Share

9

last update Last Updated: 2024-12-05 12:07:29

“ขอบคุณที่มาให้กำลังใจอริสานะคะ... โอลิมปิกเกมส์ปีนี้ไม่ได้เหรียญทอง ขอโทษทุกคนจริง ๆ ยังไงจะฝึกซ้อมให้หนักกว่านี้ค่ะ”

            “พยายามเข้านะครับ... คุณอริสา” เสียงจากกองเชียร์ปะปนกันไป ประมาณสิบกว่าคนได้ เธอต้อนรับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ จับมือในแบบชาวตะวันตกอย่างเท่าเทียม พยายามที่จะจดจำใบหน้าของพวกเขาไว้ในความทรงจำ ทั้งชายหญิงวัยรุ่น ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาเอาการ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ กับคุณพ่อคุณแม่ เธอยกมือลูบศีรษะเบา ๆ

            “เป็นเด็กดีนะเรา... มาดูกีฬากับพ่อแม่สนุกไหมคะ?”

            “สนุกค่ะ หนูชอบดูพี่ ๆ แข่งกีฬา” เด็กสาวยิ้มตอบ ขณะจับจูงมือสองหนุ่มสาว หนึ่งในแฟนคลับของเธอที่ถ้าหากว่าไม่เป็นแฟนพันธุ์แท้จริง ๆ คงไม่พาเด็กสี่ขวบมาดูกีฬายิงปืนแน่

            เมื่อเสียงประกาศดังว่าแมตช์ต่อไปกำลังจะเริ่ม หลายคนก็กลับไปยังที่นั่งอัฒจันทร์ของตน หนุ่มวัยห้าสิบ โค้ชส่วนตัวเข้ามาตบบ่าเบา ๆ

            “เอ้า... ไม่เป็นไรนะ อริส” หนุ่มใหญ่เปรยยิ้มแล้วจากไป ไม่มีคำพูดอะไรต่อจากนั้น แปลว่าเขาอาจจะต้องคัดสรรนักกีฬาใหม่ในปีหน้า

            หญิงสาวเดินดุ่ม ๆ ไปหยิบกระเป๋าในล็อกเกอร์ของห้องนักกีฬา เสื้อกันหนาวอย่างหน้าสวมทับไว้อีกชั้นหนึ่ง แล้วก้มหน้าก้มตาเดินไม่สนใจใคร ซ่อนความผิดหวังทั้งหมดไว้บนสีหน้าเรียบเฉย ราวตุ๊กตาไร้ชีวิต...

            หากเธอแพ้... จะต้องหมั้นกับผู้ชายที่แม่ชอบ ทั้งที่แม่ไม่ได้อยู่กับเธออีกแล้ว

            ‘เตกับอริส ลูกชายลูกสาวของแม่... แต่งตัวเป็นคู่บ่าวสาวตัวน้อย เหมือนพระเอกนางเอกตอนเด็ก ๆ น่ารักจริง ๆ แม่ชอบมากเลยจ๊ะ’

            คำพูดนั้นยังดังก้องในหัวสมอง มันติดตามไปจนเกิดความเจ็บปวดมากเสียจนต้องรีบออกไปให้ไกลจากสถานที่แห่งนี้

            เธอไม่อยากเจอหน้าพ่อ...

            พ่อที่น่ารักของเธอเหมือนตายไปพร้อมแม่ แม้ว่าพ่อจะยังตามใจเธอเพราะกลัวว่าเธอจะไม่กลับบ้าน ซึ่งเธอคงทำมันแน่ ในเมื่อพ่อชอบพูดเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา คือเรื่องในวันวานของเด็กสาวตัวน้อยที่คงไม่ได้คิดอะไรกับการขอแต่งงานเด็กชายเตชิน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่งงานมันคืออะไร กระทั่งว่าตอนนี้ก็อยากจะใช้ชีวิตแบบหญิงสาววัยยี่สิบห้าปี

            ทว่าในฐานะนักกีฬา และนักเรียนทุนก็ยากหน่อย

            แชมป์โลกรุ่นเยาวชนสองปีซ้อนตอนอายุสิบเจ็ดปี พอเปลี่ยนมาแข่งกับรุ่นใหญ่เธอไม่เคยได้เหรียญทองอีกเลย...

