ไม่รู้โชคช่วยหรือดวงซวย! เลขาฯ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ‘André Bernard’ เลยได้มาเป็นเลขาฯ คนที่แปดของเจ้านายสาวเรื่องเยอะ ลูกสาวคนเดียวของบ้านคุณหญิงวริศรา ทายาทไฮโซ ร่ำรวยลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย
view moreA new day, the same boy was there, in front of his little desk, the same but different child among his classmates.
White skin, slightly brown-haired and that pair of beautiful brown eyes is how we can describe him. Meantime, his classmates had skin as white as snow, blond-haired, sometimes curly-haired, other times straight-haired with blue or even green eyes.
The little boy was considered unique in that classroom and not exactly due to his physical, but for speaking two languages at that short age. With his family, he spoke in Spanish and by his surroundings; he made himself understand in English.
Everything in his life seemed to be perfect; his mother loved him, her aunt was willing to give her life for him, his grandmother (who wasn't exactly his grandmother by blood), was the typical grandma who pampered him even when he was wrong; and finally, he had his second aunt (who was not his aunt by blood either) who he played with after school. Whoever who met that beautiful angel would say his life was perfect and of course, he was happy with the life he had. However, there was a little issue he couldn't deal with.
“Joseph!” His teacher called him out at seeing him playing with his classmates, making them get distracted.
“Yes, Ms. Smith?” He responded well-educated. That beautiful pair of brown eyes went wide.
“Did you finish your craft?” The teacher asked while smoothing her voice tone. The least she would've wanted was to scare him.
“Yes, Ms. Smith,” affirmed Joseph, politely making his teacher smile. Whoever met Joseph would fall for his cuteness.
“Well done, honey. But remember; not because you have finished the activity your classmates have too.”
“I'm sorry, Ms. Smith.” He looked down.
“Come here, honey. “ She asked, feeling guilty. It was impossible not to feel guilty when he acted like that. Such an angel!
The little boy came to her. His teacher smiled, extending to him a pack of colored sheets. “Choose one, whichever you want.”
The boy looked at her and then, he took a blue one. His favorite among all the colors he was seeing. Ms. Smith smiled reaching out a pen which fell on the little boy's hand.
“Go to your desk and write a letter to your father. Go!” She encouraged.
And once again, his little issue was there. Was it so difficult to write a letter to his father? Yes. It was. After all, he didn’t have that perfect life that everyone could´ve imagined he owned.
He walked back to his desk thinking about the task he was asked to do.
He sat down thinking about all he wanted to say. He really wanted to write so much but didn't know how to start.
With a shaky hand, he took the pen over the sheet. Second by second, the pen started slipping on the page, creating words that could come into anyone´s heart.
Dad
Hello, dad. How have you been?
I'd like to tell you many things but... I do not know how to start.
You know? I love school; I'm in the first place in my classroom. My mom loves me so much; we have a good life here, in the United States.
I've written to you many letters and every father's day, I go to the nearest mailbox and I send them to you without my mom realizing. I have never understood why you haven´t replied to me, maybe it's because I haven't told you how I´m physically.
Daddy, my eyes are brown, my hair is brown too, even though it's not completely straight. My mom says my hair is curly. My nose is pretty and my mouth is small. I like my hands because, with them, I write letters to you. My mom says I have long eyelashes but when I look up, I don't see them.
I'm too tall because I can reach my own bowl and no one has to help me. I like cars, most of my clothes have cars impressed on them. Oh, I also like Batman and Superman. My aunt bought me a hamburger that was wrapped up in a sheet of Batman and Superman. I don´t know how to explain that.
I don't know how you are physically, and maybe you haven't replied because I'd never told you how I am.
Now you know, maybe you want to meet me. You'll never get bored with me. I like to talk about all the things that happen to me in my days. My mom says I'm hard to turn off, but what she doesn't know is I talk too much because I've seen her crying alone. I don't want her to be sad. I know when I tell her about my day, she forgets her problems.
My mom is a princess. Maybe you didn't love her before because she had a big belly when I was inside her. Now, she's beautiful, daddy.
Dad, I just want to know something without making you mad at me. Where are you? My mom says you are a prince who has to do many things to keep me happy, but… I can´t be happy if I don´t know you.
If you are a busy prince, we can go to you. My mom always takes me wherever I want to go.
