LOGINแพรไหมลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ และได้เวลากลับคอนโดแล้ว เธอต้องตกใจกับภาพของชายหนุ่มตรงหน้า ความหล่อเหลาของเขาที่มีนั้นไม่ได้ลดลงเลย เวลานี้พายุดูภูมิฐานในลุคของผู้ใหญ่ แต่แพรไหมก็ยังคงฝังใจกับเรื่องราวที่ผ่านมา ต่อให้เวลานี้เขาเป็นเทพบุตรที่ใครๆ ต่างยกย่อง
สำหรับเธอชายตรงหน้าก็เป็นได้แค่ซาตานอยู่ดี เมื่อสิ่งที่เขาทำไว้กับเธอนั้นมันเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงทรวง แผลที่เขาทำเอาไว้มันยังคงติดในใจไม่เคยลืม แพรไหมไม่รอช้ารีบเดินออกมาจากภัตตาคารหรู เธอตรงไปที่รถแล้วขับมันออกไปทันที ปล่อยให้พายุมองตามด้วยสายตาที่ฉายแววเป็นประกายด้วยความหวัง เมื่อเขากำลังคิดว่าจะต้องตามหาเธอให้เจอ และคราวนี้จะไม่ขอปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือไปอีกครั้งเป็นแน่
หลายวันผ่านไป แพรไหมยังคงไม่ได้ออกไปไหนเลย เธอยังคงอยู่ที่คอนโดเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย เมื่ออากาศที่เมืองไทยมันร้อนอบอ้าว จนเธอนั้นปรับตัวไม่ทัน แต่ก็มีชายหนุ่มมีนามว่าดนัย เขาเป็นหนุ่มหน้าตาดีที่ตามจีบแพรไหมมาหลายปี ตั้งแต่สมัยที่ไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน แต่เขาต้องผิดหวังเมื่อหญิงสาวนั้นปฏิเสธทุกครั้ง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้พัฒนาไปเป็นอื่นได้เลย เมื่อหญิงสาวยังคงเข็ดขยาดเรื่องผู้ชาย มีเพียงดนัยที่พยายามอยู่ฝ่ายเดียว และเขาก็ยังคงตั้งมั่นที่จะทลายกำแพงใจของแพรไหมให้ได้
"เป็นยังไงบ้างดีขึ้นไหมครับ..หืม" ดนัยถามออกมา พร้อมกับเอามืออังลงไปที่หน้าผากของหญิงสาว แต่แพรไหมกลับรีบขยับออกอย่างไว "เอ่อ..คือ..แพรดีขึ้นแล้วค่ะพี่ดนัย" หญิงสาวรีบพูดออกไป เพราะกลัวว่าชายหนุ่มตรงหน้านั้นจะเสียน้ำใจ เมื่อเขามาคอยดูแลเธอเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมา ดนัยก็ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเสมอต้นเสมอปลาย จนบางครั้งเธอก็แอบสงสารที่เขานั้นคาดหวังว่าจะได้เป็นแฟนกัน
"ข้าวต้มในชามทานให้หมดด้วยนะ พี่ทำสุดฝีมือเลยอร่อยหรือเปล่า" แพรไหมพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ออกไปอย่างฝืนใจ เมื่อเธอนั้นรู้สึกอึดอัด ในสิ่งที่ดนัยคอยเอาอกเอาใจ
"ฮัลโหล.." เด็กสาวน่ารักสดใส เปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมกับเอ่ยทักทาย ผู้เป็นมารดาเสียงดังมาก่อนตัว
"ใยไหมแม่บอกกี่ครั้งแล้ว ทำไมไม่รู้จักจำ โตเป็นสาวแล้ว อย่าให้ใครเขาว่าได้ เกิดเป็นคนไทย ไม่ว่าจะเติบโตที่ไหนก็รู้จักขนบธรรมเนียมตั้งแต่ดั้งเดิม ที่แม่สอนไม่เคยจำเลยใช่ไหม เรื่องมารยาทเนี่ย" แพรไหมร่ายยาว เอ็ดลูกสาวออกไปเสียจนเธอทำหน้าเอือมๆ
"โธ่มาดาม..ยุคไหนแล้ว" ใยไหมพูดพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ลงนั่ง โดยที่เธอนั้นไม่ได้สนใจผู้ชายตรงหน้า เพราะใยไหมไม่ชอบที่ดนัยมาข้องแวะกับมารดาของเธอ
"เจอผู้ใหญ่ต้องทำยังไง" แพรไหมพูดพร้อมกับทำหน้าดุใส่ลูกสาว เมื่อเธอนั้นไม่เคยจำ ในสิ่งที่ผู้เป็นมารดาคอยพร่ำสอนเลยสักนิด
