Home / โรแมนติก / คาถาพันธุ์ / บทที่ 3 ถุงยาง

Share

บทที่ 3 ถุงยาง

Author: inglada
last update Last Updated: 2025-06-06 17:46:02

เมื่อถึงตลาดคณิกาก็เดินลงรถตามหลังคาถาลงไป ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ตอบคำถามของเขาซึ่งเหมือนเขาก็ไม่ได้อยากฟังคำตอบนั้นจากเธอสักเท่าไหร่ ดวงตากลมโตของคณิกามองชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้ามองไปมองมาจู่ๆ ก็หลุดยิ้มออกมาซะงั้น

คาถาเป็นผู้ชายที่หล่อตามฉบับนักธุรกิจหนุ่ม แม้อายุจะสามสิบนิดๆ แต่รูปร่างหน้าตายังคงดูดีมีภูมิฐาน ที่สำคัญเขาไม่ถือเนื้อถือตัวเลยสักนิด ดูจากการมาเดินตลาดด้วยท่าทางชิลล์ๆ ไม่มีความรังเกียจกลิ่นคาวของปลาหรือเนื้อสัตว์เลยแม้แต่น้อย

ยิ่งตอนที่เขายืนเลือกไก่ย่างด้วยตัวเองมันยิ่งทำให้คณิการู้สึกถูกใจเขากว่าก่อนหน้าที่จะเจอกันอีก เธอเคยคิดว่าผู้ชายที่หล่อมีเงิน มีธุรกิจส่วนตัวมากมาย มีหน้ามีตาในสังคมจะต้องเย่อหยิ่งไม่ลดตัวลงมาทำอะไรแบบนี้ คนแบบนั้นอาจจะมีเป็นส่วนมากแต่มันก็ไม่ใช่กับเขา

“ผมชอบนะครับเวลาที่คุณมองผมด้วยแววตาที่หลงใหลแบบนั้น” คาถาที่รับถุงไก่ย่างเกือบสิบกว่าไม้มาจากแม่ค้าหลังจากจ่ายเงินเสร็จแล้วหันมามองหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนมองเขาด้วยแววตาเป็นประกายมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าตลอดเวลา

และเหมือนว่าความหล่อของเขาจะสร้างปัญหาให้เธอกลายเป็นคนไม่จิตวิญญาณไปแล้วถึงได้นิ่งชะงักไปแบบนั้น คาถายื่นมือไปบิดปลายจมูกคณิกาเบาๆ จนเธอรู้สึกตัว

“คะ?”

“อยากกินอะไรครับ?”

“อืม ณิอยากกินยำ” อยากกินอะไรก็ได้ที่ทำให้คืนนี้ท้องเสียจนไม่สามารถได้หลับนอนร่วมเตียงกับเขาได้น่ะ

“ไว้เป็นวันอื่นนะครับ วันนี้คุณต้องทำงานหนัก”

“แต่ณิอยากกินวันนี้นะคะ” ออดอ้อนเขาทางสายตา

“หมึกย่างเป็นไงครับ” เดินนำร่างเล็กไปหยุดหน้าร้านหมึกย่างร้านข้างๆ อย่างไม่ได้สนใจประโยคก่อนหน้านี้ของเธอเลยแม้แต่น้อย “ถ้างั้นเอาเป็นไก่ทอดอีกก็แล้วกัน ผมชอบกินไก่” ขยับจากร้านหมึกย่างไปร้านไก่ทอด

“แต่ณิไม่ชอบ”

“อันนั้นก็เรื่องของคุณครับ”

“…”

“อยากกินอะไรเดินนำไปนะครับ ผมให้ใช้เวลาในตลาดแค่ครึ่งชั่วโมง” บอกเสียงเรียบรับไก่ทอดหกเจ็ดน่องที่อยู่ในถุงหูหิ้วมาถือไว้แล้วเดินตามร่างเล็กที่กำมือแน่นทุบขาตัวเองเบาๆ ขณะเดินตามทาง

