“เฮ้อ...” ลมหายใจหนักหน่วงถูกระบายออกจากปากได้รูป จิรัฎร์ถอดแว่นสายตาออก วักน้ำใส่หน้าเพื่อเรียกสติ เขาอายุสามสิบแปดแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าพิรุณรัตน์คิดอย่างไรกับตนเอง หญิงสาวเริ่มมีท่าทีแปลกไปก็ตอนที่เริ่มแตกเนื้อสาว สายตาของเด็กสาวทอประกายยามมองเขาทุกครั้ง พิรุณรัตน์มักส่งยิ้มและมีท่าทีขวยเขินเวลาพบกันทุกเมื่อ แต่จิรัฎร์นั้นพยายามนิ่งเฉยและมองเด็กสาวอย่างเอ็นดู พยายามเว้นระยะห่างด้วยสถานะและอายุของเด็กหญิงที่ห่างจากเขาถึงสิบหกปี แม้ตอนนี้เด็กสาววัยรุ่นในวันนั้นจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่สวยสะพรั่ง แต่เขาก็ไม่คิดเกินเลยกว่าความเอ็นดูที่มีให้หญิงสาว
จิรัฎร์ หรือ อาไนต์ ของคุณหนูเรนนี่ เริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่อายุยี่สิบหก เขารู้จักกับพิทักษ์เพื่อนรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย แม้จะอยู่คนละรุ่นและอายุห่างกันกว่าหนึ่งรอบ แต่เพราะมีใจรักชอบคล้าย ๆ กันจึงสนิทสนมและคบหาเป็นเพื่อนในชีวิตกันมาหลายปี จิรัฎร์สำนึกในบุญคุณของเพื่อนรุ่นพี่อย่างพิทักษ์อยู่เสมอ เนื่องจากเมื่อประมาณสิบสองปีก่อนบิดาของจิรัฎร์ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่สาม ตอนนั้นชายหนุ่มทำงานที่บริษัทข้ามชาติที่หนึ่ง มีหน้าที่การงานและเงินเดือนที่เรียกว่าดีมาก แต่เมื่ออาการป่วยของบิดาลุกลาม เงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้จึงใช้ไปกับการรักษาบิดา จนสุดท้ายก็เรียกว่าหมดตัว หันหน้าไปพึ่งพาใครก็ไม่ได้ มีเพียงคนเดียว นั่นคือ พิทักษ์ เพื่อนรุ่นพี่คนนี้หยิบยื่นทั้งเงินและมิตรภาพที่จริงใจให้แก่เขาในวันที่ไม่เหลืออะไรเลย บิดาของจิรัฎร์ต่อสู้กับโรคมะเร็งอยู่เป็นปี จนกระทั่งวันหนึ่งท่านก็นอนหมดลมหายใจจากไป หลังจากงานศพของบิดาเสร็จสิ้นจิรัฎร์ถูกพิทักษ์ทาบทามให้มาทำงานที่บริษัท ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ เท่านั้น จิรัฎร์ยอมทิ้งเงินเดือนหลายหมื่นตัดสินใจลาออกจากบริษัทและมาอยู่กับพิทักษ์เพื่อเป็นการตอบแทบบุญคุณที่พิทักษ์เคยช่วยเหลือไว้ เวลาล่วงเลยมาตั้งแต่เขาเป็นหนุ่มเพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิต จนกระทั่งตอนนี้ที่อายุกำลังใกล้เข้าสู่วัยกลางคนแล้ว เขาก็ยังภักดีอยู่กับพิทักษ์ แม้มีหลายต่อหลายบริษัททาบทามเพื่อซื้อตัวและให้ข้อเสนอดี ๆ มากมายให้ลาออกไปทำงานกับบริษัทเหล่านั้น แต่เขาก็ไม่ไป และนั่นก็คืออีกเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อาจก้าวข้ามเส้นที่พิรุณรัตน์หมายจะลบออกไป บุญคุณของพิทักษ์มันมากมายจนเขาไม่ต้องการจะทำให้เพื่อนรุ่นพี่รู้สึกผิดหวังในตัวเขา
ร่างเล็กชะเง้อมองไปทั่วแผนกแต่ไม่เห็นคนที่ตามหา จิรัฎร์หายออกจากห้องมาเกือบสามสิบนาทีแล้ว ไม่รู้ว่าเขาไปไหน ขาสวยกำลังเดินตามหาต่อแต่ก็ต้องสะดุดเมื่อพบว่าผู้หญิงหลายคนทั้งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอไปจนถึงอายุพอ ๆ กับอาไนต์กำลังรุมล้อมเขาอยู่ พิรุณรัตน์ทำหน้าเบื่อ เหยียดปากมองพวกนั้นที่ตาเป็นประกายยามมองคนร่างสูง
“เฮ้อ…คู่แข่งฉันเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” ไม่คิดเลยว่าจิรัฎร์จะเป็นหนุ่มเนื้อหอม แต่จากที่ยืนมองคนร่างสูงก็ไว้เนื้อไว้ตัวไม่ล่วงเกินใกล้ชิดใครออกนอกหน้า เขายังสุภาพและอ่อนโยนเหมือนเคย พิรุณรัตน์มองจิรัฎร์ที่ส่งยิ้มให้ผู้หญิงพวกนั้นแล้วรู้สึกหวงแหนรอยยิ้มของเขาขึ้นมา มันควรเป็นของเธอคนเดียวสิ
“อาไนต์คะ!” ทุกสายตาหันไปมองทางต้นเสียงที่ดังขึ้น พิรุณรัตน์ฉีกยิ้มหวานหยดพร้อมทั้งกระพุ่มมือไหว้ทุกคนอย่างอ่อนน้อม
“สวัสดีค่ะ”
“อ้าว น้องเรนนี่ ไม่เจอกันนานสวยขึ้นเป็นกองเลยนะคะ” คนพูดคือคุณผกามาศผู้จัดการฝ่ายบัญชี หญิงสูงวัยที่แต่งงานและมีลูกแล้ว และน่าจะไม่ได้ชอบพออะไรจิรัฎร์ ส่วนถัดไปก็คือนันทินีและณัฐพร พนักงานที่เห็นหน้ากันมาหลายปี สองคนนี้อายุใกล้เคียงกับจิรัฎร์ ที่สำคัญโสด ฉะนั้นเธอจะจัดสองคนนี้อยู่ในหมวดศัตรู และคนสุดท้าย...
“สวัสดีค่ะ เพิ่งมาทำงานที่นี่เหรอคะ เรนนี่ไม่เคยเห็นเลย” สาวหน้าใหม่คือใครก็ไม่รู้ แต่พิรุณรัตน์มองว่าเป็นภัยและสมควรขึ้นเป็นศัตรูนัมเบอร์วัน เนื่องจากหล่อนอายุน่าจะไม่ถึงสามสิบ แต่ก็น่าจะเป็นรุ่นพี่เธอหลายปี หญิงสาวดูนุ่มนิ่มน่ารัก ตัวเล็ก ผิวขาว ปากสีชมพูระเรื่อ แต่หน้าอกหน้าใจนี่สิแน่นเสียจนเสื้อเชิ้ตแทบปริ หน้ามัธยมฯ นมมหา’ลัยเป็นแบบนี้สินะ ชิ! เธอก็มีย่ะ แต่..มีน้อยกว่าเจ้าหล่อนไปนิดเดียว
“อ๋อ นี่คุณปัทมาครับ เป็นผู้ช่วยของอาครับ” หัวคิ้วพิรุณรัตน์ขมวดเข้าหากันทันที ผู้ช่วยของอาไนต์ ทำไมเธอไม่ยักรู้มาก่อน คุณพ่อก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง
“สวัสดีค่ะน้องเรนนี่ พี่ชื่อปัดนะคะ ได้ยินคุณพิทักษ์กับพี่ไนต์พูดถึงบ่อย ๆ เพิ่งจะได้มีโอกาสเจอกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” พิรุณรัตน์ขมวดคิ้วหนักขึ้นเพราะสรรพนามที่ปัทมาเรียกจิรัฎร์นั้นดูใกล้ชิดเสียจริง
หญิงสาวยืนจ้องปัทมาไม่วางตา จิรัฎร์และคนอื่นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จิรัฎร์แสร้งกระแอมเรียกให้ใครสักคนหลุดจากภวังค์
“อะ! สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณปัด” พิรุณรัตน์เปลี่ยนสีหน้าฉับไว ฉีกยิ้มกว้างแต่ดวงตากลับไม่ได้ยิ้มตามสักนิด ปัทมาเองก็ส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้ รู้สึกแปลกพิกลเพราะสายตาของบุตรสาวเจ้านายที่มองมานั้นเหมือนมองศัตรูคู่อาฆาตไม่มีผิด
“เรียกพี่ปัดก็ได้ค่ะ พี่น่าจะอายุมากกว่าน้องเรนนี่ไม่กี่ปี” ปัทมาพยายามสร้างมิตร แต่ยัยเรนนี่มองว่าเป็นมิจฉาชีพมากกว่า คุณหนูคนสวยส่ายหน้ารัว
“ไม่ดีกว่าค่ะ เรนนี่เรียกว่าคุณปัทน่ะดีแล้วค่ะ อาไนต์ขา...” ว่าแล้วก็หันไปหาคนที่ทำให้เธอว้าวุ่นใจ แขนเสลาเกาะเกี่ยวแขนแกร่งของจิรัฎร์เข้ามาใกล้ ยกมุมปากเหล่มองปัทมาเล็กน้อย
“เอ่อ...ครับ” จิรัฎร์ทำตัวไม่ถูก เขาไม่อยากให้พิรุณรัตน์รู้สึกเสียหน้าหากเขาจะดึงแขนออก แต่สิ่งนุ่มนิ่มที่มีผลต่อบุรุษเพศมันกำลังถูไถแนบชิดกับแขนเขาอยู่ แม้จิรัฎร์จะวางตนเองไว้ในสถานะอะไร แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ยั่วเย้าอยู่ข้าง ๆ ทำให้หายใจหายคอลำบากขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
“ไปทำงานกันดีกว่าค่ะ เรนนี่ขอตัวอาไนต์ก่อนนะคะ”
“เอ่อ...ค่ะ ๆ” ผกามาศและพนักงานทุกคนยิ้มเจื่อนพยักหน้าหงึกหงัก มองตามร่างของทั้งสองไปจนเข้าไปในห้อง
“น้องเรนนี่ดูหวงพี่ไนต์เนาะ” ณัฐพรเปิดปากคนแรก
“นั่นสิ เหมือนหึงยังไงยังงั้น” นันทินีเอ่ยต่อ
“ไม่หรอก น้องเรนนี่เห็นเจ้าไนต์มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว สนิทสนมกันมานาน”
“สนิทสนมยังไงมันก็แปลกอยู่ดีนะพี่มาศ ดูตอนที่มองน้องปัดสิ ตานี่เขียวปั๊ด” ไม่มีใครพูดอะไรต่อเพราะผกามาศไล่ทุกคนให้กลับไปทำงาน เว้นแต่ปัทมาที่มองไปยังห้องของพิรุณรัตน์ หล่อนแอบมองบน เหยียดมุมปาก
“ฉันก็มีคู่แข่งเหมือนกันนะเนี่ย” ปัทมาเข้ามาเป็นผู้ช่วยของจิรัฎร์ได้สี่เดือนแล้ว เมื่อวานเพิ่งผ่านช่วงทดลองงาน และปรับเงินเดือนไปเอง หล่อนดีใจมากตั้งใจจะชวนจิรัฎร์ไปฉลอง เพราะเขาเป็นผู้ประเมินการผ่านงานของหล่อนเอง แต่ชายหนุ่มปฏิเสธและบอกว่าต้องเตรียมแผนงาน เพราะบุตรสาวของพิทักษ์จะเข้ามาทำงาน นึกว่ายัยเรนนี่ที่จิรัฎร์มักจะเล่าให้ฟังเป็นเด็กใส ๆ เสียอีก ที่แท้ก็นังแม่มดจ้องจะกินจิรัฎร์เหมือนหล่อนนี่เอง ฝันไปเถอะว่าจะยอม งานนี้ใครดีใครได้ ยัยเด็กที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ จะมาสู้อะไรกับหล่อนที่เป็นตัวแม่ล่าผู้ชายล่ะ
บทจบ จิรัฎร์อายุครบสี่สิบเอ็ดปีไปเมื่อเดือนก่อน ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกปวดหลังและเมื่อยเนื้อตัวง่ายขึ้น แต่เขากลับชอบเพราะมีร่างนุ่มนิ่มคอยมาบีบนวดเอาใจเสมอ และมันจบลงที่เขานาบเธอทุกครั้ง ดูเหมือนตอนนี้เขาจะกลายเป็นคนอายุหลักสี่ที่ติดเซ็กซ์ไปแล้ว แฟนสาวอย่างพิรุณรัตน์ช่างยั่วยวนและน่ารัก เขาอดใจไม่ไหวทุกทีเวลาได้อยู่ใกล้ ๆ เธอ จิรัฎร์ยอมรับว่าชอบท่าไม้ตายอย่างปูไต่มาก ๆ เพราะมันทำให้เขาอารมณ์เตลิดเปิดเปิงได้ง่าย ชายหนุ่มยิ้มขณะมองกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินในมือ แหวนเพชรวงนี้เขาเลือกเองกับมือ เป็นเพชรแท้เบลเยี่ยมแปดกะรัตที่เขาต้องดีลตรงกับช่างชาวรัสเซีย แหวนวงนี้ใช้ระยะเวลาทำเกือบสามเดือนด้วยความประณีตของช่าง และกว่าจะได้แบบและทรงที่ตรงใจเขา ตัวเรือนสลักชื่อย่อของทั้งเขาและพิรุณรัตน์ไว้ด้วย ใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะขณะที่คนข้างกายขยับกาย วันนี้เขาตั้งใจจะขอเธอแต่งงาน อายุเขาเยอะมากแล้ว อยากมีลูกสักคนสองคนแล้วด้วย และอีกอย่าง หลาย ๆ ครั้งที่ออกงานสังคมก็มักมีหนุ่ม ๆ มาท
เวลาล่วงเลยไปเกือบปีได้ที่ทั้งจิรัฎร์และพิรุณรัตน์เป็นแฟนกัน พิทักษ์และมีนายินดีต้อนรับว่าที่ลูกเขยคนนี้เป็นอย่างมาก โชคดีที่ทั้งสองไม่ใช่คนหัวโบราณสักเท่าไรจึงพอจะเข้าใจคนหนุ่มสาวที่เวลาอยู่ด้วยกันก็จะแสดงความรักที่มันเปิดเผย พิรุณรัตน์เป็นพวกชอบสกินชิพมาก ๆ เธอมักจะหอมแก้ม หรือจูบจิรัฎร์อยู่เสมอ ๆ แม้จะแอบทำแล้วแต่คนในบริษัทก็ยังมีเห็นบ้าง และทุกคนก็เริ่มรู้กันหมดแล้วว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน กลุ่มของผกามาศแสดงความยินดีต่อจิรัฎร์อย่างจริงใจ เพราะหล่อนเห็นเขามาตั้งแต่ทำงานที่นี่แรก ๆ แต่งงานแล้วก็หย่า เป็นโสดอยู่นานหลายปีดีดัก คิดว่าจะไม่มีใครเสียแล้ว สุดท้ายก็โดนเด็กสอยลงจากคานจนได้ คนที่นินทาก็มีอยู่พอสมควร พวกนั้นคิดว่าจิรัฎร์หวังรวยทางลัด แต่ไม่มีใครรู้จริง ๆ ว่าจิรัฎร์เองก็เป็นเศรษฐีเหมือนกัน เศรษฐีที่ดินปล่อยเช่า และยังเป็นเศรษฐีทองอีกด้วย เพราะเขาซื้อเก็งกำไรทุกเดือนร่างสูงที่ร้อยวันพันปีไม่เคยป่วย วันนี้กลับนอนไข้ขึ้นบนเตียง แค่ขยับกายก็ร้าวระบมไปห
บทที่ 12พิทักษ์ทรุดลงกับเก้าอี้ เขายกมือขึ้นลูบหน้าแรง ๆ หลายรอบ อันที่จริงเขาไม่ได้ต้องการให้พิรุณรัตน์เป็นแฟน หรือ แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนหรอก เพียงแค่ต้องการให้มาทำความรู้จักกันไว้ ในภายภาคหน้าอาจมีเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกัน แต่ดูจากคลิปแล้วเขาขอตัดขาดจากฝั่งเพื่อนสนิทดีกว่า“ขอบใจมากนะไนต์”“เป็นโชคของผมที่เจอไอ้นั่นโดยบังเอิญ” พิทักษ์เหลือบมองรุ่นน้อง ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะได้ยินจิรัฎร์พูดจิกกัดใครแบบนั้น“แล้วพี่จะเอายังไงต่อครับ”“ก็จะยังไงเล่า ก็ต้องตัดขาดฝ่ายนั้น เดี๋ยวส่งคลิปให้ไอ้เวชดูด้วยว่าลูกมันพูดจาหมา ๆ แบบนี้ มันพูดออกมาได้ยังไง” พิทักษ์เองก็โกรธไม่ต่างกัน มีใครมาพูดถึงบุตรสาวแบบนี้คนเป็นพ่อแบบเขาก็ต้องร้อนใจเป็นธรรมดา ธุร
“ไปทำงานสิไนต์” พิทักษ์ไล่ จิรัฎร์ลอบถอนหายใจ“อย่าให้เรนนี่ไปดูตัวเลยครับ น้องไม่ชอบหรอกที่โดนจับคลุมถุงชน ถ้าพี่คิดว่าผมไม่คู่ควรกับเรนนี่ อย่างน้อย ๆ ก็ให้เรนนี่ได้ตัดสินใจเรื่องดูตัวบ้างก็ดีนะครับ ผมยังรักรอยยิ้มของเรนนี่ ไม่อยากให้น้องกังวล”พ้นร่างสูงไปแล้วพิทักษ์ก็ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ เขาคิดถึงเรื่องที่เกาะเสม็ดตอนที่จิรัฎร์มีปากเสียงกับปัทมา ทั้งสองยื้อยุดกันอยู่สักพัก ดูจากภายนอกก็เห็นว่าจิรัฎร์ไม่ยอม พอรุ่นน้องโพล่งว่ามีแฟนแล้วก็รู้สึกตงิดใจ ยิ่งมาเห็นตอนที่พิรุณรัตน์กับจิรัฎร์แอบจับมือส่งสายตาหวานฉ่ำให้กันตอนพักรถ เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าทั้งสองใช้เวลาช่วงเอาต์ติ้งพัฒนาความสัมพันธ์กันไปพอสมควร พิทักษ์และมีนาคุยเรื่องของจิรัฎร์และพิรุณรัตน์ตลอด และยินดีที่ได้ผู้ชายอย่างจิรัฎร์มาเป็นลูกเขยด้วยซ้ำ อาจจะกังวลเรื่องอายุที่ห่างกันอยู่บ้าง แต่ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ อายุอาจจะมีผลบ้าง แต่ถ้าทั้งสองคนรักกันเหนียวแน่น ใช้เหตุและผลอยู่ด
