แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: หวังหนิวตุ้น
น้ำเสียงนี้มันเหมือนกับตะขอแหลมที่เกี่ยวกระชากให้หัวใจกระตุก

ผมเพิ่งคิดจะหันไป ก็ถูกมือสองข้างบีบไหล่เอาไว้โดยไม่ทันตั้งตัว บังคับให้ผมหันหน้าเข้ากำแพงต่อ

ความร้อนแผ่ซ่านมาจากแผ่นหลังไม่หยุด ผมรับรู้ได้ว่าคนที่อยู่ด้านหลังนั้นตัวสูงกว่าผมไม่น้อยเลยทีเดียว

ผมก้มหน้า ริมฝีปากระเบา ๆ อยู่บริเวณปลายผม ทั้งลมหายใจก็รินรดอยู่แถวหู

ผมถึงกับขนลุกขนชัน อดใจไม่ไหวอยากจะเบี่ยงศีรษะออก

มือที่อยู่บนไหล่ซ้ายผละออก ก่อนจะเปลี่ยนมากดขมับของผมไว้ด้วยสองนิ้วมือ เป็นอีกครั้งที่ผมถูกจำกัดการเคลื่อนไหว

“จับได้แล้ว”

ชั่วขณะนั้น น้ำเสียงน่าหลงใหลแปรเปลี่ยนเป็นงูพิษตัวหนึ่ง

ราวกับว่ามีลิ้นงูกำลังไล้เลียอยู่ตามติ่งหูของผมจริง ๆ

ผมค่อย ๆ เหลือบตาขึ้นช้า ๆ เห็นใบหน้าของชายหนุ่มด้านหลังจากเงากระจกทรงกลมโบราณที่ติดอยู่ทางมุมบนขวามือ

เขาเหมือนกับเดาได้ว่าผมจะแอบมองจากเงากระจก เลยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ผมกับเขาสบตากันผ่านกระจก

ดวงตาสีเขียวอมเทานั้นเหมือนหมาป่าในยามค่ำคืน

มันแฝงไปด้วยรอยยิ้มอันโหดเหี้ยม

“คิดได้หรือยังว่าตัวเองจะตายยังไงดี?”

คุณพี่ครับ ผมขอเตือนคุณพี่ไว้เลยนะ

ว่าให้รีบปล่อยผมเดี๋ยวนี้

ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีปัญญาคุกเข่าโคกหัวยอมรับผิดให้คุณพี่แน่ ๆ จริง ๆ นะ

แทบจะชั่วพริบตาที่แน่ใจเรื่องผู้ชายที่อยู่ข้างหลัง ผมก็ยอมรับผิดเป็นบ้าเป็นหลังอย่างไม่เหลือศักดิ์ศรี

“คืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น จริง ๆ นะ!”

“ถ้าคุณยังไม่หายโกรธก็ต่อมผมซักยกได้เลย แต่อย่าให้ตายก็พอ!”

เหลือชีวิตน้อย ๆ ของผมไว้หน่อย ขอบคุณครับ

มอยเซนถึงกับชะงักไปสองวินาทีเพราะท่าทางของผม

จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา

ดูจากสีหน้าแล้ว น่าจะถูกผมทำให้โมโหจนหัวเราะออกมานั่นแหละ

“รู้หรือเปล่าว่าแส้ฉันราคาเท่าไร? ยังคิดจะเอาเปรียบอีก?”

จริงด้วย ลืมเรื่องอาชีพของเขาไปเลย

“ผมหมายความว่าการถูกอัดจริง ๆ ไม่ ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น...”

ชายหนุ่มปล่อยมือออก ถอยกลับไปนั่งลงบนโซฟาหนังแท้ตัวกว้าง

“มานี่”

ผมรีบหมุนตัวไปทันที แล้วซอยเท้าเคลื่อนตัวไปตรงหน้าเขา

จากที่เหลือบ ๆ เห็นด้วยหางตา ผมเห็นว่าในมือเขากำแส้สีดำ ๆ น้ำตาล ๆ ไว้เส้นหนึ่งจริง

ผมตกใจจนก้มหน้างุดทันที ไม่กล้ามองส่งเดชอีก

“คุกเข่า”

ผมกำชายเสื้อแน่นสุดชีวิต ไม่ขยับเขยื้อนอยู่ครึ่งค่อนวัน

ไม่อย่างนั้นเขาจะว่ากันได้ยังไง ว่า อ่านหนังสือเป็นหมื่นเล่มก็ไม่สู้ลงมือทำดูน่ะ

ปกติแล้วผมอ่านนิยายออนไลน์ได้โรคจิตกว่าใครทั้งนั้น พอมาเจอเข้าจริง ๆ ก็แทบอยากจะแจ้งความ!