สุดท้ายแล้วคณิกาเธอก็ได้เป็นขนมโตเกียว เกี๊ยวกุ้ง ข้าวมันไก่และน้ำแตงโมปั่น ได้สิ่งที่ต้องการทั้งคู่ก็พากันกลับมายังบ้านนั่งทานของที่ซื้อมาบนพื้นติดโซฟากลางบ้าน

“หน้าผมมีอะไรติดหรือเปล่า คุณมองผมตลอดเลย”

“ณิคิดว่าคุณจะไม่ชอบการเดินตลาดและไม่คิดว่าจะนั่งพื้นทานแบบนี้” แม้อาหารจะถูกวางบนโต๊ะตัวเตี้ยด้านหน้าโซฟาแต่เธอคิดว่าคนส่วนใหญ่คงไม่นั่งพื้นทานหรอก

“ผมเป็นคนง่ายๆ ครับ”

“แล้วปกติตอนที่อยู่กรุงเทพฯ นอกจากทำงานคุณคาถาทำอะไรในเวลาว่างบ้างเหรอคะ”

“ถ้าเป็นกลางวันก็นอน ส่วนกลางคืนก็ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ”

“อ่อ เหมือนณิตอนเมื่อก่อนเลยค่ะ” ตอนนั้นเรียนอยู่ที่อังกฤษเธอก็ใช้ชีวิตแบบนั้น นอกจากเรียนก็นอนและเที่ยวปาร์ตี้กับเพื่อนๆ แต่พอกลับมายังไม่ทันได้หยิบใบปริญญาขึ้นมาอวดพ่อกับแม่พวกท่านก็บอกว่าไม่ต้องเอาของออกจากกระเป๋าพร้อมส่งตัวมาที่นี่แหละ

“อยากกลับบ้านมั้ยครับ ผมให้โอกาสคุณตัดสินใจครั้งสุดท้าย”

“อยากกลับ แต่ไม่มีบ้านแล้วนี่สิคะ”

“พ่อกับแม่ล่ะ”

“ไปอยู่บ้านป้า”

“ก็ไปอยู่กับพวกเขาสิ”

“บ้างครั้งณิก็คิดนะว่าพวกเขารักณิจริงมั้ย พ่อกับแม่ตามใจณิมาตลอด ไม่เคยดุด่าว่าณิไม่เคยเคร่งครัดอะไรกับณิแต่จู่ๆ ก็ให้มาสมัครเป็นภรรยาของคุณแบบนี้”

“บางทีพวกท่านอาจจะหวังดี”

“ณิก็พยายามคิดแบบนั้น ส่วนป้าน่ะ ณิไม่ถูกกับเขาหรอกเพราะถูกพ่อแม่เลี้ยงมาแบบตามใจเหมือนลูกคุณหนูทำให้ป้าไม่ชอบ”

“เหตุผลแค่นั้น?”

“ก็แค่นั้น ป้ามีลูกหลายคนน่ะสามสี่คนและเพราะมีเยอะจึงตามใจทุกคนไม่ได้ แกอยากให้ลูกสุขสบายเหมือนณิแต่ตัวเองทำไม่ได้ก็เลยพาลมาไม่ชอบณิที่มีชีวิตดีกว่าลูกสาวแก”

“ทำไมเขาไม่พยายามให้มากขึ้นล่ะ ไม่ชอบคุณเพราะแค่ว่าคุณมีชีวิตที่ดีกว่าลูกตัวเองเนี่ยนะ” ความคิดของคนในครอบครัวเธอแปลกจริงๆ แหละ