            หิมะโปรยปรายลงมาท่ามกลางอากาศหนาวจัดองศาติดลบสิบองศาในฤดูหนาว ใกล้เคียงกับประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองซูริคซึ่งเธอกำลังจะจบการศึกษาปริญญาโทด้านสัตวศาสตร์

            ด้วยเงินทุนของรัฐบาล เธอคงจะต้องกลับไปใช้หนี้ด้วยการทำงานในองค์การปศุสัตว์หรือที่ไหนสักแห่ง แต่เมื่อไม่นานมานี้พ่อได้นำเงินไปโปะหนี้ทั้งหมด ยื่นคำขาดให้เธอกลับไปทำงานที่ฟาร์ม...

            และก็คงจะหลบหน้าป้าขวัญกับนายเตชินไม่พ้น...

            แต่เล็ก ๆ มาเธอและพี่ชายเพื่อนบ้านคนนี้สนิทสนมกันมาก ถึงขั้นว่าทางผู้ใหญ่อยากให้หมั้นหมายกันไว้ เป็นแม่ของเธอที่บอกว่าขอให้เด็ก ๆ ได้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะเลือกใครเป็นคู่ครอง ในวันที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่

            ในวันนั้นเธอจึงร้องไห้เป็นใหญ่โต เพราะอยากแต่งงานกับพี่เต แต่แล้วในที่สุดเธอกลับต้องขอบคุณแม่ เมื่อต่างคนได้ลืมเลือนเรื่องนี้ไปตามกาลเวลา ประกอบกับว่าบ้านของตระกูล ‘สิงหวัฒน์’ ย้ายถิ่นฐานกลับไปอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนกลับมาอยู่เขาใหญ่อีกครั้ง

            พอได้กลับมาคบหาสมาคมตามประสาเพื่อนบ้าน... พ่อก็คงจะคิดถึงแม่ก็แค่นั้น

            ทำไมจะต้องเอาความรู้สึกของตัวเองมาลงที่เธอล่ะ? ทำไมเธอจะต้องหมั้นกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ แม่ตายไปแล้ว... แม่ไม่ได้อยู่กับเธออีกแล้ว...

            ความเศร้าหมองกัดกินจิตใจราวหิมะอันเหน็บหนาวที่กำลังกัดเซาะมือทั้งสองจนต้องซุกมันไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทสีดำ ผ่านท้องถนนที่มีผู้คนเดินประปราย อริสาไม่ได้ตรงกลับที่พักแต่หยุดปลายเท้าลงหน้าร้านสะดวกซื้อ มีตู้ขายของด้วยระบบหยอดเหรียญ มีอัดลมและผลไม้ ขนมห่อเล็ก รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์... แทบจะมีทุกยี่ห้อ

            ดวงตาคู่สวยสั่นไหวระริกมองกระป๋องหลากสีสัน ความขุ่นเคืองใจที่สั่งสมมานานทำให้เธอไม่ต้องคิดอะไรมาก มือหยอดเหรียญลงช่อง เสียงก๊องแก๊งดัง สองกระป๋องหล่นลงมาแล้วก็ไม่รอช้า แต่เป็นเพราะความหนาวสั่นของมือที่เพิ่งควักออกมาจากกระเป๋า กระป๋องเบียร์สีทองตัวอักษรแปลกตาหล่นตุ้บ!

            มันกลิ้งหมุนไปกับพื้นสีขาวละลานตา เกือบจะชนเข้ากับรองเท้าเป็นเงามันของชายแปลกหน้า ขณะที่เขาเพียงโน้มตัวลงหยิบมันกลับขึ้นมาส่งให้เธอ

            “อ้าว... คุณ?”

            คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองเจ้าของร่างสูงในเสื้อโค้ทตัวใหญ่ เมื่อสักครู่เธอเห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับ

            “กินเบียร์แก้หนาวเป็นความคิดที่ดี แต่ใส่ถุงมือดีกว่าครับ ที่นี่หนาว...” ไอเย็นลอยวนอยู่ยามพูดพ่นลมหายใจ บนวงหน้าคร้ามคมมีผ้าพันคอปกปิดอยู่ถึงช่วงแก้มสาก ถึงเห็นหน้าของเขาเพียงครึ่ง

            นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลพร่างพราวราวมีเพชรฝังอยู่ข้างใน... พาดวงตาคู่สวยประกายแวววาวปะติดอยู่บนนั้น

            ให้ตายสิ! ผู้ชายคนนี้ตาสวยมาก

            และเป็นเพราะว่าเธอยังยืนนิ่งอึ้งมองเขาโดยไม่ตอบอะไร ชายหนุ่มรั้งกระป๋องเบียร์กลับไปดึงฝา ฟองเบียร์พุ่งออกมาตามแรงอัดของมันที่กระแทกพื้นเมื่อสักครู่ จนเธอต้องรีบรับมาดื่มอย่างรวดเร็ว ชายแปลกหน้ายังใจดีถอดถุงมือส่งให้

            “อย่าทานเยอะนะครับ เบียร์ที่นี่แรง เดี๋ยวจะเมา”

            เสียงทุ้มนุ่มละมุนหูของเขาดึงสติของเธอกลับมา อริสาไม่ปฏิเสธน้ำใจเขาสักอย่างรับถุงมือมาแบบหน้าด้าน ๆ ด้วยอีกต่างหาก

            “เอ่อ... ขอบคุณนะคะ แล้วคุณไม่หนาวเหรอ?”

            “ไม่เป็นไรครับ ผมมีถุงมืออีกคู่ในรถ ปีหน้าลงแข่งอีกนะ ผมจะมาเชียร์คุณอริสา”

            “ค่ะ ฉันจะไปแข่งแน่ ๆ” ในน้ำเสียงและแววตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ขณะที่ชายหนุ่มแย้มยิ้มอยู่บนใบหน้า เป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย

            “ขอบคุณค่ะ คุณ..?” แล้วเลิกคิ้วขึ้นถามเจ้าของวงหน้าคร้ามคม มือของเธอสั่นเทาเพราะความหนาวแต่กลับรู้สึกดี กับทั้งถุงมือและเบียร์เกาหลียี่ห้อหนึ่ง ในสายตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความชื่นชม

            “แฟนคลับครับ... อริสาแฟนคลับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   62

    “ลูก...?” เป็นคำถามแรกของอริสา ที่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดในวินาทีที่เธอไม่ควรพรวดพราดออกไปหาอันตรายอย่างนั้น ไอศูรย์พยักหน้าเบา ๆ พาความปลื้มปิติขึ้นในหัวใจ เรี่ยวแรงของเธอตอนนี้ทำได้แค่ยกมือข้างที่เต็มไปด้วยสายน้ำเกลือขึ้นสะกิดบ่าแกร่ง แม้ว่าอยากกอดเขาแน่น ๆ สักแค่ไหน “ฉันขอโทษ... พี่... เป็นห่วงฉันมากเลยใช่ไหม?” “ไม่เป็นไร... เราไม่เป็นไรพี่ก็ดีใจแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาเกรอะคราบน้ำตาผละออกมองดวงหน้าซีดขาวราวกระดาษ เบียดตัวนั่งลงข้างเตียง กุมมือน้อยไว้แผ่วเบา ไม่ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บแม้สักนิดกับรอยเข็มบนนั้น “ไม่เป็นไรทำไมตาแดงคะ? กินข้าวหรือยัง ได้นอนบ้างหรือเปล่าเนี่ย?” เสียงพร่าของคนป่วยตัดพ้อ อริสาสัมผัสได้ถึงมืออันอบอุ่นของชายทั้งสอง ไม่ลืมหันไปทางอีกคนที่คงหวาดกลัวไม่ต่าง จากดวงตาแดงก่ำที่พายุความโศกเศร้าได้สงบลงไปสักพัก “ไม่เป็นไรแล้วนะลูกพ่อ” ใบหน้างามพริ้มระบายยิ้มจาง ๆ “หนูไม่เป็นไร... พ่ออย่าร้องไห้ เวลาพ่อร้องไห้ พ่อจะมองอะไรไม่เห็น...” แล้วเลื่อนสายตาไปทางชายที่ยังคงจ้องหน้าเธออยู่ไม่ห่าง ไม่ได้มองคน

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   61

    กว่าสิบชั่วโมงที่ผ่านมาเขาไม่ต่างจากคนเสียสติ ในวินาทีที่อุ้มร่างโชกเลือดไปหาอาจารย์ในโรงพยาบาลสัตว์ หยาดน้ำตาเปียกชุ่มใบหน้าอย่างที่ตัวเขาเองไม่เคยจะร้องไห้ให้ใครได้เท่านี้ แม้แต่ในวันที่แม่จากไป เขาเสียใจแต่ยังคงความเป็นบุรุษที่เข้มแข็งเช่นพ่อ รถพยาบาลที่มาได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่ละนาทีช่างยาวนาน ผู้ชายตัวโต ๆ อย่างเขาแค่นั่งสั่นอยู่ตรงนั้นไม่รับรู้สิ่งใดแม้เสียงเรียกของเพื่อนที่คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด เขายังจินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไม่ได้เห็นรอยยิ้ม ใบหน้าสวย ๆ ของผู้หญิงคนนี้อีกตลอดไป ชีวิตที่เหลือจะเป็นอย่างไร กับลูกที่ได้เห็นหน้าเพียงครั้งผ่านจอสีเทาดำ สิ่งมีชีวิตที่ทำให้เขารักแต่แรกพบเหมือนอริสา... ความหวังอันเบาบาง เด็กที่เกิดจากความรักของเขาและเธอยังรอปาฏิหาริย์ “พี่จะรีบกลับมานะ... เราไม่ต้องห่วงพี่ พี่จะดูแลตัวเอง...” ในน้ำเสียงและแววตาแสนอ่อนโยน มือหนาค่อยเลื่อนขึ้นปัดไรผมบนขมับอย่างที่เขาชอบทำ ก่อนจะหยัดกายลุกจากเก้าอี้ที่นั่งมานานนับชั่วโมง มองเปลือกตาที่ยังคงปิดอยู่อย่างนั้น ก่อนออกจากห้องไป ชายหนุ่มตั้งใจจะตรงกลับบ้าน

