โอ๊ย! พี่...น้องเขาชวนดันไม่ไปน้องแอบงอนเพราะพี่ไม่ชวนนี่แหละ ลองชวนซักคำก่อนมั้ย....
Angie partทันทีที่วางสายหญิงสาวสะบัดหน้าไล่ความมึนเมาออกจากหัวแล้วถอนหายใจแรง ๆ เดินไปที่รถน้ำตาคลอหน่วย รถคันนี้เขาบอกว่าซื้อเพื่อเธอและจะมีแค่เธอเท่านั้นที่ได้ขับ ซึ่งน่าจะจริงเพราะบ้านป๊าเทนมีรถหลายคันมันไม่แปลกที่เขาจะใช้คันนี้เพื่อไม่ให้แฟนตัวจริงเขาจับได้“หึ! รถก็ซื้อเพื่อเรา คอนโดก็ซื้อเพื่อเรา ตลกฉิบหาย ปากบอกกลับไปนอนบ้าน มันมีกี่บ้านกันวะ แม่ง...” คนเมาว่าพลางยิ้มที่มุมปากก่อนจะขึ้นรถขับออกไปทันที“มีแฟนแล้วเสือกมาเอากับกูซะตั้งนาน จี้นะจี้มึง แดกแฟนชาวบ้านแล้วเสือกเป็นคนใกล้ตัวอยู่เป็นเดือน ๆ แล้วยังจะมาบอกว่าจะบอกให้ป๊ารู้อีก เป็นเมียน้อยกูต้องภูมิใจหรือไงไอ้บ้า ไอ้พี่หมอทอย ไอ้โฮสต์ธี มาทำให้กูรัก ให้กูมีความสุขแล้วตบหน้ากูแบบนี้น่ะเหรอ” หญิงสาวพูดเสียงดังในขณะที่กำลังขับรถกลับคอนโด น้ำตาแห่งความเสียใจที่ชายหนุ่มบอกกับใครต่อใครว่ามีแฟนแล้วหลั่งไหลอย่างไม่อาจห้าม หญิงสาวคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาที่ทั้ง 2 มีความสุขร่วมกัน คำพูดของชายหนุ่มที่บอกว่าซื้อคอนโดนั้นเพื่อเธอ เธอจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลเวลาเลิกงานดึก ความห่วงใยที่ชายหนุ่มมีให้มาตลอดเวลาที่รู้จักกัน
“เอ้อ...พี่ทอยมีแฟนแล้วหรือคะ” แองจี้หันไปถามพร้อมกับจ้องหน้า“ก็ ครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ *จะมาถามทำไมตอนนี้ละครับ แฟนก็คนถามนั่นแหละ แล้วเมามากเลยนะนั่นไม่ใช่คิดเองเออเองว่าเป็นคนอื่นอีกล่ะช่วงนี้ยิ่งไม่ได้อยู่ด้วยกัน เดี๋ยวจะหาว่าเราไปอยู่กับคนอื่นอีก* ชายหนุ่มคิดในใจ ซึ่งคำตอบของเขาทำให้คนฟังสะอึกอยู่ไม่น้อยเพราะถึงเธอกับทอยจะอยู่ด้วยกันที่คอนโด แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาหายไปหลาย ๆ วันโดยบอกว่าติดงานหรือกลับไปนอนที่บ้าน ซึ่งเธอไม่เคยถามเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวและคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ทำงานไม่เคลียร์บางทีก็อาจนอนที่ออฟฟิศ แต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรให้เธอระแวงมาก่อนหรืออาจทำแต่เธอไม่ได้สนใจจับผิดขนาดนั้น“ก็ไม่แปลกเนอะ จะ 30 แล้วนี่” คนเมาว่าพลางยกแก้วขึ้นดื่ม *เชี้ย! เกือบเปิดตัวชนกับคนอื่นแล้วกู เขาผัวหลวงกูแต่กูเมียน้อยเขา เปิดดีฉิบหายอายยันเงาหมา* ก้มหน้าคิดในใจแล้วยิ้มมุมปากนึกสมเพชตัวเอง“ซดเก่งเกินไปแล้วลูก เดี๋ยวเจ้าพาคุณแม่กลับไปกินยาก่อนนะ พี่จะขับรถให้ลูกทรงนี้ไม่น่าจะไหวแล้วล่ะ” คุณโรมเบรกลูกสาวพร้อมกับหัน
