บทที่22.งอนดีไหมเนี้ย (เสียงถอนหายใจของโดมินิค)
วันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก นับตั้งแต่โดมินิคออกตามหาวราพิชชาจนพบแล้วพากลับมาอยู่ด้วยกัน แด๊ดและแม่ต่างก็หลงรักน้องบาสอย่างโงหัวไม่ขึ้น ในตอนแรกแด๊ดวางท่าทีเฉยเมยทำเหมือนไม่สนใจ เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน ด้วยความที่แม่หลงน้องบาสไม่ยอมห่างไปไหนวนเวียนช่วยวราพิชชาเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ จนแด๊ดเก็บอาการไม่อยู่หลุดอาการเผยออกมาให้เห็นว่าตัวเองก็อยากอุ้มหลานเหมือนกัน นับจากนั้นสองปู่กับย่าต่างก็แย่งกันเลี้ยงดูจนทำให้วราพิชชามีเวลาว่าง แต่ก็ยังทำโน้นนี่ไม่มีหยุด ไม่มีเวลามาใส่ใจโดมินิคจนโดมินิคเกิดอาการน้อยใจ แต่สาวเจ้าก็ยังไม่รู้ตัวจนโดมินิคจะงอนแล้วก็ยังไม่ยอมรู้ตัวอีก เป็นโดมินิคเสียอีกที่งอนจนเก้อโดยที่สาวน้อยไม่รู้ว่าโกรธเคืองด้วยสาเหตุใด จนสุดที่จะทนไหว ต้องหาแนวร่วมซึ่งก็ไม่พ้นแพรไหมอีกนั้นแหละ ในตอนบ่ายวันหนึ่งโดมินิคกลับมาจากที่ทำงานก่อนเวลา (สถานที่ทำงานเปลี่ยนจากทั่วโลกมาประจำอยู่เมืองไทยชั่วคราว) หลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดอยู่บ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ไปวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แพรไหมจนเธอผิดสังเกตจน
บทที่22.งอนดีไหมเนี้ย (เสียงถอนหายใจของโดมินิค)วันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก นับตั้งแต่โดมินิคออกตามหาวราพิชชาจนพบแล้วพากลับมาอยู่ด้วยกัน แด๊ดและแม่ต่างก็หลงรักน้องบาสอย่างโงหัวไม่ขึ้น ในตอนแรกแด๊ดวางท่าทีเฉยเมยทำเหมือนไม่สนใจ เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน ด้วยความที่แม่หลงน้องบาสไม่ยอมห่างไปไหนวนเวียนช่วยวราพิชชาเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ จนแด๊ดเก็บอาการไม่อยู่หลุดอาการเผยออกมาให้เห็นว่าตัวเองก็อยากอุ้มหลานเหมือนกัน นับจากนั้นสองปู่กับย่าต่างก็แย่งกันเลี้ยงดูจนทำให้วราพิชชามีเวลาว่าง แต่ก็ยังทำโน้นนี่ไม่มีหยุด ไม่มีเวลามาใส่ใจโดมินิคจนโดมินิคเกิดอาการน้อยใจ แต่สาวเจ้าก็ยังไม่รู้ตัวจนโดมินิคจะงอนแล้วก็ยังไม่ยอมรู้ตัวอีก เป็นโดมินิคเสียอีกที่งอนจนเก้อโดยที่สาวน้อยไม่รู้ว่าโกรธเคืองด้วยสาเหตุใด จนสุดที่จะทนไหว ต้องหาแนวร่วมซึ่งก็ไม่พ้นแพรไหมอีกนั้นแหละ ในตอนบ่ายวันหนึ่งโดมินิคกลับมาจากที่ทำงานก่อนเวลา (สถานที่ทำงานเปลี่ยนจากทั่วโลกมาประจำอยู่เมืองไทยชั่วคราว) หลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดอยู่บ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ไปวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แพรไหมจนเธอผิดสังเกตจน
