LOGINชายหนุ่มกับมอยเซนหน้าตาไม่เหมือนกันเลย มีแต่ดวงตาที่เป็นสีเขียวอมเทาเหมือนกันผมหันหน้าไปมองมอยเซนด้วยอาการแข็งทื่อ “พี่ชายคุณ?”เขาพยักหน้า“ซูหนานเป็นคนรักของพี่ชายฉัน”“ช่วงก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนงอนกัน แล้วพี่ชายฉันก็ต้องบินไปจัดการโปรเจกต์ใหญ่ที่ต่างประเทศพอดี ถึงได้ให้ฉันช่วยดูแลนิดหน่อย”“ที่ซื้อภาพหงส์คู่โบยบินก็รูดเอาจากบัตรพี่ชายฉันนั่นแหละ”พอพูดถึงท่อนสุดท้าย บั้นท้ายของผมก็ถูกบีบอย่างแรงสายตาของมอยเซนเองก็เปลี่ยนเป็นอันตรายเป็นพิเศษ“โกรธโดยที่ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด แถมยังหนีออกจากบ้าน นายว่า ฉันควรลงโทษนายยังไงดี?”หน้าผมเต็มไปด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอ่อนี่มัน ในหนังสือต้นฉบับไม่ได้เขียนไว้แบบนี้สักหน่อย!มองคนสองคนที่กำลังกอดจูบกันแล้ว จังหวะการหายใจของมอยเซนก็ค่อย ๆ เร็วขึ้น“พวกนายสองคนไสหัวไปเลย กลิ่นฟีโรโมนเหม็นจะตายชัก!”เช้าตรู่ของวันสุดท้ายก่อนจะสิ้นสุดข้อตกลงพี่ชายของมอยเซนหอบทั้งภาพทั้งซูหนานกลับไปส่วนผม สุดท้ายก็เลือกที่จะใส่ปลอกคอนั่นมอยเซนถูกกลิ่นฟีโรโมนที่ซูหนานกับคนรักแผ่ออกมายั่วจนให้รัต มันจึงเป็นการเคี่ยวกรำที่ดุเดือดยิ่งกว่าครั้
ในปากเขาถูกสายรัดปากอุดเอาไว้ อยากจะร้องขอความช่วยเหลือก็ทำไม่ได้โชคดีที่ตอนผมหนีออกมาจากวิลล่าได้เอา ‘ของเล่น’ มีราคาที่ฝังทองกับฝังเพชรใส่กระเป๋ามาด้วยจำนวนหนึ่งเดิมทีเตรียมจะแงะมันออกมา แบบนี้จะขายง่ายกว่าใครจะไปคิดว่าได้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นแทนในที่สุดมอยเซนก็ได้สติกลับมา เขาสาวเท้ายาวเกี่ยวเอวผมมากอดผมยังโมโหไม่หาย เลยมอบฝ่ามือให้เขาทีหนึ่งเสียง ‘เพียะ’ ดังชัดแจ๋ว อากาศพลันหยุดนิ่งไปชั่วขณะตอนที่รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ผมถึงกับตัวแข็งทื่อไปหมด ทำคอแข็งไม่กล้าหันกลับไปมองเขาทว่าวินาทีต่อมา มอยเซนกลับก้มหน้าลงแล้วเข้ามาใกล้หลังหูของผม“ขอโทษ”หัวใจผมสั่นสะท้านในทันที เขากำลังขอโทษผมเหรอ?“เจ้าของที่ทำหมาน้อยหายน่ะแย่สุด ๆ เลย”ผมรีบสะบัดขาไปด้านหลังจะเตะเขาใครเป็นหมาของเขา!“ที่รัก...อย่าไปเลยนะ”ผมที่กำลังเตะต่อยอยู่ถึงกับหยุดชะงักไปทันที ใบหน้าที่ไม่ยินยอมถึงกับเห่อร้อนขึ้นมาบางส่วน“คุณปล่อยผมลงก่อน ผมยังซัดเขาไม่หนำใจ”น้ำเสียงของมอยเซนเย็นเยียบขึ้นเล็กน้อย“อย่าแตะของโสโครก”เท้าทั้งสองข้างเพิ่งแตะพื้น มือก็ถูกเขาดึงไปลูบพลางเช็ดเบา ๆพอถูกขัดจังหว
