"ทำไมไปห้องน้ำนานจังยัยเซียร์"
ชมพูที่เริ่มเมากรึ่มเอ่ยถามลูเซียร์ที่เดินกลับมายังโต๊ะ ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที พวกเธอเพิ่งพูดเรื่องเพื่อนคนนี้หยกๆ ว่าทำไมไปห้องน้ำนาน เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า นี่ถ้ายังไม่กลับมา พวกเธอคงเดินไปตามแล้ว "พอดีคนเยอะนิดหน่อย เลยต้องต่อคิวเข้า" เธอตอบเพื่อนกลับ จังหวะกำลังนั่งลงที่เดิม สายตาเหลือบเห็นอังเดรที่เดินเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับชายหนุ่มหน้าตาดีสามคน ซึ่งก่อนหน้าเธอไม่เห็นเขาอยู่ตรงนั้น "เซียร์ ออกไปเต้นเป็นเพื่อนฉันหน่อย" "ไม่เอาอะ ฉันไม่ถนัด แกชวนยัยนิวก็ไม่ชมพูไปเลย" เธอตอบกลับปันปันที่เอ่ยชวนออกไปเต้นหน้าเวที ซึ่งนั่นไม่ใช่สายเธอ แอบเต้นคนเดียวในห้องน้ำยังพอโอเค นี่เต้นท่ามกลางคนมากมาย เธอขอบายดีกว่า "ใครจะไปเต้นกับฉันแทนยัยเซียร์?" "แกเมาแล้วก็นั่งลงสักทียัยปัน ไปเต้นเหยียบเท้าใครเข้า โดนตบมาไม่ช่วยนะ" นิวเยียร์พูด "นี่ใคร ฉันปันปัน หลานสาวเจ้าพ่อ ใครจะกล้ามีเรื่องด้วย" "จ้า แม่คนเก่ง" เธอนั่งฟังปันปันและนิวเยียร์กัดกันแล้วอดขำตามไม่ได้ สายตาเธอหลุดโฟกัสไปยังโซนวีไอพีฝั่งอังเดร เธอแอบรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่มีผู้หญิงนุ้งน้อยห่มน้อยเข้าไปนั่งข้างคู่หมั้น เธอดึงสายตากลับมา เอื้อมมือจับขวดน้ำเมาเทลงแก้วว่างแล้วกระดกอึกเดียวจนหมด แก้วเดียวไม่พอ เธอเทลงอีกครั้งเพื่อต่อแก้วสอง สาม และไปเรื่อยๆ จนเริ่มเมามาย "หายไปแป๊บเดียว เหล้าไปไหนหมดวะ" ปันปันที่เพิ่งเต้นกับนิวเยียร์เสร็จเดินกลับมาถามหาเหล้าที่เคยเหลือครึ่งขวด "ถามยัยเซียร์สิ กระดกเอาๆ คนเดียวจนหมด" ชมพูพูดขึ้น ปันปันและนิวเยียร์พลันสายตาไปมองลูเซียร์ที่นั่งยิ้มเจื่อนราวคนทำความผิดมา ตานั้นเยิ้มเชื่อม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมา "ดื่มไปดื่มมา น้ำขมๆ นี่ก็อร่อยเหมือนกันนะ" ลูเซียร์พูดด้วยน้ำเสียงหย่อนยานตามประสาคนเมา "รู้ว่าเป็นครั้งแรกที่ดื่มแถมยังคออ่อน ยังอวดเก่งดื่มคนเดียวจนหมด นัมเบอร์วันเลยเพื่อนกู" นิวเยียร์มองสภาพลูเซียร์แล้วพูดขึ้นมาคนเดียว พลางถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมา "แล้วนี่แกจะไปไหน" ปันปันถามเมื่อลูเซียร์ลุกขึ้น "ไปหาคู่หมั้น~" พูดจบก็เดินเซออกไปจากโต๊ะตัวเอง เป้าหมายของเธอก็คือ อังเดร เขาจะทำเหมือนตัวเองไม่มีคู่หมั้นไม่ได้ เธอนั่งหัวโด่ตรงนั้น ยังให้ผู้หญิงคนอื่นมานั่งข้างกายอีก อังเดรเหลือบมองลูเซียร์ที่ตาเยิ้มยิ้มหวานมาแต่ไกล แค่เห็นหน้าเธอ เขาก็ถอนหายใจเอือมระอาไว้รอแล้ว นี่คู่หมั้นหรือเจ้ากรรมนายเวร เมื่อไหร่จะหลุดพ้น "พี่เดย์ขา~" เหล่าแก๊งเพื่อนอังเดรหันมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ เมื่อมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักเข้ามานั่งตักอังเดร