บทที่21.นอนด้วยคนนะ(หุหุหุ)ทุกๆ คนวุ่นวายอย่างที่วราพิชชาบอกไว้ก่อนหน้านี้จริงๆ ถึงน้องบาสจะเลี้ยงง่าย กินอิ่มก็นอนหลับแต่ความที่เห่อหลาน ทำให้คุณย่ามือใหม่กับคุณพ่อที่เพิ่งจะรู้ตัวก็ไม่ยอมห่างไปไหนวนๆ เวียนๆ อยู่ใกล้ๆ จนน้องบาสนอนน้อยกว่าทุกวัน เนื่องจากมีคนคอยมาเล่นด้วย เด็กก็ห่วงเล่นจนไม่ยอมนอน คุณปู่ที่ท่าทางไม่สนใจก็ยังแวะเวียนมาดูเสมอ แม้จะไม่ได้แตะต้องเนื้อตัวเหมือนครั้งแรก แต่ถ้าได้ยินเสียงร้องไห้ออกมา ก็จะพร้อมใจกันมาดูทันที วราพิชชาไม่รู้ว่าโดมินิคตกลงอะไรกับพ่อและแม่เขา ทุกคนสมัครใจกันนอนค้างที่นี่ในคืนนี้บ้านน้อยหลังเล็กๆ แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยคนมากมาย แซมซึ่งสมัครใจนอนมาตั้งแต่เมื่อคืนก็ยังอยู่ แถมเพิ่มพ่อและแม่โดมินิคอีกในคืนนี้ช่วงบ่าย โดมินิคและแม่ของเขาหายออกไปนอกบ้านมาพักใหญ่ พอกลับมาถึงก็ขนซื้อข้าวของๆ น้องบาสเข้ามาอีก มีทั้งเสื้อผ้ารองเท้า มาถึงก็แกะห่อชื่นชมกันอยู่สองคน โดยมีเดวิดเมียงๆ มองๆ อย่างสนใจอยู่ข้างๆ ในบ้างครั้งก็หลุดวิจารณ์ออกมา เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน ก่อนจะทำเฉยเมยเหมือนเดิม ในกองของที่ซื้อมา วราพิชชาแอบเห็นกล่องน
บทที่20.เผชิญหน้า(เอาใจช่วยจ้ะ)วราพิชชาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตามเวลาปกติ ทุกทีต้องลุกออกไปเตรียมอาหารเพื่อจะใส่บาตรตอนเช้าแต่นี่โดมินิคบังคับพาตัวมาตั้งแต่เมื่อคืน เอาเธอมาทิ้งใว้ที่บ้านหลังเดิม ให้นอนกับลูกน้อยสองคนแล้วก็ไม่ได้เข้ามายุ่งวุ่นวายอะไรอีกเลย วราพิชชาลุกขึ้นมาจัดการธุระส่วนตัวจนเรียบร้อย กำลังจะออกไปจากห้องเพื่อสำรวจบ้านๆ หลังนี้ มันดูคุ้นตาเหมือนกับว่ามันเป็นบ้านหลังเดิมที่เคยอยู่ แต่บ้านหลังนั้นหลังจากที่จากมาไม่มีอุปกรณ์เลี้ยงเด็กแต่ในห้องนี้มีทั้งแปลเด็ก ที่นอนเด็ก รวมทั้งของเล่นเด็กอีกมากมายที่กองสุมกันอยู่ริมผนังห้อง ทุกชิ้นล้วนเป็นของใหม่ รวมทั้งผนังห้องที่มีลวดลายสวยงาม เหมาะสำหรับเป็นห้องนอนเด็ก เสียงเคาะประตูดังขึ้น ในขณะที่วราพิชชากำลังสำรวจดูรอบๆ ห้องที่ใช้นอนมาทั้งคืน “คุณวราครับ มีอะไรต้องการอะไรเพิ่มไหมครับ เช้านี้คุณวราจะรับอาหารเช้าแบบไหนดีครับ” เสียงแซมถามหลังจากสิ้นเสียงเคาะประตู วราพิชชาเปิดประตูก้าวออกมานอกห้อง  
บทที่18.