แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: ทะเลใต้
แคทเธอรีนนั่งแท็กซี่ไปที่บ้านตระกูลโจนส์ทันที ในตอนนั้นคุณโจนส์ไปทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เธอรีบวิ่งขึ้นไปข้างบนเพื่อเอาสูติบัตรของเธอ ขณะเดียวกันที่เธอกำลังเดินไปยังห้องนั่งเล่น เธอเห็นรีเบคก้าออกมาจากห้องทำงานพร้อมกับเอกสารกองใหญ่

รีเบคก้าดูดีด้วยผมบ๊อบสีดำสนิทและใบหน้าที่สวยเป็นธรรมชาติ

“ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้วเหรอน้องสาว ฉันยังกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานอยู่เลย” ใบหน้าของรีเบคก้าแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด “เพียงแต่ว่าอีธานไม่ได้รักเธอ เธอไม่สามารถบังคับใครให้มารักเธอได้”

แคทเธอรีนจ้องมองไปที่เธอด้วยสายตาที่เย็นชา “พอได้แล้ว เธอไม่ต้องเล่นละครหรอก ไม่มีใครอยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้ฉันประเมินเธอต่ำเกินไป”

“อย่ามาทำกับฉันแบบนี้” รีเบคก้ากัดริมฝีปากของเธอ น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม “ฉันจะยอมทำตามที่เธอต้องการในอนาคตตกลงไหม? ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ฉันจะส่งเอกสารเหล่านี้ให้กับเธอ”

ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่ เธอก็ยัดเอกสารเหล่านั้นใส่ในมือของแคทเธอรีน

แคทเธอรีนรู้สึกว่ามันแปลกและรับเอกสารพวกนั้นเอาไว้โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เอกสารทั้งหมดร่วงลงบนพื้น

“พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่?”

ทันใดนั้นเอง แซลลี่ เลนนอน ก็เดินลงมาจากบันไดและเห็นน้ำตาบนใบหน้าของรีเบคก้ารวมถึงเอกสารที่กระจัดกระจาย

“เอาสารเหล่านี้เป็นเอกสารของบริษัทที่พ่อของลูกขอให้ตรวจดูไม่ใช่หรือ?”

“คุณแม่อย่าโกรธน้องนะคะ เป็นความผิดของหนูเอง” รีเบคก้ารีบอธิบายด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “เคธี่ขอให้หนูเลิกยุ่งกับเรื่องของบริษัทและส่งเอกสารเหล่านี้ให้กับเธอค่ะ หนูคิดจะมอบเอกสารพวกนี้ให้กับเธอ แต่เธอไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับอีธาน ดังนั้น –”

“เธอมันตอแหล --”

“หุบปากนะ!” แซลลี่จ้องไปที่แคทเธอรีน “ใครอนุญาตให้แกเข้ามามีส่วนร่วมในบริษัท? เป็นพ่อของแกและฉันที่ขอให้รีเบคก้าตรวจดูเอกสารพวกนี้ รีเบคก้าจะเข้ามาเป็นผู้จัดการของบริษัทอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า แกควรทำตัวดี ๆ”

แคทเธอรีนตกตะลึง “เมื่อพูดถึงเรื่องการศึกษาและประสบการณ์ หนูมีคุณสมบัติที่เหมาะสมมากกว่าเธอ แม้จะเข้ามาร่วมทำงานในบริษัทเร็วกว่าเธอหนึ่งปี หนูก็ยังไม่ได้เป็นผู้จัดการเลยด้วยซ้ำ อะไรทำให้เธอมีสิทธิ์ก้าวข้ามไปยังตำแหน่งผู้จัดการแบบนั้นได้?”