แถมยังเป็นคนแรกที่กล้านั่งตักอังเดรโดยไม่มีคำอนุญาตจากอังเดร "พี่เดย์~" "เมาแล้วก็กลับไป อย่ามาวุ่นวายแถวนี้" "ลูเซียร์จะกลับพร้อมพี่เดย์" "ลูเซียร์ ลูเซียร์ที่เป็นคู่หมั้นของมึงเหรอไอ้เดย์" ออสตินถามขึ้นหลังจากนั่งทวนชื่อนั้นคนเดียวมาพักหนึ่ง หากจำไม่ผิด ลูเซียร์คือคู่หมั้น ที่อังเดรเคยพูดถึงแล้วบอกว่าไม่สวย แต่ที่เห็นตอนนี้ ถ้าคู่หมั้นอังเดรไม่สวย บนโลกนี้คงไม่มีใครสวยอีกแล้ว "ใช่ค่ะ เซียร์เป็นคู่หมั้นของพี่เดย์" "ไหนมึงบอกเขาไม่สวยไง ระดับนางฟ้าขนาดนี้ ถ้าพี่เดย์บอกไม่สวย พี่เดย์คงต้องไปตัดแว่นแล้ว" มังกรแซะเพื่อนสนิท "พี่เดย์บอกว่าเซียร์ไม่สวยจริงเหรอคะ" ลูเซียร์หันมาถามอังเดร คนรอบข้างเอาแต่ชมเธอว่าสวย น่ารัก ผิดกับคู่หมั้นจอมเย็นชาที่บอกว่าเธอไม่สวย "เมาแล้วก็กลับไปนอน อย่าทำให้น่ารำคาญ" "เซียร์ไม่กลับหรอก พี่เดย์กลับตอนไหน เซียร์ก็จะกลับตอนนั้น" "อย่าให้ฉันรายงานพฤติกรรมเธอกับพ่อแม่เธอ" "เซียร์ก็รายงานว่าพี่เดย์ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วกับพ่อแม่พี่เดย์" อังเดรมองลูเซียร์ตาเขม็งด้วยความไม่พอใจที่โดนอีกฝ่ายย้อนกลับมาแบบนั้น แก้วในมือถูกคู่หมั้นสาวแย่งไปกระดกดื่มจนหมด "เซียร์ไม่คิดว่าเหล้าจะอร่อยขนาดนี้" "อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนด้วย" เขากดเสียงต่ำบอกลูเซียร์ "พี่เดย์จะทำอะไรเซียร์เหรอ?" "มันไม่ยากถ้าฉันจะส่งเธอกลับนิวยอร์ก" "ถ้าคิดว่าทำได้ ก็ทำเลยค่ะ" หญิงสาวขู่กลับ ก่อนจะลุกออกจากตักอังเดร มุ่งหน้าไปยังเวทีของไนต์คลับที่มีดีเจหนุ่มกำลังเปิดเพลงอย่างสนุกสนาน "คู่หมั้นของมึงจะทำอะไรวะเดย์" แม็กซ์เวลล์เอ่ยถามเสียงเรียบ สายตาจดจ่ออยู่ที่คู่หมั้นของเพื่อนสนิทด้วยความอยากรู้ "ช่างแม่ง" "คงอยากร้องเพลงละมั้ง" ออสตินพูดแล้วกระดกเครื่องดื่มเข้าปาก "ทุกคนคะ~ ฟังทางนี้หน่อย" "...." เมื่อเสียงลูเซียร์ดังลอดผ่านไมโครโฟนที่แย่งดีเจหนุ่มมา ผู้คนที่มาเที่ยวไนต์คลับก็พากันพลันสายตาไปมองเจ้าของเสียงหวานอย่างพร้อมเพรียง "ทุกคนเห็นผู้ชายคนนั้นไหมคะ ที่นั่งทำหน้านิ่งๆ เหมือนรูปปั้นมีชีวิต เขาชื่ออังเดร เขาเป็นคู่หมั้นของเซียร์ แต่เขาไม่สนใจเซียร์เลย~" "...." "เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกว่าจะส่งเซียร์กลับนิวยอร์ก เขาอยากให้เซียร์ไปไกลๆ เพราะเขาไม่อยากแต่งงานกับเซียร์" "ยัยบ้าเอ๊ย" อังเดรสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เขาลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหาลูเซียร์ เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ ไมโครโฟนในมือลูเซียร์ถูกแย่งไปโดยอังเดร แววตาคู่หมั้นหนุ่มดูไม่พอใจกับการกระทำของหญิงสาวเป็นอย่างมาก ทว่าก็ยังยิ้มแย้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร "ทำบ้าอะไรของเธอ" "ประกาศให้คนรู้ไงคะ ว่าพี่เดย์มีเจ้าของแล้ว" "เธอมันตัววุ่นวาย" "พี่เดย์เป็นของเซียร์ เซียร์ไม่ยอมแบ่งพี่เดย์ให้ใครง่ายๆ หรอก" พอลูเซียร์พูดจบ สองแขนเรียวก็คล้องลำคออังเดรลงมาหา ก่อนที่ริมฝีปากสีระเรื่อจะแตะสัมผัสลงปากหยักได้รูป ภาพนั้นทำเอาคนภายในไนต์คลับต่างตกใจแต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา แก๊งเพื่อนอังเดรมองภาพนั้นแล้วยิ้มกริ่มอย่างภูมิใจ ก่อนที่ต่างคนจะต่างหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายภาพนั้นไว้เป็นที่ระลึก "กูว่าคนนี้แหละ ที่จะสยบไอ้เดย์ได้อยู่หมัด" แม็กซ์เวลล์พูดแล้วลอบยิ้มมุมปาก คนเย็นชาอย่างอังเดร ต้องเจอผู้หญิงแบบลูเซียร์หนึ่งอาทิตย์ต่อมาหมับลูเซียร์เดินเข้ามากอดคนรักซึ่งกำลังยืนทำอาหารเช้าในห้องครัว "หอมจัง..." "ตื่นแล้วเหรอ" เขาหันไปพูดกับลูเซียร์ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะดึงสายตากลับมามองข้าวต้มกุ้งซึ่งเป็นของโปรดคนข้างหลัง"ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกเซียร์ล่ะคะ""เห็นเซียร์กำลังหลับสบายเลยไม่อยากกวน"เธอไม่ตอบอะไรอีกฝ่ายกลับ ยืนชะโงกใบหน้ามองข้าวต้มกุ้งที่อังเดรกำลังทำอย่างตั้งใจเงียบๆ ระหว่างนั้นก็แอบลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของคนรักเป็นระยะด้วยความหลงใหลเธออยากเก็บเขาไว้ดูแบบนี้คนเดียว เวลาเห็นผู้หญิงมองเขาอย่างให้ความสนใจ เธอก็อดเกิดอาการหวงขึ้นมาไม่ได้"เซียร์ไปนั่งรอที่โต๊ะนะ เดี๋ยวพี่ยกข้าวต้มไปให้""เซียร์อยากช่วยถือ""ไปนั่งรอ เดี๋ยวพี่ทำเอง" "กลัวเซียร์ซุ่มซ่ามทำถ้วยข้าวต้มหลุดมือเหรอคะ" "หึ...เปล่า แค่ไม่อยากให้ทำเพราะพี่อยากทำให้ ตอนนี้เซียร์กำลังท้องอยู่ อุ้มท้องอย่างเดียวก็พอ เดี๋ยวอย่างอื่นพี่ทำให้เอง""น่ารักจัง" เธอพูดด้วยรอยยิ้ม อังเดรหมุนตัวกลับมาหาคนตัวเล็ก มองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปหาแล้วประทับริมฝีปากลงหน้าผากบาง สัมผัสอ่อนโยนจากมาเฟียหนุ่มพล
หลายวันต่อมา@บริษัทอังเดรแกร๊กลูเซียร์เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของอังเดรหลังจากที่ขอเขาลงไปซื้อของกิน ริมฝีปากสีระเรื่อเตรียมขยับเพื่อทักทายคนรัก แต่ทว่าต้องชะงักเมื่อสายตามองเห็นเขากำลังนั่งคุยกับอนาคินคนเป็นพ่อ จากที่ต้องทักทายอังเดร กลับกลายเป็นทักทายพ่อคนรักแทน"สวัสดีค่ะคุณละ...เอ่อ..คุณพ่อ" เธอเกือบพลั้งปากเรียกอนาคินว่า 'คุณลุง' อย่างที่เคยเรียกชินปาก ดีที่ดึงสติกลับมาได้ทันจึงไม่ได้เอ่ยคำๆ นั้นออกมา"หนูเซียร์ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ""ค่ะ พอดีว่าเซียร์ลงไปซื้อของกินมาน่ะค่ะ""อืม ได้ยินอังเดรบอกว่าทั้งสองคนคืนดีกันแล้วเหรอ""ใช่ค่ะ พี่เดย์เขาบินไปง้อเซียร์ถึงนิวยอร์กเลย""อะแฮ่ม.." เขากระแอมในลำคอเพื่อปรามไม่ให้ลูเซียร์พูดถึงเรื่องนั้น แต่คงไม่ทันการณ์เสียแล้ว"หนูเซียร์มานั่งเล่าตอนเจ้าเดย์ง้อให้พ่อฟังทีสิ นานๆ ทีจะเห็นลูกชายง้อผู้หญิง""ได้ค่ะ" เธอยิ้มและตอบรับอย่างไม่ปฏิเสธโดยไม่สนใจสีหน้าที่กำลังไม่พอใจของอังเดร ในอดีตเขาทำกับเธอไว้เยอะ คราวนี้ตาเธอเอาคืนแล้ว"ถ้าพ่อหมดธุระกับผมแล้วก็กลับไปได้แล้ว""ฉันยังไม่อยากกลับ นานๆ ทีจะมาบริษัทแก ขออยู่นานๆ ก่อนสิ" อนาคินหันไปมองลู