ได้รักคืนรัง(ได้สามีลืมเพื่อนเลยนะ)นิสาปั่นจักรยานกลับจากตลาดโต้รุ่งในตอนสายๆ เพราะมัวไถลดูโน้นดูนี่จนสาย พอนึกขึ้นได้ว่า วราพิชชารออยู่ จึงรีบปั่นจักรยานกลับ สองข้างทางใบไม้เขียวชอุ่มไปหมด อากาศเย็นสบายจึงไม่รู้สึกว่าร้อนแม้จะเป็นเวลาสายแล้ว พอรถเลี้ยวพ้นมุมถนนมาอีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านที่วราพิชชาพักอาศัยอยู่ นิสาเขม้นมองอย่างแปลกใจ มีรถยนต์คันใหญ่จอดอยู่เยื้องกับตัวบ้าน ดูเหตุการณ์แล้วไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไร ไม่ทันได้นึกอะไรต่อ ก็เห็นฝรั่งตัวโตอุ้มน้องบาสออกมาจากตัวบ้าน นิสาตกใจเป็นอย่างมาก เธอรีบปั่นจักรยานมุ่งตรงไปที่ตัวบ้านสุดแรงที่มี เจ้ากรรมจักรยานก็ไม่เป็นใจให้ ดันมาโซ่หลุดพอดี ปั่นมาตั้งนานไม่เห็นเป็นอะไร พอรีบเท่านั้นแหละโซ่หลุดขึ้นมาเชียว นิสาทิ้งจักรยานลงเพราะไม่อยากเสียเวลา เธอกลัวว่าจะกลับไปช่วยเหลือวราพิชชาไม่ทัน เธอออกวิ่งด้วยแรงที่มีทั้งหมด แต่ดูเหมือนจะไม่ทัน มองไกลๆ โดมินิคฉุดกระชากวราพิชชาขึ้นรถยนต์คันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าบ้านที่เมื่อสักครู่ใหญ่มีคนของเขาอุ้มหลานของเธอขึ้นไปก่อนล่วงหน
บทที่16.เจอกันจนได้(ยุทธการง้อเมียจ้า) โดมินิคเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีความหวัง ในวันนี้ วันที่นักสืบที่ให้ติดตามความเคลื่อนไหวของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวราพิชชา โทรเข้ามาแจ้งว่า ทั้ง ผ.อ.ชลธิชาและ นิสาที่เป็นเพื่อนสนิทของวราพิชชามีทีท่าผิดปกติ ดูเหมือนจะมีข่าวแจ้งมาจากที่ไหนสักที่ ทำให้ทุกๆ คนมีความวิตกแสดงออกมาทางใบหน้าอย่างเห็นได้ชัfโดยเฉพาะนิสาถึงกับยกโทรศัพท์ขึ้นเช็กเกือบทุกชั่วโมง โดมินิคพยายามขอร้องและข่มขู่ทุกคนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร แต่เขาก็ไม่ละความหวังที่จะได้พบหน้าลูกและเมีย มันต้องมีช่องโหว่สักที่ละ คนที่ติดตามรายงานมาให้เขารับรู้ทุกๆ ชั่วโมง โดมินิคสงสัยว่าวันนี้น่าจะเป็นวันครบกำหนดคลอดของวราพิชชา เขาจึงให้นักสืบเพิ่มคนติดตามตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นสองเท่า โดมินิคอยากจะรู้ที่อยู่ของวราพิชชาก่อนที่เธอจะคลอด เขาอยากจะได้มีโอกาสเห็นตอนลูกถือกำเนิดออกมาดูโลกใบนี้อย่างใกล้ชิด แต่ความหวังที่จะได้เห็นตอนลูกเกิดดูริบหรี่เหลือเกิน ทุกคนพยายามปกปิดไม่มีใครหลุดแสดงพิรุธออกมาเลยสักคน แต่โดมินิคก็ไม่ละความพยายาม สักวันคงจะมีใครเผลอเรอหลุดพิรุธออกมาจ
บทที่14. ถึงแล้วประเทศไทย(เมียหายไปแล้ว)ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากเครื่อง โดมินิคตรงไปยังสำนักงานนักสืบด้วยความร้อนใจ เขารู้สึกเหมือนดวงใจหล่นหายไปครึ่งดวง จึงต้องรีบไปหารายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน แล้วค่อยกลับไปซักถามจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง มันต้องมีผู้หวังดีพาเมียเขาไปหลบซ่อนแน่ๆ ส่วนที่ทำงานอีกไม่นานหลังจากที่ตามหากันจนเจอทุกคนก็คงจะรู้ความจริงเองว่า วราพิชชาคือเมียของเขา