“ไม่ ๆ อย่าทำอะไรฉัน ปล่อยฉันไปเถอะนะ” เธอยื่นกระเป๋าของเธอให้ “อะ นี่เงิน...เอาไป ในนี้มีเงินอยู่หลายแสน ฉันหนีจากบ้านมา จะ...จะเอาอะไรบอกฉันนะ ฉันจะหามาให้ แต่ ยะ อย่าฆ่าฉัน พ่อฉันจะให้เงินนาย...เท่าที่ต้องการ”
อีกฝ่ายเอียงหน้า มือหนึ่งกดบีบลำคอของเธอแล้วตรึงเอาไว้ ทั้งเจ็บ ทั้งหายใจไม่ออก แต่เวลานี้เข่าของหญิงสาวอ่อนเกินกว่าจะหนี ดูจากที่เขาเงื้อมีดใส่เธอแบบไม่ลังเลแล้ว ถ้าวิ่งก็กลายเป็นผีเฝ้าทะเลอยู่นี่ที่แหละ
“เท่าที่ต้องการงั้นเหรอ” เขาหรี่ตาถาม เสียงกดต่ำจนน่ากลัว
“ใช่ จะเอาเท่าไหร่ก็บอกได้เลย ฉะ ฉันจะบอกพ่อให้”
โจรตรงหน้ากระชากกระเป๋าของเธอจนขาดด้วยมือเดียว เงินสองปึกที่มัดเรียบร้อยร่วงหล่น มันหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แสยะยิ้มร้ายกาจ แล้วหยิบขึ้นมา
“อืม...รวยจริงนี่”
“งั้นแค่นี้พอนะ ปล่อยฉันไปได้แล้ว...”
“หืม บอกเองนี่ว่าพ่อจะให้อีกเท่าที่ต้องการ”
มณีรัตน์เพิ่งรู้ตัวว่าเธอพลาดเสียแล้ว “ไม่ ไม่...แค่นั้นก็พอแล้วนี่ พวกแกก็เป็นแค่โจรจะเอาอะไรนักหนา”
เสียงหัวเราะดังขึ้น “ก็เพราะเป็นโจรไง ถึงต้องการมากกว่านี้”
มือที่บีบคอของหญิงสาวเอาไว้ปล่อยออก ร่างเล็กร่วงทรุดลงกับพื้นไอโขลกเหมือนจะขาดใจตาย มณีรัตน์เงยหน้าขึ้นจดจ้องอีกฝ่ายด้วยความอาฆาตแค้น ลำคอเจ็บร้าวไปหมด วินาทีเมื่อครู่เหมือนจะตายด้วยซ้ำ น้ำตาของเธอรื้นไหล ความกลัวกับความขุ่นข้องระคนปนเป
มณีรัตน์มองข้าวของที่เกลื่อนกลาดด้วยความเสียดาย แลปท็อปที่เธอหมายจะเอาไปนั่งเขียนนิยายมันร่วงจนไม่รู้ว่าพังหรือเปล่า สมุดบันทึกและปากกาสัมผัสโดนแอ่งน้ำเจิ่งจนเปียกซึม นั่นมันคือพล็อตนิยายอีกหลายเรื่องที่เธอวางแผนจะเขียนเชียวนะ
“จะปล่อยฉันไปใช่ไหม”
ไอ้โจรก้มมอง “ไม่ละ...ยังมีประโยชน์”
“ไอ้ชาติชั่ว!!!”
“ขึ้นชื่อว่าโจรมันมีคนดีด้วยหรือไง” อีกฝ่ายแค่หัวเราะ ดวงตาที่ส่งผ่านออกมาสัมผัสได้ถึงความหยามเหยียดต่อเธอ
เฮือกสุดท้ายของการตัดสินใจ เธอพุ่งเข้าคว้าปากกาแล้วปักลงไปที่รองเท้าผ้าใบของอีกฝ่าย มันเจาะทุละลงไปเกือบครึ่งด้าม
“โอ๊ยยยย!!!!”
