“นายครับ นาย” จิมเอ่ยเรียกคนเป็นเจ้านายนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างของโรงแรมหรู หลังจากติดต่อเจ้านายไม่ได้ซึ่งผิดนิสัยเป็นอย่างมากเขาจึงรีบขึ้นมาดูในห้อง
“ไอ้จิม...” เซนโซ่รู้สึกตัวตื่นเพราะแรงเขย่า ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองหญิงสาวข้างกายก็พบว่าเธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้นแล้ว ‘ไปไหนวะ’
“ใกล้เช้าแล้วครับ นายไม่รับสายผมเลยขึ้นมาดู”
“ผู้หญิงคนนั้น....”
“ไม่ทราบครับ ผมเห็นนายนอนอยู่คนเดียวเธอคงกลับไปแล้ว” จิมเอ่ยบอก หลังมาส่งเจ้านายกับหญิงสาวคนนั้น เขากลับไปยังห้องทำงานในคลับเพื่อค้นหาข้อมูลของเธอตามคำสั่ง น่าแปลกที่เขาไม่เจอประวัติส่วนตัวเธอเลย หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงสืบหาได้ไม่ยาก เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแต่กลับได้เพียงรูปถ่ายเพียงไปกี่รูปกับชื่อเล่นเท่านั้นไม่ปรากฏชื่อนามสกุลจริง
‘ยัยตัวแสบ เธอกล้าหนีฉันอย่างนั้นหรอ’ ร่างสูงเอ่ยคาดโทษในใจ กลับถึงเพนท์เฮาส์เซนโซ่อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวพับขึ้นถึงข้อศอกกางเกงยีนส์สีเดียวกันเฉกเช่นทุกวัน แล้วเข้ามานั่งในห้องทำงานเปิดอ่านเมลที่ลูกน้องคนสนิทส่งให้ คิ้วหนาขมวดเป็นปมสายตาคมมองดูข้อมูลหญิงสาวเพียงน้อยนิดจนน่าสงสัย เมื่อลองสืบค้นด้วยตัวเองก็ได้รู้ไม่มากกว่าเดิม
“เธอเป็นใคร” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่สามารถล่วงรู้ตัวตนของคนที่อยากรู้ได้ สร้างความหงุดหงิดให้มากไม่น้อย ร่างสูงเอนตัวไปกับพนักพิงเก้าอี้หัวสมองพลันครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหากเธอเป็นคนของศัตรูเขาคงตายไปแล้ว
อีกด้าน...
“เมื่อคืนหนีกลับทำไมไม่บอกยะ” ทันทีที่โมเอิร์นก้าวเดินมาถึงโต๊ะหินอ่อนที่นั่งประจำพะแพงพูดขึ้นด้วยท่าทีเง้างอน หล่อนกับนิวเป็นห่วงแทบแย่ตามหาจนทั่วทั้งคลับก็ไม่เจอโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ เธอสองคนร้อนใจจนส่างเมา
“โทษทีฉันเมา” โมเอิร์นนั่งลงบนเก้าอี้ พลางเอื้อมมือคว้าแก้วกาแฟบนโต๊ะขึ้นดื่ม รู้ดีว่ากาแฟแก้วนี้เป็นของเธอเพราะฝากนิวซื้อทุกวัน
“หน้าโทรมเชียวแก ได้นอนรึเปล่า?” ประโยคคำถามของนิวทำโมเอิร์นหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าดื่มกาแฟอีกครั้ง หัวสมองพลันนึกถึงฉากเร่าร้อนกับชายหนุ่มแปลกหน้า ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขาด้วยซ้ำ แต่ช่างเถอะ!ฉันไม่คิดสานต่อหรือเรียกร้องอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างจบแค่บนเตียง
“นอนน้อยมั้ง” โมเอิร์นตอบส่งๆ มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถดูโซเชียล พะแพงกับนิวถึงกับส่ายหน้าให้กับท่าทีไม่สนโลกของเพื่อนแต่ก็ไม่คิดถือสา พวกเธอคบกันมานานรู้จักนิสัยเป็นอย่างดี
“ป๊าแกจะให้หมั้นเมื่อไหร่”
“ไม่รู้สิ เฮ้อ...ฉันจะค้านหลังชนฝาเลยคอยดู”
“อย่าเครียดไปเลย แค่หมั้น…ยังไม่ได้แต่งซักหน่อย” นิวเอ่ยปลอบ เธอเข้าใจความรู้สึกเพื่อนถ้าเราต้องหมั้นกับใครซักคนก็ควรเป็นคนที่เรารักและเขาก็รักเราไม่ใช่คนแปลกหน้าแบบนี้
“ใช่ ยังไม่ได้แต่งอย่าไปใส่ใจนะเพื่อนรัก” พะแพงตบไหล่เพื่อนเบาๆอย่างต้องการให้กำลังใจ
“อืม...เข้าเรียนเถอะได้เวลาแล้ว”
“ป่ะ”
หลังหมดคลาสเรียนโมเอิร์นกับเพื่อนพากันมาเดินช้อปปิ้งที่ห้างดังใจกลางเมือง กระเป๋าแบรนด์เนมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดคือเป้าหมายของพวกเราในวันนี้
“เอ่อ..คุณลูกค้ามีบัตรใบอื่นมั้ยคะใบนี้รูดไม่ผ่านค่ะ” พนักงานเอ่ยถามด้วยท่าทีสุภาพ ก่อนจะยื่นบัตรเครดิตวงเงินเฉียดเจ็ดหลักคืนให้โมเอิร์น
“ห๊ะ!...เป็นไปได้ไง” คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่นเดือนนี้ฉันยังไม่ได้ซื้อของเลยนะจะรูดไม่ผ่านได้ไงหรือว่า.... ไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น เสียงขรึมของชายชุดดำเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังเรียกให้โมเอิร์นกับเพื่อนรวมทั้งพนักงานร้านหันไปมองยังคนมาใหม่
“คุณโมครับ นายให้ผมมารับกลับบ้านครับ” ลูกน้องมือขวาของแบล็คหยุดยืนตรงหน้าหญิงสาวลูกรักเจ้านายเขา พร้อมกับพูดบอกตามคำสั่งเด็ดขาด
“ป๊าระงับบัตรเคดิตฉันใช่มั้ย!” โมเอิร์นเอ่ยเสียงแข็งจ้องมองบอดี้การ์ดด้วยท่าทีเอาเรื่อง ต้องใช่แน่ๆแค่ฉันไม่ไปตามนัดถึงกับต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ ได้!อยากให้หมั้นมากนักใช่มั้ย ฉันจะทำตามที่ป๊ากับปู่ต้องการ หวังว่าไอ้คู่หมั้นคนนั้นจะไม่อกแตกตายไปก่อนนะ
“ครับ คุณโมกลับไปกับผมเถอะนะครับ”
“แพง นิว ฉันกลับก่อนนะ...เจอกัน”
“โมค่อยๆคุยกันนะ ป๊าคงอยากให้แกมีคนคอยดูแล” พะแพงเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วง
“อืม”
“พรุ่งนี้เจอกันที่มอ.”
โมเอิร์นเดินตามชายชุดดำมายังลานจอดรถ ก่อนที่ชายคนนั้นจะเร่งฝีเท้าเดินนำไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวขึ้นนั่งบนเบาะด้านหลังและรีบพาตัวเองไปนั่งข้างคนขับพร้อมเอ่ยสั่งให้ออกรถทันที ใช้เวลาไม่นานรถหรูสีดำเงาขับเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่
“ใครมา?” สายตาคู่สวยมองผ่านกระจกหน้าต่างรถ เห็นรถหรูไม่คุ้นตาจอดอยู่ไม่ไกลมากนัก
“ไม่ทราบครับ”
ร่างบางระหงในชุดนักศึกษารัดรูปกระโปรงทรงเอความยาวเหนือเข่า ก้าวเดินไปยังในห้องรับแขกที่มีปู่และผู้เป็นพ่อนั่งอยู่กับผู้ชายอีกสองคนหันหลังมายังทิศทางที่เธอยืน ทว่า เมื่อเดินเข้าใกล้กลับเรียกสายตาของคนทั้งห้องให้หันมามองที่เธอเป็นจุดเดียว
ร่างบางจมอยู่กับความคิดจึงไม่ทันสังเกตเห็น เซนโซ่ลุกจากเก้าอี้ก้าวเดินมาหยุดยืนใกล้ๆ พร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ในมือ“โมเอิร์น”“คะ?”“แต่งงานกับพี่นะ”ร่างบางนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนหูดับไม่รับรู้สิ่งรอบข้าง สายตาทอดมองไปยังวิวเมืองยามค่ำคืน คิ้วเรียวสวยได้รูปขมวดมุ่นราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ร่างสูงทรุดตัวลงคุกเข่าพร้อมกับยื่นดอกไม้ในมือให้ เป็นเวลาเดียวกับโมเอิร์นได้สติกลับคืน หันมาหาชายหนุ่มมองจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว“แต่งงานกันนะ” เสียงทุ้มนุ่มเอื้อนเอ่ยประโยคเดิมอีกครั้ง“เอ่อ...คือ” ร่างบางอึกอักไม่ตอบรับด้วยความสับสน การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่เธอจะด่วนตัดสินใจไม่ได้ อย่างน้อยคงต้องรอถามความเห็นผู้เป็นพ่อกับปู่เสียก่อน แต่จะว่าไปท่านทั้งสองคงไม่ขัดอะไรในเมื่อเห็นชอบให้เธอหมั้นหมายตั้งแต่แรก“ว่าไงครับ?” รอยยิ้มที่เคยมีบัดนี้จืดจางลงเพราะเริ่มไม่มั่นใจกับคำตอบของสาวเจ้า กล
ปึก!มือบางปิดแฟ้มงานกระแทกลงบนพื้นโต๊ะเต็มแรงด้วยอารมณ์หงุดหงิดกำลังก่อตัวขึ้น คิดไม่ตกหากสิ่งที่คิดเป็นความจริง“โมให้เวลาแค่คืนนี้ถ้าไม่กลับมาหรือยังติดต่อไม่ได้ เราสองคนก็ทางใครทางมัน” เสียงหวานบ่นพึมพำ พลางเก็บของบนโต๊ะ สายตาเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนังห้อง เวลานี้คลับปิดให้บริการยี่สิบนาทีแล้ว โมเอิร์นจึงตัดสินใจกลับไปรอที่เพนท์เฮาส์โดยมีจิมขับรถมาส่งร่างบางระหงในชุดเดรสพอดีตัวสีแดงเลือดนกยืนมองตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามระดับชั้นที่ลิฟท์สี่เหลี่ยมกำลังเคลื่อนตัวผ่านอย่างรวดเร็ว กระทั่งถึงจุดหมายปลายทางประตูเปิดออกกว้าง สองเท้าเล็กก้าวเดินเข้ามาในโถง แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะไฟภายในห้องไม่เปิดอัตโนมัติเช่นเคย คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นด้วยความสงสัยแต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือ ‘ระบบไฟมีปัญหางั้นหรอ’ คิดได้อย่างนั้นมือเล็กเลื่อนหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า“อุ้ย!ปล่อยฉัน!” โมเอิร์นสะดุ้งเฮือก จู่ๆก็มีมือปริศนาโอบกอดเอวบางจากทางด้านหลัง แต่ทว่าสัมผัสอบอุ่นและกลิ่นน้ำหอมคุ้นเคยทำให้เธอรู้ได
“แบบไหนคะ อื้อ...” ไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กสงสัยนาน ริมฝีปากหนาประกบจูบริมฝีปากบางทันที บดจูบดูดดื่มแฝงไปด้วยความเร่าร้อนชนิดที่ว่าไม่เปิดโอกาสให้คนใต้ร่างได้ตั้งตัวไม่เว้นช่วงให้หายใจ จนร่างบางร้องท้วงในลำคอปานจะขาดใจมือเล็กทุบแผงอกแกร่งราวกับกำลังร้องขอชีวิตกระทั่งคนตัวสูงยอมผละออกอย่างอ้อยอิ่ง“แฮ่ก! แฮ่ก! พี่โซ่ โมเกือบตายแหนะ” เมื่อได้รับอิสระโมเอิร์นรีบโกยอากาศเข้าปอดด้วยอาการเหนื่อยหอบจนตัวโยน ‘ให้ตายเถอะ เขาจะฆ่ากันรึไง’“เด็กดื้อก็ต้องถูกลงโทษ ห้ามงอแงครับ” ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงคลอเคลียซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงสีกลีบกุหลาบเอาไว้บนเรือนร่างบางหลายต่อหลายจุดแสดงความเป็นเจ้าของ คืนนี้เขาจะลงโทษเมียเด็กให้หลาบจำ เสร็จจากบนเตียงค่อยย้ายไประเบียง โซฟา เคาน์เตอร์บนโต๊ะอาหารก็ดีไม่น้อย ต่อไปเธอจะได้ไม่กล้าขัดคำสั่งเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังกึกก้องทั่วทั้งเพนท์เฮาส์สุดหรูตามจังหวะตอกอัดของคนตัวสูงกระแทกกระทั้นเข้าใส่อย่างไม่ออมแรง ดังประสานกับเสียงครางกระเส่าของคนทั้งสองที่กำลังเสพ
