“พี่ขนุนคะ...ตอนนี้อรยุ่งอยู่ค่ะ คงจะถึงบ้านเย็นๆ เดี๋ยวอรฝากพี่ขนุนหาเจ้าเลอนัวร์ให้ทั่วบ้านก่อนนะคะ ห้ามหายนะคะพี่ขนุน เลอนัวร์มีตัวเดียวนะคะ แถมสมบัติของคุณย่าเชียวนะคะ” ท้ายประโยคอรรวินทร์กล่าวเสียงเข้มแล้วปิดโทรศัพท์ลงอย่างกระวนกระวายใจ
มือเรียวของหญิงสาวกำเข้าหากันแน่น อรรวินทร์รู้สึกราวกับว่าเวลานี้เธอเป็นลูกโป่งพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
“คุมตัวเองเอาไว้อร” หญิงสาวกล่าวกับตนเองด้วยสีหน้าถมึงทึงอย่างหาที่สุดไม่ได้ในตอนนี้
ขมับทั้งสองข้างของตึงไปหมด คิ้วเรียวของหญิงสาวขมวดมุ่นเข้าหากันละม้ายคล้ายเชือกปมใหญ่ที่มัดติดกันจนแน่นหนา หญิงสาวอดรู้สึกถึงความตึงเครียดไม่ได้ เมื่อเวลานี้ทุกเรื่องได้ถาโถมเข้ามาหาเธอ
“คุณอรรวินทร์คะ” เสียงหนึ่งเอ่ยดังขึ้นปลุกหญิงสาวออกมาจากภวังค์ที่หญิงสาวได้เผลอจมดิ่งไปชั่วครู่
“คะ” หญิงสาววัยยี่สิบสองปีเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง จนพยายาลที่มาอดกลัวใจไม่ได้ ในเรื่องที่ต้องแจ้งกับหญิงสาว
“คุณหมอมีเรื่องจะปรึกษากับคุณค่ะ” พยาบาลคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงล่ะล่ำละลัก..ยามเมื่อเวลานี้หญิงสาวตรงหน้ามีสีหน้าถมึงทึงอย่างที่ไม่มีสตรีใดในโลกนี้จะมีใบหน้าเหมือนเธออีกแล้ว
ภายในห้องตรวจคนไข้ แพทย์หนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้สีขาวสะอาดตา เรียวปากของชายหนุ่มขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
“คนไข้รายนี้สูญเสียความทรงจำไปชั่วคราวครับ แต่หมอว่าเราสามารถกู้ความทรงจำกลับคืนได้ ” คุณหมอเจ้าของไข้กล่าวอย่างหยิบยื่นความหวังให้แก่หญิงสาว
“ค่ะ” อรรวินทร์กล่าว
“สบายใจได้ครับคุณอรรวินทร์ สามีของคุณไม่ได้บ้าครับ นี่เป็นเพียงภาวะเท่านั้นครับไม่ใช่โรค เดี๋ยวหมอจะให้เขากลับบ้านนะครับ การอยู่บ้านอาจจะทำให้สามีของคุณจำอะไรได้บ้าง” แพทย์เจ้าของไข้กล่าวกับหญิงสาวด้วยสีหน้าแจ่มใส
อรรวินทร์แทบไม่อยากจะเชื่อกับหูตนเอง ชายหนุ่มปริศนาที่บอกหญิงสาวว่าชื่อ อามันด์ เมื่อชั่วโมงก่อนจะกลายมาเป็นสามีของเธอได้ นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ เจ้าโชคร้าย!
“คุณหมอหมายความว่าอย่างไรนะคะ” อรรวินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอย่างข่มอารมณ์ที่เดือดปุดๆขึ้นราวกับน้ำร้อนจะทะลักล้นกาน้ำร้อน
“ผู้ชายคนนั้นเรียกคุณว่าภรรยาครับ” แพทย์เจ้าของไข้เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสพลางส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างเป็นมิตร
“ภรรยา” อรรวินทร์เอ่ยทวนด้วยน้ำเสียงปกติ หากว่าวันนี้เธอไม่ได้ฆ่าเขาละก็ เธอก็คงไม่ใช่อรรวินทร์ คุณหนูของคฤหาสน์วิมานฟ้าครามเสียแล้วล่ะ
อรรวินทร์เดินออกมาจากห้องตรวจคนไข้อย่างหัวเสียหนักมาก ใบหน้าของหญิงสาวเวลาบึ้งตึงจนคนรอบข้างมองเธอเป็นตัวประหลาด
รองเท้ากีฬาของอรรวินทร์เหยียบบางอย่างเข้า ร่างของหญิงสาวเซถลาไปตามพื้นทางลงโรงพยาบาลที่ลาดชันทันที
“ว้าย” อรรวินทร์กรีดร้องด้วยเสียงหวานแหลม อารามตกใจทำให้หญิงสาวไม่ทันระมัดระวังตัว หญิงสาวหลับตาปี๋
วงแขนแข็งแกร่งของชนชั้นแรงงานรั้งเอวอรชรของร่างเพรียวไว้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้หญิงสาวตกลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก..อามันด์ช่วยหญิงสาวไว้ได้อย่างทันท่วงที
หญิงสาวผมสั้นยังคงหลับตาปี๋ กลิ่นหอมอ่อนจางของดอกไม้บางอย่างโชยเข้าจมูกของเธอ อรรวินทร์เปิดเปลือกตาที่หลับขึ้นอย่างเชื่องช้า
ดวงตาคู่เรียวรีสีดำสนิทสบสายตากับดวงตาคู่สีน้ำตาลอ่อนอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนดวงหน้าของชายหนุ่มโน้มลงมาเข้าใกล้ริมฝีปากของหญิงสาวมากขึ้น
กลิ่นหอมของดอกไม้เจือจางแตะจมูกของหญิงสาว อรรวินทร์ได้สติ หญิงสาวผละออกจากแผงอกกว้างของชายหนุ่มทันที
“นี่นายคิดจะฉวยโอกาสเหรอ” อรรวินทร์กล่าวเสียงดังอย่างไม่พอใจอย่างยิ่งที่อามันด์ทำท่าจะจุมพิตเธอ
“อากาศ” อามันด์ทวนคำข้างหลังอย่างงงงวย อามันด์ยกมือขึ้นมาเกาศีรษะพลางอดสงสัยในท่าทีโมโหของหญิงสาวตรงหน้าเขาอีกฝ่ายไม่ได้
“โอกาส...สระโอ...อออ่างสระอากอไก่สระอาอเสือ...อ่านว่า โอกาส” หญิงสาวทวนคำด้วยน้ำเหนื่อยหน่ายปนหงุดหงิด
“ช่างมันเถอะ” อรรวินทร์เอ่ยออกมาในที่สุด หญิงสาวเกาหัวแกรกอย่างจนปัญญาที่จะอธิบายให้ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจไม่ได้
รถเก๋งสปอร์ตของอามันด์เลื่อนเข้าไปจอดยังทางรถเลี้ยวที่ไปทางรีสอร์ท เขามองอรรวินทร์ที่หลับไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยนที่กำซาบอยู่ในใจ“ถึงแล้วเหรอคะอามันด์” หญิงสาวมองเห็นชายหนุ่มจอดรถเสียงดังลั่น“ยังหรอกแต่ผมไม่กล้าปลุกคุณก็เท่านั้นเอง” ชายหนุ่มกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ“อามันด์…ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ” อรรวินทร์กล่าวขณะที่ชายหนุ่มจอดรถอยู่ข้าง ๆ ต้นพญาเสือโคร่ง“อรรวินทร์ผมมีสิ่งของจะให้คุณ” ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเขาก็เดินลงมาจากรถอรรวินทร์รีบเดินตามลงไปอย่างตกใจ หล่อนทิ้งกระเป๋าสะพายของเธอไว้ในรถแล้วรีบเดินตามอามันด์ลงไปอย่างรวดเร็ว“อามันด์คะคุณจะไปไหน” หญิงสาวกล่าวพลางมองแผ่นหลังของเขาที่เดินห่างออกไปอย่างเร่งรีบดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างเมื่อเวลานี้อามันด์เดินหนีเธอหายเข้าไปในชายป่าลึก หล่อนจึงวิ่งตามเขาไปอย่างรวดเร็ว“อามันด์รออรด้วย รอฉันด้วยค่ะอย่าเพิ่งไป”“อรๆ” เสียงของชายหนุ่มปลุกเขย่าเรียกหญิงสาวอย่างรวดเร็วแพขนตาของหญิงสาวกระพือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หล่อนลืมตามองไปรอบ ๆ ก็พบกับอามันด์ที่สวมเสื้อกล้ามบางเบาตัวสีขาวเพียงตัวเดียวในห้องนอน“คุณเป็นอ
เวลานี้อามันด์รู้สึกไม่ได้เลยว่าเขากำลังกลายเป็นนกตัวน้อยที่พร้อมจะโผบินเข้าไปได้ในทุกเมื่อ…มันสวยงามมากจริงๆ“อามันด์ดูนั่นซิคะ ทะเลหมอกสวยมาก ๆ เลยค่ะ”อรรวินทร์กล่าวขึ้น พลางเชิญชวนให้เขาดูทะเลหมอก ที่ลอยล้อมรอบตัวพวกเขาอย่างน่าอัศจรรย์ใจดวงตาคู่ความปลาบของอามันด์มองทะเลหมอกที่เวลานี้ค่อย ๆ เคลื่อนคล้อยตัวเข้ามาปกคลุมฉาบท้องฟ้านภาที่กว้างใหญ่ไพศาล ย้อมสีฟ้าครามให้กลายเป็นสีขาวดุจหิมะช่างงดงามเหนือความคาดหมายของเขาเสียจริงอามันด์ก้มลงมองปลายรองเท้าของตนเองที่ยืนเหยียบพื้นต้นหญ้าอยู่ด้านล่าง เขาเห็นเพียงต้นหญ้าสีเขียวนั้น ค่อยๆ เลือนหายผ่านทะเลหมอกสีขาวพิสูจน์ดุจปุยเมฆ ต้นไม้สูงใหญ่สีเขียวขจีเหล่านั้นก็จางหายไปกลายเป็นทะเลหมอกสีขาวพิสุทธิ์ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจดวงน้อยของเขาอดเต้นรัวๆไม่ได้ อรรวินทร์เองก็เช่นกัน หญิงสาวเคลื่อนมือของหล่อนมาจับกับมือของเขาอย่างรวดเร็วอรรวินทร์บีบมือของเขาอย่างแรง เวลานี้เองที่อามันด์นั้นก็จับมือหล่อนเช่นกันทั้งคู่รู้สึกราวกับว่ากระแสไฟบางอย่างกำลังแล่นผ่านร่างของพวกเขาโดยที่ทั้งสองไม่ทันได้ตั้งตัว อามันด์แล้วอรรวินทร์มองหน้ากันในทันทีดวงหน้า
ในมือของอรรวินทร์เป็นนาฬิกาเรือนสวยที่อามันด์ซื้อให้เธอตั้งแต่เขาได้เจอเธอหลังจากภพชาติที่แล้วของเขา“อิ่มหรือยังคะ” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าเดิม“อิ่มแล้ว” อามันด์กล่าวขณะปากของเขายังเคี้ยวซาลาเปาอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดห้าลูกที่หญิงสาวซื้อมา“กินเร็วๆสิคะอามันด์ เดี๋ยวอรก็ไม่ทันไปดูทะเลหมอกหรอกค่ะ” หญิงสาวกล่าวพลางทำหน้ามุ่ยขึ้น“เดี๋ยวก็ได้ดูแล้วเดี๋ยวก็ได้ดูแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวขณะมือเรียวหยิบขวดน้ำกรอกน้ำลงไปในปากชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าเวลานี้น้ำที่เขากระดกลงไปผ่านลำคอของเขา มันช่างเย็นยะเยือกราวกับธารน้ำแข็งในมหาสมุดอันกว้างใหญ่ไพศาลดวงตาของอรริวินทร์เปล่งประกายวิบวับยามเมื่อเวลานี้หญิงสาวมองเห็นดวงตะวันที่ใกล้จะทอแสงขึ้นมาเบื้องหน้าหญิงสาวไม่รอช้า หล่อนฉวยคว้าข้อมือหนาของชายหนุ่มพลางลากออกไปยังจุดชมวิวทะเลหมอกทันทีอามันด์รีบเก็บถุงซาลาเปาเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา ไม่นานนักดวงตาของชายหนุ่มพลันเบิกกว้างอย่างตระหนกสุดขีดอามันด์อดรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่รักมากมายต่างพากันมามุงดูยังที่จุดชมวิวแห่งนี้“ที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกค่ะ” หญิงส
“อามันด์คะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกชายหนุ่มที่เอาแต่สนใจขับรถบนท้องถนนในจังหวัดเชียงใหม่ที่เริ่มจะไม่สนใจเสียงเรียกของหญิงสาวอย่างอรรวินทร์“ตรงนั้นค่ะ อามันด์” อรรวินทร์ชี้นิ้วมือให้ชายคนรักขับรถไปจอดยังบริเวณลานจอดรถที่มีช่องว่างมือหนาของอามันด์กำลังสาวพวงมาลัยถอนเข้าไปในซองที่จอดรถอย่างรวดเร็ว“จ้ะ…ที่รัก” เสียงเข้มของชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวพลางเงยหน้ามองอรรวินทร์ที่มีสีหน้าบึ้งตึงไม่น้อยเวลานี้อามันด์และอรรวินทร์มาฮันนีมูนที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากการประกาศวิวาห์อันหวานชื่นของหญิงสาวและชายหนุ่มได้จบไปอรรวินทร์ก็รบเร้าให้เขาพาหล่อนมาดูทะเลหมอกยามเช้าที่ประเทศไทยจนได้สายลมเหยียบเย็นหนาวเหน็บจับเข้าไปยังขั้วกระดูกของอรรวินทร์ หากแต่เวลานี้ใบหน้าของหญิงสาวกลับแต้มระบายรอยยิ้มอ่อนจางบนใบหน้า“หนาวไหมที่รัก” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นดึงความสนใจของหล่อนให้หันมามองยังคนตัวสูงตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยรู้สึกหนาวเย็น ขนาดนี้มาก่อน อามันด์หันมองอรรวินทร์ที่เวลานี้หนาวสั่นอยู่ข้างๆเขาด้วยความรู้สึกประทับใจในตัวของภรรยาสาวนับตั้งแต่วันที่อรวินทร์และอามันด์ได้เจอกันอีกครั้ง ราวกับว่าอามันด
อามันด์เคลื่อนใบหน้าคมคายเข้าใกล้จนชิดใบหน้าของอรรวินทร์ ลมหายใจอุ่นรดใกล้จมูกของหญิงสาวทันที...อรรวินทร์แทบลืมหายใจยามเมื่อริมฝีปากบางประกบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มรูปกระจับของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา...ช่างอ่อนโยนและแสนตราตรึง.... “เจ้าสาวหอมแก้มเจ้าบ่าวบ้าง” เสียงเชียร์ดังสนั่นอีกครั้งจากพี่สะใภ้ของอรรวินทร์ อรรรวินทร์เคลื่อนใบหน้าของตนเองเข้าไปใกล้จมูกโด่งรั้นของชายหนุ่ม หญิงสาวหอมแก้มเจ้าบ่าวอย่างอามันด์ดังฟอดใหญ่ ท่ามกลางเสียงปรบมือของแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีในความรักอันบริสุทธิ์ของทั้งคู่ห้องหอวิมานฟ้าครามซิปหลังชุดเจ้าสาวถูกรูดลงอย่างอ้อยอิ่ง เวลานี้มือหนากำลังสั่นเทา ทว่าอรรวินทร์ที่รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย หญิงสาวเบือนหน้ากลับมาหาเขา“อามันด์คะ” อรรวินทร์เอ่ยขึ้นขณะนั่งอยู่บนเตียงในชุดเจ้าสาว“ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ปิดความตื่นเต้นไว้ไม่มิด ยามเมื่อเวลานี้อรรวินทร์และเขากำลังจะเข้าหอร่วมกัน“อรรักคุณนะคะ” อรริวนทร์เอ่ยบอกสามีป้ายแดงของเธออย่างรวดเร็วพลางเอื้อมมือไปกุมมืออันสั่นเทาของชายหนุ่ม“เช่นกันครับ ผมก็รักคุณดวงใจของผม” อามันด์กล่าวแล้วสบสายตากับหญิงส
เวลานี้เป็นวันที่เขามีความสุขอย่างยิ่ง ชายหนุ่มไม่นึกไม่ฝันว่าปรากฎการณ์ทางวิทยาศาสตร์จะพาเขาเข้ามาสู่ห้วงอารมณ์แห่งรักได้เคยมีคนกล่าวว่าวิทยาศาสตร์ต้องใช้ตรรกะแต่สำหรับอามันด์แล้ว เขาเชื่อว่ามันคือพรของพระเจ้าที่ทำให้เขาและเธอได้กลับมาเจอกันอีกครั้งคนเรามีระยะเวลาของตนเองเสมอ อามันด์เชื่อมั่นเช่นนั้นมาตลอด...วันนี้เป็นวันที่พิเศษอย่างยิ่งของเขา เป็นวันที่เขาปรารถนาจะมีที่สุด “นี่ใม่ใช่ความฝัน ในที่สุดการรอคอยของนายก็สิ้นสุดลงเสียทีนะอามันด์ นายกำลังจะเริ่มต้นใหม่กับอรรวินทร์ แสงสว่างของนาย และนายเองเชื่อว่านายก็คือคำตอบในใจของหล่อนเช่นกัน” อามันด์เอ่ยออกมาบอกตัวเองอย่างลิงโลด “อรรวินทร์คุณคือสิ่งมีค่าสิ่งเดียวที่ผมมี” อามันด์เอ่ยด้วยสีหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม[End of อามันด์ part]ห้องแต่งตัวเจ้าสาวร่างเพรียวของสตรีคนหนึ่งยืนอยู่หน้ากระจกบานกว้าง อรรวินทร์แทบไม่เชื่อสายตาของตนเองว่า หญิงสาวจะมีวันนี้...ช่วงเวลาที่หญิงสาวทุกคนในโลกใบใหญ่เฝ้าฝัน...วันแต่งงานของเธอและอามันด์ ชายหนุ่มผู้ที่เธอรักสุดดวงใจรองเท้าส้นสูงสาวเท้าออกมาจากห้องแต่งตัวเจ้าสาวอย่างรวดเร็ว เวลานี้อรรวินทร์สวมชุ