LOGINหลายปีแล้วที่ไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศร้อนอบอ้าว เขมิกาก้าวเท้าลงมาเหยียบผืนแผ่นดินไทย พร้อมกับหนูน้อยวัยหกขวบเศษ ความเจ็บปวดในอดีตไม่อาจลืมเลือน ลูกน้อยคือสัญลักษณ์ที่คอยย้ำเตือน ให้เธอหวนนึกถึงถ้อยคำที่เป็นดั่งใบมีดกรีดลงกลางใจ
ช่วงเวลาหลายปีกับการเลี้ยงลูกและเรียนไปด้วย ทำให้เขมิกาเรียนจบปริญญาเอกสมกับที่เคยตั้งใจเอาไว้ ก่อนที่เธอจะได้รับจดหมายเชิญให้ไปเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
หญิงสาวได้ลงนามตอบกลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สัญญาจ้างห้าปีกับเงินเดือนหกหลัก มันคงสามารถทำให้ลูกสาวของเธอมีชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากมิราแพ้อากาศจนถึงขั้นออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านไม่ได้ หัวอกคนเป็นแม่อย่างเธอแทบทนไม่ไหว เขมมิกาจึงไม่ลังเลใจพามิราย้ายกลับมาเมืองไทยทันที
“คุณแม่ขา.... นี่บ้านเราเหรอคะ เราจะไม่กลับไปที่เมกาอีกแล้วใช่ไหมคะ” มิราเอ่ยถามมารดาออกมาด้วยแววตาใสซื่อ
“ใช่ค่ะ นี่คือบ้านของเราสองคน มิราชอบไหมคะ”
“ชอบค่ะมีสระว่ายน้ำด้วย”
“เดี๋ยวแม่เอาของไปเก็บก่อนนะคะ มิราเดินดูรอบบ้านได้ แต่ห้ามออกไปจากบริเวณบ้านเด็ดขาดเข้าใจไหมคะ”
“เข้าใจค่ะแม่ มีผีเสื้อด้วยสวยจังเลยค่ะ”
เมื่อเห็นลูกสาวฉีกยิ้มกว้างได้แบบนี้ ทำให้เขมมิกาโล่งใจ เธอไม่คิดจะกลับมาเมืองไทย แต่สุขภาพของมิราแย่ลงเรื่อย ๆ จึงทำให้หญิงสาวยอมถอยทัพกลับมาด้วยความจำนน ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าคนอยู่เบื้องหลัง มหาวิทยาลัยที่เขมมิกาเซ็นสัญญาทำงานนั้น มีปรเมศเป็นเจ้าของเขาถือหุ้นรายใหญ่สุด
“บ้านหลังนี้ก็น่าอยู่เหมือนกันนะเนี่ย น่าแปลกจังทำไมสวัสดิการดีขนาดนี้”
หญิงสาวเริ่มแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย เพราะเธอคิดว่าเธอควรได้รับที่พักดี ๆ แบบนี้ ในช่วงที่เป็นอาจารย์สอนพิเศษ พอหมดสัญญาค่อยหาซื้อบ้านสักหลังไว้ใช้ชีวิตอยู่กับมิรา
///
ภายในห้องทำงานของท่านรองอธิการบดีฐานิน กำลังตกอยู่ในบรรยากาศตึงเครียด หลังจากชายสูงวัยรู้ว่าศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศ ทำสัญญาว่าจ้างอาจารย์สอนพิเศษตามอำเภอใจ
“ศาสตราจารย์ไม่ควรทำแบบนี้เลยนะครับ เงินตั้งหลายล้านควรนำมาพัฒนามหาลัย ไม่ใช่เอาไปใช้จ้างอาจารย์สอนพิเศษแบบไม่ปรึกษาใคร”
“เงินทุกบาททุกสตางค์ ที่ผมจ่ายค่าสอนพิเศษให้กับด็อกเตอร์เขมมิกา ล้วนเป็นเงินส่วนตัวไม่เกี่ยวกับทางมหาลัยนะครับท่าน” (เขาจะจ่ายให้กับเมียเขาค่ะท่าน ไม่ยุ่งเนอะ)