วันต่อมาลูเซียร์นั่งมองคนเป็นพ่อซึ่งกำลังเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์กับคนรักใหม่ด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์และรู้สึกเสียดาย การหย่าร้างของพ่อแม่ในครั้งนี้ แม้ว่าทั้งสองคนจะตกลงว่ายังคงทำหน้าที่พ่อและแม่ให้เธอเหมือนเดิม มาฉลองด้วยกันทุกเทศกาลและวันสำคัญของเธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรู้สึกเสียดายช่วงเวลาดีๆ ที่ครอบครัวเคยทำด้วยกันและเกิดความคิดไม่อยากให้พ่อแต่งงานใหม่ เธอรู้ดีว่าพ่อแม่แต่งงานกันเพราะถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจับคลุมถุงชน ทั้งสองคนอาจมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่ใช่ว่าจะรักกันเหมือนคู่รักอื่นๆ ใครบอกว่าความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดของความรัก น้อยคนนักที่จะโชคดีดังคำพูดนั้นแต่ก็นะ...ในเมื่อพ่อเจอความสุขของตัวเองแล้ว เธอก็ควรยินดีและยอมรับในการตัดสินใจของพ่อ "คุณแม่ไม่รู้สึกเสียดายคุณพ่อเหรอคะ?" เธอเอ่ยถามคนเป็นแม่ซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า"แม่เคารพการตัดสินใจของพ่อ อีกอย่าง ต่อให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมก็พลอยแต่จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายนึงไม่มีความสุขเปล่าๆ""....""แม่รู้ว่าเซียร์เสียใจ พวกเราสองคนเองก็เสียใจที่ต้องให้ลูกรู้ว่าพวกเราไม่สามารถไปต่อกันได้อีกแล้ว""นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่เซียร์เห็นคุณพ
อังเดรและลูเซียร์เดินจูงมือกันเข้ามายังร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งของตัวเมืองนิวยอร์กในช่วงหนึ่งทุ่ม ทั้งสองคนเดินมาถึงห้องอาหารสำหรับวีไอพีโดยมีชายชุดดำสองคนยืนเฝ้า เมื่อชายชุดดำเห็นอังเดรและลูเซียร์มาถึงจึงเปิดประตูออกให้ทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้องอาหารวีไอพีซึ่งมีครอบครัวของลูเซียร์นั่งคอยอยู่ ความจริงเลยเวลานัดมาหลายนาทีแล้ว แต่อังเดรเกิดมีอาการคลื่นไว้อาเจียนขึ้นมากะทันหันทำให้มาเลทจากเวลานัดราวยี่สิบนาที"สวัสดีครับ" เขาเอ่ยทักทายพร้อมยกมือไหว้พ่อและแม่ของลูเซียร์ เคยเจอครอบครัวลูเซียร์มาก็หลายครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย"ขอโทษที่มาช้านะคะ""ไม่เป็นไร พ่อกับแม่ก็เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เหมือนกัน" พ่อของลูเซียร์เป็นคนเอ่ยพูด "สั่งอาหารกันแล้วเหรอคะ?""ยังเลย กะจะรอสั่งตอนเซียร์และเดย์มาถึงแล้ว" แม่ของลูเซียร์ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเห็นลูกสาวและอังเดรอยู่ด้วยกันแบบนี้เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะก่อนหน้านั้นลูเซียร์บอกว่าอยากถอนหมั้น และหลังจากจบจากงานแต่งคนเป็นพ่อ ลูเซียร์ก็จะบินไปที่ปารีสทันที แต่เหมือนว่าตอนนี้ลูกสาวเธอจะเปลี่ยนใจแล้ว...ทั้งสี่คนเริ
