Mag-log inในห้องพักเจ้าสาว เจียงหมี่รั่วอยู่เป็นเพื่อนเสิ่นชิงซูพิธีแต่งงานจะเริ่มขึ้นในอีกครึ่งชั่วโมง“พี่ชิงซู พี่ตื่นเต้นไหมคะ?”เสิ่นชิงซูมองเจียงหมี่รั่วเธอสวมชุดเพื่อนเจ้าสาวสีชมพูอ่อนแบบรากบัว ดูอ่อนหวานน่ารัก เพียงแต่หน้าท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยนั้นไม่เข้ากับชุดเพื่อนเจ้าสาวเอาเสียเลย“หมี่รั่ว” เสิ่นชิงซูจับมือของเธอไว้มือของเจียงหมี่รั่วเย็นเฉียบ ในฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ“จำไว้นะ ไม่ว่าจะเป็นลูกในท้องหรือจิ้นเชวี่ย ก็ไม่มีใครสำคัญไปกว่าตัวเธอเอง” สีหน้าของเสิ่นชิงซูจริงจังและกำชับว่า “ไม่ว่าเมื่อไหร่ การปกป้องตัวเองต้องมาก่อนเสมอ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”เจียงหมี่รั่วฟังแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ทันทีที่คิดจะพูด ประตูห้องพักก็ถูกผลักเปิดออกจิ้นเชวี่ยในชุดสูทสีขาวเดินเข้ามาเสิ่นชิงซูค่อย ๆ ปล่อยมือของเจียงหมี่รั่วอย่างเงียบ ๆในมือของจิ้นเชวี่ยถือกล่องข้าวเก็บความร้อน สายตาของเขาจับจ้องไปที่เสิ่นชิงซู โดยไม่สนใจเจียงหมี่รั่วเลยแม้แต่น้อย“ผมให้ป้าหวังทำโจ๊กไว้ล่วงหน้า แล้วก็ผัดกับข้าวที่คุณชอบอีกสองสามอย่าง”จิ้นเชวี่ยเดินเข้ามา ใช้มือข้างหนึ่งโอบไหล่ของเสิ่น
“พี่ชิงซู...”เสิ่นชิงซูเงยหน้ามองเจียงหมี่รั่ว“เรื่องที่จิ้นเชวี่ยพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมดเหรอ?”เจียงหมี่รั่วพยักหน้า ในแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด“เจียงหมี่รั่ว เธอรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?!” เสิ่นชิงซูอารมณ์พลุ่งพล่าน จ้องมองเจียงหมี่รั่วเขม็ง ขอบตาแดงก่ำ “จิ้นเชวี่ยบ้าไปแล้ว เธอก็บ้าไปด้วยเหรอ? เธออายุยังน้อย ทำไมถึงต้องทำลายตัวเองยอมรับทำเรื่องแบบนี้กับเขาด้วย?!”“ได้ ต่อให้เธอรักจิ้นเชวี่ยขนาดนั้นจริง ๆ แล้วฉันล่ะ?” เสิ่นชิงซูยกมือกุมหน้าอก หายใจหอบ “ตัวอ่อนที่เพาะเลี้ยงด้วยวิธีการที่บิดเบี้ยวและวิปริตแบบนี้ จะนับว่าเป็นเด็กปกติได้ยังไง? หลังจากเขาเกิดมา เขาควรจะเรียกใครว่าแม่? เธอจะให้ฉันยอมรับเด็กคนนี้ได้ยังไง?!”เจียงหมี่รั่วไม่กล้ามองเสิ่นชิงซู ทำได้เพียงก้มหน้าลง ขอโทษเสียงสะอื้น “พี่ชิงซู ขอโทษค่ะ...”“ขอโทษเหรอ?” เสิ่นชิงซูแค่นเสียงเย็นชา “บ้าไปแล้ว พวกเธอมันบ้ากันไปหมดแล้ว! ฉันจะไม่ยอมรับเด็กคนนี้ จิ้นเชวี่ย นี่ไม่ใช่เด็ก เขาเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่คุณใช้เพื่อสนองความต้องการครอบครองที่วิปริตของคุณ! คุณไม่ควรจะบอกความจริงกับฉัน การที่ฉันรู้ว่ามีเด็กคนนี้อยู่ ไม
