๒
ความรู้สึกผิดบาป
เช้าของวันใหม่...
“ว้ายย!” ธิสาร้องเสียงหลงเมื่อตื่นมาพบว่าตัวเองนอนเปลือยกายกอดก่ายอยู่กับชัช ขณะที่อีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการง่วงงุนแกมมึนงง เหตุเพราะดื่มไปเยอะจากคืนที่ผ่านมา
“อะไรคุณ”
ธิสาตัวสั่นระริกด้วยความโกรธแกมตกใจแทบช็อก เพราะคนที่หล่อนคิดว่านอนด้วยกันมาทั้งคืนจะเป็นภพธร แต่...
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!” หญิงสาวกวาดตามองไปรอบห้อง ซึ่งเป็นห้องพักที่ทางบ้านของภพธรจัดเอาไว้ให้เพื่อนๆ และห้องนี้คนของเขาจัดเอาไว้ให้หล่อน เมื่อคืนต่างก็เมากันมากหล่อนจึงพยุงภพธรเข้ามาในห้องของตนเอง...
แต่ทว่า เมื่อตื่นขึ้นมาคนที่นอนเคียงกาย กอดก่ายและเปลือยเปล่า! กลับไม่ใช่เขา
ชัชขยี้ตาแล้วขยับลุกขึ้นนั่งอิงหลังกับพนักเตียงอย่างเกียจคร้านโดยมีหมอนซ้อนหลังเอาไว้อีกที พลางมองไปยังสาวสวยที่ตามติดเพื่อนของเขาแจจากเมื่อสอง ทริปก่อนยิ้มๆ แล้วกวาดสายตามองผิวกายเนียนละเอียดที่โผล่พ้นจากผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยความขบขันสีหน้าเผือดซีดของหล่อน
“ทำไม ตกใจมากหรือไงที่เป็นผมน่ะ”
ธิสาหัวใจวูบไหว หน้าซีดสลับแดงด้วยความไม่เข้าใจ ก็เมื่อคืนคนที่หล่อนพาเข้ามานั้นคือภพธร แต่คนที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับหล่อนในเช้าวันนี้เหตุใดจึงเป็นชัช!
“คุณ เข้ามาได้ยังไง แล้ว เข้ามาตอนไหน แล้วทำไม...” หญิงสาวหลุบสายตามองสภาพของทั้งตนและเขาอย่างกังขาสุดขีด
ชัชป้องปากหาวหวอด หัวหูยุ่งเหยิงนิดๆ ขณะมองไปยังสาวสวยตรงหน้า
เมื่อคืนธิสาร้อนแรงถูกใจเขามาก หล่อนเจนจัดจนเขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นึกมาถึงตรงนี้ก็ให้หวนคิดไปถึงภพธร ไม่รู้ป่านนี้หมอนั่นจะเป็นยังไงบ้าง เขาตวัดสายตามองหญิงสาวอีกครั้ง ธิสาร้ายไม่เบา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคิดอะไรกับเพื่อนของเขา แต่ที่ไม่รู้คือหล่อนคิดใช้วิธีสกปรกกับไอ้หมอนั่น คงคิดว่าพวกเขาจะโง่ไม่รู้อะไรเลยล่ะสิ
“ก็เข้ามาหลังจากที่ไอ้หนึ่งมันออกจากห้องคุณนั่นแหละ ผมก็มึนๆ นะ ง่วงมากด้วย พอดีเจอมันที่หน้าห้อง มันบอกกับผมว่ามันไม่ไหวแล้ว ขอกลับห้องก่อน ผมก็เลยเข้ามานอนในห้องนี้ แต่ว่า...” เขาไล้สายตามองเรือนร่างหญิงสาวอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้คนถูกมองหน้าแดงก่ำ ความโกรธพลุ่งพล่านเต็มที่
“คุณ! อย่าบอกนะว่าคนที่อยู่กับฉันเมื่อคืนนี้ทั้งคืนคือ...”
