“แหม ถ่อมตัวจังค่ะ”
“ก็แบบนี้ล่ะครับผมกับเขาถึงเป็นพี่น้องกันได้”
“แม่หวานคะ เรากลับกันได้รึยังคะ” พิมพ์ภัสสรเอียงหน้ามากระซิบถามเบาๆ เจ๊หวานหน้าตื่นรีบขอตัวกลับอีกครั้งซึ่งเสี่ยมงคลก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สำหรับธามนั้นมองตามหญิงสาวไปจนลับสายตา
“ถูกใจล่ะสิธาม แต่หนูเพื่อนน่ะยากหน่อยนะ เฮียลองมาแล้ว เธอไม่สนใจใครง่ายๆ หรอก”
“ผมเปล่าคิดอะไรเสียหน่อยเฮีย...” ธามยิ้มเก้อๆ แล้วหลบสายตารู้ทันของเสี่ยมงคล
“เป็นอะไรไปเพื่อน...” เจ๊หวานสงสัยท่าทางแปลกๆ ของหญิงสาวนับตั้งแต่กลับมาจากงานของเสี่ยมงคลดูพิมพ์ภัสสรวิตกกังวลและเงียบผิดปกติ
“พรุ่งนี้เราไปเยี่ยมแพงกันนะ เพื่อนคิดถึงแพง...” น้ำเสียงเศร้าสร้อยน่าเวทนา เจ๊หวานถอนใจแผ่วๆ
“แม่หวานเคลียร์งานให้เพื่อนแล้วจ้า หยุดยาวไปเลย”
“ขอบคุณค่ะแม่หวาน”
“เอาล่ะวันนี้เหนื่อยมามากพักผ่อนเถอะราตรีสวัสดิ์จ้ะ”
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะแม่หวาน” หญิงสาวยิ้มให้คนที่เดินลับประตูไปอย่างรักใคร่ แล้วล้มตัวลงนอนครุ่นคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่มีทั้งสุขและทุกข์ และ รักครั้งแรก ของเธอแล้วภาพเก่าๆ ก็ลอยเข้ามาในหัวอย่างช่วยไม่ได้ นี่โลกมันกลมหรือเป็นเพราะพรหมลิขิตหนอ...
เมื่อสี่ปีก่อนในงานเลี้ยงวันเกิดของแทนฤทัยซึ่งพิมพ์ภัสสรได้รับเชิญมาด้วยแต่เธอไม่อยากจะมาร่วมงานนี้นักเพราะรู้ดีว่าผู้เป็นเจ้าของวันเกิดนั้นไม่ชอบหน้าตน เธอเองก็ไม่ชอบหน้าแทนฤทัยเช่นกันแม้ว่าแทนฤทัยจะเป็นเจ้าของงานก็ตาม แต่เพราะทนคำรบเร้าคะยั้นคะยอจากเพื่อนสนิทอย่าง บุญยอดซึ่งในขณะนั้นยังเป็นชายในร่างสาวอยู่เธอจึงขัดไม่ได้ เพราะบุญยอดคุยนักคุยหนาว่าพี่ชายของแทนฤทัยหล่อเหลาราวเทพบุตรจึงอยากจะมาเห็นเป็นบุญตากะเทยสักครั้งทำให้เธอจำใจต้องมาเป็นเพื่อนบุญยอด
“เธอมาทำไมยายคนยากไร้ อ๋อ ที่บ้านไม่มีอะไรจะกินสินะถึงได้มาขอทานถึงที่นี่” เสียงเยาะหยันของผู้เป็นเจ้าของวันเกิดดังขึ้นทำให้มือที่กำลังจะหยิบจานมาตักอาหารไปรับประทานกับเพื่อนๆ ชะงักวางจานใบเล็กลงทันทีและความหิวก็หายไปด้วย
“ถ้าฉันคิดจะขอทาน ฉันคงไม่มาขอทานที่บ้านเศรษฐีใจแคบอย่างเธอหรอกแทมมี่ เพราะคิดว่าคนอย่างเธอคงทำบุญทำทานไม่เป็น อีกทั้งใจคอก็คับแคบจนน่ารังเกียจ...” พิมพ์ภัสสรตอบกลับอย่างไม่ลดละหรือเกรงใจสาวสวยไฮโซที่ใครๆ ทั้งมหาวิทยาลัยให้ความนิยมชมชอบ แต่สำหรับพิมพ์ภัสสรแล้วแทนฤทัยก็เป็นแค่เด็กขี้อิจฉาคนหนึ่งไม่แตกต่างจากพวกคนบางคนที่เธอเกลียดแสนเกลียด...
