อย่าคิดว่าเป็นนางร้ายแล้วจะง่าย!'เมื่อเธอต้องพลิกบทบาทเป็น เซเรน่า ตัวร้ายสุดแซ่บที่ต้องเอาชีวิตรอด!
View Moreในปัจจุบันมีอยู่สิ่งหนึ่งที่คนกำลังอ่านคือเว็บโกก้าโกก้า เป็นเว็บอ่านการ์ตูนมาแรงที่สุด นางร้ายเซเรน่า ตัวละครที่มีแต่คนอิจฉาในความงดงามนั้นแต่ทว่าเธอที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองฝ่าบาท เธอทำร้ายทุกคนที่อยู่ใกล้ฝ่าบาทหรือแค่มีสาวมองก็จะเดินเข้าไปตบหน้าของเหล่าเลดี้
"เลดี้เซเรน่า ทำไมถึงตบหน้าดิฉันล่ะค่ะ" หญิงสาวผมสีน้ำตาลยกมือมาจับบนใบหน้าตัวเอง
เพียะ !
"มือมันคันไม้คันมือน่ะ"
เพียะ !
"หืม คราวนี้มือมันลื่นน่ะ"
หญิงสาวมีรูปร่างสูงโปร่งผิวของเธอขาวเนียนราวกับน้ำนมเส้นผมยาวสลวยสีส้มอิฐเงางามดวงตาสีมรกตใส่เหมือนเพชรระยิบระยับริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนเป็นธรรมชาติ เธอมีใบหน้าที่งดงามราวกับตุ๊กตา เดรสสีแดงสดรัดรูปโชว์สัดส่วนอันเย้ายวนทำให้เธอดูโดดเด่นราวกับดอกกุหลาบสีแดงกลางพร้อมผ้าคลุมไหล่สีขาว ปากเล็กที่กำลังยิ้มอยู่นั้นเพราะจงใจตบหน้าของเลดี้คนนั้นที่มีสามีอยู่แล้วยังจะไปยั่วยวนฝ่าบาทอยู่ได้
"ทะทำไมถึงได้ทำตัวหยาบช้าอย่างนี้ เลดี้เซเรน่า"
"หน้าของเลดี้มันด้านมือฉันเลยทนไม่ไหว"
ไม่ว่าจะเป็นใครเธอจะทำร้ายคนนั้นอย่างไม่ปรานี แต่เธอนั้นกลับไม่สามารถอยู่ข้างกายฝ่าบาทมอร์ฟรานได้เพราะมีไลล่าที่เขาทรงรักและเอ็นดูอย่างดีไลล่าเป็นคนที่จิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้คนทำให้เซเรน่าสั่งคนมาจับตัวเธอและยังสั่งให้ฆ่าเธออีกแต่ก็ไม่สามารถทำได้จนฝ่าบาทรู้เข้าว่าเธอได้ร่วมมือกับคนร้ายเพื่อจะทำร้ายไลล่าเลยออกคำสั่งคือการประหารชีวิตเธอ
ณ บริษัทมาริน จำกัด...
หญิงสาวผมสีมอลค่าผมยาวตรง ดวงตาสีช็อกโกแลต ใส่สูทดำสนิทตัดกับผิวขาวซีดราวหิมะที่สวมข้างในมีเนกไทสีดำผูกอยู่ กระโปรงทรงเอสีดำ ใส่แว่นตา ใบหน้าอ่อนเยาว์ริมฝีปากยิ้มแย้มอย่างสดใส ดวงตามีแววขี้เล่นและขนตาที่ยาวงอน มีป้ายห้อยคอชื่อของเธอ ขณะที่นั่งอยู่หน้าจอคอมกำลังเลื่อนอ่านนิยายนางร้ายเซเรน่าอยู่
"นิโคล อ่านอะไรอยู่น่ะ งานการไม่ทำเลยนะ เอาแต่อ่านนิยายอยู่ได้ รีบกลับบ้านได้แล้วเลิกงานแล้ว"
เสียงใส ๆ ของหญิงสาวผมสีทับทิมดวงตาสีม่วงองุ่นเจาะหูใส่กระโปรงสั้นเสื้อเชิ้ตสีขาวแต่งหน้าสวย ปากแดง ซันเพื่อนร่วมงานที่สนิทของฉันพูดขึ้น
"อ่าว หกโมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย ขอโทษอ่านเพลินไปหน่อย ช่วงนี้ติดนิยาย"
ฉันที่ลุกขึ้นกำลังเก็บเอกสารใส่กระเป๋าของตัวเอง
ซันหัวเราะก้าวเดินมานั่งเก้าอี้ของฉัน และยิ้มออกมา
"เธอเนี่ยนะ บ้างานจะตายยังมีเวลาอ่านนิยายได้นะ ฉันนับถือเลย"
"ก็คนมันเครียด งานก็เยอะจะตายอยู่แล้วต้องหาอะไรผ่อนคลายบ้าง นิยายเนี่ยแหละเป็นเพื่อนแก้เหงาชั้นดีเลย"
"ว่าแต่อ่านเรื่องอะไรอยู่ สนุกไหม เห็นอ่านตลอด" ซันถามด้วยความสนอกสนใจถึงขั้นมาเกาะแขนของฉัน
"เรื่อง นางร้ายเซเรน่า สนุกมากเลยล่ะ ถ้าแกได้อ่านนะ รับรองจะติดใจ แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ ใกล้จะถึงตอนจบอยากรู้ว่าเซเรน่าจะโดนลงโทษยังไง ไปล่ะน่ะ" ฉันโบกมือลาซันแล้วรีบวิ่งออกไปเลย
"อ่าว ทิ้งเพื่อนเฉยเลยน่ะ เห็นนิยายดีกว่าเพื่อนอีก นิโคลยัยบ้า!"