"สวัสดีค่ะ คุณลุงดนัย" ใยไหมพูดออกไป พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้แบบขอไปที
"ลูกคนนี้นี่ ไม่รู้ว่าเอานิสัยแย่ๆ แบบนี้มาจากไหน" แพรไหมเอ็ดลูกสาวออกไปอีกครั้ง แต่ใยไหมกลับทำท่าทางลอยหน้าลอยตาเหมือนกบทองไม่รู้ร้อน
"สงสัยหนูจะได้เลือดพ่อมาเยอะมั้งค่ะ"
"ใยไหม!" คราวนี้แพรไหมตะคอกออกมาเสียงดัง เมื่อเธอไม่ชอบใจเวลาที่ใยไหมพูดถึงผู้เป็นบิดา ซึ่งเขานั้นไม่ได้เลี้ยงดูเธอมา แต่ใยไหมกลับพยายามทุกทาง ที่จะตามหาบิดาให้เจอ
"เรามีเรื่องต้องคุยกัน " แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย แต่ทว่าแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน ว่าเธอนั้นไม่ค่อยพอใจ เมื่อรู้ว่าใยไหมกำลังคิดจะทำอะไร
"ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวก่อนนะ" ดนัยพูดออกมาเมื่อสองแม่ลูก ต้องการเวลาส่วนตัว
"เชิญค่ะ สวัสดีค่ะ"
"ใยไหม! ทำไมถึงทำตัวเสียมารยาทแบบนี้" เมื่อดนัยเดินออกไปแล้ว แพรไหมได้พูดจาด้วยน้ำเสียงดุลูกสาวออกมาอีกครั้ง
"ก็หนูไม่ชอบเขานี่ค่ะแม่ คนอะไรตามติดชีวิตเรายังกับตังเม" ใยไหมพูดออกมา พร้อมกับชักสีหน้าไม่ชอบใจ ที่ดนัยชอบทำตัวเหมือนกับว่าตัวเขานั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของสองแม่ลูก
"แล้วนี่ออกไปไหนมา เราโตแล้วนะ ระวังตัวหน่อย ทุกวันนี้คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ" แพรไหมไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียว จะต้องมาพบเจอกับเรื่องร้ายๆ เพราะการเชื่อใจใครเหมือนกับเธอ
"หนูออกไปตามหาพ่อมาค่ะ
“ฮ่ะ! แม่บอกกี่ครั้งแล้วใยไหม ผู้ชายอย่างพายุเขาไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อของลูก มีแม่คนเดียวก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ" แพรไหมพยายามพูดออกมาอย่างใจเย็น เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เมื่อใยไหมคอยพร่ำถามหาแต่ผู้ชายที่เป็นบิดาของเธอ ตั้งแต่จำความได้ใยไหมก็ได้แต่เฝ้ารอ ว่าวันหนึ่งเธอจะต้องตามหาบิดาให้เจอ
"แม่ค่ะ หนูอยากเจอพ่อสักครั้ง หากเขาปฏิเสธไม่รับหนูหรือไม่ต้องการหนู หนูจะไม่พูดถึงเขาอีกเลยในชีวิตนี้ ตกลงนะคะมาดาม" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แน่นอนเด็กหญิงโหยหาผู้เป็นบิดามาตลอดระยะเวลาหลายปี ที่เธอนั้นจำความได้ เมื่อถึงเมืองไทยสิ่งแรกที่เธอตั้งใจจะทำ นั่นคือการได้ไปพบกับบิดาสักครั้ง ไม่ว่าคำตอบที่ได้นั้นจะเป็นยังไง เธอก็ได้ทำใจเอาไว้แล้ว
"ใยไหม หนูไม่ใช่ความผิดพลาดของแม่ หนูคือดวงใจที่แม่ปรารถนาให้เติบใหญ่ อยากให้หนูมีความสุขที่สุดในชีวิต อย่าได้เอาเรื่องน้อยนิดไปบั่นทอนจิตใจ เข้าใจไหมลูก" เด็กหญิงโผเข้ากอดผู้เป็นมารดาด้วยความรัก แม้เธอจะอายุเพียงแค่สิบขวบกว่า แต่ใยไหมก็มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากวัยรุ่นสิบสี่สิบห้า แม้แต่ความคิดของเธอก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
"เข้าใจค่ะมาดาม หนูรักมาดามสุดในโลกเลย" เสียงเจี๊ยวจ๊าวออดอ้อนผู้เป็นมารดา ซึ่งเด็กหญิงมักจะเรียกแพรไหมมารดาของเธอว่าว่ามาดามจนติดปาก
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







