แดร์ริลหยิบกล่องขึ้นมาเปิดออกอย่างไม่ลังเลเมื่อเขาเปิดกล่องออกมา ลำแสงสีทองสาดส่องทะลุออกมา มีโอสถสองเม็ดอยู่ภายในกล่องพวกมันมีสีทองอร่ามและเฉิดฉายวาววับพวกมันคือโอสถพลังแห่งอนันต์!“โอสถพลังแห่งอนันต์ นี่มันโอสถพลังแห่งอนันต์จริง ๆด้วย!” แดร์ริลเนื้อเต้นถึงขนาดเสียงสั่นทุกคนมีความเชื่อว่าจักรพรรดิราชวงศ์ชิงได้รวบรวมจอมยุทธทุกคนที่เขาสามารถตามตัวได้เพื่อมาสร้างโอสถอายุวัฒนะเพื่อความเป็นอมตะ แต่พวกเขาก็ล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายนั้น แต่พวกเขาทำโอสถพลังแห่งอนันต์ขึ้นมาทดแทนผู้ใดก็ตามสามารถใช้โอสถพลังแห่งอนันต์ได้เพียงแค่ครั้งเดียวตลอดชั่วชีวิตเท่านั้น ปรมาจารย์อาวุโสผู้ใดก็ตามที่ได้ทานมันจะสามารถบรรลุกำลังภายในของตัวเองได้ถึงสามระดับทันทีระดับปรมาจารย์อาวุโสขั้นหนึ่งก็จะกลายเป็นปรมาจารย์อาวุโสขั้นสี่ทันทีหลังจากได้ทานเข้าไปและสำหรับระดับปราชญ์ยุทธขั้นหนึ่งก็จะกลายเป็นปราชญ์ยุทธขั้นสี่โอสถพลังแห่งอนันต์ เป็นหนึ่งในโอสถที่หายากที่สุดในโลก หลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ชิง สูตรการกลั่นยาก็หายสาบสูญไปโอสถพลังแห่งอนันต์ มีบันทึกไว้ในคัมภีร์โอสถแห่งอนันต์เพียงคร่าว ๆ แต่มันไม่ได้มีบ
โมนิก้าขบริมฝีปากของเธอ เธอรู้สึกประหม่าเธอตัดสินใจทำตามแผนที่วางไว้เพื่อหาทางออกจากเกาะสราญรมย์ แม้ว่าแดร์ริลจะไม่มาตามนัดก็ตามช่วงเวลากลางคืนคือจังหวะที่ดีที่สุดที่จะออกจากเกาะ เธอจะไม่มีโอกาสอีกถ้าเธอไม่คว้ามันไว้…เป็นเวลาสองทุ่มในยามค่ำคืนทุกคนต่างเพลิดเพลินกับอาหารอันโอชะในห้องโถงหลักโมนิก้าดื่มแอลกอฮอล์ไปพอประมาณและกล่าวลาประมุขแห่งนิกายจ้าวสวรรค์ เธอให้เหตุผลว่าเธอรู้สึกไม่สบาย แล้วเธอก็กลับมาที่ห้องของเธอท่านประมุขนิกายไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติอะไร เพราะโมนิกาเป็นคนคออ่อนเมื่อเธอกลับมาถึงห้องของเธอ โมนิก้าก็เปลี่ยนเป็นชุดลำลองธรรมดาเธอแต่งหน้าบาง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เธอก็หยิบคบเพลิงขึ้นมาจุดไฟและโยนลงไปบนเตียงไม่นานหลังจากนั้น มันก็เกิดเพลิงไหม้ครั้งมโหฬารและไฟลุกลามไปตามบ้านช่องอีกสองสามหลังในบริเวณใกล้เคียงโมนิก้าขบริมฝีปากของเธอและวิ่งไปที่ตรอกโดยไม่หันกลับมามองเธอคิดว่าจะพบกับอุปสรรคบางอย่างระหว่างทางหนี แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเลวร้ายเกิดขึ้น เธอมาถึงชายหาดอย่างราบรื่นเธอกระโดดลงไปในเรือประมงลำหนึ่งแล้วสตาร์ทเครื่อ
ตัวตึกเป็นอาคารเก่าแก่ซึ่งไม่มีลิฟต์ เมื่อพวกเขาเดินขึ้นไปถึงที่ชั้นสองเจก็หยุดและหันมากล่าวกับนายหญิงแห่งนิกาย “คนสวย แดร์ริลอาศัยอยู่ที่นี่แหล่ะ เข้าไปเคาะประตูเลย”โมนิก้าเดินเข้าไปหาประตูทันในนั้นเจก็ฉีกยิ้มและฉวยโอกาสคว้ากระเป๋าถือโมนิก้าในตอนที่เธอไม่ได้สนใจ จากนั้นเขาก็รีบหันหลังและเริ่มวิ่งหนี“แก…” โมนิก้าตะโกน เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะฉกชิงกระเป๋าถือของเธอ เขาไม่ใช่เพื่อนของแดร์ริลงั้นหรือ? มันช่างน่าเสื่อมเสียยิ่งนัก!โมนิก้าอาศัยอยู่ที่เกาะสราญรมย์ในฐานะนายหญิงแห่งนิกายมานานสักพักหนึ่งแล้ว เธอไม่เคยถูกหลอกต้มตุ๋นมาก่อนเมื่อเธอดึงสติกลับมาได้ เจนั้นก็หายตัวไปเรียบร้อยแล้วโมนิก้ากัดริมฝีปากของเธอ เธอโมโหมาก แต่เธอไม่ได้วิ่งไล่ตามเขาถึงแม้ว่ากระเป๋าถือจะมีมูลค่า เธอก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินในเมื่อเธอกำลังจะได้พบกับแดร์ริลจากนั้นเธอก็เคาะประตูสองครั้งนายหญิงแห่งนิกายตื่นเต้นมากขณะที่เธอรอให้แดร์ริลมาเปิดประตูไม่นานประตูก็เปิดออก หญิงวัยกลางคนยืนยื่นหน้าออกมามองดูเธอ “เธอมาหาใคร?”“ฉัน…” โมนิก้าตกประหม่า “ฉันกำลังมาหาแดร์ริล ดาร์บี้”‘ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? เธอคือคนทำความ
โมนิก้าอยากที่จะกล่าวถามเพิ่มเติม แต่ชายหนุ่มก็เดินจากไปแล้วหลังจากที่ได้เธอสอบถามคนอื่น ๆ อีกสองสามคน ในที่สุดโมนิก้าก็สามารถหาที่อยู่ของตระกูลลินดันได้ เธอตัดสินใจมุ่งตรงไปที่นั่นทันที…ที่คฤหาสน์ตระกูลลินดันคุณย่าลินดันกำลังดื่มด่ำน้ำชายามเช้าในห้องโถงสมาชิกรุ่นเยาว์อีกสองสามคนในครอบครัวก็กำลังสนทนากันอย่างเริงร่าแดร์ริล ไอ้ลูกเขยบ้านคนอื่นชื่อเสียงของเขาทำให้ตระกูลลินดันกลายเป็นตัวตลกในเมืองตงไห่ ในที่สุดพวกเขาก็กำจัดแดร์ริลออกไปได้สักทีเด็กหนุ่มก็เดินเข้ามาในห้องโถงและตะโกน “คุณย่า มีผู้หญิงคนนึงอยู่ข้างนอก เธอมาถามหาแดร์ริล”ผู้หญิง มาถามหาแดร์ริล?คุณย่าลินดันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อของแดร์ริล “ไป! ไปดูหน่อย”เธอรีบเดินไปที่ห้องโถงใหญ่และบรรดาคนอื่น ๆ ที่เหลือในครอบครัวก็เดินตามติดเธอไปอยู่ด้านหลังโมนิก้านั้นยืนอยู่ที่ประตูทุกคนต่างสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นเธอ เธอดูงดงามมาก น่าดึงดูดและทรวดทรงยังยั่วยวนอีกด้วย“เธอเป็นใคร?” คุณย่าลินดันกล่าวถามโมนิก้าฉีกยิ้ม “ขออภัยที่เสียมารยาท แดร์ริลอาศัยอยู่ที่นี่รึเปล่า?”“เธอเป็นอะไรกับแดร์ริล?” คุณย่ากล่าวถามตระกูลลินดั
นายหญิงแห่งนิกายรู้สึกเศร้าสร้อยเสียใจ เธอไปหาตระกูลลินดันด้วยความหวัง เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะถูกถากถางดูแคลนให้อับอายขนาดนี้โมนิก้าขบริมฝีปากของเธอพลางรู้สึกเสียใจมาก เธอสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่สักพักก่อนจะออกเดินทางจากคฤหาสน์ตระกูลลินดันเพื่อไปที่คฤหาสน์ตระกูลดาร์บี้คุณย่าลินดันได้บอกไว้ว่าบรรดาญาติของแดร์ริลทั้งหมดอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลดาร์บี้ เธอจำเป็นต้องไปที่นั่นเพื่อสืบหาด้วยตัวเองครึ่งชั่วโมงต่อมาที่คฤหาสน์ตระกูลดาร์บี้ตระกูลดาร์บี้กำลังวางแผนดำเนินโครงการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่โครงการนี้มีมูลค่าประมาณหมื่นล้านเหรียญ ทุกคนยุ่งมากในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทุกคนออกไปข้างนอกเพื่อทำธุรกิจ ยูมิเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในบ้านเธอมีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรายรับของตระกูลดาร์บี้ในแต่ละเดือนสมาชิกในตระกูลดาร์บี้คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาเธอ “พี่สาว มีผู้หญิงมารออยู่ที่ประตู เธอกำลังตามหาแดร์ริล”ผู้หญิงมาตามหาแดร์ริล?ยูมิฉีกยิ้ม ยังมีคนมาตามหาแดร์ริลที่คฤหาสน์ตระกูลดาร์บี้อยู่อีกอย่างนั้นเหรอ? ทุกคนในเมืองตงไห่ต่างรู้ดีว่าแดร์ริลถูกเนรเทศออกจากตระกูลดาร์บี้แล้วยูมิไม่ได้มีเจตตนาที่จะพบเ
ที่สุสานโบราณในภูเขามังกรเหลืองแดร์ริลและอีเว็ตต์ยังคงบ่มเพาะอยู่ข้างโลงศพผลึกแก้วหัตถ์พลังอมตะนั้นมีความพิเศษอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากผ่านไปได้หลายวัน แดร์ริลก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงกระบวนการบ่มเพาะทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ ดูเหมือนว่าพวกเขายังต้องการเวลาอีกสักหน่อยแดร์ริลและอีเว็ตต์จดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะจนหลงลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหนในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเมื่อแดร์ริลอยู่ในสภาวะบ่มเพาะก็มีเหตุการณ์สำคัญสองเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเหตุการณ์แรกคือสำนักประตูสุราลัยสำนักประตูสุราลัยได้ทำลายพลังแห่งด้านมืดสลายลงไปบ้างในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทุกคนต่างรู้สึกขอบคุณซาบซึ้งในวีรกรรมของพวกเขามากอีกเหตุการณ์หนึ่งคือมีสำนักเกิดใหม่โผล่ขึ้นมา มันคือสำนักภูเขาบุบผาและแด๊กซ์คือเจ้าสำนักสำนักภูเขาบุบผามีสมาชิกประมาณหมื่นคนตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ทุกคนต่างสงสัยว่าสำนักใหม่จะมีสมาชิกถึงหมื่นคนได้อย่างไรหลังจากที่แดร์ริล แด๊กซ์และเชสเตอร์ได้ทำลายสำนักคุนหลุนลง พวกเขาจับตัวสาวกทั้งหมดแบบมีชีวิตจากนั้นแด๊กซ์ก็รับพวกเขาทั้งหมดเข้าร่วมกับสำนักภูเขาบุบผาของเขา…ที่เมืองคุนหลุนมันคือเมืองเล็ก