“ปลูกถ่ายไขกระดูก...”จิ้นเชวี่ยจ้องมองเสิ่นชิงซูบนเตียง แววตาลึกล้ำ “ผมรู้แล้ว คุณออกไปก่อนเถอะ”หมอชาวต่างชาติพยักหน้า หันหลังเดินออกจากห้องไปจิ้นเชวี่ยนั่งลงข้าง ๆ เสิ่นชิงซู ยกมือขึ้นแตะหน้าผากของเธอยังมีไข้ต่ำ ๆ อยู่เสิ่นชิงซูขมวดคิ้ว เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้น“ตื่นแล้วเหรอ จะดื่มน้ำไหม?”“อื่ม”จิ้นเชวี่ยรินน้ำแก้วหนึ่ง ใช้หลอดป้อนให้เธอเสิ่นชิงซูดื่มน้ำเสร็จ ก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมากเธอมองจิ้นเชวี่ย แล้วถามว่า “เมื่อกี้ฉันเหมือนจะได้ยินคุณคุยกับหมอว่าจะพาฉันไปสวิตเซอร์แลนด์เหรอ?”“อืม” จิ้นเชวี่ยเอาแก้วน้ำวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง “สถาบันวิจัยที่พ่อของผมลงทุนไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ บางทีอาจจะวิจัยยาที่ช่วยคุณได้”ลมหายใจของเสิ่นชิงซูชะงักไปที่แท้ก็ไม่ใช่ความฝัน จิ้นเชวี่ยจะพาเธอไปสวิตเซอร์แลนด์จริง ๆสถาบันวิจัยแห่งนั้นของฟู่ไป๋เซิง สามารถวิจัยยารักษาลูคีเมียได้เหรอ?ถ้าทำได้จริง ๆ แล้วฟู่ไป๋เซิงจะทุ่มเทเล่ห์เหลี่ยมกลับไปแย่งชิงฟู่ซื่อทำไมกัน?ดังนั้น จิ้นเชวี่ยตั้งใจจะทำให้เธอกลายเป็นจิ้นเสวี่ยคนที่สองงั้นเหรอ?หลังของเสิ่นชิงซูเย็นวาบขึ้นมาเป็นระลอกแบบนี้แล
จิ้นเชวี่ยรู้ว่าเป็นกวนเยว่ที่บอกทุกคนว่าเสิ่นชิงซูเป็นอดีตภรรยาของฟู่ซือเหยียนเขามองกวนเยว่ แล้วยิ้มวินาทีต่อมา กวนเยว่ส่งเสียงอู้อี้ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง เลือดที่ต้นขาข้างหนึ่งไหลไม่หยุดกระสุนฝังอยู่ในกระดูก จิ้นเชวี่ยใช้มีดทหารแงะกระสุนนั้นออกมาด้วยตัวเองกระสุนที่เปื้อนเลือดถูกวางลงในมือของกวนเยว่ มือข้างหนึ่งของจิ้นเชวี่ยเต็มไปด้วยเลือด เขาตบเบา ๆ บนใบหน้าที่ซีดเผือดและเหงื่อซึมด้วยความเจ็บปวดของกวนเยว่“ผมเคยบอกแล้วว่าผมไม่ชอบให้ใครมาสอนผมทำอะไร”กวนเยว่ก้มหน้าลง กัดฟันทนความเจ็บปวด “คุณจิ้น ผมผิดไปแล้วครับ”คนอื่น ๆ ไม่กล้าส่งเสียงอีกในที่สุดงานแต่งงานก็จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตามความต้องการของจิ้นเชวี่ยทุกคนต่างก็คิดว่าจิ้นเชวี่ยบ้าไปแล้ว แต่ก็ไม่กล้าขัดขวาง ทำได้เพียงจำใจบ้าไปกับเขาในงานเลี้ยงอาหารค่ำหลังจากนั้น จิ้นเชวี่ยยกแก้วขึ้นดื่มอย่างเต็มที่ และต้องดื่มกับผู้นำทุกคนคนละแก้วผู้นำทุกคนยกแก้วขึ้น กล่าวคำอวยพรอย่างไม่จริงใจคนไม่น้อย จิ้นเชวี่ยไม่ปล่อยใครไปเลยสักคน พอครบหนึ่งรอบ ตัวเขาเองก็ดื่มไปไม่น้อยตอนนี้เมาแล้ว ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แค่อยากจะกอดเสิ่นชิงซ
“ฉันรู้” เจียงหมี่รั่ลูบท้องของตัวเอง “แต่ว่า ถ้าเขาเกิดมาแล้วไม่ได้เป็นลูกของจิ้นเชวี่ยล่ะ?”ไม่ได้เป็นลูกของจิ้นเชวี่ย?เสิ่นชิงซูจ้องมองเธอ “นี่หมายความว่ายังไง?”เจียงหมี่รั่วมองเสิ่นชิงซู “พี่ชิงซู ช่วงนี้ฉันฝันร้ายตลอดเลย”จู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน เสิ่นชิงซูขมวดคิ้ว“ฉันฝันว่าตอนที่ฉันคลอดลูก ฉันคลอดยากจนตาย จิ้นเชวี่ยก็ตายด้วย”เสิ่นชิงซูเม้มริมฝีปากตอนที่เธอท้องลูกแฝดชายหญิง ก็มักจะฝันไม่ดีอยู่บ่อย ๆต่อมา ตอนที่ลูกแฝดคลอดก่อนกำหนดและตกเลือดอย่างหนัก ฉากนั้นมันคล้ายคลึงกับภาพนองเลือดในความฝันของเธอเหลือเกินบางที นี่อาจจะเป็นสัมผัสที่หกของคุณแม่ก็ได้หรือว่าความฝันของเจียงหมี่รั่วก็เป็นสัมผัสที่หกของคุณแม่เหมือนกัน?ถ้าจิ้นเชวี่ยตาย นั่นก็หมายความว่าปฏิบัติการของพวกฟู่ซือเหยียนประสบความสำเร็จอย่างงดงามใช่ไหม?ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็นับว่าเป็นเรื่องดีแต่เจียงหมี่รั่วช่างไร้เดียงสานัก?เสิ่นชิงซูไม่ได้อยากให้เจียงหมี่รั่วต้องลงเอยเหมือนในความฝันเธอแค่รักคนผิด แต่ก็ไม่ได้หลงทางไปโดยสิ้นเชิงทารกในท้องของเธอก็ไม่มีความผิดเช่นกันความผิดบาปของจิ้นเชวี่ย ไม่คว
“ไม่ล่ะครับ” เวินจิ่งซีกลับมาเย็นชาทันที “ครอบครัวผมเข้มงวด พวกเขาหวังว่าผมจะหาผู้หญิงที่ฐานะทัดเทียมกัน ภูมิหลังเรียบง่ายหน่อย”ซ่งหลานอินหัวเราะเบา ๆ “คุณเวินนี่ทำร้ายจิตใจกันจังเลยนะคะ ปฏิเสธก็ปฏิเสธไปสิ ทำไมต้องพูดกระทบกระเทียบกันด้วยล่ะคะ?”สีหน้าของเวินจิ่งซีแข็งทื่อ รีบอธิบาย “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมหมายถึง อาชีพของคุณมันอันตรายไปหน่อย ครอบครัวผมรับไม่ได้...”“พอแล้ว ๆ” ซ่งหลานอินโบกมือ “ฉันแค่ล้อคุณเล่น คุณคิดว่าฉันชอบคุณจริง ๆ เหรอ? ฉันก็เป็นคนแบบนี้แหละ เห็นผู้ชายหล่อ ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหยอกสักสองสามคำ ถ้าอีกฝ่ายเปิดใจยอมมีวันไนต์สแตนด์กับฉัน ฉันก็ยินดีนะ แต่ถ้าจะให้คบกันจริงจังล่ะก็... ช่างเถอะ ผู้ชายน่ะ พอลงจากเตียงสวมกางเกงแล้วก็เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ”เวินจิ่งซี “...”เขาเม้มปากจ้องซ่งหลานอิน ใบหูแดงก่ำสักพัก เขาก็เค้นคำพูดออกมาประโยคหนึ่ง “ซ่งหลานอิน คุณนี่ไม่มียางอาย”“มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ มีอะไรน่าอายกัน?” ซ่งหลานอินแค่นหัวเราะ มองใบหูที่แดงก่ำของเวินจิ่งซี ส่ายหน้าแล้วส่งเสียงจิ๊จ๊ะสองที “คุณชายเวอร์จิ้น อ่อนหัดชะมัด ไม่แน่ว่าอาจจะต้องสอนด้วยซ้







