Short
พ่ายรักกลลวง

พ่ายรักกลลวง

Oleh:  ฉันว่าลมมาTamat
Bahasa: Thai
goodnovel4goodnovel
10Bab
14Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

นายเอก: ประธานบริษัทผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมงดงามและเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล ทว่ากลับสวมเกราะแห่งความสุขุมและเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ภายใต้มาดที่ยากจะเข้าถึง เขาโคจร มาพบกับ พระเอก: นิสิตหนุ่มผู้มีอายุน้อยกว่า ซึ่งเปี่ยมไปด้วยเล่ห์กลและมารยาอันแยบยล พร้อมทั้งซ่อนเจตจำนงร้ายไว้ภายใต้รอยยิ้มที่ดูไร้เดียงบริสุทธิ์ ซ่งเหวินจิ่ง ชายหนุ่มผู้ยืนหยัดในความเป็นชายชาตรีมาตลอดระยะเวลาสองทศวรรษเต็ม ทว่าทุกสิ่งพลันแปรผันบิดเบือนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อชะตาลิขิตให้เขาเผลอไผลร่วมเตียงกับพี่ชายของเพื่อนสนิทอย่างไม่คาดคิด เขาพันธนาการตัวเองด้วยเนคไทของฉือเส่าอวี่อย่างจงใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเส่าเย้ายวนว่า "พี่ พี่ก็รู้ดีว่าผมไม่เคยมีแฟนมาก่อน"

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทที่ 1

ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง บนเตียงกว้างภายในห้องนั้น ทุกอย่างถูกคลุกเคล้าจนยับยู่ยี่ ไร้ซึ่งความเรียบร้อยจนไม่เหลือเค้าเดิม ราวกับเพิ่งพัดผ่านมรสุมมาอย่างดุเดือด

ร่างของซ่งเหวินจิ่งทรุดนั่งลงอย่างเลื่อนลอยอยู่บริเวณริมเตียง สายตาของเขาจับจ้องไปยังเหล่าถุงยางอนามัยที่ถูกใช้แล้ว ซึ่งทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วทุกมุมห้อง มันเป็นการตอกย้ำถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เพิ่งผ่านพ้นไป

เกิดอะไรขึ้น? เขาไปนอนกับใครมา?

เนื่องจากฤทธิ์สุราจากเมื่อคืนยังคงหลงเหลืออยู่ ทำให้ตอนนี้เขาเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงจนแทบสิ้นสติ ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนนั้นพร่าเลือนจนไม่สามารถจับต้นชนปลายได้เลย

ทว่า ภาพเพียงเสี้ยววินาทีที่ผุดแวบเข้ามาในห้วงความคิดนั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้เขามั่นใจอย่างหนักแน่นว่า คนที่เกลือกกลิ้งร่วมเตียงกับเขาตลอดค่ำคืนที่ผ่านมานั้น เป็นเพศชาย

แถมเขายังมั่นใจอีกว่าตัวเองอยู่ในบทบาทฝ่ายรุกอย่างแน่นอน เพราะเขายังจำเสียงหวานยั่วยวนที่แสนเร้าอารมณ์ชวนหลงใหลของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

ขณะที่เขากำลังรวบรวมสติที่กระจัดกระจายอยู่ จู่ ๆ เสียงเรียกเข้าจากเพื่อนสนิทก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันให้ได้ตั้งตัว

“พี่ชายกูกลับมาแล้วนะ ไม่ใช่ว่ามึงเอาแต่บ่นหาหรือไง?”

ในช่วงที่ซ่งเหวินจิ่งพักอยู่อาศัยร่วมชายคาเดียวกับฉือไป๋ ณ บ้านตระกูลฉือ ทำให้เขาได้สัมผัสและรู้สึกสนใจในตัวพี่ชายผู้ปราดเปรื่องเรื่องธุรกิจของเพื่อนเป็นพิเศษ

“เออ ๆ เดะกูรีบจัดการตัวเองแล้วไปเดี๋ยวนี้แหละ” ซ่งเหวินจิ่งพูดพลางจับขมับตัวเองเพื่อประคองสติ

จังหวะที่เขาลุกขึ้นยืนเพื่อพาร่างตนเองลงจากเตียง ฝ่าเท้าของเขาก็เหยียบเข้ากับวัตถุบางอย่าง ทำให้ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นเข้าสู่ปลายประสาท จนต้องเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

