LOGINหญิงสาวร่างเพรียวจมูกโด่งนัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวขาวยังกับไข่ปอก หุ่นเซ็กซี่ไม่แพ้นางแบบคนไหน เธอมาในชุดเดรสสีแดง พร้อมกับเปิดโชว์แผ่นหลัง ด้านหน้าคอเว้าลึกเผยให้เห็นอกตูมดูร้อนแรง เพื่อแสดงให้ชายตรงหน้าได้ประจักษ์ต่อสายตา
แต่พายุกลับเบื่อหน่าย เมื่อเขารู้สึกอิ่มตัวกับเรื่องพวกนี้เต็มทีแล้ว ชีวิตวัยรุ่นเขาได้ใช้ไปกับสาวๆ ที่พวกหล่อนบำเรอปรนเปรอเขาจนหนำใจ พอย่างเข้าเลขสามเขาเริ่มที่จะหยุดตัวเองไว้เพียงแค่นี้ ไม่อยากสานสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว
"คุณพายุ ขวัญโทรหาก็ไม่รับ เย็นนี้คุณป้าให้เราไปดินเนอร์กัน ขวัญเลยแวะมารับ ไปเถอะค่ะได้เวลาแล้ว" ขวัญดาวไม่พูดเปล่า หล่อนเบี่ยงตัวลงนั่งที่ตักของพายุ พร้อมกับเอามือคล้องไปที่ลำคอแกร่งของเขาเอาไว้อย่างมั่นอกมั่นใจ ในเสน่ห์ของตัวเอง
"คุณขวัญดาว เย็นนี้บอกแม่ด้วยผมไม่ว่าง มีงานด่วนเข้ามา ต้องคุยกับลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท" พายุพูดพร้อมกับเบี่ยงตัวเองออก แต่ขวัญดาวกลับพยายามเบียดแนบชิด จนแทบจะสิงร่างพายุได้อยู่แล้ว "คุณขวัญดาว ช่วยขยับออกไปด้วย คุณรู้หรือเปล่าเวลาที่คุณทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า โลกใบนี้มีผู้หญิงไม่กี่คน ที่ทำให้หัวใจของเต้นแรงได้นอกจาก..." พายุพูดค้างเอาไว้ เมื่อภายในหัวใจของเขานั้นยังมีใครบางคน ที่ยังคงตาตรึงอยู่ภายในใจ จนยากที่จะมีใครเข้ามาแทนเธอได้ ตราบจนทุกวันนี้
"นอกจากใครคะ คุณพายุตอบมานะ" ขวัญดาวดีดตัวลุกขึ้น พร้อมกับเอ่ยถามชายหนุ่มออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง จนพายุรู้สึกว่าเธออ่อนหวานเฉพาะเวลาที่อยากได้ในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น เมื่อโดนขัดใจหญิงสาวตรงหน้า มักแสดงกิริยาที่เขานั้นพอจะเดาได้ว่าเธอถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจจนเคยตัว
"ไม่มีอะไรหรอกผมขอตัวทำงานก่อน" พายุพร้อมกับจับจ้องไปที่จอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ด้วยแววตาที่มุ่งมั่น จนขวัญดาวรู้สึกขัดใจ เมื่อชายตรงหน้าหมางเมินใส่เธอแบบนี้ทุกครั้ง
"ถ้าคุณไม่ไปกับขวัญ ขวัญจะโทรฟ้องคุณป้าเดี๋ยวนี้ หลอกให้แต่งตัวเก้อแบบนี้ได้ยังไง" ขวัญดาวพูดจาโวยวายใส่พายุ เมื่อเธอจัดเต็มแต่งตัวสวยเพื่อไปดินเนอร์กับเขา แต่กลับถูกชายหนุ่มปฏิเสธโดยสิ้นเชิง "โอเคผมไปก็ได้ คุณรอไหวไหมล่ะอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ผมขอเคลียร์งานตรงนี้ก่อน" พายุพูดออกมาพร้อมกับหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความรู้สึกที่เอือมระอา เขาเบื่อหากเข้าบ้านแล้วถูกมารดาต่อว่า ก็เลยจะพาเธอไปดินเนอร์ให้มันจบๆ ไป
"แค่หนึ่งชั่วโมงขวัญก่อนรอได้ ให้รอไปทั้งชีวิตก็ยังได้เลย" ขวัญดาวพูดพร้อมกับยิ้มร่าออกมา ก่อนจะนั่งลงที่โซฟากว้าง สายตาของเธอทอดมองไปที่ร่างใหญ่ของชายตรงหน้าอย่างไม่วางตา เมื่อหล่อนกำลังจินตนาการว่าอีกไม่นานจะต้องได้เขามาแนบกาย
พายุยังคงนั่งทำงานต่อ เขาโฟกัสไปที่หน้าจอโดยไม่ได้มองกลับมาที่ขวัญดาวเลยแม้แต่น้อย เมื่อเวลานี้เขากำลังใช้ความคิด อีกไม่กี่วันหุ้นส่วนสามสิบเปอร์เซ็นต์ ที่ลงทุนร่วมกับบริษัทของเขา จะส่งนักออกแบบดีไซเนอร์ฝีมือดีมาช่วยงานที่บริษัท แน่นอนพายุไม่รู้ว่า คนที่จะมาร่วมงานนั้นจะมีความคิดต่างกันมากน้อยเพียงใด
