“คลินิกอยู่ข้างหน้านี่เอง เอ่อ.. แล้วลุงต้องวนกลับไปรับนายหัวไหมครับ? คุณอริส” คุณลุงไม่ค่อยแน่ใจ ทว่าพอสบเข้ากับรอยยิ้มร้ายกาจตรงมุมปาก
“คนรักกันมันต้องตากฝนกอดกันตัวกลมกลางป่าสิลุง โรแมนติกสุด ๆ”
“ลุงว่าฟังดูน่ากลัวมากกว่าโรแมนติกนะ..” สารถีคนดีแค่นหัวเราะ ก่อนขับรถยนต์ต่อไปจนถึงที่หมายในอีกไม่นาน โดยไม่ลืมว่าจะต้องวิ่งตากฝนไปเอาร่มท้ายกระโปรงหลัง ทว่าเขาได้รับความใจดีจากหญิงสาวกว่าทุกวัน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมีร่ม.. ลุงรอนี่”
ร่มพับสีน้ำเงินถูกหยิบออกมาจากกระเป๋า ร่างบางเปิดประตูลงจากรถยนต์ ฝ่าสายฝนที่หยาดหยดลงมากระแทกร่มคันน้อย ดังระรัวไม่ต่างจากเสียงหัวใจสาวในทุกย่างก้าว ขณะที่เธอไม่ลืมว่ามาซื้อขนมสุนัข
กระดูกขัดฟันรสเนื้อ เนื้อไก่ผสมผักโขม ปอร์ปคอร์นแคปหนังวัวลดคราบหินปูน เป็นขนมที่เจ้าที่รักชื่นชอบมากที่สุด ร่างบางตรงไปที่ชั้นวางขนมข้าง ๆ เคาน์เตอร์ หลังเก็บร่มไว้ในชั้นวางร่มข้างหน้าคลินิกเรียบร้อยดี
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างมองความว่างเปล่า ตวัดตามองไปรอบ ๆ กาย บรรดาสาวน้อยใหญ่ยืนชะเง้อคอมองอะไรสักอย่าง
หา! ขนมหมาหมดเกลี้ยงชั้น แล้วนี่อะไร? ติ่งเกาหลีมายืนรอไอดอลที่สนามบินรึ!
“ขอโทษนะคะ ไม่เหลือขนมเลยสักอันเหรอคะ?” เสียงใสถามดัง ๆ ผ่านชั้นวางของไป เพราะปรกติขนมก็ไม่เคยจะหมด พนักงานคนหนึ่งที่คุ้นเคยกันดีเลยตอบ
“คุณอริสามาช้าไปนิดเดียวเองค่ะ แต่ว่าอาจารย์นิธิเพิ่งโทรสั่งของ คนขับรถส่งของน่าจะติดฝนอยู่” บุษบาส่งยิ้มกว้าง ก่อนหันไปซุบซิบอะไรบางอย่างกับเพื่อนร่วมงาน แล้วบอกลูกค้าอีกครั้ง
“รอก่อนสิคะคุณอริสา เดี๋ยวก็มาถึงแล้วมั้ง”
“ออ.. ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณบุษ” บอกผ่านหญิงสาววัยสามสิบกว่า ๆ มีเสียงหัวเราะคิกคักของพนักงานสาวที่กำลังนินทาอะไรสักอย่าง อีกคนก็ส่งยิ้มมา
“รอนะคะคุณอริสา รับรองว่าไม่นานค่ะ ขนมที่อื่นแพงกว่าตั้งแยะ ขับรถไปอีกไกลเป็นสิบ ๆ กิโลฯ เลยนะคะ”
“ค่ะ” เธอจำต้องตอบรับคำเซ้าซี้ที่ไม่รู้ว่ามีจะประสงค์แอบแฝงหรือเปล่า
กลวิธีการเรียกลูกค้าของที่นี่นับว่าดีเยี่ยม มีสินค้าน่าสนใจมากมาย พนักงานสาวหน้าตาดี ไม่รวมถึงการจ้างอ้ปป้า บอยแบนด์เกาหลีมาเป็นสัตวแพทย์
“คุณหมอไอเลิฟยูช่วยขายของสินะ อาจารย์นิธิคงรวยแย่...” พึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะเผลอลอบยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
อริสาไม่ได้รู้ตัวจริง ๆ ว่าสายตาคู่คมคู่หนึ่งจับจ้องมายังเธอตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในคลินิก ตามด้วยสายตาริษยาอีกหลายคู่ เมื่อเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีขาวสะอาดกางเกงสแล็คตรงมา
“...หมอฝากให้ที่รักครับ”
ในน้ำเสียงทุ้มนุ่มละมุนหู ขนมในมือหนาถูกยื่นให้หญิงสาวที่รับไปด้วยรอยยิ้มระรื่น กระทั่งว่าแววตาคู่กลมโตมีรอยยิ้มแอบแฝงอยู่ภายใน ไม่รู้ว่ากำลังดีใจอะไรใจแน่
“ขอบคุณนะคะ”
คุณหมอไอศูรย์ชอบแจกขนมลูกค้าไม่ใช่เรื่องแปลก แปลกตรงที่เลิกงานแล้วเขาไม่เดินออกทางข้างหลังคลินิกดันเดินดุ่ม ๆ ไปหาลูกค้าสาวคนสวย หลังจากที่เขาแอบยืนมองเธออยู่ ได้ยินเสียงกระซิบเรียกของคุณเอ๋ เลยรีบไปหาขนมมาให้เจ้าของสุนัข
“อริสา..”
เรียกสั้น ๆ เจ้าของร่างสูงในชุดกาวน์แขนสั้นของนายสัตวแพทย์แค่เปรยยิ้ม เผยให้เห็นรอยบุ๋มบนแก้มทั้งสองข้าง ก่อนหมุนกายจากไป ทิ้งคนข้างหลังไว้กับความรู้สึกแปลกประหลาดที่ยังดังสะท้านสั่นไหวอยู่ในอก
-------------------------------
2 ปีที่แล้ว...
กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 : พย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้
ปัง... ปัง... ปัง!
เสียงดังสนั่นจากปลายกระบอกปืนสั้นนับสิบไล่เรียงกันอยู่หลายเสียงสิ้นสุดลง เมื่อหัวกระสุนเจาะลงบนเป้ากระดาษ เสียงนกหวีดจากกรรมการ และเสียงจากไมโครโฟนประกาศผลคะแนน โดยที่นักกีฬาแต่ละคนยังยืนอยู่ในลักษณะเอียงตัวเล็กน้อย ลดปืนลงอย่างนิ่งสงบในความเงียบ...
การตัดสินคะแนนรวมสามครั้ง 10.2, 7.9, 10.4, 8.7, 9.7 ไปตามลำดับ
ตัวแทนแต่ละประเทศต่างเฝ้ารอชัยชนะ เพื่อนำมันกลับไปเป็นชื่อเสียงของแผ่นดินเกิด
ไม่ใช่กับหญิงสาวคนหนึ่ง... เธอมาเพื่ออิสรภาพ...
เหมือนว่าเธอจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าหัวกระสุนนั้นพุ่งออกไปในทิศทางใด หัวใจเต้นระรัวดังเสียงกลอง ลุ้นระทึกอยู่เท่า ๆ กันกับทุกคน
Final_match 50m Pistol women : 10.4 China! 10.2 Korea... 9.9 Thailand..
หา...! อะไรนะ... เหรียญทองแดง!?
เสียงตะโกนกึกก้องของกองเชียร์บนอัฒจันทร์เต็มไปด้วยความปิติยินดี หลายคนบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้กำลังใจนักกีฬาในดวงใจ ตัวแทนของประเทศ พวกเขาดีใจแล้วกับรางวัลไม่ว่าจะเป็นรางวัลไหน จะมีบ้างที่นั่งเงียบนิ่งรับความพ่ายแพ้
เหนือฟ้ายังมีฟ้า มีคนที่ฝึกซ้อมและทุ่มเทกับมันมากกว่า เธอไม่ได้ทำมันอย่างเต็มที่จึงได้แค่เหรียญทองแดงในปีนี้...
อดีตแชมป์โลกปืนสั้นมาตรฐานสองปีซ้อนเดินคอตกออกจากสนาม มีกองเชียร์คนสำคัญคนในครอบครัวเพียงคนเดียวคือพ่อ
พิภพรู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกสาวมาก หากพอเขาก้าววิ่งเข้าไป ฉีกยิ้มกว้างเต็มวงหน้า “ไม่เป็น...”
“หนูไม่หมั้น... หนูจะไม่หมั้นกับใคร โดยเฉพาะเตชิน หนูไม่ได้ขอเงินพ่อแม้แต่บาทเดียว พ่อจะมาบังคับหนูให้หมั้นหรือแต่งกับใครไม่ได้” ลมหายใจกระหืดกระหอบสงบลงหลังจบประโยค ทว่าความกร้าวโกรธยังปรากฏอยู่ในแววตา
คนพ่อถึงกับหน้าเสีย ต้นเหตุทั้งหมดมาจากเขาที่พยายามอ้อนวอนเรื่องนี้มาตลอด ขณะที่เจ้าตัวสอบทุนไปเรียนต่อเมืองนอกได้ ยังมีทุนนักกีฬาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ไม่รวมเงินจำนวนมากที่แม่ทิ้งไว้ให้ในพินัยกรรมก็ไม่เคยกลับบ้านอีกเลย
“ขอโทษนะ พ่อ... หนูอยากอยู่คนเดียว ไว้เจอกันค่ะ” ในน้ำเสียงเย็นชา เป็นปรกติของอริสาที่มีนิสัยเงียบขรึม ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกัน
ใบหน้างดงามหมดจดช่างไร้อารมณ์ มีบ้างบางทีที่จะยิ้ม แต่ก็ไม่ใช่ยิ้มอย่างเต็มเปี่ยมด้วยความสุข
เธอไม่เคยมีความสุขตั้งแต่แม่ลาจากโลกไปด้วยโรคมะเร็งปอด... ต้นเหตุมาจากควันบุหรี่มือสองของพ่อ
มันจึงเป็นยิ้มที่จำเป็นต้องทำเพื่อสาธารณชน พอเดินจากพ่อไปแค่ไม่กี่ก้าว บรรดาแฟนคลับซึ่งติดตามเธออยู่ในโลกโซเชียลเฟซบุ๊ค และที่อื่น ๆ ยังมีสื่อมวลชนปรี่เข้ามาล้อบรอบตัวเธอ บางคนเอาดอกไม้มาให้ มีขนมถุงใหญ่ ทางโค้ชผู้ดูแลนักกีฬาก็รับไป หญิงสาวยกสองมือขึ้นประนมไหว้
“ลูก...?” เป็นคำถามแรกของอริสา ที่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดในวินาทีที่เธอไม่ควรพรวดพราดออกไปหาอันตรายอย่างนั้น ไอศูรย์พยักหน้าเบา ๆ พาความปลื้มปิติขึ้นในหัวใจ เรี่ยวแรงของเธอตอนนี้ทำได้แค่ยกมือข้างที่เต็มไปด้วยสายน้ำเกลือขึ้นสะกิดบ่าแกร่ง แม้ว่าอยากกอดเขาแน่น ๆ สักแค่ไหน “ฉันขอโทษ... พี่... เป็นห่วงฉันมากเลยใช่ไหม?” “ไม่เป็นไร... เราไม่เป็นไรพี่ก็ดีใจแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาเกรอะคราบน้ำตาผละออกมองดวงหน้าซีดขาวราวกระดาษ เบียดตัวนั่งลงข้างเตียง กุมมือน้อยไว้แผ่วเบา ไม่ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บแม้สักนิดกับรอยเข็มบนนั้น “ไม่เป็นไรทำไมตาแดงคะ? กินข้าวหรือยัง ได้นอนบ้างหรือเปล่าเนี่ย?” เสียงพร่าของคนป่วยตัดพ้อ อริสาสัมผัสได้ถึงมืออันอบอุ่นของชายทั้งสอง ไม่ลืมหันไปทางอีกคนที่คงหวาดกลัวไม่ต่าง จากดวงตาแดงก่ำที่พายุความโศกเศร้าได้สงบลงไปสักพัก “ไม่เป็นไรแล้วนะลูกพ่อ” ใบหน้างามพริ้มระบายยิ้มจาง ๆ “หนูไม่เป็นไร... พ่ออย่าร้องไห้ เวลาพ่อร้องไห้ พ่อจะมองอะไรไม่เห็น...” แล้วเลื่อนสายตาไปทางชายที่ยังคงจ้องหน้าเธออยู่ไม่ห่าง ไม่ได้มองคน
กว่าสิบชั่วโมงที่ผ่านมาเขาไม่ต่างจากคนเสียสติ ในวินาทีที่อุ้มร่างโชกเลือดไปหาอาจารย์ในโรงพยาบาลสัตว์ หยาดน้ำตาเปียกชุ่มใบหน้าอย่างที่ตัวเขาเองไม่เคยจะร้องไห้ให้ใครได้เท่านี้ แม้แต่ในวันที่แม่จากไป เขาเสียใจแต่ยังคงความเป็นบุรุษที่เข้มแข็งเช่นพ่อ รถพยาบาลที่มาได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่ละนาทีช่างยาวนาน ผู้ชายตัวโต ๆ อย่างเขาแค่นั่งสั่นอยู่ตรงนั้นไม่รับรู้สิ่งใดแม้เสียงเรียกของเพื่อนที่คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด เขายังจินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไม่ได้เห็นรอยยิ้ม ใบหน้าสวย ๆ ของผู้หญิงคนนี้อีกตลอดไป ชีวิตที่เหลือจะเป็นอย่างไร กับลูกที่ได้เห็นหน้าเพียงครั้งผ่านจอสีเทาดำ สิ่งมีชีวิตที่ทำให้เขารักแต่แรกพบเหมือนอริสา... ความหวังอันเบาบาง เด็กที่เกิดจากความรักของเขาและเธอยังรอปาฏิหาริย์ “พี่จะรีบกลับมานะ... เราไม่ต้องห่วงพี่ พี่จะดูแลตัวเอง...” ในน้ำเสียงและแววตาแสนอ่อนโยน มือหนาค่อยเลื่อนขึ้นปัดไรผมบนขมับอย่างที่เขาชอบทำ ก่อนจะหยัดกายลุกจากเก้าอี้ที่นั่งมานานนับชั่วโมง มองเปลือกตาที่ยังคงปิดอยู่อย่างนั้น ก่อนออกจากห้องไป ชายหนุ่มตั้งใจจะตรงกลับบ้าน
“ไหวไหมลุงชา?” ใบหน้าซีดขาวของชายวัยหกสิบขยับเบา ๆ มือกระชับอาวุธในมือไว้เหนือเข่า แม้เลือดโชกชุ่มกาย ตัวต้นเหตุของบาดแผลฉกรรจ์นั้นนอนอยู่ข้าง ๆ ถึงห้าตัว พวกมันสามารถมีน้ำหนักตัวสูงสุดได้ถึงหกสิบสองกิโลกรัม มีอุ้งเท้าอันใหญ่โต แรงกัดมหาศาลด้วยกรามอันทรงพลังยังออกล่าเป็นฝูง หมาป่าสีเทาเกรวูฟที่กำลังหิวโหยดุร้ายถูกลักลอบมากับรถบรรทุกไม่มีป้ายทะเบียน ไม่ไกลจากฟาร์มของพิภพมากนัก คำขอความช่วยเหลือของพลตำรวจเอกปรีชา ประจวบเหมาะพอดีกับหญิงสาวจะออกไปตามล่าหาเสือโคร่ง ดันได้รางวัลเป็นหมาป่าขย้ำคอคนแก่อยู่กับลูกปืนจากพวกลักลอบค้าของเถื่อน ปัง! ปัง! กระสุนแสกผ่านเหล็กหนา เมอร์เซเดสเบนซ์สีดำสนิทรุ่นกันกระสุนของท่านนายพลอยู่ในสภาพยับเยิน ผู้หมวดสาวในร่างชายหนุ่มยิงสวนกลับไปเพียงครั้ง ก่อนแนบหลังไว้กับที่กำบัง หันไปถามนายตำรวจใหญ่ “ท่านรองกำลังเสริมใกล้ถึงรึยัง? กระสุนจะหมด...” “อือ... ข้างหน้า...” แรงตอบเฮือกสุดท้ายของพลตำรวจเอกปรีชาที่เอนร่างลงนอนพักไหล่ของหญิงสาว สติพร่าเลือนเต็มที “ลุงชา ๆ !” เรียกเสียงดัง มือเรียวเขย่าบ
มือหนากำหมัดแน่นแม้จะมีแค่รีโมตในมือ แววตาวาวโรจน์สาดประกายไปยังรายการตลก ซึ่งเขาไม่มีอารมณ์จะดูมันเหมือนทุก ๆ วัน “ถ้าแกจะมาตอกย้ำฉันก็ไปเถอะ… ไปไหนก็ไป...” “โธ่… พ่อ… ไอ้เมธพนธ์มันโคตรร้ายเลยนะพ่อ หนูไม่ชอบมัน ทำไมพ่อต้องเป็นแบบนี้ด้วย หนูไม่เข้าใจ” พ่อที่พูดไม่รู้เรื่องยังดีกว่าคุณพ่อเซ็งโลก ทำหูทวนลม อริสาพยายามเซ้าซี้เรื่องเดิม ๆ อยู่อย่างนั้น ทว่าคงไม่มีคำตอบจากร่างสูงในสภาพอิดโรย ขอบตาดำคล้ำด้วยความที่คงนอนคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง จนเธอถึงกับถอนหายใจเสียงดัง ยกมือขึ้นลูบบ่าลูบหลังปลอบประโลม “พ่ออกหักยังไงพ่อยังมีหนู หนูไม่ทิ้งพ่ออยู่แล้ว... พ่อเหนื่อย พ่อหยุดงานไปนะ ดูตลกดูหนัง หนูไปทำป๊อปคอร์นให้” พิภพยิ้มเจื่อน ไม่ได้ดีใจกับคำปลอบของลูกสาวเลย ในที่สุดเขาก็ต้องถาม “อะไรนะ? แกบอกว่าฉันอกหัก?” “ใช่... พ่ออกหักแน่นอน ถ้าพ่อยังนั่งอยู่แบบนี้นะ เอาจริง ๆ ถ้าหนูเป็นพ่อ หนูปล้ำน้องพายไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เสือโหยคาบไป ป่านนี้กินอิ่มท้องไปแล้วมั้ง เอาเถอะ...ไว้หนูแนะนำเพื่อนสาว ๆ สวย ๆ เอ๊าะ ๆ ให้พ่อใหม่ส
“เซ็นแล้ว... ผมมีของขวัญให้พี่สาวคุณด้วยนะ แต่ว่า... มันอยู่ในมือถือ ไม่รู้ว่าอยากดูไหม?” “คุณ... หมายความว่าไง?” ขณิกาหน้าชาวาบ เพียงชายตรงหน้าสลัดคราบเทพบุตรเป็นซาตานร้ายใช่... ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมาขณิการู้ว่าถ้าเขาร้าย เขาจะร้ายได้แค่ไหน! “พี่ยักษ์ก็หมายความอย่างที่พูด ของขวัญให้คนรักไอ้พิภพอย่างน้องพาย อืม... แต่พี่ว่านะ มันรักลูกสาวกับเมียเก่าที่สุด ไม่มีเศษซากความรักเหลือเผื่อแผ่ให้ส่วนเกินหรอก” “คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะคุณเมฆ อย่าไปยุ่งกับพี่อริสเลย... ที่แล้วมาก็ให้แล้วกันไปเถอะนะ พายขอ” ทั้งน้ำเสียงและแววตาเว้าวอน มือเรียวเอื้อมไปแตะลงบนท่อนแขนแกร่งที่สะบัดออกอย่างไม่ไยดี “อย่ามาแตะต้องตัวผม...” ท่าทางเย็นชาของเขาสั่นคลอนหัวใจอย่างรุนแรง ริมฝีปากคู่งามเม้มเข้าหากันจนเหยียดตรง ยามสบมองวงหน้าหล่อเหลาของคนที่เคยอบอุ่น อ่อนโยนกับเธอมาเสมอ “พี่สาวคุณก็ทำร้ายคนของผมนะอย่าลืม ที่เล่นอะไรแบบเด็ก ๆ น่ะ คุณเมฆไม่ทำ ผมเป็นคนเล่นใหญ่” “คุณเมฆ... คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย... คุยกับพายดี ๆ ได้ไหม
นายหัวฟาร์มม้าดูจะทำตัวหม่นหมองลงทุกวันจนคนรอบกายพลอยเครียดตาม สิ่งหนึ่งที่เธอชื่นชมขณิกาคือไม่หวั่นไหวไปกับผู้ชายมากคารมอย่างเมธพนธ์ที่ไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ยังมีฐานะร่ำรวยกับธุรกิจสีเทาที่จับอยู่ ความเจ้าเล่ห์ของนายเมธพนธ์นับว่าเป็นตัวร้ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่อีกคนไม่ได้เข้าใจในความหมายของเธอเลย หันกลับไปทางภรรยาที่เสียชีวิตในวัยสามสิบเจ็ดปี “แกไม่รักแม่แกแล้วหรือ? อริส” หญิงสาวสะบัดศีรษะอย่างหัวเสีย และที่ว่าจะไม่พูดก็ไม่น่าไหว... “แม่ตายไปตั้งกี่ปีแล้วพ่อ นี่คือชีวิตของคนเป็น คนที่ต้องเอาใจใส่คือคนที่ยังอยู่ ไม่ใช่คนตาย” หัวใจหนุ่มใหญ่พลันกระตุกวาบกับคำพูดตรง ๆ ของลูกสาว เขาไม่เคยสนใจความสุขนั้นเลย ยังพยายามยัดเยียดความคิดให้ลูกแต่งงานกับเตชิน เพราะเป็นความต้องการของคนตาย... เพราะเขาเป็นฆาตกร... ยังไม่สามารถทำตามคำสั่งเสียสุดท้ายของภรรยาได้ ดวงตาคู่คมเอ่อคลอหยดน้ำใสกับทุกความรู้สึกผิดในอดีต เสียงทุ้มสั่นเครือ “มาไหว้แม่ก่อน” หน้าเจดีย์ที่มีกระเบื้องหลากสีใต้ร่มไม้ พ