เมื่อเขาก้มลงหยิบขึ้นมาดู จึงพบว่าเป็นกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดหนึ่งที่หลุดร่วง ซึ่งเป็นร่องรอยสำคัญที่ตอกย้ำถึงความเร้าร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

ราวกับมีบางสิ่งดลใจให้เขาต้องหยิบกระดุมเม็ดนั้นใส่กระเป๋าเสื้อ ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลฉือ

ทันทีที่ฉือไป๋ลากซ่งเหวินจิ่งไปแนะนำตัวให้กับฉือเส่าอวี่ สีหน้าของซ่งเหวินจิ่งก็แปรเปลี่ยนเป็นความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

แม้จะเป็นการพบกันครั้งแรก ทว่าเขากลับรู้สึกว่าองค์ประกอบต่าง ๆ บนโครงหน้าของอีกฝ่ายช่างคุ้นตาอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับเงาของใครบางคนที่เคยประทับอยู่ในห้วงความทรงจำ

ดวงตาของฉือเส่าอวี่เต็มไปด้วยประกายรอยยิ้มอันเปี่ยมเสน่ห์ เขายื่นมือไปหาซ่งเหวินจิ่งพร้อมทั้งกล่าวว่า “ฉือไป๋พูดถึงนายให้ฟังเป็นประจำเลย ยินดีมาก ๆ ที่ในที่สุดก็ได้เจอกันนะ”

ซ่งเหวินจิ่งจ้องมองไปยังมืออันเรียวขาวของอีกฝ่ายที่ยื่นออกมา ปลายแขนเสื้อนั้นรั้งขึ้น เผยให้เห็นรอยแดงช้ำที่ยังคงประทับอยู่บนข้อมืออย่างชัดเจน

ภาพเหตุการณ์ที่กระจัดกระจายก็พลันผุดวาบขึ้นมาโจมตีในห้วงความคิด เขาก็เคยกอบกุมข้อมือลักษณะนี้ไว้ พร้อมทั้งช่วงชิงจุมพิตอันแสนเร่าร้อน

จนกระทั่งฝ่ามือของเขาถูกบีบกระชับเบา ๆ จากอีกฝ่าย ซ่งเหวินจิ่งจึงได้สติตื่นจากภวังค์ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ พี่ฉือ” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความลับบางอย่างไว้ภายใต้แววตาคู่นั้น

ฉือเส่าอวี่คลายมือจากเขาอย่างนุ่มนวล ก่อนจะหมุนตัวหันหลังเตรียมก้าวขึ้นสู่ชั้นบน พร้อมกล่าวว่า “พอดีมีธุระต้องจัดการที่ห้องนิดหน่อย เดี๋ยวขอตัวก่อนนะ”

การก้าวเดินของฉือเส่าอวี่นั้นดูผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

แม้จะฝืนทนทำตัวปกติและพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่ซ่งเหวินจิ่งก็มองทะลุปรุโปร่งได้ในชั่วพริบตา

ซ่งเหวินจิ่งชำเลืองมองฉือไป๋แวบหนึ่ง ซึ่งอีกฝ่ายกำลังทิ้งตัวจมอยู่บนโซฟาตัวนุ่มเพื่อเล่นเกมอย่างสบายอารมณ์

ถึงเวลาที่เขาต้องพิสูจน์บางสิ่งบางอย่างให้แน่ชัด

ซ่งเหวินจิ่งเดินไปหยุดที่หน้าห้องของฉือเส่าอวี่ และตัดสินใจเคาะบานประตูเพื่อเป็นการส่งสัญญาณ

เมื่อได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของอีกฝ่ายแล้ว ซ่งเหวินจิ่งอดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้ม และเอ่ยต่อไปว่า “พี่ฉือพอดีผมเอาของมาคืนน่ะครับ”

ภายใต้การจับจ้องของฉือเส่าอวี่ เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเพื่อหยิบกระดุมเม็ดนั้นออกมา

เสื้อเชิ้ตของฉือเส่าอวี่ถูกวางแผ่อยู่บนเตียง ดูท่าทางแล้ว เขาน่าจะกำลังจะจัดการทิ้งมันเสียแล้ว

“ยังหาเจอมันอีกเหรอ? พี่นึกว่ามันขาดกระเด็นหายไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วซะอีก” ฉือเส่าอวี่ฉีกยิ้มอย่างมีเลศนัย “พี่เตรียมเข็มกับด้ายไว้แล้ว นายช่วยซ่อมเสื้อตัวนั้นให้หน่อยสิ”

ซ่งเหวินจิ่งถึงกับชาวาบไปทั้งตัว เมื่อตระหนักได้ว่า ถึงแม้เรื่องเมื่อคืนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ฉือเส่าอวี่ก็รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่า เขาคือใคร!