เมื่อผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็ต้องพบว่าตนเองกำลังอยู่ในห้องแปลกตาห้องหนึ่ง“ตื่นเร็วดีนี่”ผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อเชิ้ตลายดอกทั้งยังปลดกระดุมออกเสียกว้างกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามผมครั้นเห็นรอยสักหมาป่าบนหน้าอกของเขา ผมก็รู้ทันทีว่าคนคนนี้คือใครฉายาหลางซาน เป็นคู่แค้นคู่อาฆาตทางธุรกิจสถานบันเทิงยามค่ำคืนของมอยเซนเพียงแต่สถานบันเทิงที่อยู่ในสังกัดของเขาสกปรกโสมมเป็นอย่างยิ่งในนิยายต้นฉบับเล่าไว้ หนหนึ่งที่มอยเซนกับซูหนานระเบิดอารมณ์มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงคือซูหนานจากมาอารมณ์โกรธ ผลคือถูกหลางซานฉวยโอกาสจับตัวไปจุดประสงค์เพื่อต้องการบีบบังคับมอยเซนให้ยอมสละพื้นที่ทางธุรกิจหลางซานกวาดสายตามองตัวผมครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งเจ้าเล่ห์ทั้งน่าขยะแขยง“คิดไม่ถึงจริง ๆ เลยแฮะ คนอย่างมอยเซนที่ไม่เห็นหัวคนอื่นแบบนั้นจะตกอยู่ในมือของเบต้าคนหนึ่งได้”ผมทั้งโมโหทั้งร้อนใจ ปฏิเสธออกไปทันที“เขาไม่ได้ชอบฉันสักหน่อย... แค่เห็นฉันเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น!”หลางซานหัวเราะเยาะเหยียดหยาม“จ่ายเงินซื้อเพชรไปหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านเพื่อเอาอกเอาใจของเล่นชิ้นหนึ่งให้ดีใจเนี่ยนะ นายเห็นมอยเซนโง่หร
ชั่วพริบตาถัดมาก็ถูกเขาบีบแขนพลิกกดลงบนเตียงผมร้องไห้เศร้าเสียใจไปพลาง ปากแข็งไปพลาง“ฮ่า ๆ คุณคิดว่าคนทั้งโลกจะหลงคุณจะเป็นจะตายกันหมดหรือไง?”“ยังจะเป็นครูฝึกมือทองอีก ขนาดผมเองคุณยังปราบไม่ได้เลย ฉวยจังหวะเกษียณมันตั้งแต่เนิ่น ๆ เถอะคุณน่ะ!”แรงบนตัวกดลงมาอีกอย่างแรง แล้วอยู่ ๆ ก็ปล่อยออกสิบวินาทีหลังจากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังอย่างรุนแรงมอยเซนออกไปแล้วผมหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่งปลอกคอฝังเพชรสีเหลืองทอประกายอยู่พักหนึ่ง มันช่วยดึงความคิดของผมกลับมาผมเดินไป แล้วเก็บมันขึ้นมาทื่อ ๆ พลางกำไว้ในมือแน่นของที่ให้ผมแล้ว ทำไมจะไม่เอาละถึงอย่างไร ผมก็คิดไว้นานแล้วว่าจะเอาไปขายแล้วก็หนีคืนที่สามก่อนถึงวันสุดท้าย มอยเซนไม่กลับวิลล่าคืนวันที่สองก่อนถึงวันสุดท้าย เขายังคงไม่อยู่เหมือนเคยผมเก็บข้าวของจนกระเป๋าสะพายตุง เตรียมพร้อมหนีแล้วในวิลล่ามีบอดี้การ์ดที่มอยเซนทิ้งไว้อยู่สองคน ผมเลยไปหาซูหนาน“ฉันอยากยืมเสื้อผ้ากับหมวกของนายชุดหนึ่ง”เขาถามผมด้วยอารมณ์สองจิตสองใจว่าผมทะเลาะกับมอยเซนใช่หรือเปล่า“ตั้งแต่คืนนั้น คุณมอยเซนก็ไม่ยิ้มเลยนะครับ”ผ