ชัชพยักหน้ายิ้ม
“อือ ผมเองแหละ ก็จะให้ผมเล่นตัวไปทำไม ในเมื่อคุณเล่นคลุกวงในผมเสียขนาดนั้น แหม แต่จะว่าผมไม่ได้นะ คนกำลังจะหลับ คุณก็มานัวเนียบนตัวผม ไฟก็ไม่ยอมเปิด ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้แหละ เสียใจด้วยนะคนสวย ที่พลาดเป้าไปไกล”
ธิสาเบิกตาโต หายใจแรงถี่ จากนั้น เสียงกรี๊ดก็ดังออกมาจากห้องของหญิงสาว ทำเอาเพื่อนๆ ของพวกเขาที่นอนกันคนละห้อง ห้องละสองบ้างสามบ้างเปิดประตูออกมาดูด้วยความตกใจเป็นทิวแถว...
คุณนายงามตาและสาวใช้คนสนิทเดินมาดูเหตุการณ์ เช่นเดียวกับกลุ่มเพื่อนของภพธร ประตูเปิดผลัวะออกมาพร้อมร่างของชัชที่ใส่กางเกงนอนตัวเดียววิ่งหนีสาวสวยในชุดผ้าขนหนูกระโจมอก วิ่งไล่ตีเขาด้วยหมอนในสภาพหัวหูยุ่งเหยิง หน้าตาแดงก่ำด้วยความโกรธจัด
“ไปเลยนะ ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ อ๊ายยย”
ผ่างง!!
คนที่วิ่งผ่านประตูออกมาชะงักกึก เมื่อที่หน้าประตูของเขาเต็มไปด้วยพวกเพื่อนๆ และคุณนายงามตาพร้อมคนสนิท ทุกคนนิ่งอึ้ง อ้าปากหวอด้วยความตกใจ ส่วนคุณนายงามตาถึงกับหน้าตึงเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องบัดสีในบ้านของท่าน ธิสาหน้าเผือดซีดลงทันทีที่กลายเป็นจุดเด่นทำให้ทุกคนมองมาเป็นตาเดียว
“เอ่อ...” หญิงสาวอ้ำอึ้ง “ขอโทษค่ะ”
สิ้นเสียงสั่นพลิ้วของธิสา ประตูห้องก็ถูกปิดลงอย่างรวดเร็วพร้อมร่างของหญิงสาวที่หายลับเข้าไปด้านใน ทุกคนจึงเปลี่ยนสายตามาที่ชัชแทน
ชายหนุ่มยิ้มแหย พลางหัวเราะเบาๆ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษคุณนายงามตา
“ผมขอโทษครับคุณแม่ เกิดเหตุผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยครับ” เขากล่าวด้วยสีหน้าที่ติดจะทะเล้นเล็กน้อยทำให้คนอื่นๆ หัวเราะครืนออกมาอย่างอดไม่ได้ ส่วนคุณนายงามตาค้อนขวับ ก่อนจะผ่อนลมหายใจยาว ทั้งโกรธและขำไปพร้อมกัน
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยเถอะ ใกล้เวลาอาหารแล้ว ว่าแต่ตาหนึ่งยังไม่ตื่นอีกหรือ” หันไปถามคนสนิท ฝ่ายนั้นส่ายหน้าเบาๆ
“คงยังค่ะคุณนาย”
คุณนายงามตาพยักหน้าเบาๆ พลางหันไปยิ้มให้เพื่อนๆ ของลูกชาย
“ตามสบายนะทุกคน แม่ขอตัวก่อน”
เมื่อเสียงรับคำของบรรดาเพื่อนๆ ซาลง ก็กลายเป็นเสียงสอบถามชัชเซ็งแซ่ทันที บ้างก็หัวเราะขบขันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ชัชจะไม่กล่าวอะไรมาก แต่ทุกคนดูเหมือนจะรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มสาวทั้งสองคน
หญิงสาวเลื่อนมือขึ้นโอบกอดรอบลำตัวหนาของสามี เผยอรับปากจุมพิตอ่อนหวานของเขาอย่างเต็มใจ นานแล้วที่หล่อนและเขาไม่ได้ทำอะไรกันท่ามกลางแสงเดือนและแสงจันทร์สว่างจ้า ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง แล้วหันไปปิดตะเกียงโซลาร์เซลล์ ใช้ความสว่างของดวงดาวนำทางแทน ลมหายใจพร่าลง เมื่อร่างกำยำของสามีเปลือยเปล่าท่ามกลางหมู่ดาวที่เกลื่อนฟ้า ขณะที่หล่อนเองก็ไม่ได้น้อยหน้าเขาสักนิด เพราะถูกเขาเปลื้องออกเช่นเดียวกัน ร่างใหญ่ทาบทับลงมาบนร่างนุ่ม มือแกร่งลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างขาวผ่อง ริมฝีปากบดจูบดูดดื่ม ก่อนเคลื่อนต่ำลงไปช้า ๆ แล้วครอบครองยอดทรวงเคร่งครัด “อืม…” เสียงหวานครางแผ่ว สองมือกอดรัดรอบศีรษะ ใบหน้างามสะบัดเริดยามเขาฉกปลายลิ้นลงบนผิวกายเนียนนุ่ม “คุณหนึ่ง” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนที่ครางชื่อเขาออกมา แล้วผลักท่อนขาอวบอิ่มแยกจากกัน กอหญ้าสูดลมหายใจยาวแล้วผ่อนออกมาหนักหน่วงหอบพร่า มือที่กดศีรษะของเขาเอาไว้เปลี่ยนเป็นขยุ้มกองผ้าข้างกายแทน เมื่อเปิดเปลือกตา จึงพบว่าหมู่ดาวที่เกลื่อนฟ้าช่างงดงามเกินบรรยาย เช่นเดียวกับความรู้สึกซาบซ่านที่พลุ่งพล
พิเศษใส่ใจอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ภพธรรู้สึกเหมือนกับตายทั้งเป็น แต่ทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมาเขาจะพบกับใบหน้าของมารดาที่ยิ้มให้เสมอ เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เขาต่อสู้กับความเจ็บปวดเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป... เมื่อกอหญ้ากลับมา เขาก็ได้รู้อีกว่าเขายังมีสัญญาที่ให้ไว้กับหล่อนและต้องทำให้สำเร็จ เด็กสาวที่ครั้งหนึ่งเขาเผลอไผลย่ำยี นับจากนั้นเขาเฝ้าดูแลหล่อนอยู่ไกลๆ วันเวลาที่ผ่านไปทำให้เขาเกิดความผูกพันกับหล่อนทีละน้อย จนในที่สุดก็รู้ตัวว่าหัวใจของเขาไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป ครั้งแรกที่เขาลืมตาขึ้นมาเจอกอหญ้า ยิ่งตอกย้ำให้เขารู้ว่ามีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อใคร น้ำเสียงที่ไล่ไปตามตัวอักษรบนหนังสือหลายต่อหลายเล่ม ตามเข้าไปอยู่ในฝันของเขาทุกคืนวัน กำลังใจที่จะหายจากอาการที่เป็นอยู่มีเพิ่มขึ้น จนในที่สุด ดวงตาของเขาก็เริ่มจะเห็นรางๆ ในตอนนั้นเขาดีใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่นานความดีใจถูกบดบังอีกครั้ง เขายอมปล่อยให้หญิงสาวไปตามทางที่หล่อนตั้งใจเอาไว้แต่แรก ทว่าในค่ำคืนนั้นก่อนจากลา หล่อนทำให้เขาต้องจดจำอย่างไม่มีวันลืม เรือนร่างแน่งน้อยที่เคลื่อนไหวบนร่างของเขา
