"พี่เดย์ปล่อยเซียร์ลงเดี๋ยวนี้นะคะ~"
ลูเซียร์ร้องบอกอังเดรซึ่งกำลังอุ้มตัวเองพาดบ่าออกจากไนต์คลับท่ามกลางสายตาของแขกที่มองมาอย่างให้ความสนใจ มาเฟียหนุ่มไม่ได้สนใจสายตาคนมอง เขาเดินตวัดขามายังลานจอดรถสำหรับวีไอพี โดยมีลูเซียร์ใช้มือตีหลังเพื่อทำให้เขาปล่อยเธอ เขายัดลูเซียร์ใส่รถราวกับเธอเป็นกระสอบข้าวสาร การกระทำของลูเซียร์ตอนนั้นทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาพยายามระงับอารมณ์คุกรุ่นที่ก่อตัวขึ้นมาเพื่อไม่ให้เผลอพลั้งมือทำอะไรคู่หมั้น ถ้าเป็นคนอื่น เชื่อเถอะว่าไม่ได้มานั่งมองเขาตาหวานเยิ้มแบบนี้หรอก "พี่เดย์ขา~" "หุบปากของเธอไปซะ" ลูเซียร์ได้ฟังก็ทำปากยู่ใส่อังเดร มาเฟียหนุ่มพยายามสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อระงับอารมณ์คุกรุ่น ก่อนจะทำการคาดเข็มขัดนิรภัยให้คู่หมั้น ส่วนตัวเองเดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วเข้ามานั่งหน้าพวงมาลัยรถ "พี่เดย์~" "เลิกเรียกชื่อฉันสักที" เขาพูดด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน พยายามอดทนเป็นอย่างมากกับลูเซียร์ ไม่รู้ว่าเขาจะอดทนกับเธอได้นานแค่ไหน "ทำไมเกรี้ยวกราดจัง" "เมาแล้วก็อยู่เฉยๆ อย่าวุ่นวาย" "ใครบอกว่าเซียร์เมา ไม่ได้เมาสักหน่อย พี่เดย์นั่นแหละเมา" น้ำเสียงหย่อนยานเถียงกลับมาเฟียหนุ่ม อังเดรตวัดสายตามองลูเซียร์ด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะทำการสตาร์ตรถแล้วขับออกไปจากบริเวณนั้นสู่ถนนใหญ่ "พี่เดย์คะเซียร์ร้อน" "ฉันไม่ได้ปิดแอร์" "เซียร์ถอดเสื้อได้ไหม ร้อนไม่ไหวแล้ว" "อย่าสร้างปัญหาให้ฉัน" เขาหันไปพูดกับลูเซียร์เสียงเข้ม ลำพังแค่เธอเมาหัวราน้ำให้เขาแบกกลับก็เกินพอแล้ว นี่ยังคิดจะถอดเสื้อผ้าบนรถอีก เริ่มสงสัยแล้วว่าคู่หมั้นหรือตัวปัญหากันแน่ "ก็ในรถพี่เดย์ร้อนนิคะ" "เธอเมา" "บอกแล้วไงว่าเซียร์ไม่ได้เมา" หญิงสาวยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง มือเรียวดึงชายเสื้อกล้ามคาดิแกนที่ใส่ไว้ในกระโปรงออกแล้วเลิกขึ้นเตรียมถอดออก จนเผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบ สิ่งที่ลูเซียร์อยู่สร้างความปวดหัวให้กับอังเดรไม่น้อย เพียะ! "อ๊ะ! มาตีขาเซียร์ทำไม" เธอร้องโอดครวญเมื่อเขายื่นมือมาฟาดลงขาอ่อนจนเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้า "นั่งอยู่เฉยๆ ใกล้ถึงเพนท์เฮาส์แล้ว" "ก็เซียร์ร้อนนิคะ ขอถอดเสื้อออกก่อนไม่ได้เหรอ" "เป็นบ้ารึไงมาถอดเสื้อต่อหน้าผู้ชาย" "ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย พี่เดย์เป็นสามีในอนาคตของเซียร์ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย" "พ่อเอาใครมาเป็นคู่หมั้นกูวะเนี่ย!" เขาพึมพำออกมาคนเดียวด้วยความหัวเสีย เวลาลูเซียร์เมาช่างแตกต่างกับตอนมีสติเสียจริง ราวกับคนละคนกันเลย "เซียร์ถอดนะ~" "เงียบๆ ดิ! หนวกหู" "พี่เดย์ขึ้นเสียงใส่เซียร์เหรอ" ลูเซียร์จ้องคู่หมั้นหนุ่มตาเขม็ง ดวงตากลมโตคู่สวยแดงก่ำเตรียมร้องไห้ อังเดรถอดถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ไม่เคยรู้สึกท้อใจกับผู้หญิงคนไหนเท่าลูเซียร์มาก่อน ตอนนี้อารมณ์ที่พยายามระงับมาตลอดทางกำลังขาดผึงเพราะยัยคู่หมั้นขี้เมาคนเดียว "ถ้าเธอยังไม่หยุดทำให้ฉันรำคาญ ฉันจะจับเธอโยนลงทางด่วนให้รู้แล้วรู้รอดไป" "เซียร์เป็นคู่หมั้นนะ กล้าทำเหรอ" "ก็แค่คู่หมั้นไม่ใช่แม่ ทำไมต้องไม่กล้า" "ใจร้าย..." "ถ้าขืนเธอร้องไห้ออกมาแอะเดียว ฉันเอากระสุนปืนอุดปากเธอแน่" เขาเบือนใบหน้ามามองลูเซียร์ที่นั่งทำตาแป๋วมองเขาราวกับเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง ตลอดทางลูเซียร์ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร เธอสงบลงจนเป็นพลอยทำให้อารมณ์คุกรุ่นของมาเฟียหนุ่มลดลง ใช้เวลาไม่นานรถหรูก็ขับมาถึงเพนท์เฮาส์ สายตาคมเข้มพลันมามองลูเซียร์ ซึ่งตอนนี้กำลังหลับปุ๋ยอยู่ เขาเปิดประตูลงรถออกแล้วลงจากรถเดินตรงไปยังฝั่งของเธอ เขาอุ้มลูเซียร์ออกมาในท่าเจ้าสาว "อื้อ~ ถึงแล้วเหรอคะ" คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย "ตื่นแล้วก็ดี จะได้เดินเอง" "ไม่เอา พี่เดย์อุ้ม" "อย่าเรื่องเยอะ" "พี่เดย์อุ้ม" ลูเซียร์พูดแล้วมองอังเดรตาแป๋ว มาเฟียหนุ่มถอนหายใจออกมาอีกรอบ ไม่รู้วันนี้เขาถอนหายใจให้กับคู่หมั้นจอมวุ่นวายกี่รอบแล้ว เขายอมอุ้มลูเซียร์ขึ้นไปเพนท์เฮาส์เพื่อตัดความรำคาญ ติ้ง~ ประตูลิฟต์เปิดออกหลังจากถึงชั้นเป้าหมาย มาเฟียหนุ่มทำการกดรหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป ก่อนจะโยนลูเซียร์ลงโซฟาอย่างไม่เบามือ ตุ้บ! "โอ๊ย! ทำไมพี่เดย์รุนแรงกับเซียร์จัง" หญิงสาวบ่นให้คู่หมั้นหนุ่มด้วยใบหน้าเง้างอ "คราวหลังถ้ารู้ว่าคออ่อนก็ไม่ควรดื่มเยอะ มันเป็นภาระให้คนอื่น" "คนอื่นที่ไหนคะ พี่เดย์เป็นคู่หมั้นของเซียร์ลืมไปแล้วเหรอคะ" อังเดรขี้เกียจเถียงลูเซียร์ เขาเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบเบียร์กระป๋องออกมาดื่มให้หายหงุดหงิด ก่อนที่สายตาจะพลันเห็นหญิงสาวเดินหายเข้าไปในห้องนอนตัวเอง "ตัววุ่นวายจริงๆ" เขาวางกระป๋องเบียร์ลงเคาน์เตอร์ครัว เดินตามลูเซียร์ที่เพิ่งเดินหายเข้าไปในห้องนอนตนอย่างถือวิสาสะ เขาจับแขนเธอเอาไว้แล้วดึงให้เธอหมุนตัวกลับมาหา หมับ "อ๊ะ!" "ออกไปจากห้องนอนฉัน" น้ำเสียงนิ่งเรียบ แววตาที่ใช้มองคู่หมั้นสาวเต็มไปด้วยความไม่พอใจ "คืนนี้เซียร์ขอนอนด้วยคนนะคะ" "กลับไปนอนห้องของเธอ" "ไม่เอา เซียร์จะนอนห้องพี่เดย์" เธอเลื่อนสองมือขึ้นมาดันแผงอกหนาของอังเดร ด้วยความที่แรงเธอมีนิดเดียวทำให้ไม่สามารถทำอะไรคนตัวโตได้ "อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอ" "เซียร์จะนอนกับพี่เดย์" "ออกมานี่" เขาลากลูเซียร์ออกจากห้องนอนตัวเอง แต่ทว่ากลับโดนเธอกัดแขน