“ช่างเถอะค่ะ แม้ณิจะไม่ได้เต็มใจมาแต่หากได้มาแล้วมีชีวิตที่ดีเหมือนที่ผ่านมา ณิก็จะพยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี” ดูจากการกระทำของเขาแล้วไม่ได้น่ากลัวหรือเป็นการบีบบังคับเธอจนเกินไป อีกอย่างเขายังหล่อกว่าในจินตนาการของเธออีก ฐานะก็ดี ทุกอย่างล้วนดีไปหมดแค่เธอเปิดใจยอมรับทุกอย่างก็คงผ่านไปได้ด้วยดีแหละ…มั้ง

“ผมไม่บังคับใครนะครับ แต่หากเต็มใจที่จะอยู่ก็ช่วยอยู่แบบเต็มใจด้วยผมต้องการภรรยาเพื่อสร้างครอบครัวจริงๆ”

“คุณไม่มีเพื่อนหรือคุณรู้จักที่สนิทพอที่จะพัฒนาความสัมพันธ์เลยเหรอคะ?”

“คนพวกนั้นก็ล้วนแล้วแต่จะจับผมกินอย่างเดียวแหละ”

“แล้วคุณไม่คิดว่าณิจะเป็นคนแบบนั้นบ้างเหรอคะ ณิอาจจะจับคุณกินหลอกเงินคุณแล้วหนีไปก็ได้นะ”

“ถ้าเป็นคุณผมอาจจะเต็มใจให้หลอก”

“...ณิอิ่มแล้ว” มองจานเปล่าตรงหน้าแล้วยกพวกมันไปล้างในครัว เสร็จก็เดินกลับออกมา

“ไปอาบน้ำกันนะครับ จะสองทุ่มแล้ว”

“ยังอยากนั่งเล่นอยู่เลยค่ะ” เดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา คาถาที่ดูออกว่าเธอจะหาเรื่องถ่วงเวลาไม่ให้ตัวเองโดนเขาจับกินก็ได้แต่หัวเราะในลำคอ

“ถ้างั้นผมขอขึ้นไปหยิบถุงยางในกระเป๋าบนห้องก่อนนะครับ”

“ถุงยางอะไรคะ?”

“ถุงยางอนามัยไงครับ คุณคงขี้เกียจเดินส่วนผมเองก็ขี้เกียจอุ้มถ้างั้นเอาบนโซฟาก็ได้ครับถ้าคุณไม่ติดอะไร”

“ณิขึ้นไปบนห้องก็ได้ค่ะ” ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ แล้วกระทืบเท้าปึงปังเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง ครั้งแรกบนโซฟามันคงจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ แม้จะไม่อยากยอมแต่ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีฉะนั้นครั้งแรกของเธอก็ควรจะได้นอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ

“คุณเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” หันไปถามเขาที่ปิดประตูห้องแล้ว กระเป๋าเป้ใบไม่ใหญ่ไม่เล็กคาดว่าด้านในน่าจะมีเสื้อผ้า เสื้อผ้างั้นเหรอ? ก็แสดงว่าเขาเตรียมตัวมาพร้อมที่จะนอนที่นี่อยู่แล้วสิ

“ให้คนเอามาให้ตอนที่คุณหลับ”

“เหรอคะ” ตอนตื่นก็ไม่ได้สังเกตด้วยสิ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเลยนะ

“ครับ” เดินไปเปิดกระเป๋าเป้พร้อมหยิบกล่องสีขาวออกมาวางไว้บนที่นอนแล้วเดินถือกระเป๋าไปใส่ตู้เสื้อผ้าค้นหาชุดที่ต้องการแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับผ้าขนหนู

“อะไร” คณิการำพึงกับตัวเอง เดินไปนั่งบนที่นอนชำเลืองตามองทางห้องน้ำ เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลลงมาแล้วเธอจึงหันกลับมาสนใจกล่องสีขาวตรงหน้าอีกครั้ง

มือเล็กเอื้อมไปหยิบมันยกขึ้นมาเขย่าเบาๆ มวลไม่หนักแต่ก็ไม่ได้เบาจนเกินไปและความสงสัยก็ทำให้เธอถือวิสาสะเปิดมันออกและมองเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ต้องปิดมันกลับคืน

ถุงยางอนามัยเกือบยี่สิบกว่าชิ้น!

