“ผมเคยบอกคุณแล้ว ว่าผมอยากมีลูกกับคนที่ผมรัก วันนี้ผมรักคุณ แล้วคุณก็รักผม เรารักกัน จากที่วันๆ คุณเอาแต่เที่ยว ก็เปลี่ยนมาเป็นรู้จักอยู่บ้าน รู้จักคิดที่จะหางานทำ มันก็ไม่เหลือเหตุผลอะไรแล้ว ที่ผมจะไม่อยากมีลูกกับคุณ”“สรุปนายไม่โกรธเรื่องสัญญานั่นใช่ไหม?”“งั้นผมขอถามคุณกลับว่า ตอนนี้คุณยังอยากมีลูกกับผมไหม แล้วยังอยากมีเพราะเงินอยู่หรือเปล่า?”เธอส่ายหน้าระรัว “ตอนนี้ฉันไม่ได้อยากมีลูกกับนายเพราะเงินแล้วล่ะ แต่ถ้านายอยากมี ฉันก็อยากมี อีกอย่าง ก็อย่างที่แม่นายบอก ฉันอายุสามสิบเอ็ดแล้ว ถ้าไม่รีบมีตอนนี้ อีกหน่อยจะมียาก”“งั้นผมก็ไม่โกรธเรื่องสัญญาที่คุณทำไว้กับแม่ของคุณหรอกนะ”“แล้ว… ถ้าเรามีลูกกัน ฉันยังจะรับเงินจากแม่ได้ไหมอ่ะ?” เธอถามเสียงอ่อย ใบหน้าแสดงความลังเล เจื่อนลงเหมือนเด็กโดนจับได้ว่าแอบซน“ไหนบอกว่าไม่คิดจะมีลูกเพราะเงินแล้วไง?” เขาถามกลับ สีหน้าเจือรอยขำแต่แฝงความจริงจัง“ก็ไม่ได้อยากมีเพราะเงินนะ… แค่ถามเฉยๆ เผื่อนายโอเคที่จะให้รับ ลูกจะได้มีทุนการศึกษาไว้บ้าง” เธอรีบอธิบาย เสียงเบาลงอย่างรู้สึกผิดแต่ยังไม่วายมีเหตุผลแนบเนียนอยู่ในคำตอบเขายิ้มบางๆ พอใจที่เธอยังคิดถึง
...และทันทีที่ประตูถูกเปิดออก“แฮปปี้เบิร์ดเดย์!!!!”“แม่!” ราตรีร้องเสียงหลงอย่างตกใจสุดขีด เมื่อเห็นคนที่ยืนถือเค้กอยู่ตรงหน้าไม่ใช่แค่แม่เธอ ยังมีแม่สามี และเพื่อนรักอย่างนันทนาด้วยอีกคนใช่สิ! วันนี้วันเกิดของฉันนี่นา... ลืมไปเสียสนิทเลย!แต่เดี๋ยวก่อน... แม่บอกว่าไปอินเดีย ส่วนยัยนันก็บอกว่าจะไปต่างจังหวัด ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่มันอะไรกัน?“เซอร์ไพร้ส์~” ทั้งสามคนพูดพร้อมกันอย่างร่าเริงราตรีหันไปมองผาตะวัน ที่ตอนนี้ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน แบบที่เธอไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก“อย่าบอกนะว่าทุกคนร่วมมือกัน...” เธอเอียงคอถามเขาเขาพยักหน้ารับเบา ๆรอยยิ้มของราตรีค่อย ๆ กว้างขึ้น ดวงตาเริ่มคลอด้วยน้ำใส ๆโคตรเซอร์ไพรส์... ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้ให้เลย เค้กสักก้อนก็ยังไม่เคยได้เป่า ไม่คิดเลยว่าชีวิตในวัยสามสิบ ไม่สิ! ต้องสามสิบเอ็ดปีบริบูรณ์ จะมีวันดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นได้“ไหนแม่บอกว่าไปอินเดียไงคะ” ราตรีเอ่ยถาม ทั้งแปลกใจ ระคนดีใจ“ก็ผาเขาอยากเซอร์ไพร้ส์วันเกิดลูก เลยให้แม่บอกไปแบบนั้น” ตอบพร้อมกับทำปากบุ้ยใบ้ไปทางลูกเขย“แล้วเธอล่ะยัยนัน ไหนบอกว่าจะไปต่างจัง
“มารอผมนานหรือยัง?” เสียงอบอุ่นของผาตะวันดังขึ้น เมื่อเห็นว่าภรรยาสาวมารอเขาอยู่ที่ห้องพัก“สักพักใหญ่ๆ แล้วล่ะ” ราตรีตอบยิ้มจางๆ“ผมชวนน้องดาไปกินข้าวด้วยกันแล้วนะ แต่เธอบอกไม่ค่อยสบาย ผมเลยให้เธอกลับไปพักผ่อน” เขาพูด“กล้ามาก็แปลก… ลองมาสิ แม่จะเอามีดหั่นสเต๊กปักอกให้เลยคอยดู” เธอบ่นพึมพำเบาๆ แต่มากพอให้ผาตะวันได้ยินเขาหัวเราะกับคำขู่ที่แฝงด้วยความหวงอย่างน่าเอ็นดู ก่อนจะบอกว่า “ขอเอาเอกสารไปให้พยาบาลแป๊บนึง เดี๋ยวกลับมานะครับ”เธอพยักหน้ารับ เขาจึงเดินออกไป ทิ้งให้หญิงสาวจมอยู่กับความคิดเดิมอีกครั้ง...‘จะยกเลิกสัญญากับแม่ดีไหมนะ… ห้าสิบล้านเชียวนะ’“เป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมดูเหม่อๆ คิดอะไรอยู่หรือเปล่า?” เสียงของผาตะวันเรียกเธอกลับจากภวังค์“อ้าว! มาแล้วเหรอ ฉันไม่ได้คิดอะไรหรอก” เธอฝืนยิ้ม ก่อนเอ่ยชวนต่อ “ก่อนกลับบ้าน แวะหาอะไรกินกันก่อนนะ”เขามองเธออย่างอ่อนโยน แล้วพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มบางๆ ... แต่ลึกๆ เขารู้ดี ว่าเธอกำลัง ‘คิดอะไรบางอย่าง’“ฝึกทำขนมไปถึงไหนแล้ว” ผาตะวันเอ่ยถามขึ้น ขณะเดินเรื่อย ๆ ไปยังที่จอดรถจักรยานยนต์“วันนี้ไม่ได้ฝึกเลย ไปหาเพื่อนมาน่ะ” เธอตอบเสียงใสพลางเด
เมื่อเข้ามาในห้องพัก ผาตะวันค่อยๆ ปิดประตูลงอย่างระวัง ก่อนจะหมุนตัวกลับ หวังจะเดินไปที่โต๊ะ แต่ยังไม่ทันก้าวเท้า ก็ถูกจู่โจม!ริมฝีปากของเธอประทับลงอย่างเร็ว“จุ๊บนี้ไม่มีใครเห็น ถือว่าไม่ผิด~” เธอบอกพร้อมยิ้มตาหวานอย่างภูมิใจเขารีบเดินหนีไปที่โต๊ะ แสร้งทำหน้าดุ แต่ใบหน้าแดงแจ๋ “ทำไมชอบเล่นอะไรแบบนี้เนี่ย”“ฉันรู้ว่านายไม่ชอบไง ฉันเลยอยากทำ~”“ถ้าผมชอบ คุณก็จะไม่ทำใช่มั้ย?”“ก็อาจจะนะ~”“งั้นผม... ก็ไม่ชอบ”จุ๊บ!เธอกระโดดกอดคอเขาแล้วแนบริมฝีปากอีกครั้ง “จุ๊บ จุ๊บๆ ๆ ๆ”เสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นอย่างสุขใจ “ใครสอนให้คุณทำตัวน่ารักขนาดนี้เนี่ย?”“นายไง!” เธอยิ้มก่อนจะซบหน้าลงบนอกเขาแน่น“ตั้งใจทำงานนะคะ คุณสามีขา~”“ได้ครับ คุณภรรยา~”เธอปล่อยแขนจากคอเขา แล้วเปลี่ยนเป็นดึงแก้มแรงๆ “คุณสามีน่ารักที่สุดในโลกเลย~”“เจ็บครับ คุณภรรยา...” เขาแกล้งกัดฟันตอบเธอรีบปล่อยมือแล้วลูบแก้มเขาเบาๆ อย่างรู้สึกผิด “ขอโทษ นายเจ็บมากไหม?”“ไม่เจ็บแล้วครับ... คุณกลับบ้านเถอะ ผมจะไปดูคนไข้ต่อ ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”“อืม ต่อไปนี้ฉันจะมาส่งนายทุกวันเลย ไม่ต้องห่วง… แล้วก็จะมารับด้วยนะ~ ดีใจไหม?”เขาถอนใจในใ
