บทที่ 6 ความสุขรอคุณอยู่แค่คลิก
พรึบ!
กระเป๋าเสื้อผ้า ถุงใส่ของอีกหลายถุงถูกวางลงบนพื้นกลางห้องโถง ขุนเขายกมือปาดเหงื่อออกจากกรอบหน้าแต่จู่ ๆ ก็มีผ้าสะอาดเย็นเฉียบมาทาบที่แก้มเขาทำเอาสะดุ้งโหยงเลยล่ะ ก่อนจะปัดมือเพียงเธอออก
"ทำอะไร"
"เพียงเห็นพี่มาเหนื่อย ๆ เลยเอาผ้าเย็นมาซับหน้าให้ค่ะ" เธอยิ้มให้น้อย ๆ ก่อนจะยัดผ้าเย็นใส่มือขุนเขาทั้งที่เขากำลังจะยื่นหน้าให้เธอเช็ดเหงื่อให้ 'เก้อเลยกู..' เขาหยิบผ้ามาซับเหงื่อเองแล้วก้มมองเด็กสาวที่กำลังตรวจเช็กของ
"ลืมสายชาร์จโน้ตบุ๊กค่ะ เพียงลืมชาร์จไว้ด้วย.." เธอย่นหัวคิ้วเข้าหากันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับขุนเขาที่ยืนมองเธออยู่
"นั่นมันเรื่องของเธอ ไม่รอบครอบเอง" เขาปลีกตัวเดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดไอแพดทำงานต่อ เพราะคิดว่าเย็น ๆ จะพาเพียงเธอไปดูห้องก่อนเข้าร้าน ขุนเขามองโน้ตบุ๊กที่ไม่ได้เปิดใช้งานจึงเอ่ยเรียกเพียงเธอ "เพียง" คงเป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อเธอ
"คะ?" เพียงเธอหันขวับไปมองเจ้าของเสียงทันที
"ฉันให้ยืมใช้ก่อน" เพียงเธอยิ้มให้เขา แววตาเธอเป็นประกายแวววาวจนขุนเขาต้องเบือนหน้าไปมองทางอื่นในตอนที่เธอเดินเข้ามาเอาโน้ตบุ๊ก แล้วทำงานต่อ
เพียงเธอนั่งทำงานส่งอาจารย์จนถึงหกโมงเย็น ขุนเขาปิดไอแพดแล้วเดินมาหาเธอ
"ออกไปดูห้องกัน" เขาเอ่ยชวนเธอพลางเดินไปเอากระเป๋าสะพาย เพียงเธอตอบรับเสียงหวานแล้วรีบเคลียร์งานที่ทำค้างไว้ก่อนจะรีบวิ่งตามหลังขุนเขาไป
"อยากได้ห้องแบบไหน เป็นอพาร์ตเมนต์หรือห้องเดี่ยว" ขุนเขาหันมาถามคนที่นั่งเงียบตั้งแต่ขึ้นรถมา เพียงเธอทำหน้าเหลอหลาเมื่อถูกถามเพราะเมื่อกี้เธอเผลอใจลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
"อยากได้..เอาเป็นอพาร์ตเมนต์ก็ได้ค่ะ"
"อืม" ขุนเขารับคำแล้วพาเธอขับรถวนหาอพาร์ตเมนต์และเขาก็ช่วยดูความเรียบร้อยทั้งภายนอกและภายในที่พัก แต่ก็ไม่มีที่ไหนถูกใจเลยเพราะความปลอดภัยไม่ได้เรื่อง
"แต่ตอนนี้เพียงไม่ค่อยมีเงินนะคะ คือตอนนี้ต้องจ่ายค่าเทอมด้วย..ขอเพียงเก็บเงินอีกสักนิดได้ไหม ถ้าเงินพอแล้วจะรีบย้ายออกจากห้องพี่ขุนเลยค่ะ หรือให้พี่ขุนคิดเงินได้เลย เป็นรายเดือนก็ได้" ขุนเขาพ่นลมหายใจออกยาว ๆ รู้สึกรำคาญกับเสียงเจื้อยแจ้วของเพียงเธอ
"พูดมาก"
"เอ่อ.." เธอเม้มปากแน่นแล้วนั่งนิ่งจนกระทั่งรถยนต์หรูเลี้ยวมาจอดเทียบฟุตพาทหน้าร้านขายข้าวมันไก่ เธอจำได้ว่าเคยมากินครั้งหนึ่งและมันอร่อยมาก ในขณะที่เพียงเธอกำลังคิดอยู่ขุนเขาที่ลงจากรถก่อนแล้วก็เดินเข้าไปนั่งในร้านแล้วจ้องเพียงเธอเขม็ง
"นั่งรอให้ประธานมาตัดริบบิ้นเชิญลงจากรถเหรอ" เขาส่ายหน้าเบา ๆ อย่างระอาใจแล้วสั่งไก่สับกับเครื่องในไปหนึ่งจานใหญ่และข้าวอีกสองจาน เพียงเธอนั่งตัวลีบไปกับเก้าอี้ตั้งแต่ขุนเขาประชดประชันเมื่อกี้แล้ว ไม่นานของที่สั่งก็มาเสิร์ฟ "คราวนี้ต้องบอกให้กินไหมถึงจะยอมกิน?"
"กินแล้ว.." เธอยู่ปากเข้าหากันเล็กน้อยแล้วตักข้าวใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ จนแก้มทั้งสองข้างป่องขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวอย่างเดียวจนอิ่ม เพียงเธอที่เห็นเขากินอิ่มแล้วก็รีบกินจนข้าวหมดเหมือนกัน
"ปาก" ขุนเขาแตะปลายนิ้วลงที่ริมฝีปากตัวเองเป็นการบอกเพียงเธอว่าข้าวติดปากแต่เธอกลับเลิกคิ้วถามเขากลับซะ "ไปส่องกระจกก่อนไหม" เขาวางเงินค่าข้าวไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปหยิบน้ำดื่มมาสองขวด
"ขอบคุณค่ะ" ในตอนที่ขุนเขายืนขวดน้ำให้เพียงเธอแล้วกำลังจะเดินผ่านไปเขาก็เหลือบเห็นเม็ดข้าวติดผมเธออีก
"กินข้าวยังไงให้ข้าวติดผมวะ" เขายกมือขึ้นมาหยิบเม็ดขาวออกให้แล้ววางลงบนฝ่ามือเพียงเธอ แล้วเดินไปขึ้นรถก่อน
"ดุจัง.." เด็กสาวพึมพำเสียงเบาก่อนจะรีบตามไปขึ้นรถ
19:00
ขุนเขาพาเพียงเธอหาห้องพักจนถึงหนึ่งทุ่มตรง และได้พาเธอมาที่ร้านสักด้วยเพราะมีนัดสักลูกค้าผู้หญิงสองคน
"นี่ร้านพี่ขุนเหรอคะ"
"อืม นั่งรอไปก่อน" ขุนเขาวางกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะแล้วเดินหายเข้าไปในห้องทำงานในขณะที่เพียงเธอยืนทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่ข้างโซฟา
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เด็กสาวนั่งนิ่งกะพริบตาปริบ ๆ รอขุนเขาอยู่บนโซฟาขณะที่เขาทำงานให้ลูกค้าอยู่ในห้อง เพียงเธอกวาดตามองไปรอบ ๆ จนเห็นแฟ้มสีดำหนึ่งเล่มที่วางอยู่ในชั้นเลยหยิบมาเปิดดู
"ว้าว…มีแต่ลายสวย ๆ ทั้งนั้นเลย" แฟ้มที่ขุนเขาเก็บภาพรอยสักของลูกค้าที่มาสักกับเขาไว้และเอาไว้เป็นแบบหากลูกค้าใหม่ที่ยังไม่มีรอยสักที่ต้องการได้ดูแบบ เพียงเธอเปิดดูไปเรื่อย ๆ ด้วยความเพลินจนกระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นลูกค้าที่นัดกับขุนเขาไว้เดินเข้ามาในร้าน
"สวัสดีค่ะ ลูกค้าที่นัดมาสักลายไหมคะ" เพียงเธอรับหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับ
"ใช่ค่ะ นัดช่างไว้แล้ว"
"อ๋อ งั้นคุณลูกค้านั่งรอก่อนนะคะ พอดีช่างติดลูกค้าอีกคนอยู่น่ะค่ะ สักใกล้จะเสร็จแล้วด้วย"
"ได้ค่ะ" เมื่อลูกค้าตอบมาแบบนั้นแล้วเพียงเธอจึงถือวิสาสะเดินไปเปิดตู้เย็นและเอาน้ำมาเสิร์ฟ
"รอสักครู่ก่อนนะคะ ไม่ทราบว่าลูกค้ามีรอยสักที่อยากได้แล้วหรือยังคะ" เพียงเธอถามด้วยรอยยิ้ม เมื่อลูกค้าส่ายหน้าเธอจึงหยิบแฟ้มที่ตัวเองเพิ่งดูเสร็จเมื่อครู่ให้ลูกค้าเลือกแบบ "สามารถดูแบบได้เลยนะคะ ถ้าสนใจรูปไหนบอกช่างสักได้เลยค่ะ" ด้วยเพราะทำงานบริการอยู่แล้วเรื่องพวกนี้เธอจึงถนัด ดูเหมือนลูกค้าจะชอบใจการบริการของเพียงเธอเข้าแล้วสิ ก็เธอคุยถูกคอแถมยังแนะนำได้ดีเลยทีเดียว
"ทำอะไร?" ขุนเขาที่เพิ่งทำงานเสร็จเดินออกมาเห็นเพียงเธอกำลังคุยกับลูกค้าอยู่จึงถามออกไปเสียงเรียบ
"พอดีเพียงแนะนำรอยสักให้ลูกค้าค่ะ"
"อ๋อ..ถ้าไม่อยากได้แบบในแฟ้มนั้นให้ผมออกแบบให้ก็ได้ แต่จะใช้เวลาหนึ่งวันกับการออกแบบและมีค่าใช้จ่ายอีกนิดหน่อยครับ"
"เอ่อ..งั้นให้ช่างออกแบบให้ดีกว่า อยากได้ลายที่ไม่เหมือนใครค่ะ"
"ครับ งั้นผมนัดวันให้ใหม่นะครับ"
"ได้ค่ะ"
"เดี๋ยวจะแจ้งในไลน์นะครับ ขอบคุณมากที่สนใจมาสักกับผม" ชายหนุ่มเดินไปส่งลูกค้าที่หน้าร้าน เมื่อลูกค้ากลับไปแล้วเขาจึงเดินกลับเข้ามาในร้านและมองเพียงเธอด้วยหางตา "จุ้นจ้าน" ชายหนุ่มพึมพำเสียงเบาแล้วเก็บของทำความสะอาดสะอาดร้านโดยมีเพียงเธอช่วยจนเสร็จในเวลาสองทุ่มยี่สิบพอดี จากนั้นขุนเขากับเพียงเธอก็กลับห้องพร้อมกัน
"ขอบคุณ" เพียงเธอชะงักเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ ขุนเขาก็กล่าวคำว่าขอบคุณต่อหน้า "ไม่ต้องทำหน้างงหรอก ฉันได้ยินทุกคำที่เธอพูดกับลูกค้า"
"อ่า..อ๋อ..ค่ะ คือเพียงอยากช่วยจริง ๆ ค่ะไม่ต้องขอบคุณอะไรก็ได้"
"อืม ไปอาบน้ำ" ว่าจบขุนเขาก็เดินเข้าไปในห้องนอนตัวเอง เพียงเธอก็ไปอาบน้ำชำระร่างกายและสวมใส่ชุดนอนลายการ์ตูนน่ารัก
"อุ๊ย..ลืมส่งงานให้เพื่อน" เธอเดินไปเคาะประตูห้องขุนเขาครู่หนึ่งเขาก็เปิดประตูออกมาเลิกคิ้วถาม "คือเพียงลืมส่งงานให้เพื่อนค่ะ ยืมโน้ตบุ๊กก่อนได้ไหมคะ ตอนจะออกไปลืมเอาไฟล์งานออกมา"
"อยู่บนโต๊ะ ที่เดิม"
"ขอบคุณค่ะ" ขุนเขาไม่ได้ปิดประตูห้องแล้วเดินกลับไปทำงานของตนต่อ ในขณะที่เพียงเธอเปิดโน้ตบุ๊กและหาไฟล์งานที่ตนเองโหลดมาไว้ "ความสุขรอคุณอยู่แค่คลิก?" เพียงเธออ่านชื่อไฟล์ด้วยความสงสัย แต่ความอยากรู้มันก็มีมากกว่าเลยกดเข้าไปดู แต่จู่ ๆ หน้าจอก็ดับไปแล้วแสดงวีดีโอบางอย่าง
'ตั๊บ ๆ ๆ อ๊ะ..อ๊า~'
"ว้าย!" เธอหลับแน่นและทำอะไรไม่ถูก เผอิญว่าโน้ตบุ๊กก็เปิดเสียงไว้สุดเสียงเพราะขุนชอบเปิดเพลงฟัง ทั้งเสียงครางเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วห้องเลยตอนนี้
"เหี้ย!"
ตอนพิเศษ 5เช้าวันต่อมาเพียงเธอนอนกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ใต้ผ้าห่มขณะที่ขุนเขานอนกอดเธอแนบแน่นแถมยังเอาหน้ามาซบหน้าอกเธออีก เมื่อคืนเขาทั้งดุและกินจุจนเธอเพลียหลับไปตอนไหนไม่รู้ นี่ก็สายมากแล้วด้วย แม่บ้านคงกำลังถามหากันวุ่นว่าทำไมเราสองคนไม่ลงไปกินข้าวเช้าสักที"อื้อ~ ทำไมตื่นเร็วจัง เมื่อคืนไม่เหนื่อยเหรอ" ขุนเขางัวเงียถามแฟนสาวที่นอนนิ่งอยู่ เขารู้สึกตัวตั้งแต่เธอขยับตัวครั้งแรกแต่รู้สึกล้าเลยไม่ตื่นขึ้นมา เพียงเธอยิ้มบาง ๆ แล้วเท้าแขนไปด้านหลังดันตัวลุกขึ้นมานั่งทำเขาต้องลุกขึ้นตามเธอด้วย"วันนี้เราไปหาแม่อรอีกไหมคะ เมื่อคืนนี้แม่อรทักมาหาบอกคิดถึงเราสองคน" เธอชวนคนรักที่นั่งทำหน้าง่วงอยู่ ขุนเขาไม่ได้ขัดใจเธอและพยักหน้าหงึก ๆ เป็นคำตอบ เพียงเธอยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนวยนาดไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมตัวไว้"ขอเฮียนอนอีกแป๊บนะ เมื่อคืนหนักไปหน่อย""แล้วเมื่อคืนสนุกไหมคะ" เธอหย่อนตัวนั่งลงขอบเตียงพลางเสยผมออกจากหน้าให้แฟนหนุ่มด้วย ขุนเขาหยักหน้าหงึก ๆ"สนุกมากเลย เมื่อคืนไอ่ปินมันพาพี่ชายไปเที่ยวด้วย"“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าพี่ปินมีพี่ชายด้วย" เพียงเธอยิ้มบาง ๆ"อืม พี่ปลาพี่ชา
ตอนพิเศษ 4ขุนเขาที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตขาวติดกระดุมไม่เรียบร้อยก้าวขาลงจากรถพร้อมบดินทร์และปรินที่ขับรถตามหลังเขามาติด ๆ แต่วันนี้มีแขกคนพิเศษเพราะพี่มันขอมาเที่ยวด้วย"เด็ก ๆ" พี่ปลาพี่ชายไอ้ปินเดินเข้ามากอดทักทายขุนเขากับบดินทร์ด้วยความคิดถึง "ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะ หล่อขึ้นเป็นกองเลย""ครับ" ขุนเขาไล่สายตามองพี่ปลาอย่างยิ้ม ๆ วันนี้เหมือนจะมีนกแก้วบินว่อนอยู่ในผับหนึ่งตัวนะ พอนึกอย่างนั้นได้เขาจึงรีบเดินเข้ามาในผับก่อนเพราะกลัวจะหลุดขำกับสีหน้าเบื่อหน่ายของปรินที่ต้องดูแลพี่ชายมัน"ตามมาทำเชี่ยไรก็ไม่รู้ รำคาญ"ป๊าบ!ฝ่ามืออรหันต์ประทับที่หัวเขาทันทีที่พูดจบ ปรินสะบัดหน้าไปมองพี่ชายอย่างเอาเรื่องสุด ๆ"ไอ้เชี่ยปลา!""ไม่รู้แหละ กูเป็นพี่มึง ยังไงมึงต้องดูแลกู" ว่าจบปลาก็เดินเข้าไปในผับหน้าตาเฉย ปรินกรอกตาไปมาแล้วหันไปพยักหน้าให้บอดี้การ์ดที่ตามมาดูแลพี่ชายเสียงเพลงดังกระหึ่มตั้งแต่เดินเข้ามาทำให้ไอ้พี่ปลาเต้นจนถึงโต๊ะที่จองกันเอาไว้ ปรินส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วคว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดกเข้าปากอึกใหญ่"ถามจริง มึงสองคนพี่น้องกันจริงไหมวะ" ขุนเขากระซิบถามข้างหูเพื่อนรัก เพราะหน้าตาไม
ตอนพิเศษ 3หลายวันต่อมา"ทำหน้าเหมือนโดนตีนมาเลยนะ" ขุนเขาเอ่ยถามปรินที่เดินกระแทกเท้าตึงตังเอาแต่ใจมาหาเขากับบดินทร์ที่นั่งดื่มชากันอยู่"เบื่อว่ะ อยากไปดื่มฉิบหาย ผับไหนก็ได้ที่มีเด็กแจ่ม ๆ อะรู้จักกันบ้างไหม" บดินทร์ถึงกับส่ายหน้าไปมาแล้ววางแก้วชาลง"มีน่ะมันมี แต่มึงจะไปเที่ยวหลีหญิงทุกวันไม่ได้ไหมวะ ไหนจะเลิกทำตัวเชี่ยเพื่ออาจารย์อิงฟ้าไง" บดินทร์เลิกคิ้วถามอย่างจริงจังแต่ปรินกลับเบ้ปากอย่างเบื่อหน่าย"กูเบื่ออะสิ ไม่เร้าใจเลย""เหรอ…" ขุนเขาพเยิดหน้าให้อย่างประชดแล้วรินน้ำชาให้เพื่อนหนึ่งแก้ว "ทำไมไม่ชวนเฮียปลามาด้วย" จู่ ๆ ขุนเขาก็ถามถึงพี่ชายปรินที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่ ปรินหันขวับไปมองเพื่อนตาเขียว"ถามหามันทำไม""ก็กูเห็นว่าเป็นพี่ชายมึงหนิ ถามหาไม่ได้เลย" ปรินแยกเขี้ยวใส่ขุนเขาแล้วเอ่ยตอบเสียงเกรี้ยว"ไอ้เพี้ยนนั่นมันจะออกไปไหนได้ วัน ๆ อยู่แต่บ้านทำอะไรของมันไม่รู้ วันไหนออกจากบ้านนะพาคนของป๊าไปเป็นโขย่งหนึ่ง แถมยังแต่งตัวเหมือนคนบ้าอะ กูไม่อยากรับมันเป็นพี่ชาย""ก็พี่มึงมันเฟียสหนิ กูออกจะชอบ" ขุนเขายังล้อเลียนเพื่อนไม่หยุดก่อนจะหันไปมองคนรักที่ถือจานขนมเดินเข้ามาใ
ตอนพิเศษ 2เพียงเธอชะงักค้างในตอนตักข้าวใส่ปาก เธอเหลือบตามองขุนเขาที่เอาแต่ยิ้มร่าชอบใจกับคำถามแม่อร"คือเพียงยังไม่พร้อมค่ะ แม่อรกับพ่อพลคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ" เพียงเธอย่นหัวคิ้วเข้าหาขอความเห็นใจจากทั้งสองท่าน ขุนเขาเลิ่กลั่กเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นพ่อกับแม่กำลังตกเป็นทาสลูกอ้อนของเมียเขา"แม่!" เขาเรียกแม่เสียงดังแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อแม่กับพ่อหันมามอง อรพิณเลิกคิ้วถามลูกชายส่วนอำพลหนี่ตามองอย่างเป็นคำถามเหมือนกัน "กินข้าวเถอะครับ เรื่องลูก..เดี๋ยวเอาไว้ค่อยคุยกัน""ก็ได้ ๆ อย่าช้านักนะแม่อยากอุ้มหลานแล้ว""ได้ครับ.." ขุนเขายิ้มกว้างเพราะพอใจกับสิ่งที่แม่ขอในขณะที่เพียงเธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนปากอมน้ำไว้ก็ไม่ปาน พยายามหาเรื่องมาแย้งในสิ่งที่ขุนเขาบอกกับพ่อแม่แต่ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้เธอแย้งขึ้นเลย เพียงเธอถอนหายใจเบา ๆ แล้วกินข้าวต่อจนอิ่มกันทุกคน เธอกับขุนเขาถูกอรพิณพาไปที่ห้องนั่งเล่น ไม่นานแม่บ้านก็ยกจานผลไม้สดมาเสิร์ฟ"กินสิลูก นี่ชมพู่จากสวนแม่เองเลยนะรู้ไหม" เพียงเธอตาโตแล้วหยิบชมพู่ชิ้นพอดีคำมาใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อรพิณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นลูกสะใภ้กินชมพู่อย่างเอร็ดอร่อย"