“นี่เธอ มางานของฉันยังจะปากดีอีกเหรอ”
“ฉันไม่ได้อยากมาสักหน่อย ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องพูดเอาใจใคร...” สองสาวจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใครด้วยความรู้สึกที่แรงด้วยกันทั้งคู่ แทนฤทัยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นคุณหนูตัวร้ายทั้งขี้เหวี่ยงขี้วีนปากร้าย เอาแต่ใจและพร้อมที่จะมีเรื่องหากใครกล้ามาแหยมกับเธอจนใครๆ ต่างก็ไม่มีใครกล้าตอแยด้วย เพราะทั้งความร้ายกาจและอำนาจบารมีของบิดาเธอนั่นเอง
แต่สำหรับพิมพ์ภัสสรนั้นในชีวิตเธอตั้งแต่เล็กจนโตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอเจอเรื่องที่ร้ายแรงและลำบากมาเยอะกว่าจะได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยที่นับว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศแม้มันจะไม่ใช่มหาวิทยาลัยเก่าแก่มากด้วยชื่อเสียงที่เยาวชนไทยต่างขับเคี่ยวกันจะเป็นจะตายเพื่อให้ได้เรียนมหาวิทยาลัยแห่งนั้นก็ตาม แต่เธอก็สามารถเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและคุณภาพการศึกษาที่ดีทัดเทียมกันได้เพราะความสามารถและด้วยเงินที่เธอหามาด้วยตนเองไม่ได้แบมือขอใครไปวันๆ
พิมพ์ภัสสรมาเรียนที่นี่เพื่อให้ตัวเองมีความรู้และทำให้คนอื่นได้เห็นว่าเธอสามารถเรียนจบจากที่นี่ได้ เธอมีทุกอย่างทัดเทียมกับลูกคุณหญิงคุณนาย หรือพวกไฮโซร่ำรวยทุกคน และเธอก็เรียนที่นี่ด้วยความหยิ่งทระนงหยิ่งในศักดิ์ศรีจนใครๆ ต่างก็ยอมรับในความเป็นเธอ รู้ว่าเธอเป็นอย่างไร ซึ่งมันอาจจะทำให้แทนฤทัยไม่พอใจเธอในส่วนนี้ก็เป็นได้ แต่พิมพ์ภัสสรจะสนใจหรือว่าใครจะพอใจหรือไม่พอใจในตัว เธอเป็นตัวของตัวเองและไม่คิดจะใส่ใจเรื่องไร้สาระพวกนี้ด้วย
“จองหอง อวดดี...”
“แน่นอน เพราะฉันมีดีให้อวด ไม่เหมือนพวกรวยแต่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างเธอหรอก ที่เที่ยวใช้เงินฟาดหัวใครๆ แต่ไม่มีปัญญาทำอะไรเอง...”
“จะมากไปแล้วนะนังเพื่อน แกเป็นใครถึงกล้ามาพูดกับฉันแบบนี้ ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลย ออกไป๊ นังขอทานนังยาจก ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้...” แทนฤทัยหน้าแดงหน้าดำด้วยความโกรธและเสียงของแทนฤทัยก็ดังพอจะทำให้ทุกคนหันมามองพวกเธอเป็นตาเดียว
“แหม งานนี้ฉันดังกระฉ่อนอีกแล้ว ขอบใจนะที่ทำให้ทุกคนสนใจฉัน คะแนนสงสารมาเพียบเลย...” พิมพ์ภัสสรเก็บกดความโกรธไว้ภายใต้ใบหน้าซึ่งแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มสะใจเมื่อมองสบตากับแทนฤทัยที่ถูกเพื่อนๆ มองด้วยความระอากับความถือตัวและปากร้ายของเจ้าหล่อน...