สายตาของชายหนุ่มดูอันตรายขึ้นมาทันที

“อย่าให้ฉันต้องพูดเป็นครั้งที่สอง”

ผมกัดฟัน แล้วคุกเข่าลงไปทันที

แหะ ๆ พรมหนาจะตาย ไม่ค่อยเจ็บ

ผมก้มหน้า ปล่อยความคิดฟุ้งซ่านหัวเราะคิกคัก

จนกระทั่งคางถูกแส้เหนียวเชยขึ้น

“ข้อมูลเกี่ยวกับตัวนายตลอดทั้งสัปดาห์นี้ รวมถึงกล้องวงจรปิดทุกตัวของเย่จุ้ย ฉันได้ดูมันหมดแล้ว”

“จิตใจนายเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับตัวฉัน มาที่นี่ก็ไม่เคยเรียกตัวใครมาเล่นด้วยเลย เพียงเพื่อเฝ้ารอฉันคนเดียว วันนี้ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้เปลี่ยนใจเสียล่ะ หืม?”

สมองแล่นอย่างรวดเร็ว ผมแสร้งเผยสีหน้าปลงตกออกมาอย่างทีเล่นทีจริง

“คุณเป็นถึงอัลฟาที่ยอดเยี่ยมเก่งกาจขนาดนี้ ส่วนผมก็แค่เบต้าธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ไม่ควรเพ้อฝันถึงคุณอยู่แล้ว!”

“ดังนั้นผมก็เลยกลับเนื้อกลับใจ แก้ไขกลับตัว จะกลับตัวกลับใจก็ยังไม่สาย!”

ฮี่ ๆ ขอแค่เป็นมนุษย์ก็ชอบการถูกยกยอปอปั้นกันทั้งนั้นแหละ

พูดไปขนาดนี้แล้วไม่มีทางผิดพลาดแน่ ผมนี่มันฉลาดจริง ๆ

ใครจะไปคิดว่ามอยเซนจะทำหน้าทะมึนในชั่วพริบตา

“ยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้ หรือว่าความรักของนายจะมีค่าต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้?”

หา?

ประสาท!

ทำไมตาคนนี้ถึงได้ไม่เล่นตามเกมละเนี่ย

คงเป็นเพราะสีหน้าของผมไปสร้างความบันเทิงให้อีกฝ่าย มอยเซนถึงได้หัวเราะออกมาเบา ๆ

“น่าสนใจนี่ นายนี่ต่างจากเหอหมีที่ฉันเห็นผ่านเอกสารกับกล้องวงจรปิดเป็นคนละคนเลย”

คุณผู้ชาย ผมคงไม่ได้ไปกระตุกต่อมความสนใจของคุณเข้าหรอกใช่ไหม?

อย่าเด็ดขาดเชียวนา คุณมีโอเมก้าตัวน้อยตัวจริงของคุณอยู่นะ!

“ถอดเสื้อผ้าซะ”

ผมเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ตรง ๆ แบบนี้เลย? ผมยังไม่ได้เตรียมตัวเลย

พอเห็นคิ้วของมอยเซนขมวดขึ้นมาแล้ว ผมก็ไม่กล้ายั่วโมโหเขาจริง ๆ

นี่มันเป็นโลกในนิยายนะ ใครจะรู้ว่าผมอาจจะถูกฆ่าปิดปากก็ได้ ฮือ ๆ ๆ

เหยียดขาน้อย ๆ ที่คุกเข่าจนชานิดหน่อย แล้วผมก็เขยิบไปด้านหน้าสองสามก้าว

ประจันหน้ากับตรงส่วนใหญ่โตที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้ของมอยเซนอย่างพอดิบพอดี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 11

    ชายหนุ่มกับมอยเซนหน้าตาไม่เหมือนกันเลย มีแต่ดวงตาที่เป็นสีเขียวอมเทาเหมือนกันผมหันหน้าไปมองมอยเซนด้วยอาการแข็งทื่อ “พี่ชายคุณ?”เขาพยักหน้า“ซูหนานเป็นคนรักของพี่ชายฉัน”“ช่วงก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนงอนกัน แล้วพี่ชายฉันก็ต้องบินไปจัดการโปรเจกต์ใหญ่ที่ต่างประเทศพอดี ถึงได้ให้ฉันช่วยดูแลนิดหน่อย”“ที่ซื้อภาพหงส์คู่โบยบินก็รูดเอาจากบัตรพี่ชายฉันนั่นแหละ”พอพูดถึงท่อนสุดท้าย บั้นท้ายของผมก็ถูกบีบอย่างแรงสายตาของมอยเซนเองก็เปลี่ยนเป็นอันตรายเป็นพิเศษ“โกรธโดยที่ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด แถมยังหนีออกจากบ้าน นายว่า ฉันควรลงโทษนายยังไงดี?”หน้าผมเต็มไปด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอ่อนี่มัน ในหนังสือต้นฉบับไม่ได้เขียนไว้แบบนี้สักหน่อย!มองคนสองคนที่กำลังกอดจูบกันแล้ว จังหวะการหายใจของมอยเซนก็ค่อย ๆ เร็วขึ้น“พวกนายสองคนไสหัวไปเลย กลิ่นฟีโรโมนเหม็นจะตายชัก!”เช้าตรู่ของวันสุดท้ายก่อนจะสิ้นสุดข้อตกลงพี่ชายของมอยเซนหอบทั้งภาพทั้งซูหนานกลับไปส่วนผม สุดท้ายก็เลือกที่จะใส่ปลอกคอนั่นมอยเซนถูกกลิ่นฟีโรโมนที่ซูหนานกับคนรักแผ่ออกมายั่วจนให้รัต มันจึงเป็นการเคี่ยวกรำที่ดุเดือดยิ่งกว่าครั้

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 10

    ในปากเขาถูกสายรัดปากอุดเอาไว้ อยากจะร้องขอความช่วยเหลือก็ทำไม่ได้โชคดีที่ตอนผมหนีออกมาจากวิลล่าได้เอา ‘ของเล่น’ มีราคาที่ฝังทองกับฝังเพชรใส่กระเป๋ามาด้วยจำนวนหนึ่งเดิมทีเตรียมจะแงะมันออกมา แบบนี้จะขายง่ายกว่าใครจะไปคิดว่าได้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นแทนในที่สุดมอยเซนก็ได้สติกลับมา เขาสาวเท้ายาวเกี่ยวเอวผมมากอดผมยังโมโหไม่หาย เลยมอบฝ่ามือให้เขาทีหนึ่งเสียง ‘เพียะ’ ดังชัดแจ๋ว อากาศพลันหยุดนิ่งไปชั่วขณะตอนที่รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ผมถึงกับตัวแข็งทื่อไปหมด ทำคอแข็งไม่กล้าหันกลับไปมองเขาทว่าวินาทีต่อมา มอยเซนกลับก้มหน้าลงแล้วเข้ามาใกล้หลังหูของผม“ขอโทษ”หัวใจผมสั่นสะท้านในทันที เขากำลังขอโทษผมเหรอ?“เจ้าของที่ทำหมาน้อยหายน่ะแย่สุด ๆ เลย”ผมรีบสะบัดขาไปด้านหลังจะเตะเขาใครเป็นหมาของเขา!“ที่รัก...อย่าไปเลยนะ”ผมที่กำลังเตะต่อยอยู่ถึงกับหยุดชะงักไปทันที ใบหน้าที่ไม่ยินยอมถึงกับเห่อร้อนขึ้นมาบางส่วน“คุณปล่อยผมลงก่อน ผมยังซัดเขาไม่หนำใจ”น้ำเสียงของมอยเซนเย็นเยียบขึ้นเล็กน้อย“อย่าแตะของโสโครก”เท้าทั้งสองข้างเพิ่งแตะพื้น มือก็ถูกเขาดึงไปลูบพลางเช็ดเบา ๆพอถูกขัดจังหว