Toy part2 หนุ่ม ทอยและเจเดนออกเวรแล้วรีบตรงมาที่ร้านอาหารที่คุณสรัญ พ่อของเจเดนส่งโลเคชั่นให้และเมื่อรถวิ่งเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของร้าน ชายหนุ่มต้องขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อน ก่อนจะหันไปมองรถสปอร์ตสีเทาคุ้นตาที่เขาจำได้ว่าให้คนขับรถขับไปให้ที่รักใช้เมื่อหลายวันก่อน *รักมากินข้าวที่นี่ด้วยเหรอวะ...* ชายหนุ่มคิดในใจแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนยิ้ม ๆ “ยืนยิ้มทำหอกอะไรครับคุณหมา เข้าข้างในสิครับทุกคนมากันหมดแล้ว” เจเดนส่าพลางตบหลังเพื่อน“กูว่าวันนี้มีเรื่องเซอร์ไพรส์แน่เลยว่ะ” ชายหนุ่มพูดกับเพื่อนทั้งตั้งใจว่า ถ้าเจอหญิงสาวที่นี่เขาจะถือโอกาสแนะนำให้ทุกคนรู้จักเธอและให้เธอรู้จักครอบครัวของเขาทีเดียวและจะเป็นการดีที่ให้ครอบครัวของเธอรู้จักกับครอบครัวใหญ่ของตัวเองด้วย“เซอร์ไพรส์บ้าอะไรล่ะ มาช้าจะโดนอาโรมด่าแล้วเนี่ยเดินเร็ว ๆ” เจเดนบ่นเพื่อนแล้วคว้าแขนลากเข้าในร้านทันทีเพราะเห็นว่าเลยเวลามาซักพักนึงแล้ว“นั่นไง... 2 หนุ่มมาถึงแล้ว เดี๋ยวพนักงานก็พาเข้ามาล่ะ” คุณโรมที่นั่งหันหน้าออกไปทางด้านนอกพูดขึ้นเมื่อเห็นหลานชายและลูกชายเพื่อนรักลากแขนกันเดินเข้ามา พร้อมกับกวักมือเป็นสัญญาณให้พนักงานเริ่มเสิร์ฟ
“แล้วเรื่องพี่ธีของลูกนี่ยังไง”“เราคุยกันแล้วค่ะ พี่เค้าขอคบกับหนูแล้วเขาบอกว่าที่ผ่านมาก็คือคบนั่นแหละแต่ยังไม่ได้พูดคุยกันจริงจังแค่นั้นค่ะ” หญิงสาวหันไปตอบผู้เป็นพ่อแล้วยิ้มให้จนตาหยีแต่ก็แอบเคืองในใจที่เมื่อคืนชายหนุ่มไม่ยอมชวนเธอไปกินข้าวกับที่บ้านเหมือนที่เธอชวนเขาเพื่อบอกให้รู้ว่าเธออยากให้ที่บ้านรู้จักเขา“แสดงว่าคบกันยังไม่นาน” คุณโรมถามพร้อมกับแอบสบตากับภรรยา“จะว่าคบไม่นานก็คือใช่ค่ะ เราเพิ่งจะคุยกันจริงจังไม่เท่าไหร่เพราะจี้ยุ่งด้วยนั่นแหละ ก่อนหน้านั้นก็เจอกันบ้างโทรคุยกันบ้างแค่นั้น” หญิงสาวหันมาตอบผู้เป็นพ่อยิ้ม ๆ ที่ว่าคุยจริงจังเพราะเธอและทอยอยู่ด้วยกันแทบทุกคืน แต่ก่อนหน้านั้นเขากลับไปอยู่ที่บ้านที่ต่างจังหวัดของเขาก็เพียงคุยกันผ่านวีดีโอคอลแค่นั้น“งั้นศุกร์นี้ก็ชวนพี่เขามาทานข้าวกับเราสิลูกจะได้รู้จักกับครอบครัวเราด้วย” คุณเจ้าขาว่ากับลูกสาวพร้อม ๆ กับประตูลิฟต์เปิดออก ทั้ง 3 จึงเดินออกไปพร้อม ๆ กันท่ามกลางความสงสัยของพนักงานว่าทำไมแองจี้ถึงเดินไปพร้อมกับประธานบริษัทและสามี ซ้ำยังมีการพูดคุยกันอย่างสนิทสนมอีกด้วย“จี้ชวนแล้วค่ะ แต่อาทิตย์นี้พ่อกับแม่เขามาจากต่างจั
“กรี๊ด!...อีบ้า ฉันจะให้น้าตรีไล่แกออก” พลอยมนกรี๊ดลั่นพยายามสะบัดแขนตัวเองออกจากการจับแน่นของแองจี้“ดี! งั้นก็ออกพร้อมกันไปเลย!” ว่าจบก็ลากแขนพลอยมนเข้าออฟฟิศอย่างอารมณ์เสียท่ามกลางความสนใจของพนักงานที่กำลังยืนรอลิฟต์ด้านหน้า หญิงสาวกระชากแขนพลอยมนไปทางบันไดแล้วลากขึ้นไปที่ชั้น 3 ห้องทำงานของหัวหน้าฝ่ายบุคคลเปิดประตูผลักพลอยมนไปในห้องแรง ๆ โดยไม่ได้เคาะตามมารยาท จนคุณไมตรีที่หันมาพอดีผวารับหลานสาวไว้อย่างตกใจ“ทำเรื่องลาออกของพลอยมนในวันนี้นะคุณไมตรีแล้วก็หักค่าเสียหายที่ทำกระจกรถจี้แตกด้วย” หญิงสาวกอดอกมองหน้าหัวหน้าฝ่ายบุคคลออกคำสั่งเสียงห้วน ซึ่งคำว่าจี้ของเธอทำให้พลอยมนมองหน้าเพราะคนที่นี่เรียกแองจี้ว่ารักหรือคุณรัก ไม่ใช่จี้“มันอะไรกัน” คุณไมตรีตะคอกเสียงดังมองหน้าหญิงสาวอย่างไม่พอใจเพราะคิดว่าตอนนี้คุณเจ้าขาก็ยังไม่มาทำงาน เขาจึงไม่จำเป็นต้องเกรงใจเธอ“ดี! ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไปทั้ง 2 นั่นแหละ คนที่เลือกปฏิบัติเอาแต่พวกพ้องไม่สมควรที่จะอยู่ตรงนี้” แองจี้ตะคอกเสียงดังขึ้นบ้างพลางยกมือถือขึ้นกดหาผู้เป็นพ่อที่มาพร้อมกับคุณแม่ของเธอตั้งแต่เช้าแล้วเพื่อแปลเอกสารต่างประเทศให้ก่อนที่ท่าน
“เขาบอกว่ามีนัดที่บ้านเลยไม่ชวน ทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าพ่อแม่มึงมาแต่เขาชวนมึงนี่นะ” เจเดนถามเพื่อนพร้อมกับมองหน้า“ก็ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกว่าจะชวนนี่หว่า กูแค่บอกเขาว่าอาทิตย์นี้กูจะกลับไปนอนบ้านแล้วพ่อแม่จะมาแล้วเขาก็ชวนกูก่อนไง กูพูดไม่ทันก็เลยไม่ชวนไง ก็รู้ว่าชวนเขาก็ไม่มาไงครับ ครั้งหน้าก็ค่อยชวนก็ได้” ชายหนุ่มตอบเพื่อนด้วยเหตุผลของตัวเอง“คุณหมอธีรดาครับ เขาจะมาหรือไม่มามึงก็ต้องชวนเป็นมารยาทหน่อยมั้ยครับ ขนาดเขายังชวนมึงเลยแล้วมึงแน่ใจได้ยังไงว่าถ้าชวนแล้วเขาจะไม่มา เขาตั้งใจจะเปิดตัวมึงกับพ่อแม่ขนาดนั้นแล้วมึงคิดจะเก็บเขาไว้ดูเล่นคนเดียวหรือไอ้หอกหัก ถึงมึงจะประกาศใส่บิลบอร์ดว่ามึงมีแฟนแล้ว แต่มึงดันไม่คิดจะเปิดตัวเขานี่นะ มึงคิดอะไรอยู่เนี่ยเพื่อน เข้าใจนะว่าไม่เคยมีแฟนแต่ถ้าคิดจะมีจริง ๆ มึงต้องให้เกียรติเขาครับ” เจเดนร่ายยาวอย่างอ่อนใจกับความคิดเพื่อน“ก็ตอนนั้นมันไม่ได้คิดนี่หว่า มัวแต่ดีใจที่เขาชวนแล้วคิดว่าเขามีนัดแล้วไม่ควรชวนซ้อนให้เขาลำบากใจอีก แล้วกูก็บอกเขาแล้วไงว่าจะนัดกินข้าวกับพ่อแม่เขาวันหลัง”“เอ้อ...กูถามจริง มึงจริงจังจริงมั้ยวะหรือแค่ชั่วคราว แค่เห่อ ให้สถานะกับเขา