เธอควรหนี หนีได้มั้ยนะ? เป็นคำถามที่ไม่รู้ว่าควรจะถามใครแต่…

“ดูเสร็จแล้วเข้ามาอาบน้ำพร้อมผมเลยก็ได้นะครับ” ประตูห้องน้ำที่ถูกแง้มออกมีเสียงของคนด้านในดังขึ้นทำให้คณิการีบดีดตัวลุกขึ้นยืนมีท่าทางร้อนลนแบบสุดๆ เมื่อถูกจับได้ว่าแอบเปิดกล่องนั้นของเขาดู

“ณิ ณิหนาวค่ะไม่อยากอาบน้ำเลย”

“มีเครื่องทำน้ำอุ่นนี่ครับ”

“คุณคาถาอาบก่อนเถอะค่ะเดี๋ยวณิค่อยอาบ”

“ผมไม่ชอบพูดมาก”

“…” ณิก็ไม่ชอบเหมือนกันแหละค่ะ! บ่นในใจแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูเดินตรงไปหยุดหน้าห้องน้ำ สูดลมหายใจเข้าออกในปอดลึกๆ แล้วยกมือขึ้นหวังจะเคาะประตู แกร่ก! แต่มันถูกเขาเปิดออกพอดี

“เข้ามาครับ”

“ณิ…” สิ่งแรกที่เธอมองควรจะเป็นใบหน้าของเขาแต่ไหงจู่ๆ ถึงไปจ้องเจ้างูหลามนั่นได้ล่ะ ทำไมมันใหญ่ยาวขนาดนั้น ทำไมมันดูน่ากลัวแบบนั้นนะ แล้วทำไมจะต้องไปสนใจมันด้วยเล่าณิเอ้ย!

“เพิ่งเคยเห็นสินะ ต่อไปนี้จะได้เห็นบ่อยๆ ครับ” ดึงมือเล็กให้เดินเข้ามาแล้วปิดประตูห้องน้ำ คณิกาสะบัดหน้าออกจากงูหลามยักษ์ก่อนจะเงยขึ้นไปสบตาคนตัวใหญ่ที่มองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่ได้มีความกระดากอายเลยแม้แต่น้อย

“แก้ผ้าสิครับ รีบอาบจะได้ออกไปเอากัน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 34 สุดที่รักของคาถา The end

    บรรยากาศภายในโต๊ะที่เงียบสงัดราวๆ สิบนาที...“หนูกำลังอยู่ในช่วงฝึกทำอาหารคิดว่าถ้าทำอร่อยแล้วจะใส่กล่องมาให้พี่ทาน” “ไหนล่ะ?” “เพราะว่ามันยังไม่อร่อยเลยไม่อยากทำมาให้น่ะ” บอกด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาพูดกับเธอแล้ว “แล้วนี่พี่คาถาทานข้าวหรือยังคะ?” “ไม่หิว” “อืม ดื่มกาแฟอย่างเดียวจะอิ่มเหรอเราไปทานข้าวที่ร้านอาหารกันดีมั้ยคะ เดี๋ยวหนูเลี้ยงเองค่ะ” “ทำไมไม่ไปทำงานที่บริษัท” นอกจากไม่ตอบเรื่องที่เธอถามแล้วเขายังเปลี่ยนเรื่องอีกด้วย คณิกาเม้มปากตัวเองเล็กน้อย ไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท ใช่! เธอไม่ได้ไปทั้งที่เขาอนุญาตให้ไปทำได้ก็เถอะเพราะไปเจอหน้าเขาแต่เข้าไปคุยไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนไง เลยคิดว่าไม่ไปเจอน่าจะดีกว่า...“ไปก็ไม่ได้คุยกับพี่ หนูเลยไม่อยากไป” “ทำไมถึงไม่ได้คุย?” จ้องหน้าเด็กสาวที่มีท่าทางเริ่มประหม่าขึ้นมาจนมือที่วางอยู่บนโต๊ะถูกชักกลับไปวางบนหน้าตัก เธอหลบสายตาเขาทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังมองหน้าเขาอยู่“ก็เราเลิกกันแล้ว...” “...” “พี่คะเรากลับมาคบกันนะคะ หนูรู้แล้วว่าหนูรักพี่มากแค่ไหน มากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่ายทุกวัน มองผู้ชายคนอื่นก็เป็นหน้าพี่ไปหมด ทำอะไรก็นึกถึงแต่ช่