“ถึงกระนั้นเถอะครับ ยังไงเธอก็ต้องมาสอนที่นี่จะไม่เกี่ยวข้องกับมหาลัยเลยก็กระไรอยู่ ผมได้ข่าวว่าศาสตราจารย์ให้คนเตรียมห้องทำงานให้กับเธออีกด้วย ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้จะพิเศษกว่าอาจารย์ทั่วไปนะครับ”
“ท่านกำลังคิดว่าผมใช้อำนาจในมือ ไปในทางมิชอบหรือเปล่าครับ” คราวนี้ใบหน้าและแววตาของเขาได้แฝงร่องรอยผู้มีชั้นเชิงเหนือกว่าเอาไว้ เพื่อให้อีกฝ่ายเลิกขุดคุ้นเรื่องนี้สักที
“เรื่องนั้นผมไม่สนใจ ตอนนี้ลูกสาวของผมเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่ตั้งแต่วันที่มีข่าวกับศาสตราจารย์”
“เรื่องนั้นเดี๋ยวผมจัดการแก้ข่าวเองครับท่าน”
“แต่ผมเกรงว่าคงไม่มีประโยชน์ หมั้นและแต่งงานกับลูกสาวผมซะ!”
“ผมไม่ได้รักเธอ ที่สำคัญผมไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากไปส่งเธอกลับห้องพัก คืนนั้นนทีผู้ช่วยของผมก็ไปด้วย หรือท่านจะถามยามที่คอนโดก็ได้ครับ”
“ตอนนี้คงไม่มีประโยชน์ ถ้าคุณอยากให้ด็อกเตอร์เขมมิกากับลูกสาวอยู่เมืองไทยได้อย่างปลอดภัย ก็กรุณาตามใจลูกสาวผมด้วยนะครับ” รองอธิการบดีมีอำนาจและอิทธิพลมากพอสมควร เขาคือมาเฟียเก่าที่ศาสตราจารย์หนุ่มต้องเกรงใจ แต่ก็ไม่เสมอไป
ทว่าในเวลานี้ชายสูงวัยยกเอาเขมมิกากับลูกสาวของเธอมาขู่ จึงทำให้เขาต้องยอมลดข้อให้ เนื่องจากห่วงความปลอดภัยของอดีตภรรยา ซึ่งอีกไม่นานเขาจะเปิดโปงด้านมืดของรองอธิการบดีฐานินให้จงได้
“เธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนะครับท่าน”
“ศาสตราจารย์แน่ใจเหรอว่าเธอไม่เกี่ยว ถ้าอย่างนั้นก็ส่งด็อกเตอร์เขมมิกาไปสอนมหาลัยต่างจังหวัดสิ”
“คนของผม... ผมจัดการเองได้ครับ” ในที่สุดศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศก็ออกตัวแทนเขมมิกา
“ไม่ว่าคนของใครผมก็จัดการได้เหมือนกัน”
“อย่ายุ่งกับเธอเด็ดขาด ผมจะลองพิจารณาเรื่องหมั้นกับอาจารย์ญานินก็ได้ แต่ขอเวลาให้ผมได้จัดการงานที่บริษัทก่อนนะครับ พอดีว่าพักนี้ค่อนข้างมีปัญหา เพราะผมไม่ได้เข้าไปเป็นเดือนแล้ว”
“แค่ศาสตราจารย์รับปากผมก็พอใจแล้ว คำพูดของลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นนะครับ” ดูเหมือนชายสูงวัย ยากได้เขาเป็นลูกเขยจนตัวสั่น แต่ระดับศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศ หากเขาไม่ชอบพอกับใครก็คงต้องทำใจ เพราะท้ายที่สุดแล้วคนที่เขาเฝ้ารอก็มีเพียงเขมมิกาเท่านั้น
“ครับท่าน ผมขอตัวนะครับ” ศาสตราจารย์หนุ่มเดินออกมาจากห้องทำงานของรองอธิการบดีด้วยใบหน้าโกรธอยู่เนือง ๆ ซึ่งเขาคิดว่าอดีตภรรยากำลังจะเผชิญกับอันตรายแบบไม่รู้ตัว
///////
