Share

EPISODE 4 เรื่องของเรา

Author: RICHES.
last update Last Updated: 2024-12-10 16:26:05

สองเดือนต่อมา...

“ฉันว่ารถคันนั้นมันคุ้นๆ นะ แกว่ามั้ย?”

ทอฝันที่กำลังง่วนอยู่กับการพิมพ์งานวิจัยหน้าแล็ปท็อปในตอนแรกเงยหน้าขึ้นพร้อมกับใช้มือนวดหลังคอตัวเองเบาๆ เพื่อบรรเทาความเมื่อยล้าที่เกิดจากการจดจ่ออยู่กับงานเป็นเวลานาน

สายตาของเธอหันไปเห็นรถยุโรปสีดำเงาคันหรูซึ่งจอดชิดริมฟุตบาทอยู่ไม่ไกลจากใต้ตึกคณะบริหารธุรกิจที่พวกเธอกำลังนั่งอยู่พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกแปลกใจ

เจ้าของใบหน้าหวานที่กำลังจ้องหน้าจอแล็ปท็อปพร้อมกับจรดนิ้วเรียวลงบนแป้นพิมพ์อย่างตั้งใจในตอนแรกหยุดลง  ดารินเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองตามสิ่งที่ทอฝันพูด ครั้นพอเห็นรถคันนั้นเธอก็ครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วก็จำได้ว่าเป็นคันเดิมที่มักจะมาจอดอยู่บริเวณนั้นประจำและทุกครั้งที่พวกเธอนั่งตรงนี้ก็จะเห็นทุกครั้ง

“อืม ฉันก็เห็นรถคันนี้บ่อยเหมือนกัน”

“เขาแอบมามองใครรึเปล่าวะ” ทอฝันมองหน้าดารินอย่างจริงจังแล้วพึมพำด้วยความสงสัย ทว่าอยู่ดีๆ เธอก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้นหัวเราะ

“หรือว่าคนที่อยู่ในรถคันนั้นจะแอบชอบฉัน”

“แหม~ แกแอบไปโปรยเสน่ห์ใส่ใครมารึไง”ดารินพูดพร้อมกับย่นจมูกใส่เพื่อนด้วยความหมั่นไส้

“ฉันล้อเล่นน่า แกก็รู้ว่าฉันไม่ได้สนใจใครอยู่แล้ว แกเองรึเปล่าเถอะที่ไปหว่านเสน่ห์ใส่ใครเข้า”

ดารินส่ายหน้ารัวๆ ทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของเพื่อนสาว เพราะเธอไม่ได้คุยหรือคบหาดูใจกับใครเลยแม้แต่คนเดียว ทว่า จู่ๆ เรื่องราวของผู้ชายคนนั้นเมื่อสองเดือนก่อนก็ผุดขึ้นมาในความคิด ดารินพยายามสลัดความคิดที่เกิดขึ้นให้ออกไปเพราะเธอไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นเขา

เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นเธอกับเขาได้พูดคุยทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว และไม่มีเหตุผลอะไรที่หนุ่มหล่ออย่างเขาจะมาตามติดชีวิตเธอ 

“อย่าไปสนใจเลย เรารีบทำวิจัยให้เสร็จเถอะ จะได้กลับบ้านกัน”ดารินพูดด้วยน้ำเสียงสดใสเพื่อกลบความรู้สึกภายในใจตัวเองแล้วใช้สายตาจดจ่อไปยังหน้าจออีกครั้ง

“ก็ฉันสงสัยนี่นา”ทอฝันพึมพำเสียงแผ่วแล้วมองไปที่รถคันนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็ก้มลงพิมพ์งานในส่วนของตัวเองต่อ

คนที่บอกเพื่อนให้รีบทำงานกลับหันไปมองรถคันเดิมอีกครั้งก็เห็นว่ามันกำลังเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ กระทั่งหายไปจากบริเวณนั้นในที่สุด เธอจึงกลับมาให้ความสนใจกับงานตรงหน้าต่อ

อีกสามชั่วโมงต่อมา งานของทั้งสองก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ครั้งนี้จะเป็นการส่งวิจัยครั้งสุดท้าย หลังจากถูกแก้มาแล้วถึงสองรอบ และในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าก็จะมีการสอบปลายภาคเพื่อสิ้นสุดการศึกษาปีที่สามของพวกเธอ

 สองสาวในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอเหนือเข่า เดินไปส่งงานไว้บนโต๊ะอาจารย์เสร็จก็เดินออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังลานจอดรถที่มีรถมินิคูเปอร์สีฟ้าสดใสของทอฝันจอดเด่นอยู่ ก่อนสองสาวจะขึ้นรถ ทอฝันที่รู้สึกหิวเนื่องจากเป็นเวลาบ่ายสามแล้วหันไปพูดกับเพื่อนน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมทำตาปริบๆ 

“แก ไปกินชาบูกันมั้ย?”

“วันนี้ฉันต้องไปทำงานนะ พอดีพี่อีกคนเค้าขอลา เลยต้องไปแทน โทษทีนะแก”

“เหรอ ไม่เป็นไร ไว้วันหลังก็ได้ งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งแกที่ทำงานก่อนแล้วกัน”

"ขอบใจน๊า"

ทั้งสองขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่ทำงานของดารินซึ่งเป็นคาเฟ่เล็กๆที่อยู่ภายในซอย เธอทำงานที่นี่มาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง จนกระทั่งตอนนี้เธอกำลังจะจบปีสามในอีกไม่กี่วัน 

หญิงสาวจะมาทำงานสัปดาห์ละห้าวันสลับกับพนักงานอีกคน หรือแล้วแต่จะตกลงกัน เพื่อหาค่าขนมเล็กๆน้อยๆ  แต่ยิ่งพอถึงช่วงใกล้สอบ จำนวนวันที่ต้องทำก็น้อยลงเพื่อจะได้มีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้น เธอแค่อยากมีผลการเรียนดีอย่างสม่ำเสมอเพื่อหวังไว้ว่าเมื่อเรียนจบ จะได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่ๆ

หลังจากทอฝันมาส่งเธอเสร็จก็กลับไป ดารินจึงรีบเข้าไปในร้านเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

“แกดูรถคันนั้นสิ  สวยมากเลย”

“ฉันว่าคนขับต้องหล่อแน่นอน”

ลูกค้าโต๊ะหนึ่งภายในร้านที่กำลังนั่งพูดคุยกันเรียกความสนใจให้กับดารินไม่น้อย มือเล็กกำลังเลื่อนไปเปิดตู้จะเติมขนมชะงักพร้อมกับเงยหน้ามองตาม ก็เห็นว่าเป็นรถคันเดิมอีกแล้ว ยิ่งเธอเห็นรถคันนี้หลายๆครั้งก็เริ่มตงิดใจมากขึ้นและพยายามบอกให้ตัวเองระวังตัวเข้าไว้

กระทั่งถึงเวลาเลิกงานซึ่งเป็นเวลาเกือบสองทุ่ม หญิงสาวเดินออกมาจากร้านก็เห็นว่ารถคันเดิมยังคงจอดอยู่ จึงรีบจ้ำอ้าวเพื่อเดินออกไปหน้าปากซอยที่เป็นถนนใหญ่ ทว่าประตูจากฝั่งคนขับถูกเปิดออกมาพร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้จักและไม่คุ้นหน้า

ชายคนนั้นรีบเดินมาขวางเธอไว้พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“สวัสดีครับ คุณดารินใช่มั้ยครับ”

หนุ่มในชุดสูทสีดำ หน้าตาหล่อเหลามองหน้าหญิงสาวนิ่งอย่างรอคำตอบ แม้ว่าความเป็นจริงเขาจะรู้ข้อมูลทุกอย่างของเธอแล้วก็ตาม

“ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ” เธอมองหน้าผู้ชายคนนั้นด้วยความสงสัยแล้วหันไปมองบริเวณรอบๆ เพราะหากว่าเกิดอะไรขึ้นจะได้ขอความช่วยเหลือได้ แต่ดูเหมือนว่าร้านอาหารแถวนั้นจะปิดหมดแล้ว

“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมไม่ได้จะทำอะไร พอดีเจ้านายของผมต้องการเจอคุณนะครับ”อคินเห็นท่าทางของเธอก็บอกจุดประสงค์ที่เขามาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้และต้องคอยตามติดชีวิตเธออยู่เกือบสองเดือนเต็ม

 เขารู้เรื่องราวทุกอย่างของเจ้านายกับผู้หญิงคนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสองเดือนก่อนและไม่แปลกใจเลยที่เจ้านายของเขาจะให้มาคอยตามดูเธอ และจากการที่เขาตามเธอมานานก็เห็นว่าหญิงสาวเป็นคนที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรแถมยังสดใสและน่ารักอีกด้วย

“คะ?”เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

“คุณภาคินัยต้องการเจอคุณครับ”เขาบอกเธออีกครั้ง

หญิงสาวได้ยินชื่อนั้นก็ถึงกับหน้าถอดสี เพราะเธอจำได้ดีว่าชายหนุ่มที่ชื่อภาคินัยคือใคร แต่เธอกับเขาก็ตกลงกันรู้เรื่องแล้วตั้งแต่วันนั้น มีอะไรที่จะต้องคุยกันอีก เธอยืนคิดแล้วบอกปฏิเสธชายหนุ่มตรงหน้า

“แต่ฉันไม่ต้องการเจอเขาค่ะ ขอโทษนะคะ”

หญิงสาวพูดจบก็รีบเดินไปจากตรงนั้นเพื่อไปขึ้นรถโดยสารหน้าปากซอย ทว่าชายหนุ่มกลับเดินมาขวางเธอไว้อีกครั้ง จนหญิงสาวต้องเม้มปากเข้าหากันแล้วเงยหน้ามองเขา

“หลีกไปเถอะค่ะ”

“ไปกับผมเถอะนะครับ คุณภามต้องการเจอคุณจริงๆ”

ดารินไม่สนใจคำพูดของเขาแล้วพยายามเดินต่อไป แต่เหมือนฟ้าฝนจะกลั่นแกล้งเพราะแค่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเม็ดฝนเม็ดเล็กก็โปรยลงมาจากบนฟ้า และบริเวณนั้นก็ไม่มีที่ให้หลบเสียด้วย

เนื่องจากคาเฟ่ที่เธอพึ่งออกมา เจ้าของร้านได้ทำการปิดและกลับบ้านไปแล้ว หญิงสาวจึงรีบเดินต่อเพราะคิดว่าอาจจะถึงหน้าปากซอยก่อนที่ฝนจะตกลงมามากกว่านี้ แต่มันกลับกระหน่ำลงมาเรื่อยๆ จนเสื้อนักศึกษาที่สวมอยู่เริ่มเปียก

“ขึ้นรถเถอะครับ ตกหนักแน่ๆ”

หญิงสาวหันไปมองหน้าเขาสลับกับสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องก็ตัดสินใจขึ้นรถพร้อมกับถามอคินอีกเล็กน้อย จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไป

ไม่นานรถก็มาจอดบริเวณลานจอดโดยมีอคินเดินนำไปบนเพนต์เฮาส์หลังใหญ่ที่ดูเรียบหรู เธอหันมองระหว่างทางเดินด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

กระทั่งลิฟต์เปิดออกก็เห็นบริเวณห้องโถงกว้างตรงหน้าเป็นลำดับแรกและสิ่งต่อมาที่เธอเห็นคือชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนสีเข้มสบายๆหันมามองเธอด้วยสีหน้าราบเรียบ

หญิงสาวเดินไปหยุดยืนตรงหน้าเขาแล้วถามออกมาอย่างไม่เต็มเสียงนักเพราะเธอไม่ได้เจอเขาเลยตั้งแต่วันนั้น

“คุณมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ”เธอมองหน้าเขาแค่แวบเดียวแล้วเสมองไปทางอื่น

“นั่งลงสิ”

“ขอบคุณค่ะ”เธอนั่งลงตามที่เขาว่าพร้อมกับใช้มือลูบสัมผัสผิวไปมา เนื่องจากอากาศในนี้ค่อนข้างหนาวและเสื้อเธอก็เปียกไปมากเหมือนกัน

“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง”จู่ๆ เขาก็ถามในสิ่งที่ทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจ 

“เอ่อ ก็สบายดีค่ะ”ในเมื่อเขาให้เลขาตามติดเธอขนาดนั้น ยังจะต้องถามอีก หญิงสาวคิดในใจ

“…” ชายหนุ่มหันไปมองหน้าเลขาของตัวเองแล้วส่งสัญญาณว่าให้ออกไปก่อน จากนั้นก็หันกลับมาพูดกับหญิงสาวตรงหน้าต่อ

“ผมแค่อยากเจอคุณ”

“เจอทำไมคะ”ดารินเลิกคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

ชายหนุ่มมองมือเล็กที่ลูบสัมผัสผิวตัวเองอยู่บ่อยครั้งแล้วไล่สายตาไปยังเสื้อนักศึกษาที่เปียกจนแนบผิวซึ่งเห็นบราสีดำด้านในก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จนเธอต้องมองตามว่าเขาจะทำอะไร

“เดี๋ยวพาไปเปลี่ยนชุด ตัวซีดหมดแล้วนั่น”

“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ”

ภาคินัยไม่ฟังคำปฏิเสธ เขาถือวิสาสะจับมือเธอให้ลุกขึ้น หญิงสาวรีบดึงมือตัวเองกลับราวกับโดนของร้อน ทว่าเมื่อเห็นสายตาคมกริบที่มีแววจริงจังมองอยู่ เธอจึงลุกขึ้นแล้วเดินตามไปอย่างว่าง่าย ตอนนี้ขนกายของเธอลุกซู่ ไม่รู้ว่าหนาวจากหยาดน้ำฝน หรือรังสีความดุที่แผ่ซ่านมาจากคนตัวสูงกันแน่

ชายหนุ่มพาเธอเดินเข้าไปยังห้องนอนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยสีขาวสลับทองดูสบายตาแล้วพาไปยังห้องแต่งตัวที่อยู่ด้านใน เขาใช้มือเลื่อนประตูตู้เสื้อผ้าออก จนเห็นเสื้อผ้าผู้หญิงมากมายซึ่งมีหลากหลายแบบและหลากสีดูละลานตา

“อยากใส่ตัวไหนก็เลือกเอา”

หญิงสาวมองหน้าเขาสลับกับเสื้อผ้าพวกนั้นด้วยความสงสัย หากมีเสื้อผ้าผู้หญิงมากมายขนาดนี้ อาจจะหมายถึงเขามีคนรักแล้วอย่างนั้นหรือ ดารินยืนนิ่งพร้อมกับครุ่นคิด

ภาคินัยเห็นเธอนิ่งไปก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังเป็นพิเศษ

“เสร็จแล้วก็รีบออกมา จะได้คุยกันถึงเรื่องของเรา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Narumol klumjan
เนื่้อเรื่องดีมาก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คลั่ง(รัก)เมียเด็ก   Special 3 ภารกิจสำเร็จ!

    หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างคนดีใจกับสิ่งที่พึ่งรับรู้มา มือเล็กกำแท่งพลาสติกไว้แน่นเพื่อจะเอาไปให้ผู้เป็นสามีดูและคิดว่าเขาต้องดีใจมากอย่างแน่นอน แต่ครั้นเดินไปหาบริเวณเตียงนอนที่เขาเล่นอยู่กับลูกสาวในตอนแรกก็พบเพียงความว่างเปล่า“อยู่ไหนกันนะ”ดารินพึมพำแผ่วเบาแล้วเดินไปในห้องของลูกสาวตัวน้อยก็ไม่เจอใคร จึงคิดว่าห้องสุดท้ายที่ทั้งสองน่าจะอยู่ก็คงหนีไม่พ้นห้องนั่งเล่นภาคินัยนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกซึ่งมีลูกสาวตัวน้อยนอนซบอยู่บนหน้าอกแกร่งดูเหมือนว่ากำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาไม่นาน ทำให้ชายหนุ่มที่เห็นคนตัวเล็กกำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่างรีบยกมือขึ้นห้ามเพราะเห็นว่าลูกสาวสุดที่รักกำลังจะหลับ“ชู่ว”หญิงสาวถึงกับส่ายหน้าให้ท่าทางของเขาอย่างไม่จริงจังนัก เธอจึงเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ แล้วก้มไปหอมแก้มลูกสาวเบาๆ ก่อนสามีหนุ่มจะทำแก้มป่องเป็นเชิงว่าตัวเองจะขอแบบนั้นด้วย หญิงสาวจึงก้มลงแล้วไม่ลืมที่จะให้เขาหอมแก้มเธอด้วย“ฉันมีข่าวดีจะบอกค่ะ”เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น“ครับ ว่า?”“ลูกมาแล้วค่ะ”“อืม ฮะ!” คนที่บอกให้เธอลดเสียงในตอนแรกถึงกับอุทา

  • คลั่ง(รัก)เมียเด็ก   Special 2 เลือกน้ำหอมให้เมีย

    ร่างเล็กบนเตียงกว้างมีอาการสะลึมสะลือเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงรบกวนเข้าสู่โสตประสาท เนื่องจากเธอพึ่งจะได้นอนหลับไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเพราะโดนสามีหนุ่มคอยรังแกเกือบทั้งคืน ดวงตากลมโตค่อยๆ เปิดขึ้นทีละน้อยครั้นได้ยินเสียงสองของคนข้างกายที่มักจะใช้พูดคุยหยอกล้อกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขาซึ่งดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะกำลังหัวเราะและส่งเสียงอ้อแอ้ออกมาอย่างชอบใจตามประสาเด็ก เสียงนี้เองที่ทำให้ร่างเล็กบนเตียงรีบลืมตาขึ้นมาก่อนจะมองไปยังนาฬิกาบนผนังก็เห็นว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้า และที่ประเทศไทยก็คงจะบ่ายโมงพอดีใบหน้าหวานมองชายหนุ่มที่นอนหันหลังให้เธอแล้วชะโงกไปยังจอสมาร์ทโฟนในมือเขาก็เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกสาวที่มีคุณแม่สามีเป็นคนถือกล้องให้ เด็กตัวน้อยกำลังมองมาที่ผู้เป็นพ่อตาแป๋วแล้วหัวเราะคิกด้วยความสดใสภาคินัยรับรู้ได้ว่าภรรยาสุดที่รักของเขาตื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็รีบนอนหงายเพื่อให้หญิงสาวเข้ามาร่วมจอด้วยกัน ก่อนจะทักทายแก้วตาดวงใจ“ไออุ่นจ๋า” เสียงหวานเรียกลูกสาวตัวน้อยเบาๆ พร้อมส่งยิ้มให้ด้วยความคิดถึง“เอิ๊กๆ” หนูน้อยไออุ่นวัยเก้าเดือนผู้มีใบหน้าจิ้มลิ้มและตัวจ้ำม่ำน่ากอดมองใบหน้าผู้ให้กำ