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 33 ง้อ

    เสร็จงานทุกอย่างแล้วไม่กี่วันต่อมาพวกเขาก็เดินทางกลับ เมื่อถึงบ้านคาถาก็ลงจากรถเดินตรงเข้าไปด้านในโดยไม่ได้เรียกหรือเอ่ยชวนคนตัวเล็กเข้าบ้านเลยแม้แต่น้อย“พี่คาถาคะ” และคณิกาไม่จำเป็นต้องรอให้เขาเชิญชวน เธอรีบวิ่งลงจากรถไปหาเขาที่พอได้ยินเสียงฝีเท้าเล็กวิ่งก็รีบหยุดเดินหันมามองเธอด้วยสายตาดุๆ เหมือนต้องการเอ็ดที่เธอวิ่ง“กะ ก็พี่ไม่รอหนู” อยู่ด้วยเกือบสองเดือนเธอเองก็เริ่มจะเข้าใจสายตาและการสื่อสารที่ไม่ต้องพูดของเขาแล้วล่ะ เขาไม่ได้พูดอะไรเดินตรงเข้าไปในบ้านทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมหันไปรับแก้วน้ำจากแม่บ้านที่เดินนำมายื่นให้“เรากลับมาคบกันอีกครั้งได้มั้ย พะ พี่ให้โอกาสหนูอีกสักครั้งได้มั้ยคะ” คณิกาเดินไปหยุดด้านหน้าเขา เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า แม้จะรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาสมควรเพราะเขาเพิ่งเสียแม่ไปแต่ว่าอยากรีบคืนดีกับเขา อยากอยู่ปลอบใจเขาต่อ...“ถ้าบอกว่าไม่ได้” “...หนูรู้แล้วว่าคนที่หนูรักคือพี่ หนูรู้แล้วว่าตัวเองอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่” ” เพราะไม่มีผมหรือเพราะไม่มีเงินของผมกันแน่” “หนูไม่ได้เห็นแก่เงิน หนูขอโทษจริงๆ ขอโทษที่เอาแต่ใจงี่เงาไม่รู้จักโต หนึ