พ่อและแม่ของเธอ โซรัน ซูซาน รวมถึงพี่สาวของเธอเรเชล พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่ด้านหลังของเธอ ขณะมองด้วยรอยยิ้มซูซานรู้สึกกังวล เพราะลูกสาวของเธอยกย่องดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายอย่างถลำลึก ภายในห้องของเธอเต็มไปด้วยธงและหน้ากากซาร่าสวมหน้ากากที่เธอเพิ่งเช็ดเสร็จและกล่าวถามเรเชล “พี่เรเชลฉันดูเป็นยังไงบ้าง? ฉันดูเหมือนดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายไหม?”เรเชลขบขัน “ฉันไม่เคยเจอดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายตัวเป็น ๆ มาก่อนเลยและอีกอย่างหน้ากากของเธอทั้งหมดมันไม่ใช่ของแท้ มันเป็นแค่ของทำเลียนแบบ”จากนั้นเรเชลก็เอาหน้ากากสีทองมาสวมบนใบหน้าของเธอตัวเรเชลเองก็ยังชื่นชมดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายเช่นกัน ผู้หญิงทุกคนต่างพากันนิยมชมขอบวีรบุรษอย่างเขาซาร่าหัวเราะ “ถ้าหากฉันได้เจอเขาตัวเป็น ๆ ในอนาคต ไม่แน่เขาอาจจะให้หน้ากากทองคำของแท้กับฉันก็ได้”ซูซานและโซรันต่างมองหน้ากันและยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่ลูกสาวได้กล่าวซูซานกล่าว "ซาร่า อีกสามวันหนูก็จะอายุสิบแปดแล้ว หนูมีพรอะไรมี่อยากจะได้เป็นพิเศษไหม?”โซรันยิ้มกว้าง “หนูจะกลายเป็นผู้ใหญ่ทันทีเมื่อหนูอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ ลองบอกพรของหนูมา แล้วพ่อจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่
โซรันรู้สึกรำคาญเมื่อได้ยินเรเชลดูถูกแดร์ริลซูซานสัมผัสได้ว่าบรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดี “เอาล่ะ ไม่จำเป็นต้องถกกันแล้ว”ซูซานมองไปที่ซาร่าและกล่าว “ซาร่า เราจะลองพยายามเติมเต็มพรข้อที่สองของหนูดู แต่ว่าเราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวตนที่แท้จริงของดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายคือใคร”โซรันกล่าว “ใช่แล้ว ไม่เคยมีใครเห็นเขามาก่อนและไม่มีใครรู้ว่าหน้าตาเขาเป็นยังไงด้วย แม้แต่อายุของเขาก็ยังไม่รู้เลย”“หนูไม่สน หนูอยากจะเจอเขา” ซาร่ายืนกรานขณะเธอสวมกอดซูซานซูซานยิ้มและมองไปที่โซรัน “ทำไมเราไม่ลองส่งคำเชิญไปที่สำนักประตูสุราลัยดูล่ะ ไม่แน่ว่าพี่ดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายคนนี้อาจจะมาร่วมงานก็ได้”ถึงแม้ว่าซูซานจะไม่เคยพบเจอเขามาก่อน แต่ซูซานก็เชื่อว่าประมุขสำนักประตูสุราลัยจะต้องเป็นผู้อาวุโสกว่าซาร่าแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเรียกเขาว่าพี่ดาร์บี้ผู้ไร้พ่าย“ได้ ลองดู” โซรันพยักหน้าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเติมเต็มพรวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของลูกสาว…เวลาผ่านไปอย่างยาวนานในสุสานโบราณที่ภูเขามังกรเหลืองเฮ่อแดร์ริลสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ แสงสว่างก็เจิดจรัสออกมาจากดวงตาของเขา!