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 9

    เมื่อผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็ต้องพบว่าตนเองกำลังอยู่ในห้องแปลกตาห้องหนึ่ง“ตื่นเร็วดีนี่”ผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อเชิ้ตลายดอกทั้งยังปลดกระดุมออกเสียกว้างกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามผมครั้นเห็นรอยสักหมาป่าบนหน้าอกของเขา ผมก็รู้ทันทีว่าคนคนนี้คือใครฉายาหลางซาน เป็นคู่แค้นคู่อาฆาตทางธุรกิจสถานบันเทิงยามค่ำคืนของมอยเซนเพียงแต่สถานบันเทิงที่อยู่ในสังกัดของเขาสกปรกโสมมเป็นอย่างยิ่งในนิยายต้นฉบับเล่าไว้ หนหนึ่งที่มอยเซนกับซูหนานระเบิดอารมณ์มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงคือซูหนานจากมาอารมณ์โกรธ ผลคือถูกหลางซานฉวยโอกาสจับตัวไปจุดประสงค์เพื่อต้องการบีบบังคับมอยเซนให้ยอมสละพื้นที่ทางธุรกิจหลางซานกวาดสายตามองตัวผมครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งเจ้าเล่ห์ทั้งน่าขยะแขยง“คิดไม่ถึงจริง ๆ เลยแฮะ คนอย่างมอยเซนที่ไม่เห็นหัวคนอื่นแบบนั้นจะตกอยู่ในมือของเบต้าคนหนึ่งได้”ผมทั้งโมโหทั้งร้อนใจ ปฏิเสธออกไปทันที“เขาไม่ได้ชอบฉันสักหน่อย... แค่เห็นฉันเป็นของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น!”หลางซานหัวเราะเยาะเหยียดหยาม“จ่ายเงินซื้อเพชรไปหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านเพื่อเอาอกเอาใจของเล่นชิ้นหนึ่งให้ดีใจเนี่ยนะ นายเห็นมอยเซนโง่หร

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 8

    ชั่วพริบตาถัดมาก็ถูกเขาบีบแขนพลิกกดลงบนเตียงผมร้องไห้เศร้าเสียใจไปพลาง ปากแข็งไปพลาง“ฮ่า ๆ คุณคิดว่าคนทั้งโลกจะหลงคุณจะเป็นจะตายกันหมดหรือไง?”“ยังจะเป็นครูฝึกมือทองอีก ขนาดผมเองคุณยังปราบไม่ได้เลย ฉวยจังหวะเกษียณมันตั้งแต่เนิ่น ๆ เถอะคุณน่ะ!”แรงบนตัวกดลงมาอีกอย่างแรง แล้วอยู่ ๆ ก็ปล่อยออกสิบวินาทีหลังจากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังอย่างรุนแรงมอยเซนออกไปแล้วผมหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่งปลอกคอฝังเพชรสีเหลืองทอประกายอยู่พักหนึ่ง มันช่วยดึงความคิดของผมกลับมาผมเดินไป แล้วเก็บมันขึ้นมาทื่อ ๆ พลางกำไว้ในมือแน่นของที่ให้ผมแล้ว ทำไมจะไม่เอาละถึงอย่างไร ผมก็คิดไว้นานแล้วว่าจะเอาไปขายแล้วก็หนีคืนที่สามก่อนถึงวันสุดท้าย มอยเซนไม่กลับวิลล่าคืนวันที่สองก่อนถึงวันสุดท้าย เขายังคงไม่อยู่เหมือนเคยผมเก็บข้าวของจนกระเป๋าสะพายตุง เตรียมพร้อมหนีแล้วในวิลล่ามีบอดี้การ์ดที่มอยเซนทิ้งไว้อยู่สองคน ผมเลยไปหาซูหนาน“ฉันอยากยืมเสื้อผ้ากับหมวกของนายชุดหนึ่ง”เขาถามผมด้วยอารมณ์สองจิตสองใจว่าผมทะเลาะกับมอยเซนใช่หรือเปล่า“ตั้งแต่คืนนั้น คุณมอยเซนก็ไม่ยิ้มเลยนะครับ”ผ