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 32 ดูแลกันดีๆ

    ใช้เวลาในการเดินทางไปต่างประเทศเวลาค่อนข้างนาน เมื่อมาถึงก็มีรถมารอรับพวกเขาที่สนามบินไปส่งตรงยังบ้านสุดหรูของคุณปภาวีและสามีที่นั่น พวกเขาที่ว่านอกจากคาถากับคณิกาแล้วยังมีนับเพชรและอินทร์มาด้วย“พี่คาถาคะคุณป้าอยู่ไหนเหรอ” นับเพชรเดินไปควงแขนคาถาพร้อมเอ่ยถามทั้งที่ยังไม่มีใครเดินเข้าไปในตัวบ้านและมาพร้อมกันแน่นอนว่า...“ผมไม่รู้” จับมือของนับเพชรให้ออกแล้วดันตัวคณิกาให้เดินนำหน้าตามแม่บ้านเข้าไปในตัวบ้าน มีเสียงหัวเราะจากอินทร์ดังมาเล็กน้อยแต่เมื่อเข้ามาในตัวบ้านทุกคนต่างก็เงียบทันที“คุณแม่ล่ะครับ? “ชายหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นพ่ออย่างคุณจิรเมธ ซึ่งมีสีหน้าไม่ค่อยดีคงเพราะว่าเครียดเรื่องการป่วยของภรรยาและยังทำใจไม่ได้“นอนเล่นอยู่หลังบ้าน น้องณิแม่เขารอหนูอยู่นะ” “รอหนู?” “อืม พ่อฝากเอาน้ำส้มนี่ไปให้แม่ด้วยสิ” พูดจบก็ยื่นแก้วน้ำส้มในมือที่คาดว่าน่าจะมาเอาไปให้ภรรยายื่นให้คณิกาที่ก็รับมา จากนั้นคุณจิรเมธก็เดินออกไปนั่งหน้าบ้าน คาถาจึงจูงมือคณิกาพาตรงไปทางหลังบ้านโดยมีสองสาวเดินตามไปอย่างเงียบๆ“คุณป้าคะ คุณลุงให้เอาน้ำส้มมาให้ค่ะ” ร่างเล็กเดินไปนั่งยองข้างเก้าอี้โยกที่คุณปภาวีกึ่งนั่งกึ่

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 31 เคียงข้าง

    มาถึงคอนโดคณิกาก็รีบเข้าห้องไปเก็บเสื้อผ้าในกระเป๋าโดยมีแม่นันท์เดินตามเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง “น้องณิเก็บผ้าจะไปไหนลูก” ถามพร้อมนั่งยองข้างบุตรสาวที่กำลังพับผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง“ไปหาหาคุณแม่พี่คาถาค่ะพี่เขาจะพาไป ขึ้นเครื่องตอนหนึ่งทุ่มเดียวตอนห้าโมงเขาให้พี่อาติณมารับค่ะ” ร่ายยาวออกมาขณะที่มือกำลังพับผ้าอยู่ คนันท์มองบุตรสาวที่พับผ้าไปยิ้มไปก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้“คืนดีกับพี่เขาแล้วเหรอคะ?” “...เปล่าค่ะ” “แล้วทำไมถึงยิ้มแย้มแบบนี้” “แม่อยากให้หนูร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอคะ” “ไม่อยากแต่แม่แค่สงสัย เห็นยิ้มร่าเริงคิดว่าจะคืนดีกันแล้วซะอีก” “เดี๋ยวเดินทางไปหาคุณแม่เขา หนูจะค่อยๆ ง้อเขาอีกทีค่ะ” หันหน้ามามองแม่แล้วขยับไปโอบกอด “แม่ต้องเป็นกำลังใจให้หนูง้อเขาได้สำเร็จนะคะ” “จ้า แม่จะเป็นกำลังใจให้แต่ถ้าง้อเขาได้แล้วหนูต้องเป็นภรรยาที่ดีให้เขาด้วยนะ” “พูดแต่ให้หนูทำดีกับเขา แม่ไม่กลัวเขาจะทำร้ายหนูบ้างหรือไง” “น้องณิ หนูรู้มั้ย...พี่คาถาเขาเคยไปสู่ขอหนูจากพ่อกับแม่ด้วยนะ” น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มของคนันท์เอ่ยบอกบุตรสาว ที่จริงคาถากำชับไม่ให้เธอบอกคณิกาแต่เธอคิดว่าบอกไปเจ้าเด็กน้อย