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงค่ำ หลังจากโทรนัดแนะกับเพื่อนสาวทั้งสองคนรวมถึงน้องรหัสไม่ได้เจอกันนาน คืนนี้จึงถือโอกาสนัดมานั่งดื่มด้วยกัน“ทางนี้ครับพี่โมเอิร์น” เฟิร์สโบกมือเรียกเมื่อเห็นพี่รหัสเดินฝ่าผู้คนจำนวนมากเข้ามา“เฟิร์สมาถึงนานรึยัง”“ไม่นานครับ นี้แก้วเหล้าพี่ มาเหนื่อยๆน่าจะคอแห้ง”“โอ้โห...ทั้งโต๊ะนั่งกันแค่สองคนรึไงยะ” พะแพงว่าด้วยท่าทีหมั่นไส้ เบะปากมองบนอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะคว้าแขนเฟิร์สกอดไว้แน่นเผื่อว่าคืนนี้เธอจะได้ชิมเด็ก เฟิร์สเองก็ไม่ได้ขัดขืน ออกจะขบขันด้วยซ้ำที่เห็นรุ่นพี่ลุกหนักขนาดนี้“น้อยๆหน่อยยัยแพงสงสารน้องมัน” นิวถึงกับส่ายหน้าให้กับความเจนจัดของเพื่อน ทำเป็นล่าเหยื่อพอเอาเข้าจริงก็ไม่กล้า นี่แหละนิสัยพวกเธอ“มาๆดื่มๆ คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ” เป็นไปตามคำพูดโมเอิร์นไม่มีผิดเพี้ยน เพราะยิ่งดึกก็ยิ่งชนแก้วถี่ขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีใครห้ามใคร กระทั่งเวลาห้าทุ่มครึ่งเห็นจะได้ ทุกคนในโต๊ะเมามายไม่ต่างกันชนิดที่ว่ายืนแทบไม่อยู่“เอ่อ...คุณโมเอิร์
“พี่ว่าชุดมันสั้นมากขึ้นทุกวัน” คิ้วหนาขมวดเป็นปมอย่างไม่พอใจ ไหนจะเสื้อนักศึกษาพอดีตัวนั่นอีก รัดจนกระดุมแทบกระเด็นไม่อึดอัดบ้างรึไง“ปกตินะคะ...”โมเอิร์นเอ่ยตอบพลางจัดแจ้งชุดให้เรียบร้อยหมุนซ้ายหมุนขวาหน้ากระจกเงาบานใหญ่ภายในห้องแต่งตัวโดยมีร่างสูงมองดูไม่ห่าง หลายวันมานี้เขาพูดเรื่องชุดทุกวันจนคนตัวเล็กชินเสียแล้ว จึงไม่ได้ตอบโต้อะไรให้มากความแต่กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาหึงหวงหลังจากมาส่งโมเอิร์นที่มหาลัยเซนโซ่ก็ไปทำงานเฉกเช่นทุกวันโดยมีจิมเป็นคนขับรถ“ไอ้ฟาโรเคลื่อนไหวบ้างรึเปล่า” เซนโซ่เอ่ยถามลูกน้องคนสนิททั้งที่สายตาคมยังคงจ้องมองหน้าไอแพดนั่งเอนหลังพิงเบาะท่าสบาย ช่วงเวลาเร่งด่วนบนถนนกลางกรุงการจราจรติดขัดทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าปกติกว่าจะถึงโกดังชานเมือง“ยังส่งออกสินค้าปกติครับ ผมสืบรู้มาว่าคุณลูกตาลมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฟาโรแต่ไม่ได้เปิดเผยครับ ก่อนหน้านี้ที่พยายามเข้าหานายคงเป็นเพราะผลประโยชน์ที่ฟาโรเสนอให้”“อืม..จับตาดูไว้” ผมคิดแล้วไม่มีผิด ผมกับลูกตาลเป็นเพื่อนกันก็
ปึก!“อ๊ะ!” หัวสมองมัวแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่ทันระวังตัว ร่างสูงข้างหน้าหยุดเดินกะทันหันทำให้โมเอิร์นชนเข้ากับแผ่นหลังหนาอย่างจัง มือบางยกขึ้นลูบจมูกปรอยๆ ยู่หน้าให้อย่างเง้างอน“หึ!เมื่อไหร่จะเลิกซุ่มซ่าม” มือหนาเชยคางเล็ก โน้มหน้ามองดูจมูกเชิดรั้นแดงก่ำ ก่อนโอบไหล่เล็กให้เธอเดินเคียงข้างเขาเข้าไปในโกดังที่มีอีกฝ่ายรออยู่ก่อนแล้ว“มาแล้วหรอ.....” ทว่า เสียงทุ้มของฟาโรต้องหยุดไว้แต่เพียงเท่านั้นเมื่อหันกลับมามองคนมาใหม่ ที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าโมเอิร์นคือคู่หมั้นของเซนโซ่เพียงแต่ไม่คิดว่าจะพาเธอมาด้วย เขาสืบรู้มาว่าทั้งสองไม่ได้รักกันแต่ต้องอยู่ด้วยกันเพราะพันธสัญญาหมั้นหมายที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเป็นคนกำหนด ที่ผ่านมาเซนโซ่ไม่เคยเปิดตัวเธอ แม้แต่งานหมั้นก็ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆ ครั้งแรกที่ได้เจอโมเอิร์นเขารู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูกจึงพยายามเข้าหาเธอและส่งคนสืบประวัติจึงได้รู้ความจริงไม่เพียงแต่ฟาโรที่แปลกใจ โมเอิร์นเองก็ยืนมองอย่างอึ้งๆไม่ต่างกัน มันเก