เสียงฝีเท้าดังก้องกังวานตามทางถนนขณะที่ฉันอยู่ในชุดทำงานกำลังเดินกลับห้องพักหลังจากเลิกงานใบหน้าที่ตื่นเต้นที่จะได้อ่านนิยายเรื่องโปรดต่อจากที่อ่านค้างไว้
"วันนี้จะได้อ่านถึงตอนที่เซเรน่าโดนลงโทษแล้วสินะ ตื่นเต้นการที่เธอไม่ยุ่งกับคนรักของฝ่าบาทก็สมควรโดนอยู่แล้ว "
ห้องนอนนิโคล...
ฉันอดใจรอไม่ไหวที่จะได้รู้จุดจบของนางร้ายที่ฉันทั้งรักทั้งเกลียด เมื่อมาถึงห้องฉันก็รีบมุ่งตรงไปยังเตียงนุ่ม ทิ้งตัวลงนอนแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดนิยายอ่านต่อทันทีนิ้วเรียวยาวเลื่อนหน้าจออย่างรวดเร็วไล่อ่านรูปภาพที่มีตัวอักษรเรียงร้อยเป็นเรื่องราวจนมาถึงฉากสำคัญ
"แต่พอเข้าจริงก็สงสารนะ รักฝ่าบาทมากจนตัวเองต้องกลายมาเป็นคนร้ายทำร้ายคนอื่นเพื่อไปสู่การเคียงข้างเขา ไม่มีผู้ชายคนอื่นแล้วหรือไง ถึงได้รักแต่ฝ่าบาทกันเนี่ยอยากจะบ้า"
"ถ้าเป็นฉันอย่าหวังเลยไม่รักเด็ดขาดคนอย่างฝ่าบาทจิตใจน่ากลัว อะไรก็ฆ่า น่าจะจิตไม่ปกติ หลงรักไปได้ไงก่อนเซเรน่าหาผู้ชายคนอื่นน่าจะง่ายกว่าอีก"
ฉากที่ฉันรอคอยก็มาถึง เซเรน่าถูกฝ่าบาทผู้เป็นที่รักลงทัณฑ์โดยการประหารตัดคอโทษฐานที่ก่อกรรมทำชั่วไว้ภาพโหดร้ายทารุณความเจ็บปวดทรมานของเซเรน่าปรากฏขึ้นบนหน้าจอราวกับมีชีวิต
ทันใดนั้นแสงสว่างจนแสบตาก็แผ่ซ่านออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์ร่างของฉันถูกดูดเข้าไปในแสงนั้นราวกับถูกกลืนหายไปในอีกมิติหนึ่ง ทุกอย่างเป็นสีน้ำเงินม่วงภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในนิยาย ฉากที่เซเรน่าทำร้ายผู้อื่น ฉากที่เธอพยายามแย่งชิงฝ่าบาทกับฉากที่เธอถูกฝ่าบาทประหารเหมือนกำลังย้อนดูอยู่ตรงหน้าฉันรอบข้างมีแต่ภาพเซเรน่าทั้งหมด
"อะไรกันเนี่ย!! มันหมายความว่ายังไงกันแน่ ทำไมภาพ เซเรน่าถึงเต็มไปหมด"
แต่แล้วภาพก็ตัดมาในขณะที่ฉันนอนอยู่บนกองหิมะพอลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางหิมะกว้างขวาง มือที่ดันตัวเองลุกขึ้นไปโดนเหมือนเป็นน้ำๆ จึงเอามือมาดูเป็นเลือดสีแดงสดทำให้ฉันมองไปรอบๆ อีกครั้ง
มีเพียงร่างไร้วิญญาณนอนเกลื่อนกลาดเต็มไปหมดเลือดสีแดงสดตัดกับหิมะดูน่าสยดสยองลมหนาวผัดผ่านร่างกายส่งความเย็นยะเยือกถึงกระดูก
ฉันรีบลุกขึ้นมองชุดตัวเองที่ใส่เป็นผ้าคลุมหนาสีขาวนวลขนแกะนุ่มฟู่ข้างในเป็นชุดเดรสสีน้ำเงินกระโปรงยาวมีเข็มสีทองติดบนอกเหมือนจะเป็นตราสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง
"ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่"
ฉันพึมพำกับตัวเอง เสียงสั่นเพราะความหนาวเหน็บถึงหัวใจเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว สิ่งที่จำได้ครั้งสุดท้ายคือ กำลังอ่านนิยายอยู่บนเตียงในห้องนอนแล้วก็มีแสงขึ้นมาก่อนที่ฉันจะมาอยู่ตรงนี้
"ฝันร้ายแหละในนี้คือความฝัน ฝันก็บ้าล่ะ เข้าข้างตัวเองยังไงให้ดูโง่เนี่ย"
ฉันพยายามคิดในแง่ดีแต่ไม่เลย ภาพตรงหน้าเล่นเอาติดตาฉัน เหมือนกับว่าที่นี่มีสงครามยังไงอย่างนั้น
"ต้องออกไปจากที่นี่ก่อน ใช่ๆ ต้องตั้งสตินะ นิโคลใจเย็นๆ โอ๊ยไม่เย็นแล้ว!!"
ขาก้าววิ่งสุดกำลังร่างกายฝ่าพายุหิมะโดยไม่รู้ว่าจะวิ่งไปทางไหนรู้แค่เพียงว่าต้องหนีให้ไกลจากสถานที่แห่งนี้ฉันกัดฟันวิ่งราวโดยไร้จุดหมายท่ามกลางความหนาว ความเหนื่อยล้า แต่ไม่ว่าจะวิ่งไปไกลแค่ไหนก็มีแต่ซากศพตามทางราวกับไม่มีที่สิ้นสุด
จนกระทั่งมีเงาร่างโปร่งสูงปรากฏขึ้นตรงหน้าในมือถือดาบคมกริบมีเลือดติดอยู่พุ่งเข้ามาหาฉันด้วยความเร็วแทงเข้ามาที่ตรงคอของฉันจนทะลุ เลือดไหลออกจากปากก่อนที่สติจะดับวูบไป...
เหตุไฉนนั้นความมืด ไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ ร่างที่ยืนอยู่บนพื้นสีดำอย่างเคว้งคว้างอย่างกับในห้วงอากาศอันเวิ้งว้างไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น ไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความว่างเปล่า
"อะไรอีกล่ะเนี่ย แต่ละที่เล่นเอาฉันปวดหัวชะมัด" เสียงสะท้อนก้องอยู่ในความมืดสร้างความวังเวงอย่างบอกไม่ถูก
ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบขึ้นเผยให้เห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ผมสีส้มอิฐ ดวงตาสีมรกต ใบหน้างดงามราวกับเจ้าหญิง ยืนอยู่ตรงหน้าฉันสีหน้าเธอดูเศร้าสร้อยดวงตาคู่คมจ้องมองฉัน
"เธอเป็นใคร?"
หญิงสาวยิ้ม "ฉันคือเธอและเธอก็คือฉัน"
ฉันเอียงหัวเล็กน้อยทำตากะพริบ ๆ งงกับสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้บอก
"หมายความว่ายังไง?"
"นับจากนี้ไป เธอจะใช้ชีวิตเป็นฉัน เพราะฉันเลือกเธอ จากนี้เธอจะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ความสิ้นหวังที่ฉันเคยได้รับ เมื่อทุกอย่างเดินมาถึงฉากจบเธอจะได้กลับไปยังโลกของเธอ" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"ไม่ๆๆ ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ไม่เอาาาาาาา!!!!" ฉันพยายามถอยหนีแต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้
หญิงสาวค่อยๆ ก้าวย่างเข้ามาใกล้ๆ "ยินดีต้อนรับสู่ชีวิตใหม่ของเธอเซเรน่า"
" เซเรน่า? " พูดทวนคำก่อนที่สติจะดับวูบไปอีกครั้ง
ฉันสะดุ้งตื่นเหงื่อแตกพลั่กหัวใจเต้นแรงมือบางรีบไปจับที่ลำคอคลำ ๆ ดูที่โดนดาบแทงเข้ามาที่ต้นคอ
แฮ่ก ! แฮ่ก !
"เฮ้อ ยังไม่ตาย...นึกว่าตายไปแล้วซะอีก"
ความฝันเมื่อครู่ยังคงติดอยู่ในหัวของฉัน สายตาเงยขึ้นมองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคยและกว้างสุดๆ
"เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ห้องนอนของฉันนี่!"
เตียงทั้งกว้างราวกับนอนได้ประมาณห้าคน โทนสีห้องเป็นสีขาวชมพูอ่อนๆ ปนสีทอง พื้นมีพรมสีครีมปักลายดอกไม้ มีผ่านม่านบางติดเตียงสีขาว ขาลงแตะพื้นเดินไปก็เจอห้องน้ำกว้างมากอ่างอาบน้ำทรงกลมหรู มีเทียนบางมุม กับดอกไม้สีขาวทำฉันรีบก้าวไปทางด้านขวาหน้าต่างเปิดผ้าม่านพอได้มองไปข้างนอก
"โอ้มายก๊อด..."
ฉันอุทานเป็นเสียงที่ตื่นเต้นสุดๆ มีสวนขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยดอกไม้หลายชนิดสวยงามราวกับภาพวาด
"นี่มันคฤหาสน์ชัดๆ"
ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกหญิงสาวผมสีแอลม่อนผมถักเปียดวงตาสีชาโคลมีกะบนใบหน้าสวมชุดเมดเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับรอยยิ้ม
"คุณหนู เซเรน่าฟื้นแล้ว " เธอพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
"ฮะ...คุณหนูเซเรน่า? ฉันเหรอ"
"ก็ใช่น่ะสิคะ ท่านมาร์ควิส ท่านมาร์เชอเนส คุณชาย คุณหนูฟื้นแล้วค่ะ"
หญิงสาวตะโกนเสียงดังก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องนอน ฉันเอามือขึ้นมาเกาที่หัวอย่างงุนงง
"เมื่อกี้นางเรียกฉันว่า เซเรน่า เซเรน่า คุ้น ๆ อยู่น่ะ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน"
"เดี๋ยวนะ!!" ฉันตาโตขึ้นทันที
ฉันที่นึกออกว่าเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนรีบวิ่งแต่สะดุดล้มเลยคลานไปหากระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้หน้าตู้เสื้อผ้าพอเห็นใบหน้าตัวเองแล้วถึงกับเอามือขึ้นมาปิดปากเพราะที่เห็นในกระจกนั้น คือเซเรน่า!
"แม่เจ้า!!! คนอะไรสวยขนาดนี้เนี่ย ผิวเอ่ย ใบหน้าเอ่ย โหหมดไปกี่บาทกันนะ ไม่ๆ ๆ ไม่ใช่เวลามาชม ไงมาอยู่ร่างเซเรน่าได้ล่ะเนี่ย!!!"
หนึ่งเดือนผ่านไป...ห้างบีบุ๊ค จำกัด...หลังจากที่ฉันกลับมาจากในนิยายทุกอย่างจบแฮปปี้ฝ่าบาทก็ขึ้นครองบัลลังก์อย่างที่เขาต้องการและมีการทำพิธีศพให้กับเซเรน่าหนึ่งร้อยวันเนื่องจากในนิยายเขียนว่าเธอป่วยและตายไป แต่ทุกคนในเมืองต่างมีความสุขอย่างที่ฉันหวังแทบวันนี้มีงานหนังสือของผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ฉันที่เป็นแฟนคลับเลยอยากจะได้ลายเซ็นสักหน่อยจึงนั่งรถมางานพอก้าวเดินเข้ามามองไปรอบๆ คนเยอะมากไม่คิดว่าจะมีคนอ่านเยอะเหมือนกันจู่ๆ ก็มีมือมาแตะไหล่ของฉันทำให้สะดุ้งเล็กน้อยกลายเป็นซันเพื่อนของฉันเอง"ไม่รอกันเลยนะเดินมาอย่างกับ มาคนเดียว" เธอทำหน้าบูดบึ้งแล้วกอดอกทำแบะปากอีกด้วยฉันเอามือไปเกาะแขนแล้วเอาหัวซบไหล่เธอ "ขอโทษกลัวจะไม่มีที่ให้ยื่นนะสิดูนั้น...""ก็จริงคนเยอะมาก อย่างกับดูดาราแน่ะ""เหมือนดาราจริงๆ แหละ"ซันเขย่งเท้ามองเข้าไปในงานเธอเข้ามาจับมือพาเดินแทรกมายื่นอยู่ตรงข้างหน้าซันกลายเป็นชอบการอ่านนิยายไปแล้วเมื่อก่อนยังบ่นฉันอยู่เลยตอนนี้กับติดเกือบทุกเรื่อง"ซันไหนติดนิยายมากกว่าฉันได้ละเนี่ย บอกว่าไม่ดีไม่ใช่เหรอ""ใครบอกฉันชอบนิยายที่สุดเลยแหละ""จ๋าๆ แม่คุณ"เมื่อได้เวลาที่จะเริ
เสียงพูดของไลล่านั้นทำให้ฉันแทบหยุดลมหายใจจ้องมองด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อไม่คิดว่าไลล่าจะรู้เรื่องนี้เพราะอย่างนี้เธอถึงได้ทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง"ถึงเธอจะรู้แล้วยังไงล่ะ แค่จัดการเธอได้ทุกอย่างก็จบแล้ว""ใครบอกกันเธอต่างหากที่จะหายไปในโลกใบนี้เมื่อฉันตายเธอก็จะกลับสู่โลกของเธอ"ผ้าที่มัด ตาเธอไว้หลุดทำให้เห็นดวงตาสีแดงก่ำในตาของเธอเป็นรูปสัญลักษณ์ดวงดาวท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มฉันเงยขึ้นทุกอย่างเป็นสีแดงพระจันทร์ก็ยังเป็นสีแดงเช่นกันทุกคนรอบข้างตื่นตระหนกวิ่งกันให้วุ่น"เธอคือคนที่สร้างเรื่องนี้สินะใช่ไหมคุณนักเขียนฉันอ่านไดอารีของเธอหมดแล้ว"ไลล่ายิ้มให้กับฉัน "ใช่ฉันได้เข้ามาอยู่ในร่างไลล่า คิดว่าการเป็นนางเอกนั้นมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ฉันพยายามทำทุกวิถีทางจะครองหัวใจฝ่าบาทแต่มันทำไม่ได้เหมือนอะไรมาขีดเส้นทางไว้พอเซเรน่าตาย มันกลายเป็นวนเวียนอยู่อย่างนี้นับครั้งไม่ถ้วนจนเธอมาสวมร่างเซเรน่าทำให้ทุกอย่างมันจบแบบที่ฉันต้องการแล้วล่ะ""แบบที่เธอต้องการคือความตายของตัวเองเหรอ แล้วทุกคนที่นี่จะเป็นยังไงถ้าฉันหายไป""ฉันตอบไม่ได้รู้แค่ว่าเธอไม่มีทางอยู่ในนิยาย
พอพิธีการแต่งงานจบพิธีถัดไปคือการเฉลิมฉลองให้แก่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมีราชาและราชินีนั่งอยู่บนบัลลังก์เหล่าขุนนางต่างก็ยิ้มหน้าบาน"อิจฉาเลดี้เซเรน่าได้ครอบครองฝ่าบาทมอร์ฟราน""จริง สมกับเป็นฝ่าบาทงานอลังการเหมาะสมที่สุดเลยทั้งหล่อทั้งเท่ทั้งรวย""นั้นสิ แถมฝ่าบาทกับเลดี้เซเรน่าสง่างามมากด้วย""แต่อย่างน้อยยังเหลือท่านดยุกของพวกเรานะคะ เลดี้ทั้งหลาย"ทุกคนหัวเราะพูดคุยฉันหันไปหาพี่ซีซาร์นั่งร้องไห้อยู่กับสาวๆ ของเขา"น้องสาวของข้า ออกเรือนแล้ว เหลือแต่ข้า"ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ราบรื่นไปด้วยดีไม่มีอะไรมาขัดขวางสุดท้ายฉันก็ยังนึกถึงคำพูดขอไลล่าไม่เลิกอีกไม่กี่วันก็ใกล้วันประหารของเธอแล้วขณะนั้นฝ่าบาทก็เดินเข้ามาหาฉันเขากอดจากด้านหลังแผ่นอกแนบชิดแผ่นหลังฉัน"ทำไมมาอยู่ตรงระเบียงล่ะที่รัก เบื่องานเลี้ยงแล้วเหรอ""ไม่ได้เบื่อเพคะ หม่อมฉันแค่อยากสูดอากาศหน่อย ข้างในคนเยอะเกินไปเพคะ"เขาอุ้มฉันขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาทำให้ฉันตกใจเล็กน้อย"งั้นกลับกันเลยดีกว่า""ถ้ากลับราชาและราชินีกับเหล่าขุนนางจะไม่ว่าอะไรเหรอเพคะที่พวกเราทิ้งงานไว้""ไม่เป็นไรหรอกปล่อยให้เป็นหน้าที่เลขาวินเทอร์นั่นแหละ มีสิ่งส
ฉันสังเกตไลล่าปฏิกิริยาเฉยชาแบบที่ไม่ควรเป็นมาก่อน นัยน์ตานั้นไม่สั่นคลอนแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวไลล่าหันหลังให้กับฉันก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น"กลับไปซะเถอะ คำถามของเลดี้ฉันจะตอบก็ต่อเมื่อใกล้ถึงวันประหาร""เพราะอะไรเลดี้ถึงตอบมาในตอนนี้ไม่ได้ล่ะ""ตอนนี้เลดี้กำลังมีความสุขไม่ใช่หรือไง! ฉันตั้งใจให้เลดี้กอบโกยความสุขให้เต็มที่ก่อนจะได้ไม่เสียใจที่หลัง""หมายความว่าไงกันแน่!"ผู้คุ้มก็เดินเข้ามาบอกว่าหมดเวลาในการเยี่ยมทำให้ฉันตะโกนเรียกแต่ชื่อไลล่า เธอกลับไม่หันมามองฉันเลยผู้คุ้มปิดประตูใส่หน้าฉันเอาสะดุ้งเล็กน้อย"ยังไงฉันก็มั่นใจแล้วว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่ โอ๊ยยย หัวจะปวดเซนส์มันบอกว่าลางไม่ดีแน่ๆ"ฉันที่กลับมาคฤหาสน์ทุกคนต่างวิ่งวุ่นเพื่อเตรียมตัวให้ทันกำหนดคือวันแต่งงานที่แสนกระชั้นชิดและท่านพ่อท่านแม่ที่ไปช่วยงานพระราชวังเตรียมของต่างๆ มีแค่ฉันคนเดียวไม่ได้ทำอะไรเดินเอ้อระเหยเป็นอากาศ"เลดี้เซเรน่า..."เสียงของดยุกเรียกฉันจากด้านหลังเลยหันหน้าไปหาดยุกเขาถือหนังสือเล่มหนึ่งมาแล้วยื่นมาให้ฉัน"หนังสือเล่มนี้เป็นของไลล่า พอดีข้าคิดว่าไม่มีอะไรเลยเอามาให้น่ะ""ทำไมถึงให้ฉันล่ะ ดยุกไม่เก็บไว้เหรอ""
พี่ซีซาร์เดินเข้ามาดึงแขนของฉันให้ตัวไปอยู่ด้านหลังของท่านพี่"ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ อย่ามาลวนลามน้องสาวกระหม่อมได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ ไม่ก็แต่งงานให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ทำแบบนี้น้องสาวกระหม่อมเสียหายนะพ่ะย่ะค่ะ"ฉันที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับชะงักหันไปหาท่านพ่อท่านแม่กลับยกนิ้วโป้งขึ้นเหมือนจะเห็นดีเห็นงามกับคำพูดของท่านพี่แล้วฝ่าบาทก็มาดึงแขนขวาส่วนท่านพี่ก็มาดึงแขนซ้ายฉัน"เซเรน่า เป็นภรรยาข้าไม่ต้องห่วงข้าจะจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว""แล้วจะจัดเมื่อไหร่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ยอมให้น้องสาวถูกฝ่าบาทมากอดมาหอมเด็ดขาด! น้องสาวกระหม่อมมีพ่อมีแม่น่ะพ่ะย่ะค่ะ"แต่แล้วฝ่าบาทก็เข้ามาอุ้มฉันด้วยแขนข้างเดียวทำให้พี่ซีซาร์ตกใจปล่อยมือแล้วฝ่าบาทก็อุ้มฉันเดินไปก่อนจะเอ่ยขึ้น"ไม่ต้องห่วงข้าจะทำตามประเพณีแน่ แต่ตอนนี้ข้าอยากจะอยู่กับคนรักของข้าเท่านั้นเอง"ทั้งท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ยื่นยิ้มแล้วตบมือให้สายตามองใบหน้าท่านพี่เขายิ้มอย่างมีความสุขแล้วปากเขาขยับพูดว่า มีความสุขมากๆ นะน้องพี่ ฉันยิ้มอย่างดีอกดีใจเอาใบหน้าซุกไหล่ของฝ่าบาทเมื่อเห็นครอบครัวเซเรน่านั้นยิ้มได้แถมทุกคนก็ดีมากจนคิดว่าได้กลายเป็นน้องสาวแ
ใกล้จะเย็นแล้วขืนอยู่แบบนี้ต่อ มีหวังได้โดนฆ่าตายก่อนแน่ ตอนนี้ฝ่าบาทกับดยุกไปรวบรวมหลักฐานถึงไหนทำไมถึงได้ช้าขนาดนี้ชายสองคนเข้ามาจับตัวฉันไปมัดกับต้นไม้โดยมีพวกเอิร์ลเดินกันผลักเฝ้ายาม จู่ๆ ก็มีหินโยนมาโดนตัวสายตามองไปเจอออโรล่าทำมือรูปสี่เหลี่ยมคือฝ่าบาทได้ล้อมไว้หมดแล้ว"เหม่ออยู่ได้มีอะไรสั่งเสียก่อนตายไหมเลดี้เซเรน่า""คงจะไม่มี เพราะจะไม่มีใครรู้ว่าเลดี้เซเรน่าตายที่แห่งนี้ พื้นตรงนี้จะเป็นหลุมศพของเลดี้!"ไลล่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันในมือถือดาบมาจี้คอของฉัน เธอตรึงสายตาเย็นชาไว้ที่ฉันรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่าง"อุ้ยตาย อดทนไม่ไหว อยากจะฆ่าฉันให้จบๆ แล้วใช่ไหม แต่ฉันจะไม่ตายคนที่จะตายคือเลดี้ต่างหาก!""เมื่อกี้นี้...เลดี้พูดว่าไงน่ะ? " ดวงตามืดครึ้มและเคลือบแฝงความโหดเหี้ยม"ฉันบอกว่าฉันจะไม่ตายคนที่จะตายคือเลดี้ไง ฝ่าบาทจะมาเอาชีวิตของเลดี้" (ดูยัยนี่สิ?! ฉันแค่ไว้ชีวิตนิดหน่อยทำมาเหิมเกริมมันทำตัวเหมือนกับกำลังมองเหยื่ออยู่ไม่มีผิด ฉันเป็นถึงเลดี้ไลล่าที่ทุกคนรักและแห่ชมเลยนะ!) "อย่ามาพูดหมาๆ ต่อหน้าฉัน! จับนางให้แน่น"เหล่าลูกน้องสองคนเข้ามาจับแขนทั้งสองข้างอย่างแรง"วันนี้แห
ฉันที่ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก้าวเข้ามาในซุ่มของเลดี้ทุกคนจ้องมองมาที่ฉัน ขณะนั้นไลล่าก็เข้ามายิ้มให้ฉันเธอคว้ามือมาจับมือฉัน"วันนี้เลดี้เซเรน่าสวยจังเลยชุดเหมาะมากถึงแม้มันจะไม่เข้ากับเลดี้เลยก็ตาม"ฉันหัวเราะออกมาโดยตั้งใจ "ฮ่าๆๆ ขอโทษด้วยคำพูดของเลดี้ไลล่ามันช่างน่าขำ กำลังอิจฉาฉันอยู่เหรอ?"สีหน้าของไลล่าบ่งบอกถึงความอิจฉาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกดทับด้วยความต่ำต้อย"ทำไมฉันต้องอิจฉาเลดี้ด้วยล่ะ พูดอะไรไม่เข้าท่า"ใบหน้าฉันแสยะยิ้มเหมือนตัวร้ายก้าวเข้าไปใกล้ๆ ไลล่า"แน่ใจเหรอว่าไม่ได้อิจฉา แต่แววตาเลดี้มันบอกข้าแบบนั้น น่าสงสารฝ่าบาทก็โดนแย่งไปตำแหน่งอีกเป็นได้แค่คนไร้ค่าก็เงี้ย!"เพียะ!!ไลล่าใช้ฝ่ามือฟาดลงมาที่ใบหน้าของฉันด้วยแรงโทสะทุกคนต่างตกใจด้วยท่าทีของไลล่าฉันยกมือขึ้นมาจับหน้าตัวเองแล้วยิ้มออกมาแล้วมือฉันก็ฟาดลงบนใบหน้าไลล่าด้วยแรงกลับคืนไปสองเท่าเพียะ! เพียะ!"อย่าคิดว่าตบเป็นคนเดียวนึกไม่ถึงว่า เลดี้ไลล่าก็โกรธเป็นเหรอเนี่ย ถึงได้ตบหน้าฉันต่อหน้าเพื่อนๆ ของเลดี้ แสดงว่านิสัยเลดี้เนี่ยคงจะร้ายน่าดู""แก!!" ไลล่าพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์อาฆาต"โอ๊ะ โกรธแล้วๆๆ
เกล็ดหิมะสีขาวบริสุทธิ์โปรยปรายลงมาราวกับปุยฝ้ายบรรยากาศเงียบสงบมีเพียงเสียงฝีเท้าที่ดังแผ่วเบาบนพื้นหิมะฉันอยู่ในอ้อมแขนของฝ่าบาทมอร์ฟรานเขาทรงอุ้มฉันไว้แนบอกอย่างทะนุถนอมความอบอุ่นจากร่างกายของเขาช่วยคลายความหนาวเย็นให้กับฉัน"ฝ่าบาททำไมถึงอุ้มหม่อมฉันล่ะเพคะ ให้หม่อมฉันเดินเองก็ได้นะเพคะ""พื้นมันเย็นเท้าเล็กๆ เดี๋ยวก็โดนหิมะกัดเป็นแผลพอดี"หลังจากที่เขาสารภาพรักกับฉันเขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคนแต่ความปากไม่ตรงกับใจยังอยู่ไม่เปลี่ยนยิ่งมองใบหน้าฝ่าบาทนั้นเขาช่างอ่อนโยนมากจริงๆ แทบมีมุมน่ารักเยอะถึงจะทำตัวซึนไปบ้าง"แล้วทำไมฝ่าบาทถึงมาอยู่แถวนี้เพคะ ปกติฝ่าบาทจะยุ่งมากไม่ใช่เหรอนี่เหมือนฝ่าบาทว่างมากเลยเพคะ"เขาหยุดเดินแล้วก้มลงมามองฉัน "ข้าว่างเฉพาะแค่เจ้านั้นล่ะ"คำพูดของเขาที่ฉันได้ฟังเบือนหน้าหนีแสร้งหลบตาอย่างเขินๆ ให้ตายเถอะ เขินสุดอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ แต่ต้องเก็บอาการเดี๋ยวฝ่าบาทตกใจการกระทำของฉัน เขาที่เดินใกล้จะถึงพระราชาวังสายตาเห็นเซเรน่าหลับเลยเอามือประคองหัวเธอให้ซบอกดีๆ ขาก้าวเข้ามาเลขาวินเทอร์เอาเสื้อคลุมมาใส่ให้อีกชั้น"วินเทอร์ส่งจดหมายไปให้ซีซาร์ว่าเซเรน่าจะนอนพักท
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมารอบข้างเป็นแม่น้ำสีดำเท้าฉันยื่นอยู่บนผิวน้ำโดยที่ไม่จมรอบข้างเป็นท้องฟ้ายามสว่างไสวเท้าค่อยๆ เหยียบน้ำเดินไปจู่ๆ ก็วาปมายังห้องนอนในปัจจุบันของทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีใครพ่อแม่กลับไม่มาหาฉันเลยแล้วก็วาปมาที่ครอบครัวพ่อ รอยยิ้มของเขานั้นเป็นอะไรที่ฉันชอบมากที่สุดแม้จะไม่เห็นอีกแล้วก็ตามฉันยังหวังว่าให้พวกเขาจะนึกถึงฉันบ้างก็ดีแล้วภาพก็หายไปพบกับเซเรน่าในชุดเดรสสีขาวเส้นผมสลวยยิ้มให้ฉัน ใบหน้าที่อ่อนโยน"ขอบคุณที่เธอทำเพื่อฉันและต่อจากนี้ ฉันก็ขอให้เธอพบความสุขอีกไม่นานเธอจะได้กลับไปอยู่ที่ตัวเองควรอยู่น่ะ""เดี๋ยวสิ!! อย่าพึ่งไป เซเรน่า!!!"ร่างกายสะดุ้งตื่นขึ้นมาเหงื่อกาฬแตกพลักเสียงหอบเล็กน้อยกระทบกับแผลทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อยมือไปสัมผัสอะไรนุ่มๆ เข้าเลยหันไปเป็นมือของฝ่าบาทเขาที่นอนซบอยู่ข้างตัวฉันเพียงมองเขาคล้ายโลกทั้งใบหยุดหมุนฉันเลยนอนตะแคงขวาเพื่อจะได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของฝ่าบาทมือเอื้อมไปจับแก้มนิ้วโป้งลูบเบาๆ"นี่เราชอบฝ่าบาทจริงๆ งั้นเหรอ ไม่เห็นจะรู้ตัวเลย"ในยามที่ฉันเป็นอะไรไปเขาจะเป็นคนแรกที่ฉันเจอก่อนเสมอหรือเข้ามาช่วยฉันดังนั้นเขาจึงคอยอยู่ข้างๆ
Comments