“เบนนี่ ฉันกลับก่อนนะ เจ้าของงานเขาไม่ต้อนรับแล้ว ฉันบอกเธอแล้วว่าแทมมี่ไม่ชอบหน้าฉัน ฉันขอโทษนะทุกคนที่ทำให้หมดสนุก...” พิมพ์ภัสสรหันมายิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนทุกคนแล้วเดินออกไป ปล่อยให้เจ้าของงานวันเกิดกรีดร้องเสียงแหลมอยู่ข้างหลังซึ่งต่างก็มีลิ่วล้อเข้ามาเอาอกเอาใจพร้อมด้วยเสียงอื้ออึงของผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งมีทั้งชื่นชมและดูถูกเธอแต่พิมพ์ภัสสรกลับยิ้มสะใจ...
ลับหลังแทนฤทัยพิมพ์ภัสสรรีบเดินหลบมุมเข้าห้องน้ำสำหรับรับรองแขกของคฤหาสน์หลังงามสักครู่เพื่อสงบสติอารมณ์ที่ครุกรุนอยู่ภายใน มุมรับรองแขกนั้นค่อนข้างเงียบเนื่องจากเพื่อนๆ เจ้าของงานต่างไปรวมกันที่สนามหญ้าเพราะจะได้เวลาตัดเค้กแล้ว สาวน้อยมองดวงไฟประดับอันงดงามด้วยความรู้สึกโหยหาอดีตที่ครอบครัวของตนอยู่พร้อมหน้า ในวันเกิดทุกๆ ปีของเธอบิดามารดาจะพาเธอกับน้องสาวไปทำบุญและทำอาหารรับประทานกันอย่างสนุกสนานมีเค้กก้อนเล็กๆ พอเป็นพิธีและบิดามารดาจะให้พรพวกเธอก่อนนอนทุกๆ คืน แต่มันคงไม่มีวันดีๆ เช่นนั้นอีกแล้ว...
“อุ้ย / โอ๊ะ...” แล้วพิมพ์ภัสสรก็ตื่นจากภวังค์เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำก็ชนกับใครคนหนึ่งซึ่งช่างแข็งแกร่งและคงตัวใหญ่โตมากเพราะเขาชนเธอแทบกระเด็นติดผนังหากว่าเขาไม่รั้งข้อมือเล็กไว้ได้ทันเธอก็คงกองอยู่กับพื้นซ้ำศีรษะก็คงจะชนผนังจนบวมโนเป็นแน่แท้...
ตอนที่64. อวสาน“เด็กดื้อต้องโดนลงโทษหนักๆ รู้มั้ย...” ธามหอบกระเส่า“อืม... ก็ไม่รู้สิคะ ก็แล้วแต่ว่าพี่ธามมีแรงแค่ไหน...”หญิงสาวท้าทายสามีที่รักนัยน์ตาปรือปรอยเมื่อเขาก้มลงดูดกลืนยอดอกของตนอย่างเมามันและรุนแรงเร้าร้อนแตกต่างจากที่ลูกสาวน้อยดูดดื่มกินนมจากอก หญิงสาวแต่ครางอย่างยอมแพ้เมื่อทั้งปากและมือเขากำลังโจมตีเธอให้เสียวรัญจวนแทบขาดใจ มือใหญ่แยกเรียวขางามออกกว้างเพื่อแทรกเข้าแนบชิดร่างอิ่มของภรรยาอย่างรนรนเมื่อความร้อนระอุในกระแสเลือดมันเดือดพล่านจนเกินจะทานทนความเย้ายวนแสนหวานของเธอคงจะฆ่าเขาหากเขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในกายสาวอุ่นฉ่ำชื้นของภรรยาแสนสวยของตน ธามขยันสะโพกแกร่งเข้าหาร่างนุ่มหยุ่นราวกำมะหยี่เนื้อดีของภรรยาสาวด้วยความเร่าร้อน สร้างความซ่านกระสันรัญจวนให้กับภรรยาจนสุขสมล้นเอ่อพาเธอท่องวิมานสวาทครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หากเจ้าตัวน้อยไม่ส่งเสียงอ้อแอ้ขอน้ำนมอุ่นจากมารดากลางดึกเสียก่อน...