เมื่อเธอนั้นจะมาอยู่ในตำแหน่งของผู้ช่วยเขาอย่างเป็นทางการ ชายหนุ่มก็ได้แต่หวังว่าจะสามารถร่วมงานกันได้อย่างลงตัว โดยที่ไม่มีปัญหาใดๆ ต้องขัดแย้งหรือเห็นต่างมากกว่าที่เขานั้นได้วางโปรเจกต์ทุกอย่างเอาไว้แล้ว
พายุเหลือบไปมองนาฬิกาเรือนแพงที่ข้อมือหนา เมื่อเวลาได้ล่วงเลยผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้ว เขายอมรับว่าขวัญดาวมีความพยายามที่จะรอเขามากจริงๆ ชายหนุ่มตัดสินใจปิดเครื่อง เพราะถึงยังไงวันนี้เขาคงหลีกเลี่ยงที่จะไม่ไปกับขวัญดาวไม่ได้แล้ว
"ไปกันเลยไหมคะคุณพายุ" เมื่อนับดาวเห็นชายหนุ่มลุกยืนขึ้น เธอรีบเดินมาคล้องแขนเขาในทันที วันนี้เธอจะต้องทำให้ชายตรงหน้าประทับใจ สมกับที่รอคอยเขามาเกือบชั่วโมง
"ไปสิ ร้านที่คุณแม่บอกไว้ใช่ไหม" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แต่ขวัญดาวกลับยิ้มแฉ่งด้วยความดีใจ เพราะรอชายหนุ่มตอบรับมาแสนนาน เมื่อเขาพยายามหลีกเลี่ยงนัดมาหลายหน จนขวัญดาวเกือบจะถอดใจไปแล้ว
"ใช่แล้วค่ะ คุณป้าได้จองโต๊ะไว้ให้เรียบร้อยแล้ว" ขวัญดาวพูดพร้อมคล้องแขนพายุเดินออกไปจากบริษัท แต่ก็ไม่มีใครอยู่ในออฟฟิศ เนื่องจากเวลานี้ล่วงเลยเวลางานมาเกือบจะชั่วโมงแล้ว ทุกคนได้เลิกงานกันหมดเหลือเพียงยามที่เฝ้าหน้าประตู
พายุได้ขับรถสปอร์ตคันหรูตรงมายังภัตตาคารดังของย่านนี้ แน่นอนที่นี่ เป็นแหล่งรวบรวมเหล่าบรรดาคนมีหน้ามีตาล้วนแต่ไฮโซทั้งนั้น
"เชิญเลยครับคุณพายุ คุณขวัญดาว" เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาด้านในพนักงานต้อนรับที่รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ได้เดินเข้ามาต้อนรับและเชื้อเชิญเดินเข้าไปยังโต๊ะอาหาร ที่จัดเตรียมเอาไว้อย่างสวยหรู และบรรยากาศช่างน่าประทับใจโรแมนติกจนพายุรู้สึกเอียน
มันช่างเป็นบรรยากาศที่น่าเบื่อสำหรับพายุเหลือเกินในเวลานี้ ในขณะที่ขวัญดาวพยายามเอาอกเอาใจเขาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการบริการเครื่องดื่มและอาหาร แต่พายุกลับไม่ชอบในสิ่งที่เธอทำให้เอาเสียเลย
"คุณพายุค่ะ ขวัญว่ามันถึงเวลาที่เราควรจะลงเอยกันได้แล้ว แต่งงานกับขวัญเถอะนะคะ" หญิงสาวพูดออกมาอย่างไม่อายปาก เมื่อเธอเป็นคนเอ่ยขอผู้ชายแต่งงาน ทั้งที่ชายหนุ่มนั้นไม่เคยแสดงท่าทีอะไรออกมาว่าชอบเธอเลยสักนิด
"ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ คุณขวัญดาว" พายุไม่อยากปฏิเสธและไม่อยากตอบเธอออกไป เพื่อถนอมน้ำใจหญิงสาวที่มารดาหามาให้ โดยที่เขานั้นไม่ได้ต้องการเธอเลยสักนิด
ในขณะที่พายุเดินออกมา เขากำลังจะเดินไปที่ห้องน้ำ เมื่อผ่านโต๊ะอาหารที่มีชายหญิงนั่งรับประทานเคียงคู่กัน ทำให้พายุนั้นถึงกับตกตะลึง เมื่อหญิงสาวตรงหน้าคือคนที่เขาตั้งตารอมาตลอดระยะเวลาสิบปี เธอดูสวยและเซ็กซี่ ผิดกับเมื่อคราวที่เป็นนักศึกษา ริมฝีปากอมชมพูแก้มสีแดงระเรื่อ
ใบหน้าที่แต่งแต้มเอาไว้เพียงเล็กน้อย แต่กลับทำให้แพรไหมนั้นดูดี เสียจนพายุไม่อยากละสายตา พ้นไปจากใบหน้างามของหญิงสาวตรงหน้าได้ เวลานี้ชายหนุ่ม อยากจะถามไถ่ถึงเหตุผลที่เธอหายไปจากมหา'ลัย อย่างไร้ร่องรอย เมื่อสิบปีก่อน
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