“ฉันจะจูบนายต่อหน้ายัยนั่น! ให้นางสำลักความรักของเราตายไปเลย!”“หือ? จูบต่อหน้าน้องดา... นี่คือวิธีแก้แค้นของคุณ?”“อื้ม!” เธอพยักหน้าหนักแน่น“ผมไม่เข้าใจจริงๆ ...”“ก็ยัยนั่นชอบนายไง! การจูบนายต่อหน้าคนที่แอบชอบนาย มันก็เท่ากับตบหน้าแบบนิ่มๆ!”“คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ น้องดาเขาไม่ได้ชอบผม”“แหนะ อย่ามาโกหกนะ! ถ้ายัยนั่นไม่ชอบนาย จะมายืนจ้องหน้าฉัน พูดจาดูถูกฉอดๆ ใส่ฉันแบบนั้นเหรอ? แถมยังมาสั่งให้ฉันรีบหย่าอีก บอกว่าเรียนจบแล้วจะได้แต่งงานกับนายทันที!”ผาตะวันคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่รดาเคยทำให้เขา ก่อนจะเอ่ยเบาๆ“ผมคิดกับเธอแค่น้องสาว ไม่คิดว่าเธอจะคิดกับผมมากกว่าพี่ชาย”“นั่นไงล่ะ! ฉันถึงว่า คำที่เขาว่ากันว่า ‘ผู้ชายมักจะโง่เรื่องผู้หญิง แพ้มารยาหญิง’ มันคงจริง เพราะผู้ชายแบบนี้มีอยู่จริง!” เธอสวนกลับอย่างขำปนหมั่นไส้“หายเศร้าแล้วก็พูดเจื้อยแจ้วเลยนะครับ นี่สามีของคุณเองนะคุณราตรี โปรดให้เกียรติกันหน่อย” ผาตะวันยืดตัวตรง ทำเสียงขรึม แกล้งดุอย่างเอ็นดู“ฉันชอบนาย” เสียงของเธอดังขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง มั่นคง เธอเพิ่งจะมั่นใจวันนี้เองผาตะวันอึ้งไปชั่วครู่ ไม่คิดว่าเธอจะพูดออกมาโต้งๆ
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ผาตะวันก็มองหาภรรยาของเขาทันที สายตากวาดไปทั่วชั้นล่างอย่างร้อนใจ แต่กลับไม่พบเธออยู่ตรงไหนเลย ชายหนุ่มจึงรีบขึ้นบันไดไปยังชั้นบน และแล้วก็พบว่า... เธอกำลังนั่งอยู่ในห้องนอนแต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวขาเข้าไป เสียงแข็งของเธอก็ดังขึ้นมาขวางไว้“ห้ามเข้ามา!”คำสั่งนั้นหยุดเขาไว้กลางอากาศ เท้าที่กำลังก้าวถึงกับค้าง ไม่กล้าขยับต่อ“ทำไมไม่ให้ผมเข้าไป?” เขาถามด้วยน้ำเสียงสับสน“ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย!”ผาตะวันขมวดคิ้วทันที “ผมรีบกลับมา... ก็เพราะอยากอธิบายทุกอย่างให้คุณฟัง”“ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น!”“แต่เราต้องคุยกันนะ” เขายืนยัน พยายามชะเง้อแอบมองใบหน้าของเธอที่หันหลังให้ ยิ่งเขาอยากเห็น ใบหน้าของเธอก็ยิ่งเร้นลับ ยิ่งทำให้ใจเขาเต้นรัวด้วยความเป็นห่วง“ถ้านายเข้ามา ฉันจะปาของทุกอย่างในห้องใส่แน่!” เสียงสั่นเครือแฝงความดื้อดึง ฟังดูคล้ายข่มขู่ แต่จริงๆ แล้วคือความกลัว... กลัวว่าเขาจะเห็นน้ำตา ที่เธอกำลังพยายามกลั้นไว้“มันก็แค่เรื่องเล็กๆ ทำไมคุณต้องโกรธจนถึงขนาดนี้ด้วยล่ะ มีอะไรก็คุยกันดีๆ สิ เราแต่งงานกันแล้วนะ เป็นสามีภรรยากันแล้ว...” น้ำเสียงของเขาอ่อนลง ก่อนจะค่อยๆ ยกเ