยงได้ไม่นาน คุณปู่ของเขาก็เสีย สุดท้ายคนในตระกูลกับแย่งชิงมรดกอีนุงตุงนัง กว่าชินณธรได้สิทธิ์อันชอบธรรมก็ผ่านไปหลายปี แปลว่าชาติที่แล้วก่อนท่านเจ้าสัวเสีย..ท่านเคยตั้งเงื่อนไขแต่งงานเพื่อแลกกับตำแหน่ง ทว่าทำไมเขาถึงไม่ตกลงล่ะ?“แล้ว…”“ทำไมต้องมาเสนอเธอด้วย?” เขาต่อประโยคให้ ใบหน้าเล็กรีบพยักรับทำไมต้องเป็นเธอก็ในเมื่อรอบตัวเขามีผู้หญิงดีๆ ชาติตระกูลเพียบพร้อมเป็นสิบเป็นร้อยตระกูล? ทำไมต้องจำเพาะเจาะจงมาที่ผู้หญิงธรรมดาไร้สกุลรุนชาติแบบหล่อนด้วย?“อาจเพราะเรื่องบนเตียงเธอเก่งมั้ง” ไอ้คนตัวโตตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท ร่างเล็กแทบเต้นผ่าง ใบหน้าน
ดวงตายาวรีคู่สวยรีบหลุบลง ใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะแถเว่อร์วันนั้นหล่อนยังจำได้ว่าเราสบตากันอยู่เลย..เขาเห็นหล่อนแล้วแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็นแต่ทำไงได้ล่ะ หล่อนแพ้ทางผู้ชายหน้าตาแบบนี้..น้ำเสียงแบบนี้ และแพ้ความอ่อนโยนที่เขาแสร้งทำคนหน้าหวานลอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามเรียกคืนสติ ก็แค่คนหล่อไหม? ผู้ชายหล่อๆ บนโลกนี้ออกจะเยอะแยะ!!ในหัวเองก็พยายามคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เคยถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา ที่สำคัญคือคนตัวโตเคยใจร้ายแย่งลูกไป “ถ้าเธอไม่พูดอะไร ฉันจะถือว่าเราคืนดีกันแล้วนะ”“ใครดีกับคุณ เราเคยทะเลาะกันตอนไหนคะ?” ขนิษฐารีบปฏิเสธทันที ริมฝีปากสีแดงสวยเม้มแน่น“อ้าว…ก็พูดได้นี่”“คุณชิน!!!”“ทำไมตอนอยู่บนเตียงเธอออกจะนุ่มนวล..อ่อนหวาน แต่..ทำไมตอนนี้ขี้วีนจังล่ะ?” เสียงชายหนุ่มแหบพร่า ดวงตาคมกริบส่งสายตากรุ้มกริ่ม พาให้คิดถึงภาพบนเตียงสามวันสามคืนนั้น ขนิษฐาลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยเป็นไปได้ไหม..ช่วงสามคืนที่หล่อนขายตัว..เขาเกิดติดอกติดใจในรสกามที่หล่อนบำรุงบำเรอให้?ตอนนั้นหล่อนแค่ตามน้ำไหม? เขาให้ทำอะไรหล่อนก็ทำ หรือเขาคิดจะจับหล่อนไปเป็นเมียเก็บอีก?“ถ้า..คุณจะมาพูดเรื่องสัญญา..วันน
ไฮเปอร์คาร์แล่นไปยังทิศใต้ของเมือง ใจคนหน้าหวานกระตุกวูบ จวบจนรถเลี้ยวผ่านเข้าไปยังประตูอัลลอยสีดำ ตามกำแพงมีดอกกุหลาบหลากสีเลื้อยพาดผ่าน พาให้บรรยากาศดูมีเสน่ห์ และลึกลับไปในตัวที่นี่คือ ‘เซพเฮ้าส์’ หนึ่งในหลายร้อยหลัง..ด้วยรูปแบบธุรกิจที่ตระกูลอรุณเวทย์ทำ ส่งผลให้มีลูกค้าตั้งแต่สายการเมือง นักธุรกิจชื่อดัง ไปจนพวกเจ้าพ่อมาเฟียผู้อยู่นอกกฎหมายที่ต้องการความคุ้มครอง แถมบริษัทยังถือหุ้นใหญ่ในบริษัทผลิตอาวุธระดับโลกอีกด้วย แม้รายได้หลักจะมาจากธุรกิจพลังงานก็ตาม“คุณตั้งใจทำอะไรกันแน่คะคุณชิน ทำไมคุณต้องพาฉันมาที่นี่ด้วย” เสียงหวานย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ “ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”“แล้วทำไมไม่คุยที่อื่นละคะ ทำไมถึงต้อง…” ขนิษฐาเงียบไป จะบอกได้ยังไงล่ะว่าหล่อนเคยมาเซพเฮ้าส์แห่งนี้มาก่อน ระหว่างที่กำลังอึกอักๆ คิดหาคำแก้ตัว ไอ้ผู้ชายเผด็จการก็เดินลงจากรถ ก่อนจะอ้อมมาบังคับให้หล่อนลงด้วย “ลงมาสิ”แขกคนสวยเพ่งตามองแผ่นหลังกว้างด้วยสีหน้าไม่ดีนักบนโลกนี้ ‘เงิน’ สามารถชนะได้ทุกสิ่ง จะยกเว้นก็แต่ ‘อำนาจ’ ส่วนเขาผู้มีทั้งเงินและอำนาจ..หล่อนจะเอาอะไรไปสู้ร่างอรชรในชุดเดรสสีหวานทำได้เพียงจำใจก้า
หน้าตึกใหญ่ศูนย์รวมบริษัทรักษาความปลอดภัยและสำนักงานนักสืบเอกชนชื่อดังประจำเมืองร่างอรชรในชุดเดรสสีชมพูโอรส วงหน้ามีแว่นดำทรงเก๋ปิดบังสายตา ผมสีแดงดัดลอนสลวยถูกรวบเป็นหางม้า ตัดกับสีผิวขาวอมชมพูส่งผลให้โดดเด่นดึงดูดสายตาจากคนเดินผ่านไปผ่านมาไม่ยากขนิษฐาลอบถอนหายใจ ระยะเวลายี่สิบปีมันคงนานเกินไปที่จะสืบหาคนผิดเรื่องคดีสับเปลี่ยนเด็กอย่างงั้นใช่ไหม?หล่อนรู้ว่าพี่สาวนางสาลี่เป็นนางพยาบาลเอกชนชื่อดัง และในบรรดาลูกสามคน หล่อนเป็นคนเดียวที่ได้คลอดที่นี่เดาได้ไม่ยากว่าใครคือคนสลับตัวเด็กเพียงแต่..ความยากคือ ระยะเวลาที่ผ่านมานั้นนานมาก พวกกล้องวงจรปิดคงถูกลบไปหมดแล้ว ไหนจะป้าตัวก่อเรื่องก็เสียไปหลายปี'ไม่ใช่ผมไม่อยากสืบเรื่องนี้นะครับ แต่...''คุณจะเรียกเงินเท่าไร บอกได้นะคะ ฉันมีเงินค่ะ' หล่อนย้ำกับคุณนักสืบ ตอนนี้ปัญหาไม่ใช่เรื่องเงิน'ผมจะพยายาม เพียงแต่คุณขนิษฐาต้องเข้าใจนะครับว่าเรื่องนี้มันผ่านมานานแล้ว หลักฐานอะไรคงหายาก''ค่