Se connecterรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดในมหา'ลัยดัง คณะศิลปกรรมศาสตร์สาขาออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ เมื่อรถยนต์จอดสนิทคนขับรีบวิ่งลงมาจากรถ เพื่อเปิดประตูให้กับเจ้านายสาวสวย เมื่อเธอก้าวเท้าลงมาจากรถ กลุ่มนักศึกษาชายแก๊งไทเกอร์ ต่างจับจ้องมองตาไม่กะพริบ
สาวสวยจมูกโด่งตากลมโต ดูเหมือนเธอจะเป็นลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยว เมื่อหญิงสาวสูงขาว ใบหน้าที่ไร้เมคอัพนั้นกลับทำให้หนึ่งในเสือหนุ่มอย่างพายุถึงกับต้องตาตรึงใจ เพราะในมหา'ลัยแห่งนี้ มีผู้หญิงไม่กี่คน ที่กล้าโชว์หน้าสดมาเรียน แต่สำหรับหญิงสาวตรงหน้าแล้ว เธอไม่ต้องอาศัยเครื่องประทินโฉมใดๆ เลยแม้แต่น้อย มันกลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้พายุอยากเข้าไปค้นหาและลิ้มลอง รสสวาทจากหญิงตรงหน้าเหลือเกิน "ถึงกับน้ำลายหกเลยเหรอวะ ไอ้พายุ!" กวินเอ่ยแซวเพื่อนขึ้น เมื่อพายุถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ขณะที่หญิงตรงหน้ากำลังก้าวเท้าออกมาจากบริเวณที่จอดรถ ขาเรียวเสลา บวกกับใบหน้าขาวนวลผ่องดวงตากลมโต ในชุดนักศึกษาไม่สั้นไม่ยาว แต่กลับทำให้คนสวมใส่นั้นดูดี
"แสดงว่าเธอต้องเรียนคณะนี้แน่เลยวะ ใครที่ได้เป็นพี่รหัสโชคดีเป็นบ้าเลย" เก้าเอ่ยขึ้นขณะที่สายตายังจับจ้องไปที่หญิงสาว ที่เธอดูจะไม่ค่อยมั่นใจมองซ้ายมองขวา เหมือนจะเดินตรงมาที่พวกเขา
"เฮ้ย! เดินมาโน่นแล้วอ้าว! ทำไมเดินกลับวะ" แบงก์พูดออกมาพร้อมกับทำหน้าเสียดายที่เธอเดินกลับไป
สาเหตุที่เธอหยุดแล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถเหมือนเดิม นั่นไม่ใช่เพราะกลุ่มเสือพวกนั้น ในเมื่อเธอไม่เคยสนใจไยดีผู้ชายอยู่แล้ว ต่อให้หล่อราวกับเทพบุตรมายืนอยู่ตรงหน้า คนอย่างเธอก็ไม่มีทางที่จะสนใจเพราะจุดมุ่งหมายที่หญิงสาวมีไว้พุ่งชน นั่นคือการเป็นดีไซเนอร์ที่มีฝีมือระดับต้นๆ ของประเทศ นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการมากกว่าผู้ชาย
"คุณแพรไหมกลับมาทำไมครับ" ลุงชาตรีคนขับรถแพรไหมเอ่ยถามขึ้น เมื่อเธอเดินกลับมาถึงรถ
"แพรว่าเรามาเช้าไปหรือเปล่าคะ แพรขอนั่งรออยู่ในรถสักครู่นะคะลุง"
"ได้ครับเชิญครับคุณแพรไหม"
ลุงชาตรีเปิดประตูให้เจ้านายสาวเข้าไปนั่งรอในรถตามเดิม เพราะรถยังติดเครื่องเอาไว้และยังไม่ได้ปิดเครื่องปรับอากาศ จึงทำให้แพรไหมนั่งรออย่างใจเย็น เมื่อเธอมองไปที่ข้อมือเล็กเรียวที่ประดับด้วยนาฬิกาเรือนแพง เวลานี้เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าแน่นอนเธอมาเช้าเกินไป
"แค่รถที่นั่งมาก็กินขาดแล้วคนนี้กูจองนะเว้ย!" กวินที่จ้องตาไม่กะพริบพูดขึ้น ท่ามกลางบรรดาเพื่อนๆ ที่จ้องมองมาด้วยสายตาที่ไม่มีใครยอมใคร ต่างก็หวังที่จะได้หญิงสาวมาไว้ข้างกาย และแน่นอนที่สุดก็คือชายกลุ่มนี้หวังกับเธอแค่วันไนท์สแตนด์ เพราะพวกเขานั้นไม่คิดที่จะจริงจังกับใคร แม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะสะดุดตาสะดุดใจเพียงใดก็ตาม
แต่มีสายตาคมอีกคู่ ที่เวลานี้ไม่สามารถเดาได้ว่าเขาคิดอะไร สีหน้าที่ดูราบเรียบไม่ต่างอะไรจากชื่อของเขาพายุ แน่นอนพายุมักจะก่อตัวขึ้นก่อนที่มันจะโหมกระหน่ำลงมา หลายครั้งหลายคราที่ต้องพังพินาศ เพราะสาเหตุมาจากพายุที่รุนแรง ในขณะที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







