ครืด ครืด ครืด
“ฮัลโหล” ฉันกดรับสายด้วยความหงุดหงิด เปิดเครื่องมาก็มีคนโทรเข้ามาเลย อะไรกันนักหนาวะเนี่ย
( รถเก๋งจอดอยู่ตรงข้าม รีบมา )
“นายเป็นใครแล้วทำไมฉันต้องทำตามด้วย”
( เป็นผัวเธอไง )
“อย่ามาพูดพล่อยๆนะฉันไม่เคยมีผัว” สงสัยจะเป็นไอ้พวกโรคจิตแน่เลย
( ฉันว่าเธอคงไม่ลืมเรื่องราวบนรถเมื่อสองปีก่อนหรอกนะ ผู้ชายที่เป็นคนแรกของเธอไง )
“นะ….นาย”
( ได้ข่าวว่ากำลังจะถูกจับแต่งงาน ถ้าเธอไม่อยากแต่งฉันช่วยเธอได้นะ )
“ไม่จำเป็น”
( ก็แล้วแต่นะ ฉันได้ข่าวมาว่าพ่อของเธอส่งคนมาตามหาเธอเพื่อที่จะรับเธอกลับเมืองไทยแล้ว )
“วะ ว่าไงนะ นายรู้ได้ยังไง”
( ฉันก็มีเส้นสายอยู่เหมือนกันนะ เอายังไงถ้าเธอไม่ให้ฉันช่วยฉันก็ไม่ช่วยหรอกนะ )
“ดะ เดี๋ยว ก็ได้”
ฉันกดวางสายแล้วหันไปมองรถเก๋งคันสีดำที่จอดอยู่ตรงข้ามฟากถนน จากนั้นก็รีบหิ้วกระเป๋าแล้วเดินไปที่รถเก๋งคันนั้นทันที
“ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะ เมียสุดที่รัก”
“ปล่อย!!” ฉันสะบัดหัวไหล่อย่างแรงจนมือของเขาหลุดออกไป
“เย็นชากับผัวจริงเลยนะ”
“เลิกพูดได้ละ จะไปก็รีบไปสิ”
“ออกรถ” เขาหันไปบอกลูกน้องที่นั่งอยู่ด้านหน้า
“ครับนาย”
ระหว่างทางก็ไม่มีใครพูดอะไรเลย ฉันไม่พูดส่วนเขาก็ไม่พูดเหมือนกัน เย็นชาไม่เปลี่ยนเลยนะ
ไม่นานรถเก๋งของเขาก็มาจอดยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่กลับมีลูกน้องเดินไปมาอยู่เต็มไปหมด นี่เขาทำงานอะไรกันทำไมถึงได้มีลูกน้องเยอะขนาดนี้ แต่ละคนก็น่ากลัวทั้งนั้นด้วย
“ลงมาสิ”
“อืม..” ฉันลงจากรถเดินตามเขาเข้าไปด้านใน
“สวัสดีค่ะคุณพิงค์”
“ค่ะ” ฉันตอบรับอย่างงงๆ แม่บ้านเค้ารู้จักฉันได้ยังไง
“ให้จัดห้องใหม่ให้คุณพิงค์หรือเปล่าคะคุณคราม”
“ไม่ต้อง เอาของใช้ของเธอไปไว้ที่ห้องของฉัน”
“ไม่!! คุณป้าคะอย่า..”
“ฉันพูดคำไหนคำนั้น” เค้าหันมามองหน้าของฉัน ก่อนจะหันไปหาแม่บ้านที่ยืนอยู่ “รบกวนจัดการให้ด้วยนะครับ”
“ค่ะคุณคราม” แม่บ้านถือของฉันเดินขึ้นไปด้านบน
“นี่คุณ!!” ฉันหันหน้าไปเตรียมที่จะตวาดใส่เขาเต็มที่ แต่กลับถูกเขาพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ผัวเมียจะนอนห้องเดียวกันก็ไม่เห็นแปลก อีกอย่างถ้าเธอไม่อยากแต่งงานกับคนที่พ่อแม่ของเธอจัดหามาให้ เธอก็ต้องทำให้มันสมจริงสิ”
“ทำให้มันสมจริงไม่จำเป็นต้องนอนห้องเดียวกันก็ได้!" ฉันเถียง ผู้ชายคนนี้หัวสูงเองมากกว่า คงคิดจะหวังจิ้มฉันรอบสองล่ะสิ เหอะ! ไม่มีทาง
"กลัว?"
"คนอย่างฉันไม่มีทางกลัวคนอย่างนายหรอก"
"ไม่กลัวก็นอนห้องเดียวกันจะเป็นอะไรไป นอกซะจากเธอกลัวฉันถึงไม่ยอมนอนด้วยแค่นั้นแหละ"
"เออ!! นอนก็นอน"
ตกดึก
ตุบ!
"อะไร?" ฉันโยนหมอนและผ้าห่มลงด้านล่างประจวบเหมาะกับนายครามเดินเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำพอดิบพอดี
"หมอนกับผ้าห่มไง ตาไม่เห็นหรอ"
"แล้ว?"
"นายต้องนอนด้านล่าง ส่วนฉันจะนอนด้านบน"
"แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่เธอพูดด้วย?"
"เอ๊ะ!"
"ฉันจะนอนด้านบนเธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่าล่ะ?"
"ก็ได้! ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไปนอนข้างนอกแทน"
"เดี๋ยว!"
ตุบ~
เขาคว้าตัวฉันเอาไว้แล้วผลักฉันนอนลงกับเตียงก่อนที่ตัวเขาจะขึ้นมาคร่อมฉันเอาไว้
"นะ...นายจะทำอะไร!?"
"กลัวทำไมล่ะ เมื่อกี้เธอยังเป็นม้าพยศอยู่เลยนะ"
"...." ฉันหายใจเข้าออกระรัวพร้อมกับเสียงหัวใจที่กำลังเต้นตุบตับไม่เป็นท่า
"เพื่อความสมจริงเธอกับฉันเราต้องมีอะไรกันด้วย"
"กะ....ก็มีไปแล้วนั่นไง"
"นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ฉันลืมไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นต้องสร้างสถานการณ์ขึ้นมาใหม่เพื่อความสมจริง เวลาพ่อของเธอถามว่ามีอะไรกันเมื่อไหร่ตอนไหนจะได้ตอบถูก"
"มะ...ไม่นะ อื้ออ" ฉันเกร็งไปทั้งตัว เมื่อจมูกของเขาซุกไซร้ไปทั่วร่างกายของฉัน ชนิดที่ว่าสูดดมแบบสูบวิญญาณกันเลยทีเดียว
"อืมม....กลิ่นตัวของเธอยังหอมไม่เปลี่ยนเลยนะ"
"ยะ....อย่าทำแบบนี้เลยนะ"
"ทำไมล่ะ?" เขาผละหน้าออกมาคุย "ฉันคิดว่าเธอก็ชอบมันนะ"
"ฉันไม่ชอบ อื้ออ~" คำพูดของฉันถูกกลืนหายไปพร้อมกับรสจูบแสนเร่าร้อน ซึ่งฉันยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลยสักนิด "อืมมม~~"
4ปีต่อมา สองพี่น้องกระทิงและน้องฟ้าครามเติบโตกันมาอย่างมีคุณภาพ เพราะได้รับการสั่งสอนเป็นอย่างดีจากผู้เป็นแม่และพ่อ กระทิงทำหน้าที่พี่ชายได้ดีมากคอยปกป้องและดูแลน้องทุกครั้งที่น้องถูกแกล้งหรือรังแก ทั้งสองคนเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน กระทิงเข้าชั้นประถมแล้วแต่ฟ้าครามยังเรียนอยู่อนุบาลอยู่เลย“ผมไปเรียนก่อนะครับคุณแม่” กระทิงเดินมาหาผู้เป็นแม่ก่อนจะยกมือไหว้โค้งก้มสวัสดีอย่างนอบน้อม น้องสาวเมื่อเห็นพี่ชายทำแบบนั้นก็รีบทำตามทันที“สวัสดีค่ะคุณแม่”“สวัสดีจ้า ตั้งใจเรียนกันนะลูก”“ครับคุณแม่” กระทิงจูงมือน้องสาวไปขึ้นรถที่ผู้เป็นพ่อสตาร์ตจอดรออยู่หน้าบ้าน “ไปกันเถอะครับคุณพ่อ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย”“ขึ้นรถเลยครับเด็กๆ เดี๋ยวพ่อจะรีบซิ่งรถพาไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้เลย”“ครับ//ค่ะ”ครามขับรถพาลูกๆ ไปส่งโรงเรียนตามปกติ จากนั้นก็ขับรถไปทำงานที่บริษัทของตัวเอง ตกเย็นก็ขับรถไปรับลูกๆ กลับมาที่บ้านตามปกติ เขาทำแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่น้องกระทิงเริ่มเข้าโรงเรียน ไม่ได้ให้ลูกๆ ขึ้นรถรับส่งไป เพราะเขาอยากมั่นใจว่าทุกวันเขาไปส่งลูกๆ ถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัยแล้ว อีกอย่างโรงเรียนของทั้งสองก็เป็นทางผ่านบริษัท
6 เดือนต่อมา อุแว้ อุแว้ อุแว้“คุณแม่ครับน้องฟ้าครามร้องอีกแล้วครับ” กระทิงน้อยวิ่งมาบอกผู้เป็นแม่เมื่อน้องสาวตื่นร้องเสียงดัง“พ่อล่ะลูก อยู่ตรงนั้นหรือเปล่า” เธอหันไปพูดกับลูกชาย“ไม่ครับ คุณพ่อไปเข้าห้องน้ำ”“อ๋อ งั้นหนูไปดูน้องก่อนนะครับ เดี๋ยวแม่ตามไป” พิงค์วางมือจากงานตรงหน้า รีบล้างมือจนสะอาดจากนั้นก็สาวเท้ายาวๆ เดินเข้าไปด้านในแง้ แง้ แง้“โอ๋ ๆ ๆ ไม่ร้องนะคะคนดีของแม่” พิงค์อุ้มลูกน้อยขึ้นมาพาดอกแล้วลูบหลังปลอบเบาๆ“ลูกตื่นเหรอพิงค์” ครามรีบเดินออกมาอย่างรีบร้อน“อืม…”“ขอโทษนะพอดีว่าฉันปวดท้องหนักอะ เลยรีบไปห้องน้ำ”“ไม่เป็นไรหรอก”ครามหยุดงานมาคอยช่วยพิงค์ดูแลลูกเพราะเธอไม่ได้จ้างพี่เลี้ยง ส่วนป้าศรีก็ต้องทำงานบ้านของตัวเองเหมือนกัน รอจนกว่าน้องฟ้าครามจะโตกว่านี้อีกนิดเขาถึงจะกลับไปทำงานเหมือนเดิม เพราะตอนนี้พิงค์ต้องคอยดูแลลูกสองคนพร้อมกันน้องกระทิงก็ต้องไปโรงเรียนทุกวัน“แล้วนี่น้องฟ้าครามเป็นอะไรตื่นหรอ”“ฉี่แตกน่ะ นายเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ใหม่หน่อยสิ”“ได้ๆ แป๊บนึงนะ” ครามรีบจัดแจงปูผ้าที่นอนให้กับลูกน้อยใหม่อีกครั้ง จากนั้นพิงค์ก็พาลูกสาวตัวน้อยลงไปนอนบนเบาะเหมือนเดิ
พิงค์ Talk ฉันมาอยู่ที่บ้านของคีร่าหลายวันแล้ว แต่ละวันลูกชายแทบจะไม่อยู่บ้านเลยเพราะลุงกับป้าพาออกเที่ยวทุกวัน ความจริงครามก็ชวนฉันออกเที่ยวเหมือนกันแต่ฉันขี้เกียจไปเพราะมันต้องเดิน ฉันรู้สึกหนักตัวเองจนไม่อยากจะเดินออกไปไหนเลย ถึงจะท้องได้แค่ห้าเดือนแต่ท้องของฉันมันขยายออกมาพอควรเลยแถมมีรอยแตกที่สีข้างอีก เดาได้เลยว่าหน้าท้องของฉันจะต้องแตกลายแน่นอนตอนท้องน้องกระทิงช่วงนี้ฉันยังท้องไม่โตเท่าไหร่ แต่อาจจะเป็นเพราะท้องแรกด้วยท้องเลยไม่ค่อยขยายใหญ่เท่าไหร่ แต่พอมาท้องคนนี้เป็นท้องคนที่สองหน้าท้องที่เคยขยายใหญ่อยู่แล้วมันก็ขยายออกมาอีก“พิงค์”“หือว่าไง” ฉันขานรับครามพลางเหลียวหลังไปมองยังต้นเสียงที่เรียกฉัน “เรียกทำไม?”“เปล่า นึกว่าหายไปไหน” ครามเดินมานั่งลงตรงข้างๆ ฉัน“อยู่ในบ้านมันอุดอู้น่ะ ฉันก็เลยออกมานั่งเล่นอยู่ในสวน บรรยากาศดีเนอะ”“อยากออกไปไหนไหมล่ะ เดี๋ยวฉันพาไป”“ไม่ล่ะ ฉันขี้เกียจเดินอ่ะไม่อยากไปไหนเลย”“อยู่ในบ้านเบื่อจะแย่”“….” ฉันไม่ได้ตอบอะไรครามไป มันก็จริงอย่างที่เขาพูดนั่นแหละอยู่ในบ้านก็เบื่อจะแย่แต่จะให้ออกไปไหนฉันก็ขี้เกียจ มันคงเป็นอารมณ์ของฉันที่รู้สึกเบื่อ
เวลาผ่านไป เมืองนอกสองสามีภรรยากับลูกชายอีกหนึ่งคนพากันเดินลงเครื่องทันทีที่เครื่องบินลงจอดบนรันเวย์เรียบร้อยแล้ว การมาในครั้งนี้ทั้งสองไม่ได้บอกใครเลยเพราะต้องการที่จะมาเซอร์ไพรส์สองลุงป้าพี่มัวแต่ทำงานไม่มีเวลาพักผ่อนถ้าได้เห็นหน้าหลานคงจะรู้สึกดีมีความสุขน่าดูเลยทั้งสองมีลูกไม่ได้เพราะโรคประจำตัวบางอย่าง ร่างกายของคีร่าไม่แข็งแรงมากพอที่จะอุ้มท้องได้ และภูริก็มีโรคบางอย่างที่ทำให้น้ำเชื้อของเขาไม่แข็งแรง ถึงจะอยากมีลูกแค่ไหนแต่ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงทั้งสองก็ไม่อยากเสี่ยง เพราะมันเกี่ยวกับชีวิตของเด็กคนหนึ่งด้วย“ฮายคุณป้าคีร่า” กระทิงน้อยวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความดีใจ ทันทีที่รถจอดดับสนิทอยู่ที่หน้าบ้าน ก่อนที่พิงค์และครามจะเดินตามเข้าไปทีหลัง“ว๊ายกระทิงน้อยหลานป้า มาได้ยังไงครับเนี่ย” คีร่าหันมามองด้วยความตกใจเมื่อเห็นหลานชายกำลังวิ่งเข้าไปหาตน ในใจนึงก็คิดว่าตนเองพักผ่อนน้อยจนละเมอไปหรือเปล่า แต่พอกระทิงสวมกอดเท่านั้นแหละรู้เลยว่ามันเป็นความจริงไม่ใช่ละเมอ“มาเซอร์ไพรส์ป้าคีร่าได้ยังไงล่ะครับ โรงเรียนของกระทิงปิดเทอมแล้วคุณพ่อกับคุณแม่ก็เลยจะพามาเที่ยวที่บ้านของป้าคีร่านานๆ เลยคร
4 เดือนต่อมา โรงพยาบาล “ยินดีด้วยนะครับ คุณได้ผู้หญิงนะครับ ต้องสวยเหมือนคุณแม่แน่ๆ เลย” คุณหมอเอ่ยพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม พลางเลื่อนอุปกรณ์อัลตร้าซาวด์ไปรอบๆ ท้องใหญ่เพื่อตรวจดูร่างกายของเด็กทารกในครรภ์ “น้องแข็งแรงปกติดีนะครับไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ต่อไปก็มาพบหมอตามนัดเหมือนเดิมนะครับ ช่วงนี้หมอจะนัดบ่อยหน่อยเพราะใกล้คลอดแล้ว อีกอย่างหมอจะได้อัลตร้าซาวด์ดูน้องด้วยว่าพัฒนาการไปถึงไหนแล้ว” หมออธิบาย“ค่ะคุณหมอ”หลังจากเสร็จสิ้นการมาพบหมอในครั้งนี้ ครามก็พาพิงค์แวะไปที่โรงเรียนของลูกชายเพราะถึงเวลาเลิกเรียนพอดีจะได้รับแกกลับมาพร้อมกันเลยโรงเรียนอนุบาลคอนแวนต์ “นั่งรออยู่ที่รถนี่แหละ เดี๋ยวฉันลงไปรับลูกเอง” พูดจบครามก็เปิดประตูลงจากรถไปทันที ปล่อยให้พิงค์นั่งรออยู่ในรถคนเดียวในโรงเรียนมีเด็กเล็กเยอะแยะมากมาย เขากลัวว่าจะมีเด็กวิ่งซนมาชนพิงค์เข้าเลยให้เธอนั่งรออยู่ในรถดีกว่า“คุณพ่อคร้าบ” ทันทีที่กระทิงน้อยเห็นพ่อของตัวเองก็รีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับกระโดดกอดคอพ่อของตนเองด้วยความดีใจ “คุณแม่ไม่ได้มาด้วยหรอกครับ”“มาครับผมคุณแม่นั่งรออยู่ในรถ พ่อไม่ได้ให้คุณแม่ลงมาด้วยกลัวว่าจะมีคนเดินมา
ร่างบางกระตุกยิ้มก่อนจะก้มลงดูดเลียที่ปลายหัวบานฉ่ำ ลิ้นเรียวเล็กตวัดเลียไปมาอย่างมูมมาม ทำเอาร่างหนาที่นอนอยู่เกร็งไปทั้งตัวเพราะความเสียว สองมือกอบกุมดุ้นใหญ่ส่วนล่างชักรูดเป็นจังหวะพร้อมๆ กับลิ้นที่กำลังตวัดเลียไปมา“อื้ม พิงค์อ่าส์ เธอแม่ง ซี๊ด!” ครามได้แต่นอนร้องครวญคราง เพราะทุกช่วงจังหวะที่ลิ้นตวัดเลียโดนส่วนหัวมันทำเอาเขาแทบขาดใจ“อื้ม…” พิงค์ครางออกมาเบาๆ พลางไล่ดูดเลียตามลำท่อนใหญ่ไปเรื่อยๆ“พะ พอก่อนอ่าส์ มันจะแตกอื้ม ฉันอยากแตกในตัวเธอมากกว่า” ครามหยุดทุกอย่างด้วยมือของเขา ก่อนที่ร่างหนาจะดันตัวให้ลุกขึ้นผลักตัวของพิงค์ให้นอนราบกับเตียงแทน แล้วขึ้นไปคร่อมตัวของเธอโดยที่ตัวเขาเองทิ้งน้ำหนักตัวลงไปหาเธอเพียงเล็กน้อย “ยั่วเก่งนักนะ รู้ว่าทำแรงไม่ได้แต่ก็ยังจะยั่ว มันน่านัก!” ครามเม้มปากแน่นเพราะรู้สึกมันเขี้ยวจนอยากจะจับพิงค์กระแทกให้หนักๆ ไปซะเดี๋ยวนี้เลย แต่ติดตรงที่ว่าเธอกำลังท้องอยู่“ฉันเปล่าสักหน่อย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” พิงค์ทำท่าทางเล่นหูเล่นตา ทำให้ครามที่รู้สึกมันเขี้ยวอยู่แล้วอยากจะขยี้เธอมากขึ้นไปอีก“ให้มันได้อย่างนี้สิ” ครามพูดข่มเสียง ก่อนจะไล่ซุกไซร้ตามซอกค