ในเวลานี้บ้านศิระเมฆากำลังวุ่นวาย เพราะญานินได้เก็บกระเป๋าย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หล่อนจัดแจงทุกอย่างตามอำเภอใจ ตามสไตล์ลูกคุณหนูที่เคยเอาแต่ใจ
“นทีแกโทรหาคุณปรเมศให้แม่ที ทำไมต้องให้ผู้หญิงคนนั้นย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้อีก” ป้าพิกุลยังคงโกรธญานินแทนเขมมิกาไม่หาย หลายปีที่ผ่านมา บ้านหลังนี้เงียบเหงาราวกับถูกตัดออกจากโลกภายนอก ความมืดมนแผ่ไปทั่วอาณาบริเวณ ราวกับสร้างคฤหาสน์อยู่ในเขตป่าช้า
(แม่ว่าอะไรนะครับ) น้ำเสียงของนทีที่ดังมาตามสาย ดูตกใจไม่ต่างจากมารดาของเขาสักเท่าไหร่นัก
“ก็อาจารย์ญานินคนสวยน่ะสิ เก็บกระเป๋าย้ายมาอยู่ในห้องแทนคุณเขมเรียบร้อยแล้ว”
(โอเคครับแม่ตอนนี้บอสติดประชุมอยู่ เดี๋ยวสักพักผมจะรีบรายงานให้บอสทราบทันทีครับ)
“อืม... แค่นี้แหละ แม่ไปดูข้าวของคุณเขมก่อน กลัวว่าหล่อนจะเก็บทิ้งหมด”
(ครับแม่)
เมื่อวางสายจากลูกชายสุดที่รัก ป้าพิกุลได้กำชับให้เด็กรับใช้ในบ้าน จับตามองอาจารย์ญานินให้ดี ห้ามให้หล่อนนำของในห้องคุณผู้หญิงออกไปทิ้งแม้แต่ชิ้นเดียว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ป้าพิกุลเคาะประตูห้องเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ซึ่งญานินกำลังรื้อชุดของเขมมิกาออกมาจากตู้ ซึ่งสภาพเละเทะไปหมด ข้าวของในห้องถูกทิ้งรวมกันเอาไว้ราวกับกองขยะ
“นี่อาจารย์ทำอะไรคะ” ป้าพิกุลกำมือแน่นระงับความโกรธ ที่พร้อมฟาดฟันกับอาจารย์สาว
“ญาจะพักห้องนี้ ป้ามาก็ดีเหมือนกัน ช่วยขนของพวกนี้ไปทิ้งที”
“ไม่ได้นะคะ!”
“ทำไมจะไม่ได้ ก็ในเมื่อฉันกำลังจะกลายเป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้” หล่อนดูมั่นใจเหลือเกิน เพราะสังคมกำลังกดดันให้ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศ ให้ออกมารับผิดชอบชื่อเสียงของลูกสาวท่านรองอธิการบดีฐานิน จึงทำให้การย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น
“ถ้าอาจารย์จะพักที่นี่ ก็ยังมีห้องว่างอีกหลายห้องนะคะ”
“แต่ฉันอยากได้ห้องนี้ ใครจะทำไม”
“ดิฉันเกรงว่าจะไม่ได้ค่ะ”
“เป็นแค่ขี้ข้าอย่าสะเออะมาคิดแทนเจ้าของบ้าน”
“คำพูดคำจาไม่สมกับที่เป็นอาจารย์เลยนะคะ”
“ฉันเลือกคนมากกว่า อย่างป้าเนี่ยนะอยากให้ฉันพูดดีด้วย ชิ!”
ในเวลานี้แม่บ้านอย่างป้าพิกุลแทบอยากจับหล่อนโยนออกไปนอกบ้าน แต่คงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถึงยังไงคุณผู้หญิงที่แสนดีอย่างเขมมิกา คงไม่มีทางหวนกลับมาอีกแล้ว
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง
หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”
ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร