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   60

    “ไหวไหมลุงชา?” ใบหน้าซีดขาวของชายวัยหกสิบขยับเบา ๆ มือกระชับอาวุธในมือไว้เหนือเข่า แม้เลือดโชกชุ่มกาย ตัวต้นเหตุของบาดแผลฉกรรจ์นั้นนอนอยู่ข้าง ๆ ถึงห้าตัว พวกมันสามารถมีน้ำหนักตัวสูงสุดได้ถึงหกสิบสองกิโลกรัม มีอุ้งเท้าอันใหญ่โต แรงกัดมหาศาลด้วยกรามอันทรงพลังยังออกล่าเป็นฝูง หมาป่าสีเทาเกรวูฟที่กำลังหิวโหยดุร้ายถูกลักลอบมากับรถบรรทุกไม่มีป้ายทะเบียน ไม่ไกลจากฟาร์มของพิภพมากนัก คำขอความช่วยเหลือของพลตำรวจเอกปรีชา ประจวบเหมาะพอดีกับหญิงสาวจะออกไปตามล่าหาเสือโคร่ง ดันได้รางวัลเป็นหมาป่าขย้ำคอคนแก่อยู่กับลูกปืนจากพวกลักลอบค้าของเถื่อน ปัง! ปัง! กระสุนแสกผ่านเหล็กหนา เมอร์เซเดสเบนซ์สีดำสนิทรุ่นกันกระสุนของท่านนายพลอยู่ในสภาพยับเยิน ผู้หมวดสาวในร่างชายหนุ่มยิงสวนกลับไปเพียงครั้ง ก่อนแนบหลังไว้กับที่กำบัง หันไปถามนายตำรวจใหญ่ “ท่านรองกำลังเสริมใกล้ถึงรึยัง? กระสุนจะหมด...” “อือ... ข้างหน้า...” แรงตอบเฮือกสุดท้ายของพลตำรวจเอกปรีชาที่เอนร่างลงนอนพักไหล่ของหญิงสาว สติพร่าเลือนเต็มที “ลุงชา ๆ !” เรียกเสียงดัง มือเรียวเขย่าบ

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   59

    มือหนากำหมัดแน่นแม้จะมีแค่รีโมตในมือ แววตาวาวโรจน์สาดประกายไปยังรายการตลก ซึ่งเขาไม่มีอารมณ์จะดูมันเหมือนทุก ๆ วัน “ถ้าแกจะมาตอกย้ำฉันก็ไปเถอะ… ไปไหนก็ไป...” “โธ่… พ่อ… ไอ้เมธพนธ์มันโคตรร้ายเลยนะพ่อ หนูไม่ชอบมัน ทำไมพ่อต้องเป็นแบบนี้ด้วย หนูไม่เข้าใจ” พ่อที่พูดไม่รู้เรื่องยังดีกว่าคุณพ่อเซ็งโลก ทำหูทวนลม อริสาพยายามเซ้าซี้เรื่องเดิม ๆ อยู่อย่างนั้น ทว่าคงไม่มีคำตอบจากร่างสูงในสภาพอิดโรย ขอบตาดำคล้ำด้วยความที่คงนอนคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง จนเธอถึงกับถอนหายใจเสียงดัง ยกมือขึ้นลูบบ่าลูบหลังปลอบประโลม “พ่ออกหักยังไงพ่อยังมีหนู หนูไม่ทิ้งพ่ออยู่แล้ว... พ่อเหนื่อย พ่อหยุดงานไปนะ ดูตลกดูหนัง หนูไปทำป๊อปคอร์นให้” พิภพยิ้มเจื่อน ไม่ได้ดีใจกับคำปลอบของลูกสาวเลย ในที่สุดเขาก็ต้องถาม “อะไรนะ? แกบอกว่าฉันอกหัก?” “ใช่... พ่ออกหักแน่นอน ถ้าพ่อยังนั่งอยู่แบบนี้นะ เอาจริง ๆ ถ้าหนูเป็นพ่อ หนูปล้ำน้องพายไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เสือโหยคาบไป ป่านนี้กินอิ่มท้องไปแล้วมั้ง เอาเถอะ...ไว้หนูแนะนำเพื่อนสาว ๆ สวย ๆ เอ๊าะ ๆ ให้พ่อใหม่ส