“อื้ม พี่ธามพอก่อน น้องธัช หะ หิวแล้ว...” หญิงสาวผลักใบหน้าที่ซุกซบกับอกอวบของตนด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าธามยอมเงยหน้าขึ้นโดยดีแล้วหอมแก้มนวลหนักๆ ก่อนจะเดินไปอุ้มลูกน้อยมาห
ตอนที่63.“สวัสดียามเย็นครับคนสวยของพ่อธาม...”ชายหนุ่มเดินไปกึ่งนั่งกึ่งนอนซ้อนหลังภรรยาที่กำลังให้นมลูกแล้วจูบแก้มนวลแรงๆ อย่างมันเขี้ยว แม้จะเจ็ดเดือนแล้วแต่น้องพริมกับน้องธัชยังติดนมแม่ไม่ยอมดื่มนมจากขวดเสียทีจนคนเป็นพ่ออ่อนใจเพราะอยากจะทวง ของรักของหวง คืนจากลูกๆ ตัวน้อยเต็มที... ตอนนี้น้องธัชซึ่งกินนมแม่พร้อมด้วยนมขวดนั้นหลับปุ๋ยไปแล้วอย่างเป็นสุข จะมีก็เพียงน้องพริมเท่านั้นที่ยังอ้อนคุณแม่อยู่กินไม่อิ่มเสียที “อื้อ พี่ธามไปอาบน้ำสิคะมาเหนื่อยๆ อย่ามากวนค่ะ...” หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบเขินๆ สายตาแพรวพราวของสามี แม้จะใกล้ชิดสนิทสนมกันมากี่ครั้งหรือทำมากกว่าหอมแก้มกัน เธอก็ยังขัดเขินอยู่ดียิ่งมีสายตาแป๋วๆ ของลูกน้อยมองมาอย่างไม่พอใจยิ่งทำให้เธอแทบจะผลักใบหน้าหล่อเหลาให้ห่างออกไปเพราะเธอรู้สึกอายลูกอย่างไรไม่รู้“อ้อแอ้ๆๆ บรือออ...”เสียงอ้อแอ้พร้อมทั้งเสียงพ่นน้ำลายและมืออวบๆ ของเด็กหญิงผลักใบหน้าบิดาออกจากอกอวบของมารดาที่ตนครอบครองอยู่ทำให้ธามอยากจะแกล้งลูกสาว จึงก้มลงงับเต้างามเบาๆ หยอกเย้าน้องพริมแต่กลายเป็นว่าเขาร้อนรุ่มขึ้นมาเสียเองเพียงแค่ได้กลิ่นกายหอมๆ อันเป็นกลิ่นธรรมชาติปรา
ตอนที่62.“พี่ธามเข้ามาได้ยังไงคะ” ทำทีเป็นถามเสียงแข็งจนธาม หน้าเสีย พิมพ์ภัสสรนึกขันแกมสงสารเขาอยู่ไม่น้อย“เอ่อ พะ พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามารบกวนเพื่อน เพียงแต่พี่เป็นห่วงกลัวเพื่อนกับเจ้าตัวเล็กจะหิว เลยถือวิสาสะเข้ามา หากมันทำให้เพื่อนลำบากใจพี่ขอโทษ”“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ ไหนคะ มีอะไรมาให้กินมั่งกำลังหิวพอดีเลย” พิมพ์ภัสสรถามหน้าตายทั้งที่ในใจนั้นอ่อนยวบอยากกอดเขาใจจะขาดเธออยากอยู่ใกล้ๆ เขา อยากอยู่ในอ้อมกอดอุ่นอ่อนโยน ความรู้สึกโหยมันเริ่มมากขึ้นทุกวันๆ แต่พ่อคุณก็ซื่อเหลือเกิน เธอบอกเขาว่าห้ามเข้าใกล้เธอเกินหนึ่งเมตรแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะละเมิดสัญญาไม่ได้นี่นา ตาทึ่ม บทจะทึ่มก็ทึ่มได้ใจจริงๆ สุดท้ายเธอก็นึกค่อนขอดเขาในใจ...