Remember; I love you even if I don't know you. I'll always be your son and I'll always be here for you. I'll leave my address on the back of the sheet if you want to meet me.
Joseph loves you.
He folded his letter after having written his address behind and sighed. Someday, his father would reply to him… someday. He just had to be a little more patient.
Someday, they will be sitting at the most beautiful park while eating a hamburger.
Someday, he would take his father to the activities that every father´s day are prepared at his school to share with their sons and their daughters.
Someday, his mother and his father will be together. Even though, he didn´t know when. He had hope, he was sure of that.
สองสายตาสบประสานกันลึกซึ้ง ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะสองหนุ่มสาวที่จับมือกันแน่น เว้นเพียงพนักงานสาวคนหนึ่งซึ่งมัวแต่สนใจจอสี่เหลี่ยม เพิ่งเห็นว่าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานมา“คุณเฌอ... ไม่กลับมาช่วยงานคุณหญิงกับอาจารย์จริงหรือคะ? นุ้ยเหงาแย่...”“คงไม่มาแล้ว... อุ้บ...!” เฌอเอมยกมือปิดปากทันควัน พลันวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด โดยมีสามีตามไปติด ๆอองเดรก้มหน้าลงมองคนที่กอดชักโครกราวคนรักพรากจากกันมาแสนนาน ช่วยลูบหลังให้ด้วยสีหน้าสงสัยเป็นกังวล“เฌอเป็นอะไร? ทำไมอ้วกล่ะ อาหารเป็นพิษเหรอ ใช่กิมจิที่กินเมื่อวานหรือเปล่า”เมื่อคืนวานไปเดินตลาดกลางคืน กินเที่ยวกันเพลิน ชายหนุ่มคิดได้เพียงอย่างเดียว แต่เขาดันลืมไปเสียสนิท! เมื่อมองใบหน้าสดสวยซีดเผือดเหยเก ได้ยินเสียงกรี๊ดกราดของพนักงานในห้องกว่าสิบชีวิต ซึ่งมีคุณป้าปิ๊กเป็นตัวตั้งตัวตี“ว๊ายยตายย คุณเฌอมีน้องแน่ ๆ เลยค่าา พี่ปิ๊กแสดงความยินดีล่วงหน้านะค้าา!”“ผู้หญิงผู้ชายคะเนี่ยย ดาวจะได้อุ้มหลานฝรั่งตาฟ้า หน้าตาจิ้มลิ้มแล้วใช่ไหม?”“คุณเฌออ... มีน้องฝรั่ง! นุ้ยจะได้อุ้มหลานแล้ว อย่าลืมพาน้องมาวิ่งเล่นนะคะ”สิ้นเสียงโวยวายหยอกล้อ คุณหญิงแม่ผู้
“เฌอเอม หยุดร้องได้แล้วนะ เราสองคนไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรือเปล่า เราพอมีพอกิน ถึงเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เราก็มีชีวิตอยู่ได้ ความรู้เรามี วุฒิบัตรวิชาชีพเรามี เรามีความสามารถมีเงินเก็บสักก้อน ค่อยไปหาธุรกิจทำ หาอนาคตของเรา ไม่มีอะไรต้องกลัว...”“เฌอแค่ดีใจค่ะ เฌอได้เจอพี่ฝรั่ง เลขาฯ คนโปรดของเฌอ ขอบคุณที่พี่เดินเข้ามาสมัครงานบริษัท IMR ขอบคุณทุก ๆ อย่างที่พี่ทำให้เฌอ คุณเฌอเอมเหมือนถูกลอตเตอรีรางวัลที่หนึ่ง” แล้วเธอก็หัวเราะกลบเสียงสะอื้นไห้ ซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรง อบอุ่นปลอดภัยอย่างที่สุดต่อให้ชายหนุ่มอาจไม่ได้รวยล้นฟ้า เป็นแค่คนเดินดินธรรมดา เรื่องบางเรื่องช่างไม่มีเหตุผล สำหรับเฌอเอมแล้ว มันเป็นเพียงความปรารถนาที่จะใช้ช่วงเวลาสุขทุกข์ร่วมกัน----------------------------------“ของป๊าไม่ต้อง บาทเดียวลูกก็ไม่ต้องให้ ส่วนของคุณหญิงถ้าเธออยากได้คืน ป๊าจะให้ฝ่ายบัญชีคำนวณให้แล้วกันนะ” คุณพ่อเข้ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฝ่ายบัญชีในบริษัทรอบหนึ่ง ตอนลูกสาวเข้ามาเก็บของทั้งหมดไปจากโต๊ะทำงานเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขาดเกินไปแม้แต่บาทเดียวไม่ได้ เป็นธรรมดาของคุณหญิงวริศรา แต่เป็นเพราะว่าเจ้าตัวไม่
‘ไปแล้ว... อะไรเนี่ย ทำไมจอดแว้บเดียวไปแล้วอะ คนยังไม่ทันขึ้นเลย’เฌอเอมไม่รู้ตัวว่าเจ้าของร่างสูงในเชิ้ตสีกรมท่ามาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ได้สักพัก หลังจากที่เธอทำเก้ ๆ กัง ๆ ถามอะไรคุณป้า สักพักก็นั่งลงมองรถเมล์ตาละห้อย“ทำไมไม่โทรเรียกพี่ล่ะครับ?”หญิงสาวมองขวับตามแววตาตัดพ้อ อองเดรผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อเธอกลอกตาไปมาอย่างคนไร้ความมั่นใจ ผิดจากคุณเฌอเอมคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก“คือเฌอ... ทะเลาะกับหญิงแม่ เฌอคืนของหญิงแม่ไปหมด เหลือแค่บัตรประชาชนกับ ATM เฌอ...”“อยากนั่งรถเมล์เหรอ?”ดวงตาคู่สวยฉาบประกายแห่งความหวัง เมื่อคนรู้ใจไม่เอ็ดว่าเธอสักคำ เขาสนับสนุนความคิดพิสดารของเธอ โน้มตัวลงกุมมือที่เล็กกว่าแนบแน่น“ไปสิ พี่พาไป จอดรถไว้ที่นี่ก็ได้ครับ ไว้ค่อยมาเอา” พูดพลางสอดประสานทุกปลายนิ้วเข้าหาหว่างนิ้วของหญิงสาวอย่างคู่รัก ส่งยิ้มหวานจนเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ เฌอเอมเลยอมยิ้มแก้มกลมตุ่ย ด้วยใจปลื้มปิติยินดี----------------------------------เช้านี้เจ้านายสาวในเสื้อยืดกางเกงยีนเดินไปเดินมาในห้องนอนของเลขาฯ ที่กลายมาเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย แต่เธอตกอยู่ในสภาพไม่มีเงินติดตัวสักบาท หลังส่งคืน
“เอาเป็นว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย พี่เองก็ไม่อยากให้เฌอเสียหาย ถึงเฌอเป็นผู้ถูกกระทำ คนที่ควรอายคือผู้กระทำความผิด ไม่ใช่เฌอเอม...” สิ้นเสียงขู่ฟ่อ นอกเสียจากชายหนุ่มมีหนทางหนีทีไล่ให้กับหญิงสาวแล้ว เขาพร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้อีกหลายคน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายวัชรพลล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงมากหน้าหลายตา อย่างไม่เคยสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีสักครั้งถึงแม้ว่าบรรดาสาว ๆ ส่วนใหญ่อาจยอมเป็นของเล่น เพราะว่ามันรูปหล่อบ้านรวย เปย์ไม่อั้น อองเดรไม่ยอมให้ผู้หญิงของเขาถูกเอาเปรียบอีกต่อไป“ว่าแต่... พี่จะพาเฌอไปไหนคะ?” ถามหน้าเหลอหลา ชายหนุ่มล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกง เปิดประตูรถผลักเธอเข้าไปในรถยนต์ดื้อ ๆ“ไปอำเภอ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”“ฮะ!? ไปทำอะไรอำเภอ” ใบหน้าสดสวยตื่นตระหนกตกใจไม่ทันคนขับ รถยนต์ญี่ปุ่นสีขาว รถส่วนตัวของเลขานุการหนุ่มก็แล่นฉิวออกไปแล้ว“ทีหญิงแม่ของเฌอยังบังคับเฌอได้ พี่จะบังคับเฌอบ้าง ต่อไปนี้ใครมันมายุ่งกับเมียจะได้ฟ้องข้อหาคบชู้ ประจานมันให้ไม่มีที่ยืนในสังคม ให้หุ้นมันตก เจ๊งไปให้หมด หิวเงินกันนักใช่ไหม”ท่าทีเกรี้ยวกราดของเลขาฯ ที่จับพวงมาลัยอย่างมั่นคง ทำเอาเจ้านายไม่กล้าเถีย
ลูกมีความสุข พ่อก็มีความสุข คุณพ่อเหมือนได้ลูกสาวคนเดิมกลับมาสักชั่วขณะหนึ่งหญิงสาวไม่ทานอะไรนอกจากผักผลไม้ที่อาป๊าตักให้ อาหารรสเลิศคล้ายว่ามีรสชาติขมไปเสียอย่างนั้น เธอเขี่ยสลัดในจาน หันไปสนใจเลขานุการอีกคน“นิดส่งนัดหมายให้ทางนั้นไปแล้วนะคะ เรียบร้อยทุกอย่างค่ะ โรงแรม เสื้อผ้า...”“ดีมากเลยคุณนิด แม่อดใจไม่ไหวจะได้เห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา” แล้วคุณแม่จึงบอกับลูกสาวในฝั่งตรงกันข้าม “วันพฤหัสห้าโมงเย็น เข้ามาที่บ้านนะ”“ค่ะ หญิงแม่ เฌออิ่มแล้วไปแล้วนะคะ”ลูกสาวตอบรับคำขอของคุณหญิงแม่อย่างว่าง่ายเสียจนคนในบ้านต่างแปลกใจ เธอยังลุกขึ้นยกมือประนมไหว้ลาคุณพ่อคุณแม่และญาติคนอื่น ๆ อย่างสุภาพนอบน้อม“มีอะไรครับ? คุณวัชระ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจ นัยน์ตาคู่สีมรกตฉายประกายโทสะ สบมองแววตาคมกริบของชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกโกรธแค้นเกลียดชัง“วันที่สิบยังนัดหมายเดิมนะ แหวนมาอาทิตย์หน้าวันพฤหัสฯ ที่บ้านน้องเฌอ วันนี้จะมาพาไปลองชุด รอหญิงแม่ก่อน”“...”อองเดรเกือบพ่นพิษร้ายในถ้อยคำใส่ศัตรูหัวใจ เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายให้เจ้านายคั่วเล่น ไม่ได้รู้เลยว่าเขาและเธอคบหากันจริงจังมาหลายเ
“กลายเป็นพวกคลั่งรักตั้งแต่เมื่อไรกันคะ?”“เพิ่งเป็นครับ ตอนมาเจอคุณเฌอเอมนี่แหละ ไม่รู้หยอดยาอะไรใส่พี่”“ก็เลยชอบทำตัวติดเมีย?”“ชอบสุด ๆ ชอบอยู่กับคุณเฌอ ชอบเอาใจคุณเฌอ ไปไหนก็คิดถึงคุณเฌอ”“พี่เป็นโรคติดเมียมาตั้งแต่เมื่อไร มีเมียมาแล้วกี่คนล่ะเนี่ย น่าสงสัยจริง ๆ นะ” สีหน้าฉงนมองเจ้าของอ้อมกอดอุ่น เขายิ้มอ่อนมองเธอบอกว่าไม่เคยมีเมีย ที่ผ่านมาก็นับไม่ได้เลยสักคนเพราะว่าเขาไม่เคยจริงจังกับใคร“เชื่อเถอะว่าพี่มีคนเดียว มีรักเดียว พิสูจน์ได้...”พลันนัยน์คู่สวยสีมรกตฉายประกายอ่อนโยนเร่าร้อน สร้างความเชื่อมั่นให้กับหญิงสาวผู้ไม่เคยอดใจไหว เธอคิดว่าการสานสัมพันธ์กับคนรักทุกคืนวันเป็นเรื่องแสนวิเศษ อองเดรทะนุถนอมเธอราวแก้วอันแสนบอบบาง ขณะเดียวกันนั้นกลับร้อนแรงถึงอกถึงใจในห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอย่างสวยงามลงตัว สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ทันสมัย โทนสีขาวสลับดำ เสียงหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีดังกังวานเฌอเอมแน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงหัวเราะของตนเองนับครั้งได้ ชีวิตราวนกน้อยในกรงทองของคุณแม่ ข้าวของเงินทองมากมาย บ้านหลังใหญ่ไม่สามารถทำให้เธอมีความสุข สิ่งเหล่านั้นตอบสนองจิตใจเธอไม่ได้ ต่างจากกา
Mga Comments