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   58

    “เซ็นแล้ว... ผมมีของขวัญให้พี่สาวคุณด้วยนะ แต่ว่า... มันอยู่ในมือถือ ไม่รู้ว่าอยากดูไหม?” “คุณ... หมายความว่าไง?” ขณิกาหน้าชาวาบ เพียงชายตรงหน้าสลัดคราบเทพบุตรเป็นซาตานร้ายใช่... ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมาขณิการู้ว่าถ้าเขาร้าย เขาจะร้ายได้แค่ไหน! “พี่ยักษ์ก็หมายความอย่างที่พูด ของขวัญให้คนรักไอ้พิภพอย่างน้องพาย อืม... แต่พี่ว่านะ มันรักลูกสาวกับเมียเก่าที่สุด ไม่มีเศษซากความรักเหลือเผื่อแผ่ให้ส่วนเกินหรอก” “คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะคุณเมฆ อย่าไปยุ่งกับพี่อริสเลย... ที่แล้วมาก็ให้แล้วกันไปเถอะนะ พายขอ” ทั้งน้ำเสียงและแววตาเว้าวอน มือเรียวเอื้อมไปแตะลงบนท่อนแขนแกร่งที่สะบัดออกอย่างไม่ไยดี “อย่ามาแตะต้องตัวผม...” ท่าทางเย็นชาของเขาสั่นคลอนหัวใจอย่างรุนแรง ริมฝีปากคู่งามเม้มเข้าหากันจนเหยียดตรง ยามสบมองวงหน้าหล่อเหลาของคนที่เคยอบอุ่น อ่อนโยนกับเธอมาเสมอ “พี่สาวคุณก็ทำร้ายคนของผมนะอย่าลืม ที่เล่นอะไรแบบเด็ก ๆ น่ะ คุณเมฆไม่ทำ ผมเป็นคนเล่นใหญ่” “คุณเมฆ... คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย... คุยกับพายดี ๆ ได้ไหม

  • คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก   57

    นายหัวฟาร์มม้าดูจะทำตัวหม่นหมองลงทุกวันจนคนรอบกายพลอยเครียดตาม สิ่งหนึ่งที่เธอชื่นชมขณิกาคือไม่หวั่นไหวไปกับผู้ชายมากคารมอย่างเมธพนธ์ที่ไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ยังมีฐานะร่ำรวยกับธุรกิจสีเทาที่จับอยู่ ความเจ้าเล่ห์ของนายเมธพนธ์นับว่าเป็นตัวร้ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่อีกคนไม่ได้เข้าใจในความหมายของเธอเลย หันกลับไปทางภรรยาที่เสียชีวิตในวัยสามสิบเจ็ดปี “แกไม่รักแม่แกแล้วหรือ? อริส” หญิงสาวสะบัดศีรษะอย่างหัวเสีย และที่ว่าจะไม่พูดก็ไม่น่าไหว... “แม่ตายไปตั้งกี่ปีแล้วพ่อ นี่คือชีวิตของคนเป็น คนที่ต้องเอาใจใส่คือคนที่ยังอยู่ ไม่ใช่คนตาย” หัวใจหนุ่มใหญ่พลันกระตุกวาบกับคำพูดตรง ๆ ของลูกสาว เขาไม่เคยสนใจความสุขนั้นเลย ยังพยายามยัดเยียดความคิดให้ลูกแต่งงานกับเตชิน เพราะเป็นความต้องการของคนตาย... เพราะเขาเป็นฆาตกร... ยังไม่สามารถทำตามคำสั่งเสียสุดท้ายของภรรยาได้ ดวงตาคู่คมเอ่อคลอหยดน้ำใสกับทุกความรู้สึกผิดในอดีต เสียงทุ้มสั่นเครือ “มาไหว้แม่ก่อน” หน้าเจดีย์ที่มีกระเบื้องหลากสีใต้ร่มไม้ พ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status