อวี้มั่วซวินนวดขมับที่ปวดหนึบ ดวงตาแทบจะลืมไม่ขึ้นแล้ว "ผมรู้ว่าคุณยังไม่ได้นอนแน่ๆ!""ตอนนี้ฉันจะลงไปกินข้าวเช้า อีกเดี๋ยวพวกเราค่อยคุยกันไหม?"อวี้มั่วซวินปวดตา นั่งตัวแข็งทื่อบนเก้าอี้ น้ำเสียงกลับตื่นเต้นมาก "คุย ต้องคุยแน่!"แรงบันดาลใจมักเลือนหายไปได้ง่ายแน่นอนว่าต้องตีเหล็กตอนยังร้อน"โอเค"กินข้าวเช้าเสร็จ หรงฉือกำลังจะวิดีโอคอลไปหาอวี้มั่วซวิน สายของเผยซวี่เฉินก็โทรเข้ามา"เมื่อครู่ผมเพิ่งได้รับสายจากทนายของเฟิงถิงเซิน โฉนดบ้านของคฤหาสน์สามหลังที่เฟิงถิงเซินแบ่งเพิ่มให้คุณเมื่อไม่นานมานี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวผมจะไปเอาโฉนดกลับมา คุณว่างมารับเมื่อไรครับ? ถ้าคุณไม่มีเวลา เดี๋ยวพวกเราค่อยนัดเวลากันแล้วผมจะเอาโฉนดไปส่งให้คุณ"หรงฉือเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้วตอนนี้เธอไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยได้ยินเผยซวี่เฉินพูดแบบนี้ เธอก็พูด "งั้นรบกวนทนายเผยไปเอาให้หน่อยนะคะ"หลังวางสาย เธอกับอวี้มั่วซวินก็เริ่มทำงานอย่างจริงจังทันทีจนกระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง ตอนที่พวกเขาใช้สมองกันจนสมองแทบระเบิด จึงเพิ่งหยุดพักชั่วคราวครั้งก่อนที่หรงฉือไปเยี่ยมคุณย่าเฟิง ก็คืออาทิตย์ก่อนหรงฉ
"ฉางปั่ว?"พวกเฟิงถิงเซินกับฉีอวี้หมิงเห็นเขาลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ก็ชะงักกันหมดเห็นสีหน้าเขาแปลกไปเล็กน้อย จึงถาม "เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?"เฮ่อฉางปั่วเรียกสติกลับมาทันที สายตากลับยังตกอยู่ที่ร่างของเฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ส่ายศีรษะ "ไม่มีอะไร"พูดจบก็นั่งลงไปแล้วซุนลี่เหยา "พี่ฉางปั่ว ฉัน..."เฮ่อฉางปั่วดูเหมือนไม่ได้ยิน เอียงศีรษะไปพูดเสียงอ่อนโยนกับตานตาน "ตานตานหิวน้ำไหม อยากดื่มน้ำไหม?"ตานตาน "ค่ะ"ตานตานวิ่งมา หลังดื่มน้ำจากมือของเฮ่อฉางปั่วสองอึก ก็วิ่งกลับไปคุยกับเฟิงจิ่งซินอีกครั้งเมื่อครู่พวกเธอกำลังคุยกันเรื่องของเล่นที่เฟิงจิ่งซินเอามาให้เธอหลังดื่มน้ำเสร็จและกลับไปอยู่ข้าง ๆ เฟิงจิ่งซิน ตานตานก็ส่งฟิกเกอร์ตัวหนึ่งให้เฟิงจิ่งซิน "นี่คือของที่เราซื้อมาตอนปีใหม่ ให้เธอนะ"เฟิงจิ่งซินชอบมาก รับมาอย่างแปลกใจระคนดีใจ "เธอก็ไปดูหนังตอนปีใหม่เหมือนกันเหรอ?""ใช่ ลุงเรากับน้าเราพาเราไป" ตานตานพูดอย่างมีความสุข "ดูหนังเสร็จแล้ว พวกเราก็ไปเล่นเกมกันด้วย น้าเราเล่นเกมเก่งมากเลย น่าเสียดายที่เรากับลุงมีธุระ พวกเราเล่นกันไม่นานนักก็ต้องแยกตัวมาก่อน""
หลังส่งผลงานอย่างเป็นทางการแล้ว เย็นวันนั้น พวกเขาก็เชิญหนานจื้อจือมากินข้าวข้างนอกครั้งนี้หนานจื้อจือไม่ได้ปฏิเสธเมื่อมาถึงร้านอาหาร พวกหรงฉือกับหนานจื้อจือก็ลงจากรถขึ้นไปที่ชั้นบน โดยไม่ทันสังเกตรถของเฮ่อฉางปั่วที่มาถึง ซึ่งหยุดอยู่ไม่ไกลจากรถของพวกเขากลับเป็นเฮ่อฉางปั่ว ที่หลังจากเห็นพวกหรงฉือ ก็ชะงักการเคลื่อนไหวเมื่อเปิดประตูรถลงไปหลังจากรออยู่สองสามนาที เขาจึงเพิ่งอุ้มตานตานที่หลับแล้วลงจากรถฉีอวี้หมิงมาถึงก่อนแล้วเมื่อเห็นเขา ก็พูด "มาแล้วเหรอ?"เฮ่อฉางปั่วพยักหน้า "อืม"หลังผ่านไปไม่กี่นาที ตานตานก็เพิ่งตื่นขึ้น เฟิงถิงเซิน หลินอู๋ เฟิงจิ่งซินรวมถึงซุนลี่เหยาก็มาถึงแล้วเมื่อเห็นซุนลี่เหยา เฮ่อฉางปั่วหลุบตาลงซุนลี่เหยากลับดีใจมาก รีบสาวเท้ามาตรงหน้าเขา ทักทายเขาเสียงหวาน "พี่ฉางปั่ว"เฮ่อฉางปั่วมองเธออย่างเฉยชา ไม่ได้ตอบกลับซุนลี่เหยารู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ตอนนี้เอง เฟิงจิ่งซินเดินเข้ามา เห็นตานตานมีท่าทางไม่ค่อยมีชีวิตชีวานัก ก็พูด "ตานตาน เธอไม่สบายเหรอ?"ตานตาน "เปล่า..."เห็นเฟิงจิ่งซิน เฮ่อฉางปั่วกลับเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา "ตานตานไม่ได้เป็นอะไร
เรื่องนี้พวกเขารู้นานแล้วตอนนี้ได้ยินซุนลี่เหยาพูดขึ้นมา เซี่ยงหรูฟางก็ยังยิ้มอย่างมีความสุขมากทว่า หลินอู๋กลับยังคงมีสมาธิกับการอ่านหนังสือ ใบหน้าไม่มีการตอบสนองใดซุนเยว่ชิงก็เช่นกันราวกับหรงฉือไม่คู่ควรกับความสนใจของพวกเธอซุนเยว่ชิงเห็นซุนลี่เหยายังคิดจะพูดต่อ ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ "เหยาเหยา พี่สาวเธอยังเรียนอยู่ อย่าส่งเสียงรบกวนเลย""ค่ะ..."ซุนลี่เหยาเห็นหลินอู๋ท่าทางจริงจังขนาดนี้ ก็พูด "ไม่ใช่ว่าตอนเช้าอาจารย์มาแล้วเหรอ? ตอนนี้ห้าโมงเย็นกว่าแล้ว พี่กลับยังเรียนอยู่เลย ฉันแค่เห็นยังรู้สึกเหนื่อย พี่ไม่เหนื่อยเหรอ?"เซี่ยงหรูฟางพูด "แน่นอนว่าเหนื่อยอยู่แล้ว แต่ลูกพี่สาวของลูกเป็นคนที่จะทำการใหญ่ ลูกน่ะ แม่บอกลูกตลอดว่าให้ลูกตั้งใจเรียนเหมือนพี่สาว แต่ลูกก็ไม่ฟัง"พูดจบก็ยิ้มและพูดอย่างกังวล "แต่เสี่ยวอู๋ จะพยายามก็พยายามไปเถอะ แต่ก็ต้องพักผ่อนให้เหมาะสมด้วยนะ ทำไมไม่กินอะไรสักหน่อยก่อนล่ะ?"หลินอู๋ไม่ได้เงยหน้าขึ้น และพูด "ไม่ต้องหรอกค่ะ ถิงเซินนัดฉันกินข้าวแล้ว ฉันอ่านอีกเดี๋ยวก็จะออกไปข้างนอกแล้ว"……หลังเล่นเกมเสร็จ หรงฉือก็กลับมาตระกูลหรง ใช้เวลาสามชั่วโมงกว่า
หมิงหมิงแค่รับไม่ได้ที่ถูกสงสัยว่ากำลังโกหกเมื่อซางเชี่ยนปลอบใจ เขาก็อารมณ์ดีขึ้นมากทันทีเฟิงจิ่งซินที่อยู่ด้านข้างได้ยิน ก็หยุดร้องไห้จริงด้วย เป็นไปได้สูงที่หมิงหมิงจะจำคนผิดคนคนนั้นไม่ใช่แม่ของเธอแน่คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็อารมณ์ดีขึ้นมากแต่เธอนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้หรงฉือเคยชมว่าเถียนเถียนน่ารักมากยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอเหมือนจะสนิทกันมากด้วยเฟิงจิ่งซินคิดมาถึงตรงนี้ น้ำตายังไม่ทันเช็ด ก็ยื่นมือออกไปจับกระเป๋าของเฟิงถิงเซิน "พ่อคะ โทรศัพท์"เฟิงถิงเซินได้ยินคำพูดของซางเชี่ยน ก็คาดเดาได้คร่าว ๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเขาใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำตาให้เฟิงจิ่งซิน ได้ยินแบบนั้นก็ส่งโทรศัพท์ของตัวเองให้เธอเฟิงจิ่งซินรีบกดเบอร์ของหรงฉือ และโทรออกหรงฉือดูหนังเสร็จแล้วตอนนี้คนกำลังเล่นเกมอยู่ในร้านเกมข้างโรงภาพยนตร์เห็นเบอร์เฟิงถิงเซินโทรมา ก็ตัดสายโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยเบ้าตาของเฟิงจิ่งซินยังน้ำตาคลอ "แม่ไม่รับสาย""คงยุ่งอยู่" เฟิงถิงเซินพูด "พวกเราอย่ารบกวนแม่เลย พ่อพาหนูออกไปกินข้าวเย็นนี้ดีไหม?"เฟิงถิงเซินพูดว่าหรงฉือยุ่ง ในใจเฟิงจิ่งซินก็คิดว่าลู่เจ๋อหมิงจำคนผิด
หมิงหมิงเดินเข้าไป "น้องซินซิน"เฟิงจิ่งซินพยักหน้า "พี่มาแล้วเหรอ?"หมิงหมิงนั่งลงและต่อจิ๊กซอว์กับเธอ พลางพูด “เมื่อกี้ฉันกับแม่ไปดูหนังมา แล้วฉันก็เห็นแม่เธอด้วย”เดิมทีเฟิงจิ่งซินยังตั้งใจต่อจิ๊กซอว์ เมื่อได้ยินแบบนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้นทันที"พี่เห็นแม่ฉันเหรอ? ไปดูหนังที่ไหน?""โรงหนัง"เฟิงจิ่งซินเม้มปากเล็ก "เป็นไปได้ยังไง? ตอนนี้แม่ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาไปดูหนังหรอก พี่ต้องมองผิดแน่"หมิงหมิงไม่พอใจ "ฉันไม่ได้มองผิดนะ คนคนนั้นคือแม่เธอจริง ๆ""พี่พูดเพ้อเจ้อ" เฟิงจิ่งซินไม่เชื่อเด็ดขาดเมื่อคืนกับเมื่อเช้าเธอล้วนโทรไปหาแม่ แม่ไม่มีเวลารับสายเธอด้วยซ้ำ แล้วจะมีเวลาไปดูหนังได้ยังไง?"ฉันไม่ได้พูดเพ้อเจ้อนะ" เห็นเธอสงสัยตน หมิงหมิงก็พูดอธิบายเพื่อโต้แย้ง "แถมแม่เธอยังไม่ได้ไปคนเดียวด้วย เธอไปกับเด็กคนหนึ่ง เด็กคนนั้นสูงพอ ๆ กับเธอเลย น่ารักมากด้วย!"เมื่อครู่ที่หมิงหมิงพูดไปมากมาย ถึงอย่างไรเฟิงจิ่งซินก็ไม่ได้ใส่ใจจริง ๆตอนนี้ฟังมาถึงตรงนี้ ก็ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที เธอคว้าจิ๊กซอว์ขึ้นมา ยืนขึ้นโดยพลัน และออกแรงโยนไปที่หมิงหมิง "เป็นไปไม่ได้! พี่ พี่ลองพูดเพ้อเจ้ออีกทีสิ!"