“เป็นอะไรไป?” ฉือเส่าอวี่เคลื่อนตัวขยับเข้ามาประชิด พร้อมทั้งใช้แขนทั้งสองข้างวางบนโต๊ะเพื่อโอบล้อมพื้นที่ เป็นการกักขังซ่งเหวินจิ่งไว้ในอาณาเขตของวงแขน

“ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่ามันเป็นฝีมือนาย คิดจะชักดาบไม่ยอมรับผิดงั้นเหรอ?”
Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya
Tidak ada komentar
10 Bab
บทที่ 1
ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง บนเตียงกว้างภายในห้องนั้น ทุกอย่างถูกคลุกเคล้าจนยับยู่ยี่ ไร้ซึ่งความเรียบร้อยจนไม่เหลือเค้าเดิม ราวกับเพิ่งพัดผ่านมรสุมมาอย่างดุเดือดร่างของซ่งเหวินจิ่งทรุดนั่งลงอย่างเลื่อนลอยอยู่บริเวณริมเตียง สายตาของเขาจับจ้องไปยังเหล่าถุงยางอนามัยที่ถูกใช้แล้ว ซึ่งทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วทุกมุมห้อง มันเป็นการตอกย้ำถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เพิ่งผ่านพ้นไปเกิดอะไรขึ้น? เขาไปนอนกับใครมา?เนื่องจากฤทธิ์สุราจากเมื่อคืนยังคงหลงเหลืออยู่ ทำให้ตอนนี้เขาเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงจนแทบสิ้นสติ ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนนั้นพร่าเลือนจนไม่สามารถจับต้นชนปลายได้เลยทว่า ภาพเพียงเสี้ยววินาทีที่ผุดแวบเข้ามาในห้วงความคิดนั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้เขามั่นใจอย่างหนักแน่นว่า คนที่เกลือกกลิ้งร่วมเตียงกับเขาตลอดค่ำคืนที่ผ่านมานั้น เป็นเพศชายแถมเขายังมั่นใจอีกว่าตัวเองอยู่ในบทบาทฝ่ายรุกอย่างแน่นอน เพราะเขายังจำเสียงหวานยั่วยวนที่แสนเร้าอารมณ์ชวนหลงใหลของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งขณะที่เขากำลังรวบรวมสติที่กระจัดกระจายอยู่ จู่ ๆ เสียงเรียกเข้าจากเพื่อนสนิทก็ดังขึ้นอย่างไม่ทันให้ได้ตั้งตัว
Baca selengkapnya
บทที่ 2
เสียงของฉือเส่าอวี่กระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาทว่าเนื้อความในประโยคนั้นกลับเต็มไปด้วยแรงกดดัน การตัดพ้อ และความคับข้องใจ ราวกับกำลังใช้เหยื่อล่อซ่งเหวินจิ่งทอดสายตาลงมองต่ำ และในจังหวะนั้นเอง สายตาของเขาก็เล็ดลอดเข้าไปใต้ปกเสื้อของอีกฝ่ายเผยให้เห็นรอยฟันที่ฝังลึกบริเวณต้นคอ พลันความทรงจำก็ย้อนกลับเข้ามา เขาจำได้ดีว่า ตอนที่เขาขบเม้มลงไปฉือเส่าอวี่ถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความรู้สึกออกมาซ่งเหวินจิ่งอดคิดไม่ได้ว่า ภายใต้เสื้อผ้าตัวนี้ยังมีร่องรอยหลักฐานความผิดของตนที่ได้ฝากไว้อยู่อีกมากน้อยเพียงใดเมื่อความคิดของเขาถูกอ่านออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ฉือเส่าอวี่จึงใช้มือเพียงข้างเดียวในการปลดกระดุมเสื้อออกอย่างช้า ๆ ปลายนิ้วเลื่อนไล้จากรอยจูบบนลำคอลงไปสู่รอยช้ำสีม่วงเข้มบริเวณทรวงอก“อยากดูให้ชัด ๆ ไหม?” เขาพูดพลางแสยะยิ้ม “ตอนนี้มันยังเจ็บอยู่เลยนะ”ทุกครั้งที่กระดุมเสื้อดีดตัวหลุดออกจากรังดุม หัวใจของซ่งเหวินจิ่งพลันเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งจนผิดจังหวะ การหายใจของเขาก็ขาดห้วงและติดขัดอย่างไม่อาจควบคุมความสงบไว้ได้ก่อนหน้าเมื่อคืน เขาเคยเชื่อมั่นมาตลอดว่าตัวเองคือชายแท้ทว่าความงามของชายหน
Baca selengkapnya
บทที่ 3
ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงนำสิ่งของชิ้นนี้ติดตัวกลับมาด้วยทว่าความรู้สึกขอบคุณพลันผุดขึ้นในใจ ช่างโชคดีจริง ๆ ที่มันกลับมีประโยชน์ในสถานการณ์ตอนนี้ร่างกายของฉือเส่าอวี่แข็งค้าง มีเพียงมือที่สั่นระริกให้เห็นอย่างบางเบา เขาเบนหน้าหนีคนตรงหน้าไปทางอื่น “เดี๋ยว ไม่ได้ คืนนี้พี่มีนัดคุยธุรกิจ ต้องไปเตรียมตัวแล้ว”“มีธุระ แต่ยังมีเวลามาโปรยเสน่ห์เนี่ยนะ” ซ่งเหวินจิ่งก้มลงต่ำ ก่อนจะเริ่มฝังเขี้ยวฝากร่องรอยไว้บนลำคอด้านข้างของอีกฝ่ายอย่างจงใจหนึ่งครั้งหอมเหลือเกิน กลิ่นกายบนเรือนร่างของฉือเส่าอวี่หอมหวนอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้ความรู้สึกพลุ่งพล่านดวงตาของซ่งเหวินจิ่งฉายแววแห่งความมืดมัว เต็มไปด้วยอันตรายและแรงปราถนาที่ซ่อนเร้นเขาคลายมือออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะผละถอยหลังออกไปสองก้าวสิ่งของนั้นยังคงถูกเขากุมไว้ที่ปลายนิ้ว พร้อมกับรอยยิ้มที่เผยออกมา “ไว้ตอนเย็นผมไปรับพี่นะครับ”หลังจากที่ทั้งสองได้แลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อเรียบร้อยแล้ว ซ่งเหวินจิ่งจึงได้ล่วงรู้ถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงธุรกิจของฉือเส่าอวี่สายลมยามค่ำคืนพัดโชยมาอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนตลอดเส้นทางที่ซ่งเหวินจิ่งมุ่งหน้
Baca selengkapnya
บทที่ 4
“พี่ฉือ พี่ขี่หลังผมดีกว่าครับ” ซ่งเหวินจิ่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มมนวลและแผ่วเบา “ถ้าฝืนขับรถกลับไปตอนนี้ พี่คงไม่สบายตัวแย่เลย”ฉือเส่าอวี่ตอบรับในลำคอด้วยเสียงต่ำอย่างอิดโรย “อืม... ขอบคุณนะ”ซ่งเหวินจิ่งแบกฉือเส่าอวี่ไว้บนแผ่นหลังของตนอย่างระมัดระวัง แล้วก้าวเดินไปตามท้องถนนอย่างหนักแน่นมั่นคง ไออุ่นจากการหอบหายใจที่แผ่วเบาของฉือเส่าอวี่ ดังคลอเคลียรินไหลแนบชิดอยู่ข้างใบหูความใกล้ชิดนี้เอง ทำให้ซ่งเหวินจิ่งรู้สึกอิ่มเอมใจ ความรู้สึกเอ่อท้วมอยู่ในห้วงหัวใจอย่างไม่อาจพรรณนาได้ทันทีที่กลับมาถึงบ้านสกุลฉือแล้ว ซ่งเหวินจิ่งยังคงเฝ้าดูแลปรนนิบัติฉือเส่าอวี่ไม่ห่างตลอดทั้งคืนเดิมทีฉือไป๋จะตั้งใจจะเข้ามาช่วยดูแลด้วย ทว่าสุดท้าย ก็ถูกซ่งเหวินจิ่งปฏิเสธและกีดกันออกไปเสียก่อนเมื่อฉือเส่าอวี่ได้สติและลืมตาตื่นขึ้น ภาพแรกที่ปรากฏในสายตา คือ ซ่งเหวินจิ่งผู้ยังคงนั่งเฝ้าไม่ห่างอยู่ข้างเตียง ไม่ยอมขยับไปไหนแม้จะมีร่องรอยบาดแผลการต่อสู้ปรากฏอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลานั้น แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาให้เห็นได้ชัดเด่นยิ่งกว่า คือร่องรอยแห่งความอ่อนล้า และความหมองคล้ำใต้ดวงตาที่บ่งบอกว่าถึงการอดหลับ
Baca selengkapnya
บทที่ 5
ท้ายที่สุดแล้วในอดีต เฉินเว่ยได้กระทำพฤติกรรมอันน่ารังเกียจและสร้างความเดือดร้อนในลักษณะนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จึงไม่แปลกใจเลยที่เขาจะมีศัตรูคู่อริอยู่มากมายรายล้อมหลังจากเหตุการณ์นี้ ความสัมพันธ์ระหว่างฉือเส่าอวี่กับซ่งเหวินจิ่งจึงก้าวข้ามเส้นแบ่ง และพัฒนาเข้าสู่ช่วงที่ลึกซึ้งและคลุมเครือมากขึ้นไปอีกซ่งเหวินจิ่งทุ่มเทเอาใจใส่ฉือเส่าอวี่อย่างหนัก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นแม่บ้านแม่เรือนในตัวของตนเองยกตัวอย่างเช่น ทุกครั้งที่ฉือเส่าอวี่เลิกงานกลับถึงบ้าน ก็มักจะเห็นซ่งเหวินจิ่งสวมผ้ากันเปื้อนยืนทำอาหารอย่างขะมักเขม้นอยู่ในครัวเสมอ“พี่ฉือกลับมาได้จังหวะเลยนะครับ ผมเพิ่งทำอาหารเสร็จพอดี”ซ่งเหวินจิ่งทราบดีว่า โดยปกติแล้ว ฉือเส่าอวี่มักจะไม่ทานอาหารมื้อเย็นแต่จะปล่อยให้ร่างกายว่างเปล่าแบบนี้ได้อย่างไรกัน? การละเลยอาหารเย็นเช่นนี้จะทำให้ร่างกายทรุดโทรมเสียสุขภาพเอาได้ฉือเส่าอวี่ยอมจำนนต่อความทุ่มเทอย่างหนักของซ่งเหวินจิ่ง นับแต่นั้นมา ทุกค่ำคืนหลังเลิกงาน เขาต้องยอมให้ซ่งเหวินจิ่งดูแลประคบประหงมอย่างใกล้ชิดซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน ไปจนถึงกิจวัตรอื่น ๆ ที่ลึกซึ
Baca selengkapnya
บทที่ 6
เสิ่นเฉิงปิดบานประตูลงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ก่อนจะหันไปเอ่ยว่า “เจ้าหมอนั้นร้ายไม่ใช่เล่นเลยนะ"ฉือเส่าอวี่ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง แล้วคว้าเสื้อสูทมาวางพาดไว้บนบ่า“กูรู้” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉือเส่าอวี่เดินทางไปชมการแข่งขันบาสเกตบอลที่ซ่งเหวินจิ่งลงแข่งขันถึงขอบสนนามตามที่ได้ให้สัญญาเอาไว้ในระหว่างที่ก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้ซ่งเหวินจิ่ง เขาจงใจแสดงท่าทีที่สื่อการอ้างสิทธิ์ในตัวอีกฝ่ายอย่างแนบเนียนเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ซ่งเหวินจิ่งโดดเด่นและเป็นที่นิยมชมชอบมากในหมู่นักศึกษาของรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้“ดื่มน้ำสักหน่อยนะ” ฉือเส่าอวี่ยื่นขวดน้ำที่คลายฝาพร้อมดื่มให้กับซ่งเหวินจิ่งซ่งเหวินจิ่งยิ้มรับก่อนจะเอ่ยถามว่า “ผมเก่งไหม?”ฉือเส่าอวี่เอื้อมมือขึ้นไปปาดเช็ดหยาดเหงื่อที่ไหลซึมบนใบหน้าขาวเนียนซึ่งอมแดงระเรื่อให้เขาอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะพูดชมอีกฝ่าย “เก่งสิ สมแล้วที่เป็นเจ้าหนุ่มบ้าพลัง”ซ่งเหวินจิ่งชะงักงันไปครู่หนึ่ง เขากำลังสับสนว่า อัตราการเต้นของหัวใจที่กระหน่ำรัวเช่นนี้ มีสาเหตุมาจากสิ่งใดกันแน่เป็นผลมาจากการออกกำลัง