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 7

    กลับถึงวิลล่าก็ใกล้จะห้าทุ่มแล้ว ผมอาบน้ำเสร็จด้วยความรวดเร็วก็ลงไปนอนบนเตียงผ่านไปไม่กี่นาที ความรู้สึกว่าที่นอนยุบลงไปเล็กน้อยก็ส่งมาจากด้านหลังท่อนแขนเรียวมีกำลังโอบอยู่บนเอวของผม บนหลังคอรับรู้ได้ถึงสัมผัสเบา ๆ ที่เหมือนจะมีแต่เดี๋ยวก็เหมือนจะไม่มี“ฝันดีนะ”อันที่จริงผมก็นับถือมอยเซนไม่น้อยนะ เพราะเขาเสแสร้งแกล้งทำได้ถึงบทบาทเกินไปเว้นเสียแต่มีธุระรัดตัวจนปลีกตัวไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะกลับมาส่งผมเข้านอนที่นี่แน่นอนอย่างกับพวกเราเป็นคู่รักกันจริง ๆอ้อมกอด จุมพิต การพะเน้าพะนอบอกฝันดีเบา ๆ พวกนี้ มันทำให้คนเข้าใจผิดว่าตัวเองถูกรักได้ง่ายเหลือเกินความจริงถ้าเขาไม่ได้มีลูกเล่นมากมายขนาดนี้ ผมก็ยังกลัวอยู่เลยว่าตัวเองจะถลำลึกลงไปจริง ๆทว่าเมื่อถึงยามค่ำคืน ทันทีที่เห็นเขาล้วงแส้และของเล่นต่าง ๆ นานาออกมา ผมก็ยอมจำนนยามกลางวัน เมื่อเห็นซูหนานกับภาพหงส์คู่โบยบินของบรรพบุรุษตระกูลซู ผมก็ได้สติขึ้นมาไม่น้อยระยะห่างจากเวลาหนึ่งเดือนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆคืนวันที่หกก่อนถึงวันสุดท้าย มอยเซนอยากกอดผม แต่ถูกผมปฏิเสธ“ผมไม่สบาย ไม่มีอารมณ์”ผมคิดนะ ว่าถ้าเขาใช้ไม้แข็งก็จะพ

  • คอร์สอบรมหลังทะลุมิติมาเป็นเบต้า   บทที่ 6

    ผมมองกระจกแล้วตบแก้มเบา ๆเอาละ นี่แหละถึงจะเป็นผม ไม่ได้สวยหรือหน้าตาดีอย่างซูหนานขนาดนั้นผมชื่อเหอหมี เป็นแค่คนที่ปกติที่สุดในหมู่โอตาคุนับหมื่นในงานประมูล ผมกับซูหนานนั่งขนาบอยู่ข้างซ้ายข้างขวางของมอยเซนบนเวทีนำของสะสมออกมาแสดงไม่ขาดสายทั้งแบบใหม่เอย แบบเก่าเอย แบบแอบสแตรกค์อะไรพวกนี้เอย ผมนี่ฟังแล้วก็ง่วงเหงาหาวนอนซูหนานกลับดูเพลิดเพลิน แววตาเขาเปล่งประกาย ทั้งยังออกความเห็นบ้างเป็นบางครั้ง“ภาพนี้ คืออาจารย์ดาวินชี!”ผมถึงกับสะดุ้งตื่นทันทีสุดยอดเลย ของแบบนี้ก็ยังเอาออกมาประมูลได้?ไม่ใช่ว่าควรเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อะไรเทือกนั้นเหรอ“เป็นผลงานชิ้นเอกของหลานชายคนโตของน้าคนรองของพี่สาวคนที่เจ็ดของอาจารย์ดาวินชี”มอยเซนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเอ่ยชมซูหนาน“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านายจะมีความรู้ทางศิลปะลึกซึ้งไม่เบา”ซูหนานแย้มยิ้มไม่เผยฟัน แล้วว่าชมกันเกินไปแล้วน้าเล็กของเขาเป็นอาจารย์ศิลปะในสถาบันศิลปะลอนดอน แค่ได้ยินผ่านหูมาบ้างเท่านั้น……คุณจะพูดอะไรนี่พูดจบให้ครั้งเดียวไม่ได้หรือไง?มอยเซนหันหน้ามา แล้วโน้มตัวลงมาหาผมเล็กน้อย“ไม่มีอะไรที่สนใจเลย? ถ้านาย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status