Se connecterปีพุทธศักราช2553
ณ มหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ คณะศิลปกรรมศาสตร์สาขาออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ มีนักศึกษากำลังจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องการรับน้องในวันพรุ่งนี้ สิ่งที่พวกเขารู้สึกและตื่นเต้น คือการได้เจอกับน้องใหม่สาวสวยหนุ่มหล่อ แน่นอนโดยเฉพาะกลุ่มเสือหนุ่ม พวกเขาตั้งตารอคอย อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ อยากเห็นหน้าน้องรหัสเต็มที ที่สำคัญพวกเขาทั้งสี่คนล้วนได้น้องรหัสเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น
เป้าหมายจึงมีไว้พุ่งชน เมื่อผู้หญิงแต่ละคนที่เข้ามาไม่เคยพ้นจากอุ้งมือเสืออย่างพวกเขาไปได้แม้แต่คนเดียว แถมพวกหล่อนยังชอบใจเสียด้วยเพราะผู้หญิงเหล่านั้นมักกลับมาให้พวกเขาขย้ำเป็นรอบที่สองซ้ำๆ วนๆ แลกกับเงินตรา ด้วยการบำเรอใช้ร่างกายปรนเปรอ อย่างไม่รู้จักคำว่าละอาย
สมาชิกในกลุ่มเสือหนุ่มหรือจะเรียกว่าแก๊งไทเกอร์ มีทั้งหมดสี่คน เรียงลำดับจากความหล่อและความรวย อันดับหนึ่งพายุหล่อและรวยสุด อันดับสองคือแบงก์ความหล่อไม่ต้องพูดถึงความรวยก็เช่นกัน อันดับสามคือกวินเสือผู้หญิงซุ่มกินเงียบ และอันดับสุดท้ายคือเก้าเขาไม่เคยหยุดนิ่งเรื่องผู้หญิงเหมือนกับชื่อของเขาก้าวไปเรื่อยๆ ไม่คิดจะหยุดที่ใครเช่นกัน พอๆ กับเพื่อนในแก๊งของเขา ที่มีปฏิภาณและอุดมการณ์เดียวกันทั้งสี่คน
"พวกมึงได้น้องรหัส มีแต่ชื่อลูกครึ่งสุดยอดไปเลย ทำไมกูถึงได้ชื่อเฉิ่มและเชยแบบนี้วะ" พายุหนุ่มหล่อสุดในกลุ่มทายาทเจ้าของบริษัทส่งออกผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่สำคัญเขาเป็นถึงเดือนคณะ ผู้ชายที่ไม่เคยสนใจและให้ความสำคัญกับผู้หญิงเลย นอกจากเรื่องบนเตียง ด้วยใบหน้าที่คมหล่อเหลา ผิวขาวราวกับไม่เคยต้องแสงแดดนัยน์ตาสีนิลผู้หญิงคนไหนที่จ้องมองผ่านเข้ามาในดวงตาของพายุ จะต้องรักและหลงราวกับต้องมนต์สะกดทุกราย
"แน่นอนของกูชื่อริต้า น้องเขาต้องสวยและเซ็กซี่แน่ๆ" แบงก์สมาชิกในกลุ่มอีกคนเอ่ยขึ้น ความหล่อความรวยไม่ต้องพูดถึง ถ้าเขาไม่มีฐานะที่ดีพอ คงไม่มีปัญญาเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้
"ของกูชื่อลูกพีชวะ ฟังแค่ชื่อกูก็อยากจะชิมใจจะขาดแล้ว น่ากินชะมัดเลย" กวินหนุ่มหล่อในกลุ่มอีกคนพูดขึ้น แน่นอนว่าเขาหวังจะชิมลูกพีชหากเธอเล่นด้วย แต่ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยไม่เคยปฏิเสธกวินเลยสักราย
"ของกูเชอรี่ ท่าทางจะเปรี้ยวหอมหวานเหมือนชื่อของเธอ กูก็หวังว่าจะได้ลองชิมสักครั้งเหมือนกัน รับรองจะกลับมาให้กูชิมทั้งต้น งานนี้อิ่มจนหนำใจกูแน่นอน" นั่นคือเสียงของเก้าสมาชิกคนที่สี่ของแก๊ง เป็นลูกชายคนเดียวของนักการเมือง เรื่องความหล่อความรวยมีอิทธิพลยกให้เขาเลย
แม้พวกเขาจะประกาศตัวว่าโสด แต่ละคนก็มีผู้หญิงควงเป็นประจำ แม้พวกเขาจะบอกว่าเป็นแค่คู่นอน แต่ผู้หญิงแก๊งนั้น พวกหล่อนก็ประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของบุรุษรูปงามทั้งสี่เช่นกัน จนบางครั้งก็ออกนอกหน้านอกตาจนเกินงาม แม้ว่าชายหนุ่มกลุ่มนี้จะทำเป็นไม่สนใจ แต่พวกเธอก็มักจะมีเรื่องตบตีกับคู่นอนคนอื่นๆ ของพวกเขาเสมอ
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