กลับถึงวิลล่าก็ใกล้จะห้าทุ่มแล้ว ผมอาบน้ำเสร็จด้วยความรวดเร็วก็ลงไปนอนบนเตียงผ่านไปไม่กี่นาที ความรู้สึกว่าที่นอนยุบลงไปเล็กน้อยก็ส่งมาจากด้านหลังท่อนแขนเรียวมีกำลังโอบอยู่บนเอวของผม บนหลังคอรับรู้ได้ถึงสัมผัสเบา ๆ ที่เหมือนจะมีแต่เดี๋ยวก็เหมือนจะไม่มี“ฝันดีนะ”อันที่จริงผมก็นับถือมอยเซนไม่น้อยนะ เพราะเขาเสแสร้งแกล้งทำได้ถึงบทบาทเกินไปเว้นเสียแต่มีธุระรัดตัวจนปลีกตัวไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะกลับมาส่งผมเข้านอนที่นี่แน่นอนอย่างกับพวกเราเป็นคู่รักกันจริง ๆอ้อมกอด จุมพิต การพะเน้าพะนอบอกฝันดีเบา ๆ พวกนี้ มันทำให้คนเข้าใจผิดว่าตัวเองถูกรักได้ง่ายเหลือเกินความจริงถ้าเขาไม่ได้มีลูกเล่นมากมายขนาดนี้ ผมก็ยังกลัวอยู่เลยว่าตัวเองจะถลำลึกลงไปจริง ๆทว่าเมื่อถึงยามค่ำคืน ทันทีที่เห็นเขาล้วงแส้และของเล่นต่าง ๆ นานาออกมา ผมก็ยอมจำนนยามกลางวัน เมื่อเห็นซูหนานกับภาพหงส์คู่โบยบินของบรรพบุรุษตระกูลซู ผมก็ได้สติขึ้นมาไม่น้อยระยะห่างจากเวลาหนึ่งเดือนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆคืนวันที่หกก่อนถึงวันสุดท้าย มอยเซนอยากกอดผม แต่ถูกผมปฏิเสธ“ผมไม่สบาย ไม่มีอารมณ์”ผมคิดนะ ว่าถ้าเขาใช้ไม้แข็งก็จะพ
ผมมองกระจกแล้วตบแก้มเบา ๆเอาละ นี่แหละถึงจะเป็นผม ไม่ได้สวยหรือหน้าตาดีอย่างซูหนานขนาดนั้นผมชื่อเหอหมี เป็นแค่คนที่ปกติที่สุดในหมู่โอตาคุนับหมื่นในงานประมูล ผมกับซูหนานนั่งขนาบอยู่ข้างซ้ายข้างขวางของมอยเซนบนเวทีนำของสะสมออกมาแสดงไม่ขาดสายทั้งแบบใหม่เอย แบบเก่าเอย แบบแอบสแตรกค์อะไรพวกนี้เอย ผมนี่ฟังแล้วก็ง่วงเหงาหาวนอนซูหนานกลับดูเพลิดเพลิน แววตาเขาเปล่งประกาย ทั้งยังออกความเห็นบ้างเป็นบางครั้ง“ภาพนี้ คืออาจารย์ดาวินชี!”ผมถึงกับสะดุ้งตื่นทันทีสุดยอดเลย ของแบบนี้ก็ยังเอาออกมาประมูลได้?ไม่ใช่ว่าควรเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อะไรเทือกนั้นเหรอ“เป็นผลงานชิ้นเอกของหลานชายคนโตของน้าคนรองของพี่สาวคนที่เจ็ดของอาจารย์ดาวินชี”มอยเซนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเอ่ยชมซูหนาน“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านายจะมีความรู้ทางศิลปะลึกซึ้งไม่เบา”ซูหนานแย้มยิ้มไม่เผยฟัน แล้วว่าชมกันเกินไปแล้วน้าเล็กของเขาเป็นอาจารย์ศิลปะในสถาบันศิลปะลอนดอน แค่ได้ยินผ่านหูมาบ้างเท่านั้น……คุณจะพูดอะไรนี่พูดจบให้ครั้งเดียวไม่ได้หรือไง?มอยเซนหันหน้ามา แล้วโน้มตัวลงมาหาผมเล็กน้อย“ไม่มีอะไรที่สนใจเลย? ถ้านาย