LOGINตลอดระยะเวลาหลายปีที่ปรเมศเดียวดาย เขาถูกญานินตามติดชีวิตราวกับเจ้ากรรมนายเวร เพราะบิดาของหล่อนถือหุ้นอยู่ในมหาวิทยาลัยถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศ ศิระเมฆาไม่สามารถสลัดหล่อนออกไปจากมหาวิทยาลัยได้
“งานเลี้ยงคืนนี้ผมรบกวนศาสตราจารย์ดูแลลูกสาวของผมด้วยนะครับ” ตอนนี้ด็อกเตอร์ปรเมศได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญมีความชำนาญทางด้านวิชาการสูงสุดของมหาวิทยาลัย ทุกคนมักจะเรียกคำนำหน้าเขาว่าศาสตราจารย์จนติดปาก
“ครับท่าน” เขารับปากอีกฝ่ายออกไปอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องรองอธิการบดีฐานินด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“พวกแกว่าไหม อาจารย์ญานินต้องเป็นแฟนกับศาสตราจารย์ปรเมศแน่เลย” นักศึกษาสาวเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเสียดาย เพราะข่าวลือนี้ท่าทางจะเป็นเรื่องจริง
“ตั้งแต่พวกเราเข้ามาเรียนที่นี่ จวนจะจบอยู่แล้วยังไม่เห็นผู้หญิงคนไหนได้อยู่ข้างกายศาสตราจารย์ หรือพวกเขาสองคนไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์”
“ฉันว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ปรเมศคงไม่คิดจริงจังกับอาจารย์ญานินมากกว่า”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันไม่เคยเห็นแววตาของผู้ชายคนไหนว่างเปล่าเท่าศาสตราจารย์ปรเมศมาก่อน ขนาดอาจารย์ญานินทำทุกวิถีทาง เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ดูท่าทางผู้ชายจะไม่เล่นด้วยน่ะสิ”
นักศึกษาเริ่มจับกลุ่มคุยกัน ต่างก็สนทนาถึงบุคคลที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของสาว ๆ ซึ่งเขาไม่เคยมีข่าวฉาวกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน จนถูกจับตามองในความสัมพันธ์ระหว่างศาสตราจารย์หนุ่มกับอาจารย์สาวสวย
///
ในเวลานี้สิ่งที่ปรเมศกลัวก็เดินทางมาถึง หลังจากที่เขายอมปล่อยเขมมิกาไปใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการ พร้อมกับถอนตัวหยุดให้นักสืบสะกดรอยตามเธอ
“นายแน่ใจใช่ไหม เธอจะกลับมาพร้อมกับเด็กคนนั้น เธอไม่ได้ทำตามที่ฉันสั่งหรือไง” ดูเหมือนเขาจะกลัวคำตอบ เพราะเด็กคนนั้นสามารถทำให้เขมมิกาไม่สามารถกลับมายืนข้าง ๆ เขาได้อีกครั้ง
“ใช่ครับ แต่ที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ...” นทีไม่อยากให้ความหวังเจ้านายของเขา แต่ก็แอบสงสัยความสัมพันธ์ของเขมมิกากับมาลิค
“อะไรเหรอ”
“คุณมาลิคไม่ได้กลับมาด้วย”
“เขาคงบินตามมาทีหลังมั้ง”
“เท่าที่ผมส่งนักสืบไปเก็บข้อมูล คุณเขมมิกาพักอยู่กับลูกสาวสองคน นาน ๆ ทีคุณเนเน่กับคุณมาลิคถึงจะมาเยี่ยม บอสว่ามันน่าแปลกไหมล่ะครับ” คำพูดของลูกน้องคนสนิททำเอาชายหนุ่มใช้ความคิด พลางนึกถึงคำที่เขมมิกาเคยพูดกับเขาเอาไว้ ก่อนที่เธอจะออกไปจากบ้านหลังนี้
