“คนอื่นเขาจะมองยังไงล่ะครับ ผมไม่อยากรับอะไรจากคุณเฌอ...”
“คุณก็เก็บไว้ที่บ้าน ไม่มีใครรู้หรอกน่ะถ้าคุณไม่พูด มันจะเป็นความลับแน่นอน เคนะ” ในน้ำเสียงแผ่วเบาลงอีก หญิงสาวไม่เสียเวลาถกเถียงกับเขาต่อ มือเรียวคว้ากระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดบนโต๊ะทำงานเลขาฯ ขึ้นสะพายพาดบ่าพร้อมบอกลา พอดีกับที่เสียงเข้มเรียก
“คุณเฌอจะไปไหนครับ ไม่ทำงานหรือ?”
หญิงสาวก้มหน้าลงลดเสียงลงให้เบาที่สุด “เฌอแค่แวะมาบอกคุณเรื่องรองเท้าไง รับไว้ด้วยนะ ห้ามบอกใครล่ะว่าเฌออยู่ที่ไหน”
“คือผมไม่ต้องการรองเท้า ผมอยากทราบว่าคุณจะกลับมาทำงานเมื่อไรครับบอส” ในรอยยิ้มเป็นกันเองขณะที่ยังแอบกระซิบกระซาบกับเจ้านายสาวด้วยท่าทางดุดัน เขาไม่ต้องการรองเท้าคู่ใหม่!
“เออ... เดี๋ยวโทรบอกเอง ไปก่อนนะ”
“แต่คุณหญิงโวยวายเรื่องคุณไม่เข้าประชุมนะครับ เธอถามผมว่าลูกสาวหายไปไหน ทำไมไม่มาทำงาน ไม่สบายก็ไม่ยอมบอกแม่สักคำ”
“งั้น... คุณจัดการเอกสารบนโต๊ะเสร็จ ค่อยตามเฌอไปทีหลังละกัน ช่วงนี้บอสรู้สึกไม่ค่อยสบายนะคะ ขอ WFH ค่อกแค่ก...” พูดพลางแสร้งยกมือขึ้นป้องปาก จากนั้นเจ้านายสาวก็เดินโซเซออกจากห้องทำงาน
----------------------------------
คุณเฌอไม่สบาย... มันจะเป็นไปได้ยังไง!
ใคร ๆ ก็เห็นว่าเธอแต่งตัวสวย เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะปังอลังการ เตรียมออกงานกาล่าดินเนอร์ ทั้งเดรสสีขาวผูกโบแดงน่ารักความยาวประรองเท้าแก้วสูงสามนิ้ว ประดับด้วยคริสทัลสีแดงอันเล็ก ๆ ลิปสติกแดงเคลือบริมฝีปากอิ่ม แลดูน่ารักโฉบเฉี่ยวเหมาะสมกับเธอ
อองเดรได้แต่นั่งหงุดหงิดเจ้านาย ขณะที่เขาคงได้ใช้เวลาไม่นานกับการนั่งหลังขดหลังแข็งหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อมันถูกโยนให้เป็นหน้าที่ของพนักงานคนอื่น เพราะคุณพ่อใหญ่อยู่ดี ๆ ก็โผล่เข้ามา
“นี่ ๆ ฝรั่ง รบกวนหน่อยนะลูกนะ ป๊าว่าจะฝากดูยัยเฌอให้ป๊าหน่อย งานพวกนี้ให้คนอื่นเขาทำไป”
หนุ่มวัยหกสิบกว่า ๆ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายพิมพ์เดียวกับลูกสาวคนสวย ในสูทสีเข้มราคาแพง รองเท้าปลายแหลมเป็นเงามัน บุคลิกภาพอันโดดเด่นที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนนี้แหละเจ้าของ IMR คอสเมติก ผู้ถือหุ้นกว่า 80 % ของบริษัทในสัดส่วนเท่ากันกับคุณหญิง
“คุณอองเดรยังไม่เคยเจออาจารย์ชรัณล่ะสิ”
“ครับ สวัสดีครับอาจารย์ชรัณ” เขาตอบทั้งท่านอาจารย์ที่เพิ่งจะได้รู้จัก และคุณป้าปิ๊กผู้แนะนำเจ้าของบริษัทให้เป็นอย่างยินดี ก่อนถูกกวักมือเรียกไป
“ฝรั่งมากับป๊าหน่อย ไปกินกาแฟกัน ไป ๆ”
หนึ่งคำก็... ฝรั่ง!
อีกคำหนึ่งก็... ป๊า!
เลขานุการคนโปรดของคุณเฌอเอมคงมีเวลาตกใจไม่นาน เมื่อทุกคนในห้องต่างรีบยกมือไหว้ลาอาจารย์ชรัณ อดีตศาสตราจารย์ใหญ่ ส่วนตัวเลขาฯ ถูกดึงชายเสื้อไปตบบ่าตบไหล่ประสาผู้ชายตัวโตด้วยกัน เพื่อเดินไปซื้อกาแฟ นั่งลงบนโซฟาสีน้ำตาลเข้มบริเวณล้อบบี้ของอาคารระฟ้า
อองเดรวางตัวไม่ค่อยถูก ไม่ใช่เรื่องแปลก อีกฝ่ายเป็นถึงพ่อของเจ้านายเขาอีกทีหนึ่ง เขาเคยได้ยินมาว่าเจ้าของบริษัทอีกคนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาก่อนพบคุณหญิงวริศรา ค่อยมาเปิดบริษัทคอสเมติกจนติดแบรนด์ดังขึ้นห้าง ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว ผ่านร้อนหนาวมาด้วยกันร่ำรวยจนทุกวันนี้
ท่านอาจารย์เจ้าของบริษัทแทนตัวเองว่าอาป๊า ทำตัวเป็นกันเองแทนที่จะปฏิบัติตนเหมือนกับว่าเขาเป็นลูกจ้าง จากนั้นเขายังได้ยินคำถามประหลาด ๆ
‘ได้รู้จักกับคนนั้นหรือยังน่ะ ลูกเขยคนดีของคุณหญิงเธอน่ะ เป็นคนยังไงนะ?’
อองเดรไม่มีวิสัยที่จะนินทาเจ้านายหรือคิดใส่ร้ายป้ายสีใครอยู่แล้ว เขารู้แค่ว่าเจ้านายสาวไม่ชอบขี้หน้าว่าที่คู่หมั้นสุดบ้ากาม แต่ไม่ได้พูดออกไป
“...คุณเฌอไม่ค่อยชอบเขานะครับ ที่เหลือผมไม่ทราบรายละเอียดมาก”
“อ้อ งั้นหรือ ไม่เป็นไร ๆ ฝากดูให้หน่อยละกัน มีอะไรโทรหาป๊านะ แอดไลน์มาด้วย เดี๋ยวคุยกันในแช็ต ป๊าไปก่อนนะ พอดีมีประชุมด่วน” คุณพ่อใหญ่ส่งนามบัตรให้กับมือ ค่อยลุกขึ้นไปจ่ายค่ากาแฟให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปอย่างฉับไวเหมือนมีธุระด่วนเอามาก ๆ
ฝรั่งผู้ถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างที่ลับตาไปอย่างงุนงง
แปลก...
ครอบครัวนี้แปลก!
คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป
คนเป็นเลขาฯ ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความไม่เข้าใจ ค่อยตัดสินใจยกโทรศัพท์โทรหาเจ้านายสาว เพื่อบอกเรื่องนี้กับเธอ
----------------------------------
หญิงสาวชะโงกคอมองตามรถตู้สีดำเลี้ยวออกจากลานจอดรถชั้นใต้ดินของบริษัท ป้ายทะเบียนเลขตอง รู้ได้เลยว่าเป็นรถใครใช้มันอยู่ประจำ ก็คงไม่ใช่คุณหญิงแม่ซึ่งยังไม่กลับจากเมืองนอก เธอจึงย้อนกลับเข้ามาหาอองเดรเพื่อถามเรื่องอาป๊า ด้านหน้าอาคารระฟ้าที่มีพนักงานออฟฟิศเดินผ่านไปผ่านมา มือส่งกุญแจรถให้เขารับไป
“ป๊ามาหาคุณหรือ เขาว่ายังไงบ้างคะ?”
“ไม่มีอะไรมากครับ คุณพ่อถามถึงคุณเฌอนิดหน่อย เขาคงเป็นห่วงคุณน่ะ”
“อ้อ... แค่เท่านั้นหรือคะ?” เธอหรี่ตามองสีหน้าเรียบเฉยของเลขาฯ อย่างจับผิด เขาก็ตอบเธอแค่ครับ ๆ ว่าจะโทรบอกเธอพอดี ด้วยท่าทางร้อนรนเหมือนพูดรายละเอียดไม่หมด แต่เธอคงไม่มีเวลาซักถามเอาความ
“เฌอจะ WFH นะ ประชุมผ่านวิดีโอคอลทั้งหมด เย็นนี้จะไปดินเนอร์กับเพื่อนสาวก่อน คุณจะไปด้วยกันหรือเปล่าคะ?”
“ต้องไปสิครับ ผมมีหน้าที่ดูแลคุณเฌอ มีทางเลือกมากที่ไหน เจ้านายคอยคอนโทรลชีวิตทุกอย่าง ขนาดรองเท้ายังต้องรับเอาไว้”
นั่นเขาจิกกัดเธอ!
เจ้านายสาวหน้าตาบึ้งตึงหนัก ถึงจะเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ เธอไม่ยอมให้เขาคืนรองเท้าคู่นั้นและเขาไม่พอใจเธอ เมื่อเดินนำหน้าเขาไปถึงลานจอดรถยนต์ เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทเปิดประตูรถให้เธอสะบัดชายกระโปรงพลิ้วยาวนั่งในที่นั่งข้างหลัง เธอประสานมือไว้บนหน้าตัก รอกระทั่งเขาปิดประตูลงนั่งหน้าพวงมาลัย
“เฌอขอโทษที่ทำให้คุณอึดอัดใจนะ ต่อไปนี้เฌอคงไม่ขออะไรจากคุณอีก ช่วยรับน้ำใจของฉันสักครั้งเถอะนะ”
“ตามใจคุณเฌอแล้วกัน”
“งอนชัด ๆ” พึมพำว่าคนที่ทำเป็นไม่สนใจเธอ พอปลายรองเท้าเป็นเงามันแตะคันเร่งเบา ๆ รถยนต์เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ คนขับก็ยังไม่ถามหาจุดหมายปลายทาง
สองสายตาสบประสานกันลึกซึ้ง ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะสองหนุ่มสาวที่จับมือกันแน่น เว้นเพียงพนักงานสาวคนหนึ่งซึ่งมัวแต่สนใจจอสี่เหลี่ยม เพิ่งเห็นว่าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมา“คุณเฌอ... ไม่กลับมาช่วยงานคุณหญิงกับอาจารย์จริงหรือคะ? นุ้ยเหงาแย่...”“คงไม่มาแล้ว... อุ้บ...!” เฌอเอมยกมือปิดปากทันควัน พลันวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด โดยมีสามีตามไปติด ๆอองเดรก้มหน้าลงมองคนที่กอดชักโครกราวคนรักพรากจากกันมาแสนนาน ช่วยลูบหลังให้ด้วยสีหน้าสงสัยเป็นกังวล“เฌอเป็นอะไร? ทำไมอ้วกล่ะ อาหารเป็นพิษเหรอ ใช่กิมจิที่กินเมื่อวานหรือเปล่า”เมื่อคืนวานไปเดินตลาดกลางคืน กินเที่ยวกันเพลิน ชายหนุ่มคิดได้เพียงอย่างเดียว แต่เขาดันลืมไปเสียสนิท! เมื่อมองใบหน้าสดสวยซีดเผือดเหยเก ได้ยินเสียงกรี๊ดกราดของพนักงานในห้องกว่าสิบชีวิต ซึ่งมีคุณป้าปิ๊กเป็นตัวตั้งตัวตี“ว๊ายยตายย คุณเฌอมีน้องแน่ ๆ เลยค่าา พี่ปิ๊กแสดงความยินดีล่วงหน้านะค้าา!”“ผู้หญิงผู้ชายคะเนี่ยย ดาวจะได้อุ้มหลานฝรั่งตาฟ้า หน้าตาจิ้มลิ้มแล้วใช่ไหม?”“คุณเฌออ... มีน้องฝรั่ง! นุ้ยจะได้อุ้มหลานแล้ว อย่าลืมพาน้องมาวิ่งเล่นนะคะ”สิ้นเสียงโวยวายหยอกล้อ คุณหญิงแม่ผู้
“เฌอเอม หยุดร้องได้แล้วนะ เราสองคนไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรือเปล่า เราพอมีพอกิน ถึงเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เราก็มีชีวิตอยู่ได้ ความรู้เรามี วุฒิบัตรวิชาชีพเรามี เรามีความสามารถมีเงินเก็บสักก้อน ค่อยไปหาธุรกิจทำ หาอนาคตของเรา ไม่มีอะไรต้องกลัว...”“เฌอแค่ดีใจค่ะ เฌอได้เจอพี่ฝรั่ง เลขาฯ คนโปรดของเฌอ ขอบคุณที่พี่เดินเข้ามาสมัครงานบริษัท IMR ขอบคุณทุก ๆ อย่างที่พี่ทำให้เฌอ คุณเฌอเอมเหมือนถูกลอตเตอรีรางวัลที่หนึ่ง” แล้วเธอก็หัวเราะกลบเสียงสะอื้นไห้ ซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรง อบอุ่นปลอดภัยอย่างที่สุดต่อให้ชายหนุ่มอาจไม่ได้รวยล้นฟ้า เป็นแค่คนเดินดินธรรมดา เรื่องบางเรื่องช่างไม่มีเหตุผล สำหรับเฌอเอมแล้ว มันเป็นเพียงความปรารถนาที่จะใช้ช่วงเวลาสุขทุกข์ร่วมกัน----------------------------------“ของป๊าไม่ต้อง บาทเดียวลูกก็ไม่ต้องให้ ส่วนของคุณหญิงถ้าเธออยากได้คืน ป๊าจะให้ฝ่ายบัญชีคำนวณให้แล้วกันนะ” คุณพ่อเข้ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฝ่ายบัญชีในบริษัทรอบหนึ่ง ตอนลูกสาวเข้ามาเก็บของทั้งหมดไปจากโต๊ะทำงานเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขาดเกินไปแม้แต่บาทเดียวไม่ได้ เป็นธรรมดาของคุณหญิงวริศรา แต่เป็นเพราะว่าเจ้าตัวไม่
‘ไปแล้ว... อะไรเนี่ย ทำไมจอดแว้บเดียวไปแล้วอะ คนยังไม่ทันขึ้นเลย’เฌอเอมไม่รู้ตัวว่าเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีกรมท่ามาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ได้สักพัก หลังจากที่เธอทำเก้ ๆ กัง ๆ ถามอะไรคุณป้า สักพักก็นั่งลงมองรถเมล์ตาละห้อย“ทำไมไม่โทรเรียกพี่ล่ะครับ?”หญิงสาวมองขวับตามแววตาตัดพ้อ อองเดรผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อเธอกลอกตาไปมาอย่างคนไร้ความมั่นใจ ผิดจากคุณเฌอเอมคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก“คือเฌอ... ทะเลาะกับหญิงแม่ เฌอคืนของหญิงแม่ไปหมด เหลือแค่บัตรประชาชนกับ ATM เฌอ...”“อยากนั่งรถเมล์เหรอ?”ดวงตาคู่สวยฉาบประกายแห่งความหวัง เมื่อคนรู้ใจไม่เอ็ดว่าเธอสักคำ เขาสนับสนุนความคิดพิสดารของเธอ โน้มตัวลงกุมมือที่เล็กกว่าแนบแน่น“ไปสิ พี่พาไป จอดรถไว้ที่นี่ก็ได้ครับ ไว้ค่อยมาเอา” พูดพลางสอดประสานทุกปลายนิ้วเข้าหาหว่างนิ้วของหญิงสาวอย่างคู่รัก ส่งยิ้มหวานจนเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ เฌอเอมเลยอมยิ้มแก้มกลมตุ่ย ด้วยใจปลื้มปิติยินดี----------------------------------เช้านี้เจ้านายสาวในเสื้อยืดกางเกงยีนเดินไปเดินมาในห้องนอนของเลขาฯ ที่กลายมาเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย แต่เธอตกอยู่ในสภาพไม่มีเงินติดตัวสักบาท หลังส่งคืน
“เอาเป็นว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย พี่เองก็ไม่อยากให้เฌอเสียหาย ถึงเฌอเป็นผู้ถูกกระทำ คนที่ควรอายคือผู้กระทำความผิด ไม่ใช่เฌอเอม...” สิ้นเสียงขู่ฟ่อ นอกเสียจากชายหนุ่มมีหนทางหนีทีไล่ให้กับหญิงสาวแล้ว เขาพร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้อีกหลายคน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายวัชรพลล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงมากหน้าหลายตา อย่างไม่เคยสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีสักครั้งถึงแม้ว่าบรรดาสาว ๆ ส่วนใหญ่อาจยอมเป็นของเล่น เพราะว่ามันรูปหล่อบ้านรวย เปย์ไม่อั้น อองเดรไม่ยอมให้ผู้หญิงของเขาถูกเอาเปรียบอีกต่อไป“ว่าแต่... พี่จะพาเฌอไปไหนคะ?” ถามหน้าเหลอหลา ชายหนุ่มล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกง เปิดประตูรถผลักเธอเข้าไปในรถยนต์ดื้อ ๆ“ไปอำเภอ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”“ฮะ!? ไปทำอะไรอำเภอ” ใบหน้าสดสวยตื่นตระหนกตกใจไม่ทันคนขับ รถยนต์ญี่ปุ่นสีขาว รถส่วนตัวของเลขานุการหนุ่มก็แล่นฉิวออกไปแล้ว“ทีหญิงแม่ของเฌอยังบังคับเฌอได้ พี่จะบังคับเฌอบ้าง ต่อไปนี้ใครมันมายุ่งกับเมียจะได้ฟ้องข้อหาคบชู้ ประจานมันให้ไม่มีที่ยืนในสังคม ให้หุ้นมันตก เจ๊งไปให้หมด หิวเงินกันนักใช่ไหม”ท่าทีเกรี้ยวกราดของเลขาฯ ที่จับพวงมาลัยอย่างมั่นคง ทำเอาเจ้านายไม่กล้าเถีย
ลูกมีความสุข พ่อก็มีความสุข คุณพ่อเหมือนได้ลูกสาวคนเดิมกลับมาสักชั่วขณะหนึ่งหญิงสาวไม่ทานอะไรนอกจากผักผลไม้ที่อาป๊าตักให้ อาหารรสเลิศคล้ายว่ามีรสชาติขมไปเสียอย่างนั้น เธอเขี่ยสลัดในจาน หันไปสนใจเลขานุการอีกคน“นิดส่งนัดหมายให้ทางนั้นไปแล้วนะคะ เรียบร้อยทุกอย่างค่ะ โรงแรม เสื้อผ้า...”“ดีมากเลยคุณนิด แม่อดใจไม่ไหวจะได้เห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา” แล้วคุณแม่จึงบอกับลูกสาวในฝั่งตรงกันข้าม “วันพฤหัสห้าโมงเย็น เข้ามาที่บ้านนะ”“ค่ะ หญิงแม่ เฌออิ่มแล้วไปแล้วนะคะ”ลูกสาวตอบรับคำขอของคุณหญิงแม่อย่างว่าง่ายเสียจนคนในบ้านต่างแปลกใจ เธอยังลุกขึ้นยกมือประนมไหว้ลาคุณพ่อคุณแม่และญาติคนอื่น ๆ อย่างสุภาพนอบน้อม“มีอะไรครับ? คุณวัชระ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ นัยน์ตาคู่สีมรกตฉายประกายโทสะ สบมองแววตาคมกริบของชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกโกรธแค้นเกลียดชัง“วันที่สิบยังนัดหมายเดิมนะ แหวนมาอาทิตย์หน้าวันพฤหัสฯ ที่บ้านน้องเฌอ วันนี้จะมาพาไปลองชุด รอหญิงแม่ก่อน”“...”อองเดรเกือบพ่นพิษร้ายในถ้อยคำใส่ศัตรูหัวใจ เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายให้เจ้านายคั่วเล่น ไม่ได้รู้เลยว่าเขาและเธอคบหากันจริงจังมาหลายเ
“กลายเป็นพวกคลั่งรักตั้งแต่เมื่อไรกันคะ?”“เพิ่งเป็นครับ ตอนมาเจอคุณเฌอเอมนี่แหละ ไม่รู้หยอดยาอะไรใส่พี่”“ก็เลยชอบทำตัวติดเมีย?”“ชอบสุด ๆ ชอบอยู่กับคุณเฌอ ชอบเอาใจคุณเฌอ ไปไหนก็คิดถึงคุณเฌอ”“พี่เป็นโรคติดเมียมาตั้งแต่เมื่อไร มีเมียมาแล้วกี่คนล่ะเนี่ย น่าสงสัยจริง ๆ นะ” สีหน้าฉงนมองเจ้าของอ้อมกอดอุ่น เขายิ้มอ่อนมองเธอบอกว่าไม่เคยมีเมีย ที่ผ่านมาก็นับไม่ได้เลยสักคนเพราะว่าเขาไม่เคยจริงจังกับใคร“เชื่อเถอะว่าพี่มีคนเดียว มีรักเดียว พิสูจน์ได้...”พลันนัยน์คู่สวยสีมรกตฉายประกายอ่อนโยนเร่าร้อน สร้างความเชื่อมั่นให้กับหญิงสาวผู้ไม่เคยอดใจไหว เธอคิดว่าการสานสัมพันธ์กับคนรักทุกคืนวันเป็นเรื่องแสนวิเศษ อองเดรทะนุถนอมเธอราวแก้วอันแสนบอบบาง ขณะเดียวกันนั้นกลับร้อนแรงถึงอกถึงใจในห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอย่างสวยงามลงตัว สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ทันสมัย โทนสีขาวสลับดำ เสียงหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีดังกังวานเฌอเอมแน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงหัวเราะของตนเองนับครั้งได้ ชีวิตราวนกน้อยในกรงทองของคุณแม่ ข้าวของเงินทองมากมาย บ้านหลังใหญ่ไม่สามารถทำให้เธอมีความสุข สิ่งเหล่านั้นตอบสนองจิตใจเธอไม่ได้ ต่างจากกา