Baca selengkapnya
บทที่ 7
“พอเถอะครับ พอก่อน ประธานฉือดื่มไปมากพอสมควรแล้ว ขอทุกท่านโปรดให้เกียรติผมสักหน่อย ให้ประธานฉือได้หยุดพักบ้างเถอะนะครับ”ชายวัยกลางคนผู้เอ่ยถ้อยคำนี้ คือเจ้าภาพใหญ่ของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้เอง เขาเอ่ยปากห้ามปรามกลุ่มคนที่กำลังคะยั้นคะยอเหล่านั้น ด้วยน้ำเสียงที่ประนีประนอม นุ่มนวลแต่เด็ดขาดดวงตาคู่คมกริบที่เต็มไปด้วยความเจนจัด เผยรอยยิ้มอย่างรู้ทัน“ประธานฉือครับ ผมได้จัดเตรียมห้องพักไว้ให้แล้วด้านบน เชิญไปพักผ่อนสักครู่นะครับ รอให้สร่างเมาสักหน่อย”เรื่องนี้ รู้สึกไม่ชอบมาพากลเอาซะเลย !ซ่งเหวินจิ่งหรี่ดวงตาลง ขณะที่สมองกำลังแล่นเพื่อประมวลผลข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับชายวัยกลางคนผู้ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงคนนั้นอย่างฉับไวทุกคนต่างรู้ว่า ลูกชายของเจ้านั่นสำมะเลเทเมา มีพฤติกรรมหื่นกาม ไม่มีทางที่ฉือเส่าอวี่จะไม่รู้ถึงเรื่องราวของคนพวกนั้นทว่า ฉือเส่าอวี่กลับยอมทำตามและยอมขึ้นไปยังชั้นบนซ่งเหวินจิ่งรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจอย่างรุนแรงราวกับมีก้อนอากาศอุดแน่นอยู่ในลำคอ เขารีบส่งสัณญาณเรียกลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาทันทีทันใด“จัดการไอ้คุณชายไร้ประโยชน์ของตระกูลเซี่ยนั้นซะ อัดมันให้หม
Baca selengkapnya
บทที่ 8
เมื่อซ่งเหวินจิ่งเคลื่อนตัวสวมกอดร่างบางของฉือเส่าอวี่ไว้อย่างแนบแน่นทันทีที่เห็นเขาลืมตาตื่น พร้อมทั้งเอาศีรษะที่เต็มไปด้วยเส้นผมถูไถไปที่ซอกคอของอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน“พี่ บอกผมได้ไหมว่าตอนนี้เราอยู่ในสถานะอะไรกัน?”ฉือเส่าอวี่รู้สึกระคายเคืองที่ลำคอเล็กน้อยเนื่องจากการถูกใช้งานมาอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง จากการที่ฉือเส่าอวี่ปล่อยให้ซ่งเหวินจิ่งกระทำตามความต้องการของตัวเองตลอดสองวันเต็ม ส่งผลให้สภาพทั่วร่างของเขาโดยรวมแทบจะไม่มีส่วนที่ดีเหลืออยู่เลย“เหวินจิ่ง” เขาเอ่ยอย่างแผ่วเบาด้วยความอ่อนล้า “การยืนยันความสัมพันธ์นั้น ควรเริ่มต้นด้วยการสารภาพรักและการมอบช่อดอกไม้สวย ๆ ”“ไม่ใช่อย่างที่เป็นอยู่นี้ ที่เริ่มต้นมาจากการร่วมเตียงกัน”ซ่งเหวินจิ่งตอบกลับด้วยเสียงที่อู้อี้ติดขัด “พี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูหมิ่นพี่เลยนะ”เขานั้นเพียงแค่ใจร้อนมากเกินไป และมีความปรารถนาที่จะได้ครอบครองคนตรงหน้าอย่างสุดหัวใจสำหรับซ่งเหวินจิ่งแล้ว ฉือเส่าอวี่มีค่าเกินกว่าจะประมาณได้“พี่รู้” ฉือเส่าอวี่ตอบพลางลูบกลุ่มผมของเขาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ถอนตัวออกจากอ้อมกอดร่องรอยสีช้ำที่ปรากฏอยู่ทั่วร่า
Baca selengkapnya
บทที่ 9