(คุณจะต้องเสียใจไปจนวันตาย ผู้ชายอย่างคุณไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อของใคร) ถ้อยคำเหล่านี้มันยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขาไม่หาย แต่ทำไมสิ่งที่เขมมิกาพูดกับมาลิคที่ร้านอาหาร มันถึงกลายเป็นหนังคนละม้วน
“เธอได้ลูกสาวเหรอ”
“ใช่ครับ ชื่อมิราน่ารักมาก”
“มิราเหรอ...” ชื่อของหนูน้อยทำให้เขาย้อนกลับไปคิดถึงอดีต สมัยที่คนทั้งคู่คบหาดูใจกันใหม่ ๆ เขมมิกาเคยบอกกับเขาเอาไว้ว่า ถ้ามีลูกสาวจะตั้งชื่อลูกของเราว่ามิรา
“ใช่ครับ นี่ไงภาพถ่ายของเธอ มีวีดีโอด้วยครับ ผมให้นักสืบส่งมาให้เผื่อบอสอยากดู”
ภาพของเด็กผู้หญิงถักเปียสองข้าง กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้าน ขณะที่มารดาของเธอกำลังยืนกอดอกมองลูกสาวด้วยแววตารักสุดหัวใจ ทำเอาปรเมศถึงกับน้ำตาคลอ
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเจ็บปวด เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงเผยรอยยิ้มออกมา พร้อมกับวิ่งเข้าไปสวมกอดมารดาของเธอ ชายหนุ่มนั่งเงียบ ความรู้สึกเจ็บปวดกำลังแผดเผาหัวใจของเขาอย่างหนัก เพราะแววตาท่าทางของมิราไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด
ครั้งหนึ่งเขมมิกาเคยถามเขาว่าอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว ชายหนุ่มได้ตอบเธอกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขาไม่ชอบเด็กและไม่อยากมีลูก แต่ตอนนี้ปรเมศกลับภาวนาให้เด็กคนนั้นเป็นลูกของเขา
“หาทางพิสูจน์ ทำยังไงก็ได้ ฉันอยากรู้ว่าเด็กคนนั้นใช่ลูกของฉันหรือเปล่า”
“ถ้าใช่ล่ะครับ”
“ฉันคงเป็นพ่อที่โคตรเลว”
“บอสยอมยกโทษให้คุณเขมแล้วใช่ไหมครับ”
“เรื่องอะไร”
“ก็เรื่องพี่สาวของเธอกับคุณท่าน...”
“เรื่องนั้นฉันจำไม่เคยลืม แต่ตอนนี้อยากรู้เรื่องเด็กคนนั้นมากกว่า” ปรเมศเริ่มสัมผัสได้ถึงความรักที่เขามีให้กับเขมมิกา ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่เขาลืมเธอได้เลยสักเสี้ยววินาที
“บางทีก็แอบสางสารคุณท่านนะครับ”
“พ่อของฉันเลือกผู้หญิงคนนั้น ทั้งที่แม่ของฉันขอร้องอ้อนวอนเขาแทบตาย เขาก็ควรยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง” แน่นอนว่ามินดาไม่ได้รักในตัวตนของท่านเมฆาบิดาของปรเมศ หล่อนรักเงินของเขามากกว่า ซึ่งในเวลานี้มีหญิงสาวกำลังพยายามตีตัวออกห่างจากชายสูงวัย
“ได้เวลาแล้ว บอสจะไปรับอาจารย์ญานินไหมครับ”
“ไม่! บอกเธอให้ไปเจอกันในงานเลย”
“แบบนี้ไม่เป็นการหักหน้าท่านรองอธิการบดีเหรอครับ”
“ช่างสิ! ฉันไม่สนอยู่แล้ว” ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ปรเมศก็ยังคงเย็นชากับคนรอบข้างเสมอ เขาให้เกียรติรองอธิการฐานินในฐานะหุ้นส่วน ถ้าหากชายสูงวัยคิดล้ำเส้นคงต้องเจอดี
///ณ ห้องจัดเลี้ยงโรมแรมหรู///