“คุณแม่คะ หนูไม่เป็นผู้จัดการคงจะดีกว่า หนูไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ของหนูกับเคธี่” รีเบคก้ารีบพูดขึ้นในทันทีในขณะที่สะอึกสะอื้น

หัวใจของแซลลี่ปวดร้าวอย่างที่สุด “ดูเอาเถอะ รีเบคก้าใส่ใจในความเป็นพี่น้องของแกมากแค่ไหน แล้วแกล่ะ? แกมันใจแคบและเห็นแก่ตัว แกไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นแม้แต่ผู้จัดการ ไม่แปลกใจเลยที่อีธานจะเลือกรีเบคก้าแทน”

คำพูดที่โหดร้ายจากแม่ของเธอ ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังถูกฟาดด้วยไม้เรียว

ทั้งรีเบคก้าและแคทเธอรีนต่างก็เป็นลูกสาวของเธอ อย่างไรก็ตาม แซลลี่กลับความลำเอียงไปทางรีเบคก้ามากจนเธอเชื่อทุกอย่างที่รีเบคก้าพูด

แคทเธอรีนอยู่กับแม่มาตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำไมแซลลี่ถึงไม่รู้จักนิสัยของเธอ?

ไม่มีใครปลอบแคทเธอรีนตั้งแต่เมื่อวาน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นถูกทำให้เป็นเหมือนเรื่องปกติธรรมดา

เธอก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น

เมื่อความโกรธวิ่งผ่านทั่วร่างของเธอในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แคทเธอรีนจึงถอยหลังไปสองก้าว “ไม่เป็นไร เพราะว่าฉันไม่ดี ฉันจะไปเอง ดีไหมล่ะ?”

เธอไปที่ห้องของเธอทันทีหลังจากที่พูดจบ เธอหยิบกระเป๋าเดินทางแล้วเธอก็ยัดเสื้อผ้าของเธอใส่ลงไป

เสียงของรีเบคก้าดังมาจากประตู “คุณแม่คะ เคธี่บ้าไปแล้ว เราควรจะห้ามไม่ให้เธอไป”

“ไม่ต้องไปยุ่งกับเธอหรอก นั่นเป็นนิสัยของเธอ เธอถูกตามใจมากเกินไป อีกสองวันเธอก็จะกลับมา ไปซื้อเสื้อผ้าของลูกกันเถอะเพราะว่าลูกกำลังจะหมั้นเร็ว ๆนี้”

“...”

ในไม่ช้า เสียงก็เริ่มห่างออกไป

น้ำตาหยดลงบนหลังมือของเธอ แคทเธอรีนถือกระเป๋าเดินทางของเธอลงบันไดมา หลังจากนั้นเธอก็ขับรถของเธอออกมา

ในตอนนั้นเอง มันตอกย้ำเธอว่าเธอได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว

ทำไมทุกคนถึงทำกับเธอแบบนี้ ในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย?

เธอกำพวงมาลัยแน่นขณะที่ดวงตาของเธอฉายแววด้วยความไม่พอใจ

หลังจากผ่านไป 40 นาที แคทเธอรีนก็เห็นร่างของผู้ชายที่ทางเข้าของสำนักงานทะเบียน ผู้ชายคนนั้นดูดีในเสื้อเชิ้ตยืดสีขาวที่ถูกรีดจนเรียบและกางเกงขายาวสีดำ เขาตัวสูง ดูแข็งแรง และมีออร่าเปล่งประกายออกมา

เธอรีบวิ่งตรงไปหาเขาหลังจากที่จอดรถของเธอ “คุณมาจริง ๆ ด้วย”

น้ำเสียงของหญิงสาวเต็มไปด้วยความแปลกใจปนดีใจ

เมื่อฌอนหันกลับมา เขาได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่บนร่างกายของเธอจากเมื่อคืนก่อน “คุณไม่ได้อาบน้ำมาหรืออย่างไร?”

แคทเธอรีนรู้สึกอายขึ้นมาทันที “เมื่อคืนฉันเมามาก ดังนั้นฉันจึงไม่รู้ตัวเมื่อฉันกลับถึงบ้าน เช้านี้ฉันรีบมาก จึง...”

เมื่อเธอตระหนักได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังจ้องมองเธอด้วยความดูถูกมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอจึงรีบยืนยัน “วันนี้มันเป็นเหตุฉุกเฉิน ปกติฉันก็อาบทุกวันอยู่แล้ว และฉันก็รักความสะอาด”

เธอสังเกตท่าทางของเขาขณะที่เธอพูด

มันเป็นเรื่องปกติที่จะเจอกับผู้ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดภายใต้แสงไฟสลัวในผับ แต่ถึงอย่างไรใครจะไปรู้ว่าเขาอาจจะดูไม่ดีในตอนกลางวัน