พระอาทิตย์มีขึ้นและลง พระจันทร์ส่องแสงในกลางคืน แล้วลาลับในยามเช้า เช่นเดียวกับชีวิตของผู้คน ที่มีหลับมีตื่น ดำเนินต่อและจากไปในเวลาสมควร... เช่นเดียวกับชีวิตครอบครัวของภพธร เมื่อสิ้นมารดาที่รักยิ่ง จึงทุ่มเทความรักทั้งหมดให้กับภรรยาและลูกๆ เขาตระหนักชัดว่าชีวิตนี้แสนสั้น จึงไม่ยอมให้อะไรมาพรากความสุขของคนที่รักไปง่ายๆ กิจการที่อยู่ตัวดีแล้ว ทำให้เขาหันมาทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น เพราะในเวลานี้ ทั้งเขาและภรรยาต่างไม่เหลือใครให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ จึงหันมายึดเหนี่ยวดวงใจของกันและกัน มอบความรัก ความอบอุ่นให้กับลูกๆ อย่างเสมอภาคเท่าเทียม ทุกวันหยุดเขาจะพาเด็กๆ ออกไปท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน บางครั้งก็พาบินลัดฟ้า เปิดโลกทัศน์ที่กว้างใหญ่กว่าให้พวกเขารู้ว่าชีวิตของคนเราไม่ได้มีแค่ที่บ้าน แต่ยังมีอะไรอีกมากที่ไม่รู้จัก ไม่เคยพบเจอ ร่างสูงเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างภรรยา หญิงสาวยิ้มหวานพร้อมกับยกแก้วน้ำส่งให้สามี “เหนื่อยไหมคะ” เอ่ยถามพลางลูบบ่าของเขาเบาๆ เพื่อบรรเทาความอ่อนล้า “ไม่เหนื่อย” ตอบพลางวาดวงแขนขึ้นโอบไหล่ภรรยา
บทส่งท้ายตั้งแต่มีเด็กเพิ่มมาหนึ่งคน บ้านที่เคยกว้างก็ดูแคบลง ที่เคยเงียบเหงาก็กลับมาครื้นเครง ทุกอย่างดูสดใสขึ้นทันตา ทุกๆ เช้า กอหญ้าจะต้องพาลูกสาววัยหนึ่งขวบไปให้คุณย่าของแกอุ้มเล่นที่ระเบียงบ้าน ตั้งแต่มีหลานสาวทำให้อาการป่วยของคุณนายงามตาทุเลาลง สุขภาพกายและสุขภาพใจดีขึ้นมาก ทั้งกอหญ้าและ ภพธรต่างยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น “พอน้องพายได้สักสามขวบ เรามีหลานให้คุณย่าอีกสักคนเนอะ” ภพธรบอกกับภรรยาขณะพาแม่หนู ดาราพายออกมาทำบุญให้กับคุณทวดเรียมที่วัดใกล้บ้าน คนตัวบางค้อนสามีก่อนยิ้มให้ ขณะหยุดยืนที่ทางเดินริมแม่น้ำ “ถ้าแม่ใหญ่ยังอยู่ก็คงจะดีนะคะ” หญิงสาวเปรยถึงนางเรียม ชายหนุ่มก้มมองสีหน้าของภรรยา อึดใจต่อมาจึงค่อยยิ้มได้ เพราะดวงหน้างามของกอหญ้าไม่เศร้าหมองอีกต่อไปยามคิดถึงนางเรียม หล่อนทำใจได้แล้วจริงๆ “ใช่ น้องพายคงจะติดคุณทวดเรียมน่าดู” ชายหนุ่มเปรยออกมาอย่างมั่นใจ จากนั้นจึงพาภรรยาและลูกสาวกลับบ้าน ทุกวันที่ผ่านไปยังคงราบรื่น ดาราพายโตวันโตคืน และเป็นเด็กที่สดใสร่าเริงเพราะความรักที่ทุกคนมอบให้ จนกระทั่งอายุได้สาม
“แล้วลูกล่ะคะ เป็นอะไรมากไหม” หญิงสาวคิดถึงเด็กน้อยหน้าตาคมคายคนนั้น ที่สามีเคยเอารูปมาให้หล่อนดูตอนแกคลอดใหม่ๆ กับภรรยาสาวสวยคนไทย “บาดเจ็บนิดหน่อยเท่านั้น” “คุณอย่าทำแบบนั้นนะคะ” ภพธรถึงกับเลิ่กลั่กเมื่อถูกภรรยามองอย่างจับผิด “ไม่ทำ” เขาส่ายหน้ารัว ทำให้หญิงสาวค้อนคมพลางบอก “ถ้าคุณคิดจะมีผู้หญิงอื่น บอกหญ้าดีๆ ก็พอ หญ้าจะเปิดทางให้แล้วไปดีๆ เลย” คนฟังนิ่วหน้า พลางคิดว่าเขาไม่น่าเล่าให้หล่อนฟังเลย แต่ถ้าไม่เล่าหญิงสาวก็ยิ่งคิดมาก เดี๋ยวจะหาว่าเขานอกลู่นอกทางเสียอีก “รักหญ้าจะแย่อยู่แล้ว จะมีใครอีกได้ไง” เขาบอก ทั้งกอดและหอมหนักหน่วง หญิงสาวตวัดค้อนก่อนจะยอมยิ้มออกมา “ไม่รู้สิคะ ก็รอดูกันต่อไป ถ้าคุณดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ หญ้าก็จะดีกับคุณเหมือนกัน” คำพูดของหญิงสาวและสายตาที่มองมาทำให้ภพธรรู้ว่าภรรยาไม่ได้พูดเล่น ชายหนุ่มถอนหายใจยาว ก่อนจะรั้งร่างอวบมากอด “รอดูไปตลอดชีวิตเลยนะ พนันเลยว่าหญ้าไม่ได้เห็นผู้หญิงอื่นแน่นอน” “เพราะคุณหนึ่งจะซ่อนเอาไว้ให้มิดชิด” หญิงสาวโต้ออกมาทันควัน แต่เมื่อสามีทำต
ผ่านไปอีกหนึ่งปีสำหรับการร่วมชีวิตระหว่างภพธรและ กอหญ้า ในที่สุดชายหนุ่มก็สามารถทำให้หญิงสาวตั้งครรภ์ลูกคนแรกของพวกเขาได้สำเร็จ แต่ยิ่งใกล้คลอด ว่าที่คุณแม่ก็ยิ่งรู้สึกเปราะบางเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของความรู้สึกทางอารมณ์หรือว่าร่างกาย เจ้าของร่างอวบอิ่มเดินวนเวียนไปมาภายในห้องนอน เกือบห้าทุ่มแล้วแต่ภพธรยังไม่กลับบ้าน โทรศัพท์ไปก็ไม่ยอมรับสาย ทำให้หญิงสาวนอนไม่หลับเพราะความเป็นห่วง จนกระทั่งห้าทุ่มครึ่ง ชายหนุ่มก็กลับมาถึงบ้าน เสียงเปิดประตูเข้ามาทำให้คนที่เพิ่งดับไฟนอนลุกขึ้นนั่งพร้อมกับโคมไฟข้างเตียงที่สว่างจ้า ชายหนุ่มชะงักเท้าแล้วหันไปมองภรรยาที่กำลังมองมาด้วยสีหน้าค่อนข้างเรียบขรึม เขาจึงยิ้มให้แต่ยังไม่ยอมเดินเข้าไปหา “ทำไมกลับดึกนักล่ะคะ หญ้าโทร.ไปคุณก็ไม่ยอมรับสาย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” ถามพลางกวาดสายตามองเขาอย่างจับผิด แล้วก็ทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นแอลกอฮอล์โชยมา “นี่คุณดื่มมาด้วยหรือคะ” สิ้นเสียงถาม คนที่ไม่ยอมเข้าใกล้ก็ถึงกับถอนหายใจ ยิ่งทำให้หญิงสาวหรี่ตามองอย่างคาดโทษ “พอดีเพื่อนแวะไปหาที่ร้าน ก็เลยออกไปดื่มกับมันนิดหน่อ