ภายในงานเลี้ยงวันเกิดของคู่สมรสท่านรองอธิบดีฐานิน ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าบรรดาผู้คนในแวดวงธุรกิจ ทุกคนต่างโฟกัสมาที่ศาสตราจารย์หนุ่มรูปงามนามเพราะอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศ
“ทำไมไม่ไปรับญาล่ะคะ รู้ไหมญารอคุณตั้งนาน” น้ำเสียงมีจริตจะก้าน ใบหน้าเติมแต่งสวยหยาดเยิ้ม ดวงตาหวานเชิญชวนให้อีกฝ่ายหลงใหล พูดออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“พอดีผมติดธุระแถวนี้ ก็เลยคิดว่าอาจารย์ญานินคงไม่รอ”
“รอทั้งชีวิตญาก็รอได้ค่ะ ไปค่ะโต๊ะโน้น”
ทันทีที่พูดจบประโยค หญิงสาวรีบคล้องแขนศาสตราจารย์หนุ่ม เดินตรงไปยังโต๊ะ ที่มีบิดามารดาของหล่อนนั่งรออยู่แล้ว
สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่คนทั้งสอง ญานินกระตุกยิ้มมุมปากนิด ๆ หล่อนพึงพอใจกับงานวันนี้ แน่นอนทุกคนต้องพูดถึงผู้หญิงที่เดินเคียงคู่มากับศาสตราจารย์หนุ่มผู้มั่งคั่งร่ำรวย
“วันนี้ผมไม่มีของขวัญอะไรมากมาย ขอให้คุณหญิงมีสุขภาพแข็งแรงเป็นที่รักของทุกคนนะครับ นี่ครับของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ”
“ขอบคุณมากค่ะ สำหรับของขวัญและคำอวยพร หนูญาแม่ฝากดูแลแขกคนสำคัญของพ่อด้วยนะ”
“ได้ค่ะแม่”
ในเวลานี้ญานินทำตัวน่ารำคาญ เสียจนศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศอยากกลับบ้านเต็มที แต่เป็นเพราะต้องให้เกียรติเจ้าของงาน จึงทำให้เขาต้องนั่งดื่มต่อ โดยมีอาจารย์สาวคอยรินเครื่องดื่มให้เป็นระยะ
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ดูเหมือนญานินจะตั้งใจทำให้ตัวเองเมา หล่อนเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง จนบิดามารดาของหล่อนวานให้ศาสตราจารย์หนุ่มไปส่งลูกสาวที่บ้าน
“รบกวนศาสตราจารย์ด้วยนะคะ พอดีว่าเราสองคนต้องอยู่คุยธุระสำคัญต่อน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ” ในเวลานี้สองสามีภรรยาได้หันไปสบตากัน หลังจากเห็นลูกสาวถูกชายหนุ่มโอบไหล่ออกไปแบบนั้น
เมื่อรถยนต์คันหรูแล่นออกมาได้สักพัก ญานินเริ่มบังคับให้เขาไปส่งหล่อนที่คอนโดมิเนียมหรู
“ไปส่งญาที่คอนโดนะคะ”
“ปกติอาจารย์พักอยู่ที่บ้านไม่ใช่เหรอครับ”
“พอดีญานัดกับเพื่อนเอาไว้น่ะค่ะ”
“ได้ครับ นทีกลับรถไปส่งอาจารย์ญานินที่คอนโดของเธอ”
“ครับบอส” คราวนี้แววตาของญานินเริ่มเปลี่ยนไป หล่อนคิดว่าถึงยังไงแผนที่วางเอาไว้ย่อมสำเร็จ
ในที่สุดก็เป็นข่าวใหญ่แห่งปี เมื่อมีมือดีแอบถ่าย ศาสตราจารย์หนุ่มแอบย่องขึ้นคอนโดอาจารย์สาวกลางดึก ภาพพจน์ที่เสียหายทำเอาบิดาของหล่อน บีบบังคับให้เขารับผิดชอบ เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงให้กับรองอธิบดีและครอบครัว ที่กำลังตกเป็นประเด็นดัง ส่งผลให้กลายเป็นข่าวฉาวในสังคม
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง
หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”
ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร







