LOGIN"ขอบคุณมากนะคะรุ่นพี่ แพรพร้อมแล้วค่ะติวกันเลย"
พายุฉีกยิ้มที่มุมปาก ถ้าเป็นหญิงสาวคนอื่นคงระริกระรี้คลอเคลียเขาไปแล้ว แต่แพรไหมกลับพยายามรักษาระยะห่าง ทั้งที่ห้องนี้มีเขาและเธอเพียงสองคน ที่สำคัญใบหน้างามพร้อมกับดวงตากลมนั้น กลับฉายแววมุ่งมั่นมากกว่าสิ่งอื่น หญิงสาวไม่มีทีท่ายั่วยวนเขาเลยสักนิด บางครั้งพายุก็กำลังคิดว่า เขาควรจะเปลี่ยนใจดีหรือไม่ เมื่อลึกๆ ภายในใจก็รู้สึกถูกชะตาตรึงใจ อยากรักษาแพรไหมเอาไว้เป็นคนของใจ ไม่อยากทำให้เธอเสียใจและเกลียดเขาไปตลอดชีวิต
"ความแตกต่างระหว่างนักออกแบบแฟชั่นและนักออกแบบสิ่งทอคืออะไร เรียนมาหรือยัง" เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น แล้วมองไปที่ใบหน้างาม แพรใหม่ฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับแววตาที่ฉายแววเป็นประกาย เมื่อเธอกำลังนึกคิดถึงสิ่งที่อาจารย์สอนมา ก่อนที่จะตอบพายุออกไป
"นักออกแบบแฟชั่นเป็นบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์อุทิศตน สร้างเสื้อผ้าหรือชุดอุปกรณ์เสริมมักเรียกว่าแฟชั่น คอลเลกชัน โดยทั่วไปแล้วนักออกแบบแฟชั่น จะร่างแนวคิดของชิ้นงาน เพื่อช่วยนำทางกระบวนการออกแบบโดยรวม เมื่อนักออกแบบได้กำหนดทิศทางสำหรับคอลเลกชัน" แพรไหมตอบพายุออกไปด้วยท่าทางที่มั่นใจ ในขณะที่พายุเองก็จับจ้องมาที่เธอด้วยความสนใจเช่นกัน
"ความจริงแล้วความหมายของมันจะแยกเป็นสัดส่วน มีรายละเอียดมากกว่านี้ เปิดหนังสือไปที่หน้าสิบเอ็ด พี่เลคเชอร์เอาไว้ แล้วหาคำตอบมาใหม่ พี่จะไปอุ่นอาหารมื้อเย็นรอ นี่คือคำถามทั้งหมดหามาให้ได้ภายในสามสิบนาทีนี้" พายุยื่นกระดาษคำถามที่เขาเขียนเอาไว้ให้กับแพรไหม หญิงสาวรับจากมือเขาไว้ ก่อนจะพยักหน้าให้กับชายหนุ่มไป เพื่อสื่อความหมายว่าเธอตกลงพร้อมจะทำตามที่เขาบอก เธอจะหาคำตอบให้ได้
พายุเข้าครัวไปอุ่นอาหาร แพรไหมเองก็ไม่ปฏิเสธหรือแย้งเขา เมื่อเวลานี้เธอรู้สึกหิวแล้วเช่นกัน เพราะมันเลยอาหารเย็นมาแล้ว แพรไหมหาคำตอบพร้อมกับเขียนมันลงในสมุด เมื่อพายุอุ่นอาหารเสร็จสายตาคมจ้องมองไปที่สาวร่างเล็ก ยิ่งได้ใกล้ชิดความรู้สึกของเขาที่มียิ่งเปลี่ยนไป เวลานี้ภายในใจของพายุนั้น มันกำลังขัดแย้งกับสิ่งที่เขาจะทำ เขาได้แต่หวังว่าแพรไหมจะไม่ดื่มน้ำในแก้ว เพราะเวลานี้เขาไม่อยากทำแบบนั้นกับเธออีกแล้ว
"ทานข้าวได้แล้วครับน้องแพรไหม"
เมื่อชายหนุ่มนำอาหารขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาเรียกแพรไหมเบาๆ แต่เธอก็ได้ยินเพราะห้องของเขานั้นมีเพียงเธอ ก่อนจะทานข้าวแพรไหมหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบแล้วดื่มมันลงไป โดยที่เธอนั้นไม่รู้ว่ากำลังจะสูญเสียสิ่งที่มีค่าให้กับชายร่างสูงใหญ่ในไม่ช้านี้
"กับข้าวน่าทานจังเลยค่ะ รุ่นพี่ทำเองเหรอคะ" แพรไหมเลื่อนเก้าอี้ลงนั่ง พร้อมกับเอ่ยถามพายุออกไปแก้เขิน ซึ่งอาหารที่อยู่บนโต๊ะสองสามอย่างนั้นน่ารับประทานจริงๆ
"ใช่แล้วครับ พี่ทำไว้ตั้งแต่เลิกเรียน เพราะแขกสำคัญจะมาเยี่ยม ก็เลยอยากดูแลเทคแคร์สักหน่อย" คำตอบที่ได้จากชายหนุ่ม แพรไหมได้ส่งยิ้มบางๆ ไปให้พายุ ในขณะที่ภายในใจของเธอนั้นมันกำลังดีใจจนพองโต แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกไป เพราะไม่อยากคิดไปไกล ยังไงเสืออย่างพายุก็คงไม่ถอดเขี้ยวง่ายๆ เธอควรจะอยู่ห่างๆ เขาเอาไว้เป็นดีที่สุด
"ทำไมขาดเรียนเป็นอาทิตย์แบบนั้น" พายุตัดสินใจถามแพรไหมออกไป กับสิ่งที่เขาค้างคาใจมาหลายวัน
"แม่แพรเพิ่งเสียค่ะ ก็เลยต้องหยุดเรียนไปช่วยงาน" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เมื่อพายุได้สะกิดแผลในใจของเธอ ซึ่งหญิงสาวเพิ่งได้รับมาสดๆ เพราะความเจ็บปวดความเสียใจยากที่จะลืมเลือนเมื่อไม่มีมารดาก็ไม่ต่างอะไรจากตัวคนเดียว เพราะอีกไม่นานบิดาก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้ว
"พี่ขอโทษที่ถาม และก็เสียใจด้วยนะ" พายุพูดพร้อมกับเอื้อมมือลูบลงไปที่หลังมือของแพรไหม หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอ ความรู้สึกดีๆ ได้เกิดขึ้นภายในใจของแพรไหมในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อเธอกำลังจะตกหลุมรักเสือหนุ่มตรงหน้า
"ขอบคุณค่ะ อาหารอร่อยจังเลยนะคะ" แพรไหมเฉไฉพูดออกมา เมื่อพายุพยายามจ้องมองมาที่ดวงตากลม จนหญิงสาวรู้สึกเขินอาย
"อร่อยก็ทานเยอะๆ เดี๋ยววันหลังจะทำให้ทานอีก น้องแพรชอบทานอะไรเป็นพิเศษไหม คราวหน้าพี่จะทำเตรียมไว้ให้" คำพูดของพายุยิ่งทำให้หัวใจของเธอนั้นเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง
"ขอบคุณนะคะ แพรทานได้หมด ถ้ามันอร่อยนะ" แพรไหมพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้กับรุ่นพี่ ก่อนจะลงมือทานอาหารตรงหน้า พายุเองก็แอบหลงใหลในรอยยิ้มที่ใสซื่อของเธอเช่นกัน
ทั้งสองทานอาหารไปคุยกันไปจนสนิทใจ พายุเองก็รู้สึกแปลกใหม่ เมื่อห้องนี้เขาไม่เคยพาใครมา ที่สำคัญเขาไม่เคยทำอาหารให้หญิงใดได้รับประทาน แพรไหมคือผู้หญิงคนแรก เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอ
"ทำไมร้อนจังพี่ปิดแอร์เหรอคะ" แพรไหมถามพายุออกไปในขณะที่ใบหน้าของเธอนั้น เริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมา
"บรรลัยแล้ว!" พายุถึงกับสบถออกมา เมื่อเขาคิดว่าแพรไหมคงดื่มน้ำในแก้วนั้นไปแล้ว
"แพรเป็นอะไร ทำไมรู้สึกแปลกๆ แบบนี้" แพรไหมถามพายุออกมา เมื่อเธอกำลังรู้สึกต้องการชายตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก
"ใจเย็นๆ นะน้องแพรไหม ไปห้องน้ำ" พายุพูดพร้อมกับเข้าไปพยุงแพรไหม เดินตรงไปยังห้องน้ำทันที เขาเองก็ไม่รู้ว่าการที่จะให้เธอนอนแช่น้ำในอ่าง จะช่วยบรรเทาฤทธิ์ของยานั้นหายไปได้หรือไม่ หากแพรไหมมีความต้องการ ตัวเขาเองนั้นคงยากที่จะยับยั้งชั่งใจ
พายุจับแพรไหมลงไปแช่ในอ่างกุชชี่ แต่ยาที่เขาผสมลงไปนั้นค่อนข้างแรง แววตาของหญิงสาวมองมาที่เขาอย่างเว้าวอน เธอทำท่าทีออดอ้อนจนเกินงาม แพรไหมคนเดิมได้หายไปจนสิ้น เมื่อเวลานี้สมองกับร่างกายของเธอกำลังขัดแย้งกัน ภายใต้จิตสำนึกบอกให้หญิงสาวพยายามยับยั้งชั่งใจ แต่ความต้องการแก่นกายจากชายตรงหน้ากลับทวีคูณ
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