จังหวะที่โจรผู้นั้นส่งเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวด มณีรัตน์รีบพุ่งตัววิ่งกลับไปทางตรอกเดิมทันที แต่เส้นผมของเธอกลับถูกกระชากอย่างแรงจนหนังศีรษะเจ็บร้าว ตัวของเธอลอยหวือไปตามแรงกระชากแล้วร่วงลงไปกองกับพื้นทันที
แผ่นหลังกระแทกเหล็กแข็ง...หมดหนทางหนี น้ำตาไหลอาบหน้าเป็นทาง
โจรผู้นั้นดึงปากกาออกจากรองเท้าอย่างไม่ยี่หระ แล้วนั่งคร่อม กระชากเส้นผมของเธอให้ใบหน้าแหงนเงยขึ้นไปเผชิญหน้า
“มีแรงเท่านี้เองเหรอ ถ้ามีแรงแค่นี้สบายมาก ลุก!!!”
ผมของเธอถูกกระชากจนร่างกายถูกดึงตามขึ้นไปทันทีพร้อมกับนำพาเธอเดินสวนกับบรรดาโจรอีกนับสิบที่กำลังวิ่งเข้าไปทำการปล้น
“ไอ้โจร ไอ้ชั่ว ไอ้ชาติหมา แกจะพาฉันไปไหน...”
โจรสลัดหนุ่มหันกลับมายิ้ม “คิดว่าพ่อเธอจะให้ฉันได้สักเท่าไหร่กันล่ะ?”
มือของสิงหราจับประสานกับเธอบีบกระชับแน่น เท้าที่มณีรัตน์ใช้รับน้ำหนักตัวเองทรงตัวได้ในจุดที่พอเหมาะแล้วเช่นกัน นั่นก็ทำให้เธอขยับยกร่างกายขึ้นไปแล้วขย่มลงมาอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงร่างกายของทั้งคู่กระทบกันอย่างต่อเนื่อง วินาทีนี้ เป็นช่วงเวลาที่สิงหราเสียอาการที่สุด จังหวะตกกระแทกที่กดลงมามิดลำกล้องทำให้เขาร่างกายกระตุกถี่อย่างไม่อาจจะหยุดยั้งแรงกระตุ้นตรงหน้าการถูกขึ้นนี่ไม่ว่าจะเป็นครั้งไหนมันก็วิเศษเหลือเกินเชียว“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊า...พะ พี่สิงห์ เสียวจังเลย ซี้ดดด...อื๊อออ”“อา อา...เสียวมากเลยครับ ซี้ดดด แรง ๆ เลย โอยยย...พี่เสียวสุด ๆ เลยครับเมียจ๋า อือออ...”สิงหราบรรจงยกตัวขึ้นมาในลักษณะนั่ง คลายแรงลงปล่อยมือของเธอให้โอบลำคอของเขาเอาไว้แทน และโดยที่ไม่ให้ร่างกายซึ่งสวมสอดใส่กันอยู่นั้นหลุดพรากจากกัน เขาค่อย ๆ โน้มตัวเข้าหาเธอแล้วประคองแผ่นหลังเอาไว้จนในที่สุด สิงหราก็พาเธอลงนอนแผ่ตรงหน้าของเขาได้แล้วเวลานี้
เสื้อผ้าอาภารณ์ค่อย ๆ ถูกถอดออกไปทีละชิ้นอย่างเว้าวอน หญิงสาวอ่อยเหยื่อล่อลวงชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียงด้วยสายตาอันหยาดเยิ้ม จนไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ร่างกายสะโอดสะองที่เปลือยเปล่าก็ทำให้สิงหราฉีกยิ้มขึ้นมาด้วยความสุข จ้องดูส่วนสงวนของเธอที่อวบอิ่มนูนเด่นขึ้นมาไม่วางตา“สวยเหลือเกิน...”“มองหน้าสิคะ”“หน้าน่ะพี่มองทุกวันนี่นา”เขายิ้ม ค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออกเช่นกัน ก่อนจะเดินเข้าไปดึงร่างเล็กเข้ามาแนบชิด หงายมือลูบสัมผัสเนินสวาทที่รับกับองศามือนั้น ร่างเล็กกระตุกสั่น สีหน้าสยิวซ่านปรากฏขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วหนึ่งค่อย ๆ รูดขึ้นไปตามร่องสวาท แหวกพลางสอดแทรกนิ้วเข้าไปทันที“อ๊ะ...อา...เอาเลยหรือคะ”“ไม่รอหรอก...ดูสิ แข็งไปหมดแล้ว”“ใจร้อนจริงพี่สิงห์”
“เธอมันขัดขวางสามีของฉันมากเกินไป”เสียงของหญิงสาวที่คุ้นหูแว่วขึ้นมา สิงหราปรือตาขึ้นพร้อมกับความงุนงง เมื่อมองโดยรอบแล้ว เวลานี้เขาอยู่ในห้องที่ไม่รู้จัก เตียงหรูหราที่ทิ้งกายและเปลือยเปล่า เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามาที่นี่ได้อย่างไร และอีกอย่าง หญิงคนนี้ก็ไม่ควรมาอยู่ในท่าทีเช่นนี้คุณราตรี ภรรยาของนายทหารยศใหญ่เธอยังสะสวยเพราะอายุยังน้อย หากแต่ท่าทีน่าเกรงขามและแววตาเชือดเฉือนของเธอนำมาซึ่งความเกรงอกเกรงใจจากนายทหารชั้นผู้น้อยทุกคน เธอสวมเพียงคาดผ้าขนหนูพันเอาไว้รอบอก แต่ในขณะนี้ร่างกายของสิงหรากลับหนักอึ้ง และสมองพร่าเบลอไปหมด แค่บังคับร่างกายให้ลุกขึ้นยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ...เธอปลดปมที่ผูกผ้าผืนนั้นอกจนเหลือเพียงแค่ร่างกายอันเปลือยเปล่า แม้ในสายตาของผู้ชายมากมาย รูปร่างของเธอช่างปลุกเร้าความกำหนัดได้เป็นอย่างดี ทว่าไม่ใช่กับสิงหรา เขาไม่อาจจะแตะต้องเธอ และไม่มีความคิดนั้นในหัวด้วยซ้ำ เธอคือหญิงผู้มีเจ้าของ เธอไม่อาจจะทำเช่นนี้กับเขาได้“คะ...ค
สิงหราพุ่งเข้าไปประคองร่างเล็กขึ้นแล้วตระกองกอดทันที ลูบไล้เนื้อนางอย่างหวงแหน“ไม่เป็นไรแล้วนะ” เขาปลอบโยน “เราพ้นแล้ว เราจะกลับไปบนเกาะกัน”“ค่ะพี่สิง...กลับกันเถอะ” ถึงน้ำเสียงจะถูกปั้นแต่งอย่างดี แต่สติของสาวเจ้าก็กระเจิงไปไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงอย่างนั้นมรสุมครั้งนี้ก็ผ่านไปด้วยดีด้วยประสบการณ์อันล้ำค่าของสิงหรา เธอหวาดกลัวจนหมดสติลงในอ้อมกอดของชายหนุ่มทันที**********สิงหราขับเรือเข้าเทียบท่าบนเกาะในช่วงเวลาที่แสงจันทร์อวดโฉม เห็นว่ามณีรัตน์ยังหลับอยู่บนฟูกจึงเอาผ้าห่มมาคลุมตัวของเธอไว้ ไม่อยากปลุก ทว่าความผิดปกติก็ทำให้เขาสัมผัสได้ ความเงียบ และแสงสว่างที่หายไป ไม่มีเสียงเครื่องปั่นไฟทำงานไม่มีกระทั่ง...เทียนสักเล่มที่ถูกจุดไม่ได้การ!สิงหราวิ่งเลียบลัดเลาะเข้าไปในชายป่าทันที แฝงตัวเองกั
ก่อนพายุใหญ่คลื่นลมมักสงบเสมอ...มณีรัตน์สัมผัสอ้อมกอดจากชายอันเป็นที่รักอยู่ที่ส่วนด้านหน้าของเรือ ทอดยาวออกไปเป็นส่วนของผ้าสามสีที่ผูกบูชาแม่ย่านาง หากแม้นี่จะไม่ใช่เรือลำใหญ่เหมือนภาพยนตร์ระดับตำนาน แต่เธอก็มั่นใจเหลือเกินว่าความอบอุ่นจากนางเอกผู้นั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเธอมากนักหรอกสิงหราเกยคางลงที่ไหล่ของเธอ เอนกายแผ่วเบาเข้าประชิด“วันนี้ร้องดังกว่าทุกวันนะ...พี่ทำดีใช่ไหม”“พี่ก็ทำดีมาตลอดนั่นแหละ” เธอยิ้ม “แต่วันนี้มีแค่เรากับทะเลไง นีก็เลยได้ทำทุก ๆ อย่างที่อยากจะทำ” เธอกอบกุมมือของสิงหราเอาไว้ รู้สึกดีเหลือล้นที่ได้รับอ้อมกอดอุ่นที่เธอเคยโหยหา ย้อนกลับไปวันแรกที่ถูกกระชากจนตัวปลิว วันนี้ชายหนุ่มผู้ล่ำกำยำคนนี้อ่อนโยนกับเธอเหลือเกินเว้นเพียงแต่ช่วงเวลาที่เขาต้องกระแทกก็เท่านั้นเรือค่อย ๆ โยกเบา ๆ ตามพื้นน้ำที่ไหวเป็นระลอก ทิศตะวันตกตะวันเริ่มยอแสงแล้ว
ภายในกายเล็กเพรียวพลิ้วของมณีรัตน์ตอดรัดแก่นกายของเขาเป็นอย่างดี แม้จะอบอุ่นและลื่นไหล แต่กลับยิ่งสร้างความซาบซ่านให้ผู้สอดใส่ได้อย่างมหาศาล สองมือของสิงหราจับที่แข้งของเธอแล้วกดให้ขาที่พาดบ่านั้นแนบกาย เริ่มโยกสะโพกขยับไหวอย่างถี่รัวและหนักหน่วงทันทีจนได้ยินเสียงเพียงสัมผัสอันอยาบโลนของร่างกายที่กำลังเดือดพล่านด้วยไฟแห่งราคะต่อเนื่อง ยิ่งสัมผัสเร็วรี่เท่าไหร่ ดูเหมือนความปรารถนาอันร้อนฉ่าจะยิ่งโหมกระพือ“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า...พะ พี่สิงห์คะ พี่สิงห์ อื๊อออ...เสียวจังเลยค่ะ เสียว อ๊า...” ไม่มีความเอียงอายเมื่อได้อยู่ใกล้เคียงจุดที่เรียกว่าสวรรค์ มณีรัตน์หลับตาแน่น ปล่อยร่างกายไหวไปตามแรงกระแทกอันดุดันของชายหนุ่มตรงหน้า มือหนึ่งป่ายปัดไร้ทิศทาง ส่วนอีกข้างยังคงกระตุ้นอารมณ์กระสันของตัวเองด้วยการไล้วนเสียดสีที่เม็ดเสียวเป็นวงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งแรงกระแทกที่ได้รับมาลึกล้ำเท่าไหร่ เธอเองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เพราะถูกห้วงแห่งความหฤหรรษ์อัดแน่นจนเต็มปรี่“ซี้ดดด...พี่เสียวเหลือ