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 30 เด็กดื้อขี้แย

    “เดี๋ยว” คาถาเอ่ยเรียกหญิงสาวตัวเล็กที่ยิ้มร่ากระโดดดี๊ด๊าด้วยความดีใจหลังจากที่เขาบอกให้เธอกลับไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อจะเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ของเขา“คะ?” “ให้อาติณพาไป” “อืม ไม่เป็นไรคะหนูไปเองได้” พูดจบก็กึ่งเดินกึ่งกระโดดออกไปจากหลังบ้าน คาถาเรียกคนสนิทอย่างอาติณสั่งให้พาคณิกาไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้าน ส่วนตัวเขาก็โทรไปบอกให้น้องสาวหาจองตั๋วในการเดินทางวันนี้ให้ และเตรียมจะขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า...“คุณณิครับ นายน้อยบอกให้ผมพาไป” อาติณวิ่งตามร่างเล็กออกมาพร้อมเอ่ยเรียกไว้ คณิกากันมามองเขาตาใส่แป๋ว เธอหยุดนิ่งจ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาสั่นระริกก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอาบแก้มเนียนขาวสร้างความตกใจแก่อาติณเป็นอย่างมาก“ฮรึก! ฮือออออ!” “คะ คุณณิเป็นอะไรครับ ผะ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” ประโยคหลังเขาหันไปบอกคาถาที่เดินตรงมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ยืนมองอยู่ เขาส่งสายตาดุให้คนสนิทแล้วถอยหลังหนีเล็กน้อย“เป็นอะไร” ร่างสูงเอ่ยถามคนตัวเล็กเสียงราบเรียบ พยายามใจแข็งกับเด็กสาวตรงหน้าให้ถึงที่สุดแม้ว่าภายในใจอยากจะถามจับตัวเธอหมุนดูว่าเป็นอะไรแค่ไหนก็ตาม“ผะ ผึ้ง ฮรึก! ผึ้งต่อย” ยกแขนให้ชายหนุ่มดูก็พบกับผึ้

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 29 หนูท้อง

    “แม่คะ หนูรักเขานะ...” “รักเขาแล้วพูดแบบนั้นทำไม ลองเขาพูดว่าเบื่อหรือรำคาญลูกบ้างลูกจะรู้สึกยังไง” “เสียใจ...” “เขาก็เป็นคนนะน้องณิ หนูต้องเข้าใจความรู้สึกเขาด้วยสิลูก” คนันท์พูดอย่างตำหนิบุตรสาว ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่เศร้าสร้อยของคณิกา “แล้วที่มาขังตัวเองอยู่แต่ในห้องนี่ได้อะไรมั้ย?” “...” ส่ายหัวให้แทนการตอบ“ลูกสาวแม่เป็นเด็กฉลาด แต่ทำไมเรื่องแค่นี้ไม่มีความคิดบ้างเลยนะ รู้ว่าขังตัวเองไว้ไม่ได้ประโยชน์แล้วทำไมไม่ไปหาอะไรทำที่มันได้ประโยชน์อย่างเช่นกลับไปทำงาน” “กลับไปทำงานเหรอ?” “ใช่ กลับไปทำงานบางทีอาจจะได้เจอเขาก็ได้นะ” “แล้วถ้าเจอเขากับผู้หญิงคนอื่นล่ะคะ” เขาย้ำกับเธอเสมอว่าอยากมีภรรยาอยากมีลูกและอยากสร้างครอบครัว ในเมื่อเธอทำให้เขาไม่ได้บางทีเขาอาจจะหาผู้หญิงคนอื่นมาทำหน้าที่แทนเธอ“แล้วอยากปล่อยให้เขาไปมีผู้หญิงคนอื่นมั้ยล่ะ?” “ไม่อยาก...” “ไม่อยากก็ยิ่งต้องกลับไปทำงาน ไปอยู่ใกล้ๆ เขา” “แม่คะ” “หื้ม?” “จริงมั้ยที่พ่อกับแม่ขายหนูให้คุณคาถา” ถามเสียงอ่อนๆ มันเป็นสิ่งที่เธออยากรู้อยากเข้าใจเหตุผลของแม่กับพ่อที่สุดเลย“หนูรู้ใช่มั้ยว่าบ้านเราล้มละลาย?”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status