ตอนพิเศษ 1หลายวันต่อมาขุนเขาเดินรอบร้านสักลายเพราะกำลังเก็บของที่เหลือเอาไปไว้บ้าน เขาตัดสินขายร้านแห่งนี้ให้รุ่นพี่ที่เป็นช่างด้วยกันมานานและยังเป็นครูและลูกค้าคนแรกของเขาด้วย"เฮ้ กูอยากสักลายว่ะ" รุ่นพี่ที่เขาเคารพเดินเข้ามาตบบ่าแกร่งเบา ๆ ขุนเขาที่กำลังเก็บของลงกล่องอยู่ชะงักไปเล็กน้อย เขามองมือตัวเองแล้วเอี้ยวหน้ากลับไปมองรุ่นพี่"ล้อเล่นน่าเฮีย ผมทำไม่ได้หรอก""กูไม่ได้ล้อเล่น กูจริงจัง""เฮ้ย..ไม่ได้" เขาพูดกลั้วหัวเราะแล้วเก็บของลงกล่องต่อแต่รุ่นพี่กลับเดินไปเอากล่องที่เป็นเครื่องสักลายที่เขาติดตัวมาด้วยเอามาให้ขุนเขา "เฮ้ยพี่ มันจะติดตัวพี่ไปตลอดนะเว้ย ผมทำไม่ได้หรอกมือมันสั่น ไม่สวยหรอก""กูไม่ได้อยากได้ลายที่สวย แต่กูอยากได้ลายที่มึงสักให้กู เหมือนลายแรกที่กูให้มึงสักลงที่แขนกูไง" ขุนเขามองกล่องอุปกรณ์สักอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าปฏิเสธรุ่นพี่ แต่ทว่ารุ่นพี่เขากลับพยักหน้าให้ สายตาเขาบ่งบอกถึงความเชื่อใจในตัวขุนเขา"เอาจริงเหรอ คือผมไม่..""จริงดิวะ เอาหน่อยไหน ๆ ก็จะไม่สักแล้ว" รุ่นพี่เขาเดินไปนั่งลงบนโซฟาที่เพิ่งเอามาลงใหม่ เตรียมตัวให้ขุนเขาสักเรียบร้อย"พี่..""มาสิ เอ
บทที่ 77 ตอนจบหลายเดือนต่อมาขุนเขานั่งดีดกีตาร์ร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีอยู่ในสวนหลังบ้านหลังจากส่งงานให้รุ่นน้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขารู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะทำงานที่ตนเองชอบหรือการดีดกีตาร์แบบนี้"ร้องเพลงเสียงดังเชียว" เพียงเธอเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เธอเอ่ยแซวคนรักพลางหยิบคุกกี้ไปป้อนใส่ปากขุนเขาด้วย"อร่อยเหมือนเดิม" ขุนเขายิ้มกรุ้มกริ่มแล้วอ้าปากกินคุกกี้อีก"อร่อยใช่ไหมล่ะ เพียงเป็นคนทำเองกับมือเลย""อะไรที่เมียทำก็อร่อยหมดนั่นแหละครับ" เขายิ้มแล้วดีดทำนองเพลงรักให้เพียงเธอฟัง เธอยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างเขินอายก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง"เขินอะไรก่อน ไม่ชินอีกเหรอ""ก็พี่ขุนทำให้ชินตั้งแต่เมื่อไหร่เล่า ทำให้เพียงรู้สึกหวั่นไหวเหมือนตอนที่เราเจอกันใหม่ ๆ ทุกทีเลย" ขุนเขาหลุดยิ้มแล้วดีดกีตาร์ต่อ ครู่หนึ่งเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาละสายตาจากใบหน้าจิ้มลิ้มหันไปมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่บนโต๊ะแล้วกดรับสาย(เฮ้…ออกมาดื่มไหมครับ เย็นนี้มีปาร์ตี้ปิ้งย่างที่บ้านท่านป้อง) ปรินทักทายพร้อมเอ่ยชวนเพื่อนรัก ขุนเขาเงยหน้ามองเพียงเธอเป็