บทที่ 11ช่วงเช้ามืดพิรุณรัตน์ย่องออกจากห้องของจิรัฎร์ แต่ก็ยังไม่วายยั่วยวนเขาจนชายหนุ่มตบะแตกจัดการหญิงสาวรอบเช้าไปอีกหนึ่งครั้ง พิรุณรัตน์ทำตัวเหมือนโจรห้าร้อย ค่อย ๆ ย่องออกจากห้องชายหนุ่ม จิรัฎร์ยืนอมยิ้มที่หน้าประตูเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าตลก ยามนี้เพิ่งจะตีห้ายังไม่มีใครตื่นหรอก อีกอย่างเมื่อคืนทุกคนน่าจะสังสรรค์กันจนเมาปลิ้นหลับคอพับกันอยู่ในห้องนั่นแหละ พิรุณรัตน์ยกมือโบกหยอย ๆ เมื่อถึงหน้าห้อง ทั้ง ๆ ที่ก็ห่างไม่กี่เมตรเอง ชายหนุ่มยิ้มโบกมือกลับ พอหญิงสาวผลุบเข้าห้องเขาก็อาบน้ำอาบท่าออกไปทำธุระทันทีสิ่งแรกหลังจากออกจากห้องคือการหาซื้อยาคุมฉุกเฉินให้พิรุณรัตน์ ชายหนุ่มเซิร์ชหาร้านขายยาที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จิรัฎร์ใช้บริการรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน เมื่อถึงร้านยาก็ตรงเข้าประเด็น เภสัชกรสาวแนะนำเขาเป็นอย่างดีแล้วยังเชิญชวนให้ซื้อถุงยางอนามัยติดไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินอีกด้วย เพราะการกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไร และมันก็ป้องกัน
ร่างเล็กค่อย ๆ พยุงคนตัวโตไปยังเตียง ชายหนุ่มทิ้งตัวทันทีจึงทำให้เกี่ยวติดเธอลงไปด้วย ขึ้นมาเกยบนอกเขาจึงได้กลิ่นละมุดมากขึ้น ‘ดื่มไปเยอะจริง ๆ ด้วยแฮะ’ พิรุณรัตน์หัวเราะคิกคักบนอก มือก็เริ่มไต่ไปตามกล้ามเนื้อแน่น ๆ จิรัฎร์ครึ่งหลับครึ่งตื่น เขาครางต่ำเมื่อมือเล็กซุกซนหยอกเย้าอยู่ที่ยอดอก แค่แรงสะกิดเล็กน้อยก็ทำให้เขาตื่นแล้ว ตื่นทั้งตัว ส่วนนั้นผงกหัวขึ้นพร้อม ๆ กับที่เขาพลิกกายขึ้นมาคร่อมร่างเล็กแทน“เรนนี่…” คนเมาครางต่ำ ขณะซุกไซ้จมูกไปทั่วลำคอและใบหน้าสวย พิรุณรัตน์ตกใจอยู่เพียงชั่ววินาที แขนเสลายกขึ้นคล้องคอจิรัฎร์ไว้แล้วยื่นหน้าเข้าใกล้มอบจูบหวานล้ำให้เขาตามที่ตั้งใจไว้ แต่พอจูบจริง ๆ มันไม่หวานสักนิด มันร้อนแรงและร้อนเร่า บางจังหวะจิรัฎร์ก็กัดปากเธอด้วย เขาดูกลัดมันดี มันยิ่งเร้าอารมณ์ให้เธอเฉอะแฉะไปหมด มือใหญ่ลากไล้ไปทั่ว ปัดป่ายจุดกระสันจนเธอสะท้าน ใจหายวาบ เสื้อผ้าหลุดพ้นกายเหลือเพียงแพนตี้ตัวจิ๋ว ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