หมับมาเฟียหนุ่มเดินมาสวมกอดลูเซียร์ที่กำลังยืนรับลมชมวิวอยู่ระเบียงที่พักจากข้างหลัง หญิงสาวแอบสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ เพราะอีกฝ่ายมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง "คิดอะไรอยู่เหรอ""ไม่ได้คิดอะไรค่ะ แค่เห็นว่าตรงนี้วิวสวยดีเลยออกมาดู" ไออุ่นจากอ้อมกอดเขาพลอยทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่อังเดรกอดเธอด้วยความอ่อนโยนแบบนี้"กลับไทยเมื่อไหร่ เดี๋ยวพาไปฝากครรภ์นะ""ค่ะ" เธอตอบรับสั้นๆ ก่อนจะก้มมองมือหนาที่เลื่อนมาสัมผัสหน้าท้องแบนราบของเธอราวกับกำลังทักทายอีกหนึ่งชีวิตในท้อง"คิดไม่ถึงเลยว่าวันนึงจะมีลูกเป็นของตัวเอง จากเคยได้ยินลูกของตินและแม็กซ์เรียกพวกมันสองคนว่าพ่อ ใครจะคิดล่ะว่าวันนึงตัวของฉันเองก็กำลัง...กลายเป็นพ่อคนแล้วเหมือนกัน""พี่เดย์รู้สึกยังไงบ้างคะตอนที่รู้ว่ากำลังกลายเป็นพ่อคน""ทั้งอึ้งและช็อก แต่หลังจากนั้นก็ดีใจและตื่นเต้นที่ตัวเองกำลังมีลูก""ตอนแรกเซียร์คิดว่าพี่เดย์จะรับไม่ได้ที่มีลูกกับเซียร์ซะอีก" เธอพูดออกมาเสียงแผ่ว ก่อนหน้าที่เขาพาเธอไปโรงพยาบาล เธอแอบกลัวว่าถ้าผลออกมาว่าเธอท้อง อังเดรอาจจะรับไม่ได้ คงทิ้งเธอและลูกไป แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่อย
"ความจริงแล้วเธอไม่เคยรักฉันข้างเดียวเลยนะ"กึก...สิ่งที่อังเดรได้เอื้อนเอ่ยออกมาทำให้ลูเซียร์ที่กำลังร้องไห้อย่างบ้าคลั่งชะงักลงไปอัตโนมัติ ใบหน้าสวยหวานเปื้อนเขรอะด้วยน้ำตาเคลื่อนมามองคู่หมั้นหนุ่มพร้อมหัวใจที่เริ่มเต้นแรงเธอไม่อยากคาดหวังอะไรจากคำพูดนั้นของเขาเลย แต่ในขณะที่อีกใจก็เผลอคาดหวังไปแล้ว แววตาที่เขากำลังมองมาต่างไปจากทุกวันโดยสิ้นเชิง จากเคยมีแค่ความว่างเปล่าและเดาอะไรไม่ได้ ตอนนี้กลับมีอีกความรู้สึกจุดประกายออกมาอย่างไม่ปิดบัง"เธอไม่เคยรักฉันแค่ข้างเดียวเลยนะลูเซียร์""มะ...หมายความว่ายังไงคะ" ตอนแรกเธอเผื่อใจเอาไว้ พยายามไม่คาดหวังมากเกินไป แต่พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ออกมา เธอกลับคาดหวังไปมากจนไม่สามารถเผื่อใจเอาไว้ได้"จอดรถก่อน" เขาหันไปสั่งไทจิไทจิเมื่อได้รับคำสั่งก็ตบไฟเลี้ยวเพื่อหาที่จอดรถ ไทจิและโซลเปิดประตูลงไปรอเจ้านายนอกรถ ปล่อยให้อังเดรและลูเซียร์ได้คุยกันตามลำพัง"จำตอนเด็กๆ ที่เธอบอกว่าอยากแต่งงานกับฉันได้ไหม""จำได้ค่ะ""หลังจากเธอกลับบ้านไป ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันไปบอกพ่อกับแม่ ว่าโตขึ้นอยากแต่งงานกับเธอ อยากใช้ชีวิตคู่กับเธอไปจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง"เธอนั่