เธออาศัยจังหวะที่เขาเผลอปล่อยวิ่งแจ้นขึ้นไปบนเตียงนอนที่เขาหวงแหน "เซียร์จะนอนกับพี่เดย์" "ลงมา" เขากดเสียงต่ำบอกลูเซียร์ "ไม่เอา เซียร์จะนอนกับพี่เดย์" คำตอบของลูเซียร์เรียกรอยยิ้มร้ายกาจบนริมฝีปากหยักได้รูปของอังเดรให้ปรากฏขึ้นมา เขาเดินตรงเข้าไปหาลูเซียร์ซึ่งนั่งขัดตะหมาดบนเตียงนอนจ้องมองเขา "แน่ใจนะว่าจะนอนกับฉัน?" อังเดรเริ่มถามคำถามกำกวมกับคู่หมั้นสาว "แน่ใจค่ะ" "คิดดีแล้วใช่ไหม?" "เซียร์จะนอนกับพี่เดย์" นัยน์ตาสีดำจุดประกายความร้ายกาจดั่งเสือร้ายกำลังมองเหยื่อที่เดินมาติดกับดัก "หึ อย่าเปลี่ยนใจทีหลังก็แล้วกัน"หนึ่งอาทิตย์ต่อมาหมับลูเซียร์เดินเข้ามากอดคนรักซึ่งกำลังยืนทำอาหารเช้าในห้องครัว "หอมจัง..." "ตื่นแล้วเหรอ" เขาหันไปพูดกับลูเซียร์ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะดึงสายตากลับมามองข้าวต้มกุ้งซึ่งเป็นของโปรดคนข้างหลัง"ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกเซียร์ล่ะคะ""เห็นเซียร์กำลังหลับสบายเลยไม่อยากกวน"เธอไม่ตอบอะไรอีกฝ่ายกลับ ยืนชะโงกใบหน้ามองข้าวต้มกุ้งที่อังเดรกำลังทำอย่างตั้งใจเงียบๆ ระหว่างนั้นก็แอบลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของคนรักเป็นระยะด้วยความหลงใหลเธออยากเก็บเขาไว้ดูแบบนี้คนเดียว เวลาเห็นผู้หญิงมองเขาอย่างให้ความสนใจ เธอก็อดเกิดอาการหวงขึ้นมาไม่ได้"เซียร์ไปนั่งรอที่โต๊ะนะ เดี๋ยวพี่ยกข้าวต้มไปให้""เซียร์อยากช่วยถือ""ไปนั่งรอ เดี๋ยวพี่ทำเอง" "กลัวเซียร์ซุ่มซ่ามทำถ้วยข้าวต้มหลุดมือเหรอคะ" "หึ...เปล่า แค่ไม่อยากให้ทำเพราะพี่อยากทำให้ ตอนนี้เซียร์กำลังท้องอยู่ อุ้มท้องอย่างเดียวก็พอ เดี๋ยวอย่างอื่นพี่ทำให้เอง""น่ารักจัง" เธอพูดด้วยรอยยิ้ม อังเดรหมุนตัวกลับมาหาคนตัวเล็ก มองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปหาแล้วประทับริมฝีปากลงหน้าผากบาง สัมผัสอ่อนโยนจากมาเฟียหนุ่มพล
หลายวันต่อมา@บริษัทอังเดรแกร๊กลูเซียร์เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของอังเดรหลังจากที่ขอเขาลงไปซื้อของกิน ริมฝีปากสีระเรื่อเตรียมขยับเพื่อทักทายคนรัก แต่ทว่าต้องชะงักเมื่อสายตามองเห็นเขากำลังนั่งคุยกับอนาคินคนเป็นพ่อ จากที่ต้องทักทายอังเดร กลับกลายเป็นทักทายพ่อคนรักแทน"สวัสดีค่ะคุณละ...เอ่อ..คุณพ่อ" เธอเกือบพลั้งปากเรียกอนาคินว่า 'คุณลุง' อย่างที่เคยเรียกชินปาก ดีที่ดึงสติกลับมาได้ทันจึงไม่ได้เอ่ยคำๆ นั้นออกมา"หนูเซียร์ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ""ค่ะ พอดีว่าเซียร์ลงไปซื้อของกินมาน่ะค่ะ""อืม ได้ยินอังเดรบอกว่าทั้งสองคนคืนดีกันแล้วเหรอ""ใช่ค่ะ พี่เดย์เขาบินไปง้อเซียร์ถึงนิวยอร์กเลย""อะแฮ่ม.." เขากระแอมในลำคอเพื่อปรามไม่ให้ลูเซียร์พูดถึงเรื่องนั้น แต่คงไม่ทันการณ์เสียแล้ว"หนูเซียร์มานั่งเล่าตอนเจ้าเดย์ง้อให้พ่อฟังทีสิ นานๆ ทีจะเห็นลูกชายง้อผู้หญิง""ได้ค่ะ" เธอยิ้มและตอบรับอย่างไม่ปฏิเสธโดยไม่สนใจสีหน้าที่กำลังไม่พอใจของอังเดร ในอดีตเขาทำกับเธอไว้เยอะ คราวนี้ตาเธอเอาคืนแล้ว"ถ้าพ่อหมดธุระกับผมแล้วก็กลับไปได้แล้ว""ฉันยังไม่อยากกลับ นานๆ ทีจะมาบริษัทแก ขออยู่นานๆ ก่อนสิ" อนาคินหันไปมองลู
วันต่อมาลูเซียร์นั่งมองคนเป็นพ่อซึ่งกำลังเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์กับคนรักใหม่ด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์และรู้สึกเสียดาย การหย่าร้างของพ่อแม่ในครั้งนี้ แม้ว่าทั้งสองคนจะตกลงว่ายังคงทำหน้าที่พ่อและแม่ให้เธอเหมือนเดิม มาฉลองด้วยกันทุกเทศกาลและวันสำคัญของเธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรู้สึกเสียดายช่วงเวลาดีๆ ที่ครอบครัวเคยทำด้วยกันและเกิดความคิดไม่อยากให้พ่อแต่งงานใหม่ เธอรู้ดีว่าพ่อแม่แต่งงานกันเพราะถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจับคลุมถุงชน ทั้งสองคนอาจมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่ใช่ว่าจะรักกันเหมือนคู่รักอื่นๆ ใครบอกว่าความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดของความรัก น้อยคนนักที่จะโชคดีดังคำพูดนั้นแต่ก็นะ...ในเมื่อพ่อเจอความสุขของตัวเองแล้ว เธอก็ควรยินดีและยอมรับในการตัดสินใจของพ่อ "คุณแม่ไม่รู้สึกเสียดายคุณพ่อเหรอคะ?" เธอเอ่ยถามคนเป็นแม่ซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า"แม่เคารพการตัดสินใจของพ่อ อีกอย่าง ต่อให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมก็พลอยแต่จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายนึงไม่มีความสุขเปล่าๆ""....""แม่รู้ว่าเซียร์เสียใจ พวกเราสองคนเองก็เสียใจที่ต้องให้ลูกรู้ว่าพวกเราไม่สามารถไปต่อกันได้อีกแล้ว""นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่เซียร์เห็นคุณพ
อังเดรและลูเซียร์เดินจูงมือกันเข้ามายังร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งของตัวเมืองนิวยอร์กในช่วงหนึ่งทุ่ม ทั้งสองคนเดินมาถึงห้องอาหารสำหรับวีไอพีโดยมีชายชุดดำสองคนยืนเฝ้า เมื่อชายชุดดำเห็นอังเดรและลูเซียร์มาถึงจึงเปิดประตูออกให้ทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้องอาหารวีไอพีซึ่งมีครอบครัวของลูเซียร์นั่งคอยอยู่ ความจริงเลยเวลานัดมาหลายนาทีแล้ว แต่อังเดรเกิดมีอาการคลื่นไว้อาเจียนขึ้นมากะทันหันทำให้มาเลทจากเวลานัดราวยี่สิบนาที"สวัสดีครับ" เขาเอ่ยทักทายพร้อมยกมือไหว้พ่อและแม่ของลูเซียร์ เคยเจอครอบครัวลูเซียร์มาก็หลายครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย"ขอโทษที่มาช้านะคะ""ไม่เป็นไร พ่อกับแม่ก็เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เหมือนกัน" พ่อของลูเซียร์เป็นคนเอ่ยพูด "สั่งอาหารกันแล้วเหรอคะ?""ยังเลย กะจะรอสั่งตอนเซียร์และเดย์มาถึงแล้ว" แม่ของลูเซียร์ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเห็นลูกสาวและอังเดรอยู่ด้วยกันแบบนี้เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะก่อนหน้านั้นลูเซียร์บอกว่าอยากถอนหมั้น และหลังจากจบจากงานแต่งคนเป็นพ่อ ลูเซียร์ก็จะบินไปที่ปารีสทันที แต่เหมือนว่าตอนนี้ลูกสาวเธอจะเปลี่ยนใจแล้ว...ทั้งสี่คนเริ
หมับมาเฟียหนุ่มเดินมาสวมกอดลูเซียร์ที่กำลังยืนรับลมชมวิวอยู่ระเบียงที่พักจากข้างหลัง หญิงสาวแอบสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ เพราะอีกฝ่ายมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง "คิดอะไรอยู่เหรอ""ไม่ได้คิดอะไรค่ะ แค่เห็นว่าตรงนี้วิวสวยดีเลยออกมาดู" ไออุ่นจากอ้อมกอดเขาพลอยทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่อังเดรกอดเธอด้วยความอ่อนโยนแบบนี้"กลับไทยเมื่อไหร่ เดี๋ยวพาไปฝากครรภ์นะ""ค่ะ" เธอตอบรับสั้นๆ ก่อนจะก้มมองมือหนาที่เลื่อนมาสัมผัสหน้าท้องแบนราบของเธอราวกับกำลังทักทายอีกหนึ่งชีวิตในท้อง"คิดไม่ถึงเลยว่าวันนึงจะมีลูกเป็นของตัวเอง จากเคยได้ยินลูกของตินและแม็กซ์เรียกพวกมันสองคนว่าพ่อ ใครจะคิดล่ะว่าวันนึงตัวของฉันเองก็กำลัง...กลายเป็นพ่อคนแล้วเหมือนกัน""พี่เดย์รู้สึกยังไงบ้างคะตอนที่รู้ว่ากำลังกลายเป็นพ่อคน""ทั้งอึ้งและช็อก แต่หลังจากนั้นก็ดีใจและตื่นเต้นที่ตัวเองกำลังมีลูก""ตอนแรกเซียร์คิดว่าพี่เดย์จะรับไม่ได้ที่มีลูกกับเซียร์ซะอีก" เธอพูดออกมาเสียงแผ่ว ก่อนหน้าที่เขาพาเธอไปโรงพยาบาล เธอแอบกลัวว่าถ้าผลออกมาว่าเธอท้อง อังเดรอาจจะรับไม่ได้ คงทิ้งเธอและลูกไป แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่อย
"ความจริงแล้วเธอไม่เคยรักฉันข้างเดียวเลยนะ"กึก...สิ่งที่อังเดรได้เอื้อนเอ่ยออกมาทำให้ลูเซียร์ที่กำลังร้องไห้อย่างบ้าคลั่งชะงักลงไปอัตโนมัติ ใบหน้าสวยหวานเปื้อนเขรอะด้วยน้ำตาเคลื่อนมามองคู่หมั้นหนุ่มพร้อมหัวใจที่เริ่มเต้นแรงเธอไม่อยากคาดหวังอะไรจากคำพูดนั้นของเขาเลย แต่ในขณะที่อีกใจก็เผลอคาดหวังไปแล้ว แววตาที่เขากำลังมองมาต่างไปจากทุกวันโดยสิ้นเชิง จากเคยมีแค่ความว่างเปล่าและเดาอะไรไม่ได้ ตอนนี้กลับมีอีกความรู้สึกจุดประกายออกมาอย่างไม่ปิดบัง"เธอไม่เคยรักฉันแค่ข้างเดียวเลยนะลูเซียร์""มะ...หมายความว่ายังไงคะ" ตอนแรกเธอเผื่อใจเอาไว้ พยายามไม่คาดหวังมากเกินไป แต่พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ออกมา เธอกลับคาดหวังไปมากจนไม่สามารถเผื่อใจเอาไว้ได้"จอดรถก่อน" เขาหันไปสั่งไทจิไทจิเมื่อได้รับคำสั่งก็ตบไฟเลี้ยวเพื่อหาที่จอดรถ ไทจิและโซลเปิดประตูลงไปรอเจ้านายนอกรถ ปล่อยให้อังเดรและลูเซียร์ได้คุยกันตามลำพัง"จำตอนเด็กๆ ที่เธอบอกว่าอยากแต่งงานกับฉันได้ไหม""จำได้ค่ะ""หลังจากเธอกลับบ้านไป ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันไปบอกพ่อกับแม่ ว่าโตขึ้นอยากแต่งงานกับเธอ อยากใช้ชีวิตคู่กับเธอไปจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง"เธอนั่