ต้องบอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นข้อยกเว้น

ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ได้มีแค่เสน่ห์ดึงดูด ทว่าเขากลับดูน่าทึ่งด้วยท่าทางสมาร์ทของเขาและใบหน้าที่เย็นชา เขามีใบหน้าที่หล่อเหลา และยิ่งไปกว่านั้น ผิวของเขาก็เรียบเนียนเเทบจะไม่มีรูขุมขนเลย

แคทเธอรีนรู้สึกว่ามีผู้หญิงสองสามคนที่กำลังเข้าไปในสำนักทะเบียนเพื่อจดทะเบียนสมรสกำลังจ้องมองเขาอยู่

“ผู้ชายอะไรหล่ออย่างนี้”

ผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ ผู้หญิงจึงพูดขึ้น “ผู้หญิงคนนั้นก็ดูสวยเหมือนกัน”

“นั่นมันก็จริง พวกเขาเป็นคู่ที่เหมาะสมกับมาก ลูกของพวกเขาในอนาคตจะต้องออกมาน่ารักอย่างแน่นอน ต่างจากพวกเรา น่ากังวลอะไรอย่างนี้...”

“...”

เมื่อการสนทนาดังไปเข้าหูของฌอน เขาก็พูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “เราจะไม่มีลูก”

แคทเธอรีนพูดไม่ออก

ฌอนพูดต่อ “เราจะหย่ากันอีกในสามปีต่อมา ผมจะให้เงินก้อนหนึ่งที่เพียงพอสำหรับกับการใช้ตลอดชีวิตของคุณ นอกจากนี้ผมจะไม่พบกับครอบครัวของคุณ ลองคิดดูให้ดี ๆ ถ้าคุณไม่สามารถทำตามข้อตกลงนี้ได้ คุณสามารถปฏิเสธได้”

แคทเธอรีนรู้สึกว่าสงสัยอยู่ในใจของเธอ

เธอเข้าใจมาโดยตลอดว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบเมื่อคืนที่ผ่านมา

เธอไม่สนใจที่เขาไม่ได้รักเธอตั้งแต่แรกพบ แม้ว่า...

ด้วยความสามารถพิเศษของเธอ เธอเชื่อว่าเธอสามารถเอาชนะใจผู้ชายคนนี้ได้ภายในเวลาสามปี

เธอต้องรวบรวมความต้องการที่อยากจะเป็นป้าของอีธาน

“ได้”

เมื่อคนทั้งคู่เข้าไปภายในสำนักงานทะเบียน พวกเขาก็เข้าไปถ่ายรูปด้วยกันก่อนเป็นอันดับแรก

ช่างภาพใช้เวลาอยู่นานในการถ่ายรูปของพวกเขาทั้งไม่พอใจกับรูปที่ถ่ายได้ “พวกคุณสองคนขยับเข้าไปใกล้กันกว่านี้และทำให้ดูรักกันหน่อยไม่ได้เหรอ? นอกจากนี้ คุณครับ กรุณายิ้มด้วยครับ”

ความหงุดหงิดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฌอน แคทเธอรีนรีบโอบเขาเอาไว้ในทันที จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เส้นประสาทบนใบหน้าของเขาเสียหายน่ะค่ะ เขาจึงป่วยเป็นอัมพาตที่ใบหน้า อย่าบังคับเขาเลยนะคะ ให้เขาเป็นแบบนี้เถอะค่ะ”

“...”

เป็นการดูถูกเป็นอย่างมาก ฌอนมองดูผู้หญิงที่กำลังยิ้มอย่างร่าเริงด้วยความเย็นชา

“คุณไม่พูดน่าจะดีกว่า หรือคุณอยากหยุดถ่ายภาพ” แคทเธอรีนกระซิบที่ข้างหูของเขาอย่างกล้าหาญ ขณะที่ยืนเขย่งปลายเท้า กลิ่นของเธอยังคงอยู่ใกล้ข้างหูของเขา ทำให้เขารู้สึกจั๊กจี้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!   บทที่ 1072

    ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก

  • คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!   บทที่ 1071

    “เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ

  • คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!   บทที่ 1070

    แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา

  • คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!   บทที่ 1069

    แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย

  • คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!   บทที่ 1068

    "ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ

  • คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!   บทที่ 1067

    “ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status