ภายในห้องนั้น ชายหนุ่มสวมเพียงเสื้อผ้าโปร่งบางสีดำ เรือนกายกำยำสมส่วนถูกพันธนาการด้วยเชือกสีแดงฉาน ปลายเชือกถูกผูกเป็นโบว์ขนาดใหญ่ ห้อยระย้าอยู่บริเวณท้ายทอยของเขาและยังมีโบว์อีกหนึ่งอันอยู่ที่ข้อมือของซ่งเหวินจิ่งสิ่งที่ใช้ผูกรัดข้อมือทั้งสองข้างนั้นไว้ ไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่เป็นเนคไทของฉือเส่าอวี่นั่นเอง!ซ่งเหวินจิ่งโค้งดวงตาขึ้นเป็นรอยยิ้ม แล้วเอ่ยเสียงหวาน “พี่ สุขสันต์วันเกิดนะครับ”“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ”ภายในห้องถูกเนรมิตให้เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดจนล้นหลาม ชายหนุ่มผู้ซึ่งถูกจัดเตรียมให้เป็นของขวัญ ยืนอยู่ท่ามกลางอุทยานดอกไม้เหล่านั้น“เด็กหนุ่มสมัยนี้ชอบเล่นลูกเล่นแบบนี้กันหรือ?” ฉือเส่าอวี่ยกมุมปากเผยรอยยิ้มออกมา ใบหน้าของเขาแจ่มใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สายตาของเขากวาดมองพรมดอกไม้ที่เต็มไปด้วยหลากสีสัน ดอกไม้ทุกกิ่งก้านที่ถูกจัดวางในห้องนี้ล้วนเป็นพันธุ์ที่เขาชื่นชอบ“นี่ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น” ซ่งเหวินจิ่งประสานสายตาเขา ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงใจ “นี่คือความรู้สึกที่มาจากข้างใน”“ผมรักพี่อย่างจริงใจ”จังหวะการเต้นของหัวใจฉือเส่าอวี่กระหน่ำรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อ
Baca selengkapnya
บทที่ 10
“เดี๋ยวก่อน ไม่ต้องแล้ว” พ่อฉือเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ ริมฝีปากสั่นเทา “ให้เขาได้นอนพักไปก่อนเถอะ”ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสามจะอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์กลมเกลียวซ่งเหวินจิ่งก็เชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นทว่า เมื่อฉือเส่าอวี่ก้าวเดินออกมาจากห้อง และได้ประจักษ์กับภาพแห่งความอบอุ่นนี้ เขาถึงกับหยุดชะงักฝีเท้าไปโดยอัตโนมัติ“พ่อ แม่ ทำไมจู่ ๆ ถึงกลับบ้านไม่บอกไม่กล่าวกันเลย” คุณพ่อฉือแสดงสีหน้าไม่สู้ดีนัก “ตอนแรกก็ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ลูก” เขามองไปยังซ่งเหวินจิ่ง ก่อนจะปิดเปลือกตาลงด้วยความท้อแท้สิ้นหวัง“แต่ไม่นึกเลยว่า พ่อกลับเป็นฝ่ายโดนเซอร์ไพรส์ซะเอง”ฉือเส่าอวี่ทรุดตัวลงนั่งข้างซ่งเหวินจิ่งอย่างเป็นธรรมชาติ“เซอร์ไพรส์อะไรครับ? นี่แฟนของผมเอง ซ่งเหวินจิ่ง” ฉือเส่าอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “ผมยังไม่มีโอกาสได้แนะนำเลย คงทำให้ตกใจแย่เลยใช่ไหมครับ” “ไม่เป็นไร ดีมากเลย” คุณพ่อฉือตอบกลับด้วยสีหน้าที่เหม่อลอยดูจากอาการของคุณพ่อแล้ว ก็ทราบได้ทันทีว่า ความรู้สึกท่านถูฏโจมตีอย่างหนักหน่วงเลยทีเดียวฉือเส่าอวี่จึงต้องหันไปขอแรงสนับสนุนจากแม่ “แม่ครับ” คุณแม่
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status