“เพื่อนจะนั่งกินบนเตียงหรือไปที่ริมระเบียงดีครับพี่จะยกไปให้” ธามบอกอย่างกระตือรือร้น หญิงสาวก้มหน้าหลบซ่อนแววตาเจ้าเล่ห์ของตนก่อนจะเชิดหน้าตอบเขาเสียงเรียบ“เพื่อนจะนั่งกินตรงนี้ค่ะ รบกวนเอาถาดอาหารมาวางใกล้ๆ เพื่อนหน่อยค่ะ เพื่อนไม่ค่อยมีแรง...” เปิดโอกาสให้ขนาดนี้แล้วดูสิเขาจะทำอย่างไร...“ครับๆ เจ้าหญิง” ธามรีบยกถาดอาหารมาวางใกล้ๆ เธอแล้วก็
ตอนที่61.เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วสภาพจิตใจของพิมพ์ภัสสรดีขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวกลับมาพูดคุยหัวเราะสดใสกับทุกๆ คนเหมือนเคย โดยไม่สนใจเรื่องอดีตหรือข่าวคราวของสองแม่ลูกผู้ที่เป็นเสมือนตราบาปความแค้นในใจเธอ เมื่อเธอค้นพบแล้วว่าการที่ยึดติดกับความแค้นใจนั้นมันเจ็บปวดทรมานมากเพียงใด และตอนนี้เธอมีอย่างอื่นให้สนใจ ใส่ใจมากกว่าอดีตอันแสนเจ็บปวดเป็นไหนๆ ก็เจ้าตัวเล็กในท้องของเธอนี่อย่างไรล่ะ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กคงกำลังสนุกสนานมากจนดีดดิ้นถีบยันหน้าท้องของผู้เป็นแม่จนเห็นเป็นรูปร่างมือและเท้าน้อยๆ ส่งผลให้คนมองตื้นตันด้วยความสุขจนล้นใจ“พี่ธามไปห่างๆ เลยค่ะ เพื่อนยังไม่ได้อนุญาตให้พี่ธามเข้าใกล้เพื่อนเกินหนึ่งเมตรนะคะ...” หญิงสาวหันมาตวาดชายหนุ่มที่ทำท่าเหมือนจะโผนเข้ามาลูบไล้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในตัวของเธอเหมือนคนอื่นๆ บ้าง ใบหน้าและท่าทางหงอยๆ ของเขาดูน่าสงสารอยู่หรอกแต่เขานั่นล่ะตัวร้ายที่สุด...“โธ่ เพื่อนน่ะ... ใจร้ายที่สุดเลย นี่แทมมี่อย่ามาวุ่นวายกับเมียพี่ได้มั้ย แล้วไม่ต้องชวนกันไปไหนด้วย รู้บ้างสิว่าผัวเมียเขาอยากอยู่ด้วยกัน” ธามพ้อภรรยาที่เขาได้จับเธอตีทะเบียนแล้วเรียบร้อยด้วยความน้อยใจทั้งย
ตอนที่60.“แหม อีแก่นี่ปากมันน่าตบให้ฟันร่วงจริงๆ จะตายอยู่แล้วยังจะปากดี” เจ๊หวานเท้าสะเอวจ้องหน้านางจันอย่างเกลียดชัง“อย่าเสียเวลาเลย คนพวกนี้ยิงปล่อยไว้นานยิ่งเปลือง” คุณนิดาขู่ซ้ำ“แกจะทำอะไรพวกเรา...” คราวนี้สองแม่ลูกกอดกันกลมเมื่อเห็นท่าทางน่ากลัวของชายฉกรรจ์ที่เดินตรงมาหาพวกตนด้วยสีหน้าเย็นชา“รับรองได้ว่าลูกน้องฉันทุกคนไม่มีใครใฝ่ต่ำข่มขืนฆ่าเธอแน่ๆ ของเน่าๆ แบบนี้แบให้เอาฟรีๆ ลูกน้องฉันก็ไม่มีใครอยากหรอกจ้ะ เพราะลูกน้องฉันทุกคนได้กินแต่ของดีๆ และเลือกสรรมาแล้วอย่างดีเสมอ ของคาวของเน่าของเหม็นอย่างพวกเธอน่ะไม่มีอยู่ในสายตาคนของฉันหรอกย่ะ และที่สำคัญถึงแม้ฉันจะเกลียดใครมากแค่ไหนฉันก็ไม่ใช้วิธีสกปรกอย่างที่พวกเธอใช้หรอก ฉันมีความเป็นแม่และมีความเห็นอกเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกันมากกว่าที่พวกเธอสองคนมีก็แล้วกัน เอาตัวพวกมันไป...”คุณนิดาปรายตามองเหยียดหยันรู้สึกขยะแขยงหญิงทั้งสองคนตรงหน้ายิ่งนัก สองแม่ลูกใจเสียแต่ยังไม่ยอมจำนนเสียทีเดียว เพราะต่างพยายามดิ้นรนออกจากเกาะกุมของชายทั้งสองปากก็ด่าทอต่างๆ นานาอย่างหยาบคายจนเจ๊หวานกับคุณนิดาแทบจะทนฟังไม่ได้“แน่จริงมึงปล่อยกูสิวะนางแก่ อีกะ
ตอนที่59.“แต่ตอนนี้ฉันไม่มีน้องสาวแล้ว” พิมพ์ภัสสรหน้าหม่นลง“แต่เธอมีสิ่งที่มีค่ามากกว่า และฉันก็อยากให้เธอรักษามันไว้ กลับมาเป็นคนเดิมนะเพื่อน หากเธอเป็นแบบนี้หรือหากเธอกับเจ้าตัวเล็กเป็นอะไรไปฉันคงไม่ยกโทษให้ตัวเองไปตลอดชีวิตแน่ๆ เพราะฉันเองก็มีส่วนทำให้เรื่องมันเลวร้าย”แล้วแทนฤทัยก็เล่าเรื่องในคืนวันเกิดเหตุให้พิมพ์ภัสสรฟังซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนพิมพ์ภัสสรคงจะต่อว่าแทนฤทัยด้วยความเผ็ดร้อนไปแล้วที่ทำเพิกเฉยกับคำเตือนของราฟาเอล ถึงขนาดว่ามีอันตรายต่อทุกคนแต่แทนฤทัยเลือกที่จะไม่ใส่ใจเพราะอคติที่มีต่อตน แต่ตอนนี้พิมพ์ภัสสรคิดว่าทุกคนก็คงได้รับผลของการกระทำของตนไปแล้ว...“ไม่เป็นไรหรอกแทมมี่ ฉันเองก็คงมีส่วนผิดเหมือนกัน หากว่าจะมีใครผิดก็คงเป็นคนที่คิดทำร้ายเรามากกว่าและฉันก็คิดว่าทุกคนก็คงได้รับผลกรรมของตนไปแล้ว ไม่ว่าฉันหรือเธอ หรือใครๆ”“นั่นแสดงว่าเธอยกโทษให้ฉันแล้ว” แทนฤทัยตาโตแล้วยิ้มกว้าง“ฉันยกโทษให้เธอไม่ได้หรอกแทมมี่” แทนฤทัยหุบยิ้มทันที พิมพ์ภัสสรยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดต่อ“ที่ฉันยกโทษให้เธอไม่ได้ก็เพราะว่าฉันไม่เคยโทษเธอเลยกับทุกเรื่องที่ผ่านมา และฉันก็ไม่ได้โกรธเธอเองก็ไม่ได้ทำอ