  • คลั่ง(รัก)เมียเด็ก   Special 1 ภารกิจผลิตทายาท

    ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ของโรงแรมสุดหรูสามารถมองเห็นหอคอยเหล็กกล้าตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงปารีสซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของที่นี่ได้อย่างเต็มตา ช่วงฤดูหนาวของเดือนแห่งความรักอย่างกุมภาพันธ์จึงมักจะเต็มไปด้วยคู่รักและบรรดาครอบครัวที่พากันมาเยือนเมืองสุดแสนจะโรแมนติกแห่งนี้กันอย่างล้นหลามอุณหภูมิสองถึงห้าองศาด้านนอกเต็มไปด้วยม่านหมอกและหิมะขาวโพลนตกลงมาปกคลุมยอดหอไอเฟลขนาดใหญ่ทำให้ในยามค่ำคืนการนั่งจิบไวน์และมองดูวิวเป็นอะไรที่สวยงามไปอีกแบบ“สวย”“สวยมาก”“สวยเหลือเกิน”เสียงทุ้มเอ่ยชมไม่ขาดปากราวกับว่าถูกใจสิ่งที่กำลังมองอย่างสุดหัวใจ“ผมไม่คิดว่าปารีสตอนกลางคืนมันจะดีขนาดนี้มาก่อน”สภาพอากาศด้านนอกที่แค่มองก็รับรู้ได้ถึงความเย็นยะเยือกนั้นไม่มีผลต่อคู่สามีภรรยาที่อยู่ภายในห้องนอนสุดแสนจะอบอุ่น มันอบอุ่นจนค่อนไปทางร้อนเสียมากกว่า หากดูจากหยาดเหงื่อไหลย้อยที่เคลือบผิวกายของร่างเปลือยเปล่าทั้งสอง“ที่รักชอบมันหรือเปล่า”“อึก อื้อ!”ริมฝีปากเล็กกัดเข้าหากันจนห้อเลือดเพื่อสะกดกลั้นเสียงไม่ให้ดังจนเกินไปและเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายด้วยเช่นกันครั้นภาคินัยเห็นว่าคำถามของตนไร้เสียงตอบรับใ

  • คลั่ง(รัก)เมียเด็ก   EPISODE 49 ภาพความทรงจำ

    พิธีวิวาห์ของคู่รักต่างวัยถูกจัดขึ้นที่บ้านทางภาคเหนือของครอบครัวชายหนุ่ม โดยหญิงสาวเป็นคนเลือกสถานที่แห่งนี้เพราะรู้สึกตกหลุมรักธรรมชาติตั้งแต่ครั้งก่อนที่ได้มาสัมผัส ซึ่งทุกคนก็ต่างเห็นด้วยกับการใช้สถานที่แห่งนี้จัดงานครั้งอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงานอย่างใหญ่โตของนายภักดีกับคุณหญิงมัทนาและไม่คิดว่าอีกสามสิบปีต่อมาจะได้ใช้จัดงานมงคลอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายอย่างครั้งก่อน แต่บรรยากาศภายในงานล้วนอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความรัก จากบรรดาแขกเหรื่อทางฝ่ายเจ้าบ่าวที่มักจะเป็นคนสนิทสนมกันเสียส่วนใหญ่แม้ว่าแขกทางฝ่ายเจ้าสาวจะมีแค่ทอฝันกับสายหมอก แต่เธอกลับรับรู้ได้ถึงความจริงใจและความเอ็นดูจากบุคคลแปลกหน้าที่มาร่วมแสดงความยินดี ส่วนน้าสาวเพียงคนเดียวของเธอเผอิญติดธุระอยู่ต่างประเทศและไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่ถึงอย่างนั้นดารินก็เข้าใจเพราะงานที่จัดขึ้นดูจะสายฟ้าแลบไปหน่อยก่อนหน้านี้พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานและเตรียมตัวเองแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงที่หญิงสาวสอบเสร็จพอดี และสุขภาพของเธอก็พร้อมสำหรับงานวิวาห์ที่จะเกิดขึ้นแต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยคือดาริน

  • คลั่ง(รัก)เมียเด็ก   EPISODE 48 นะโม

    ลัลล้า~ดวงตาคู่คมเหลือบมองคนตัวเล็กข้างกายที่ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษด้วยรอยยิ้มจาง หลังได้ออกจากโรงพยาบาลที่เธอต้องไปใช้ชีวิตอยู่นานกว่าสองสัปดาห์ ส่วนเขาเองก็ต้องนอนให้น้ำเกลือเพื่อดูอาการไปอีกหนึ่งคืนเลขาคนสนิทอย่างอคินเป็นคนทำหน้าที่ไปรับทั้งสองกลับมายังเพนต์เฮาส์ในช่วงเย็นของวันนี้ ถึงแม้ภาคินัยจะอาการยังไม่ค่อยปกติมากนัก แต่คนดื้อและเอาแต่ใจอย่างเขาก็รบเร้าคุณหมอเพื่อที่จะกลับบ้านให้ได้และผลก็อย่างที่เห็น เพราะชายหนุ่มมายืนอยู่ภายในลิฟต์ส่วนตัวของเพนต์เฮาส์เป็นที่เรียบร้อยแล้วติ้ง ปัง ปิ้ว~เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกทำให้ทั้งสองถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย จากเสียงพลุของเล่นที่ดังขึ้นพร้อมเศษกระดาษตกลงสู่พื้นประปราย สายตาสองคู่มองไปยังฝีมือของคนตรงหน้าก็เห็นว่าเป็นภรัณยูกับทอฝันกำลังยืนต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้ม "คิดถึงแกจังเลย"ดารินเอ่ยออกมาเป็นคนแรกด้วยน้ำเสียงดีใจเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทมองมาที่เธอ"แหม พึ่งเจอกันเมื่อสองวันที่แล้วเองย่ะ"ทอฝันเบะปากใส่เพื่อนสาวอย่างไม่จริงจังนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ดีใจมากที่เพื่อนได้ออกจากโรงพยาบาลเสียทีนายภักดีและคุณหญิงมัทนายืนมองลูกชายคนโตกับว่าที่สะใภ

  • คลั่ง(รัก)เมียเด็ก   EPISODE 47 ลูกเล่นงานพ่อ

    คนตัวเล็กฟังประโยคเหล่านั้นที่ถูกเปล่งออกมาจากปากของเขาก็ได้แต่ยืนนิ่งเพราะความรู้สึกหลากหลายที่ก่อเกิดขึ้นภายในใจ ส่วนคนที่อยู่ในท่าคุกเข่าเห็นว่าอีกฝ่ายกลับแน่นิ่งไปและไม่ยอมตอบตกลง จึงเปล่งเสียงถามออกมาใหม่อีกครั้งพร้อมส่งสายตามองเธอเป็นเชิงว่าห้ามปฏิเสธ“แต่งงานกันนะครับ...”ดารินทำได้แค่พยักหน้าเร็วๆเพื่อเป็นการตอบรับพร้อมกับริมฝีปากเล็กที่ค่อยๆเบะทีละน้อย อีกทั้งดวงตากลมโตที่มีแค่น้ำใสๆรื้นขึ้นบริเวณขอบตาในตอนแรก บัดนี้มันไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างของเธออย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป จนอีกฝ่ายรู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเธอปล่อยโฮออกมา แล้วรีบสวมแหวนให้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน“ฮึก ฮือ~”“ที่ร้องไห้นี่คือดีใจใช่มั้ย?”เขาแสร้งหยอกอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู แต่เธอกลับบ่นกระปอดกระแปดพร้อมใช้กำปั้นเล็กๆทุบลงบนอกของเขาไปสองที“คนบ้า! ทำไมไม่บอกกันก่อนเล่าว่าจะขอแต่งงาน ฉันจะได้แต่งตัวสวยๆ”“เอ๊ะ! ที่ร้องไห้นี่...เพราะไม่ได้แต่งตัวสวยๆอย่างนั้นเหรอ แต่เดี๋ยวนะ ถ้าบอกก่อนแล้วจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์เหรอ? แต่ก็เอาน่าเมียผมสวยตลอดอยู่แล้ว ขนาดร้องไห้ยังสวยเลย”คนปากหวานเอ่ยชมเธอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status