เมื่อถึงที่หมายโดมินิคแทบจะกระโจนลงจากรถยนต์ไปด้วยความร้อนใจเขาเปิดประตูเข้าไปอย่างแรง ปัง เสียงประตูปิดกระแทกกันดังสนั่นไปทั้งสำนักงาน ทุกคนที่กำลังทำงานอยู่จึงเงยหน้ามามองเป็นจุดเดียวกัน เจ้าของสถานที่กุลีกุจอออกมาต้อนรับเมื่อเห็นว่าเขาเป็นใคร นักสืบรีบค้นเอกสารออกมาให้โดมินิคทันทีอย่างไม่ต้องเรียกร้อง โดมินิคมองหาที่นั่งภายในสำนักงานแล้วรีบเดินไปนั่งลงดูเอกสารตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน คมสันนักสืบเดินไปรินน้ำเย็นๆ มารับรองลูกค้าคนสำคัญ ดูจากสภาพร่าง
บทที่13.รู้ข่าวใจแทบสลายกว่าจะเคลียร์งานเคลียร์ตัวเองเรียบร้อย เวลาก็ผ่านไปหลายสัปดาห์ ช่วงนี้โดมินิคไม่ได้เปิดดู E-Mail ของนักสืบที่จ้างไว้ติดตามวราพิชชาเลย เขามัวแต่ยุ่งกับการแก้ปัญหาเรื่องของอิสเบลกว่าจะแก้ไขได้ เวลาก็ผ่านไปหลายอาทิตย์ เรื่องนี้จบลงเพราะคนของเขาสืบจนเจอว่าใครเป็นพ่อเด็ก จึงลากตัวมาจัดการเคลียร์กับอิสเบลทันที “ว่าไงเธอจะยอมรับออกมาดีๆ หรือว่าต้องให้ใช้หลักฐานที่ผมมีเอาออกมายืนยัน” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมออกมาจากปากของโดมินิค อิสเบลตกใจมาก เมื่อโดมินิคนัดมาเจรจา แต่กลับได้เจอกับคนที่คาดไม่ถึง แต่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมรับความจริง จนโดมินิคต้องขู่ว่าถ้าตรวจDNA แล้วเขาไม่ใช่พ่อเด็ก ชีวิตการเป็นดารานางแบบของเธอคงต้องจบลง โดมินิคจะทำทุกวิธีทางที่จะทำให้อิสเบล ไม่มีที่ยืนอยู่ในสังคมอีก “ผมสัญญาว่าจะทำทุกทางเพื่อจะทำให้คุณไม่มีหน้าอยู่ในสังคมนี้ได้อีก ถ้าคุณยังจะยืนยัน
บทที่12.สาเหตุ (ที่เมียหนี)วันเวลาหมุนผ่านเวียนไปเพียงไม่นานก็ผ่านไปร่วมสี่เดือนแล้ว มีข่าวทางเมืองไทยส่งมาเป็นระยะๆแต่ตัวโดมินิคติดธุระไม่สามารถเดินทางกลับไปได้ หลังจากแด๊ดออกจากโรงพยาบาล กลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน งานของโดมินิคก็มีปัญหา จึงต้องออกเดินทางไปแก้ปัญหาในหลายๆ สาขาหลายๆ ประเทศ มีทั้งปัญหาใหญ่ๆ และปัญหาหยุมหยิมกวนใจ ทั้งที่ใจจริงแล้วโดมินิคอยากจะบินกลับไปง้อเมียเต็มที โดมินิคให้คนจับตาดูวราพิชชาไว้ ก็ไม่เห็นเธอมีทีท่าอะไร ยังคงไปทำงานตามปกติ เขาจึงนอนใจว่าวราพิชชาคงจะทำตามพันธะสัญญา นักสืบที่ติดตามจะรายงานโดมินิคทุกๆ สัปดาห์ทำให้คลายความคิดถึงไปบ้าง โดมินิคจ้องมองรูปถ่ายที่แนบมากับข้อมูลของวราพิชชาที่นักสืบแนบมาอย่างพิจารณาดูจากรูปเขาไม่ได้รู้สึกไปเองว่าวราพิชชาจะดูมีน้ำมีนวลดูอวบอิ่มขึ้น ดวงหน้าหวานแลดูเศร้าสร้อยก็จริง แต่ร่างกายแข็งแรงก็ดีแล้ว ในรูปเห็นมีแต่นิสาที่เป็นเพื่อนสนิทเท่านั้น โดมินิคจึงวางใจได้ว่าไม่มีใครมาเกาะแกะกับเมียเขา แต่ตอนนี้ซิโดมินิคกำลังเจอกับปัญหาใหญ่ นางแบบมีชื่อของที่นี่คนหนึ่งติดต่อมาว่าท้องกับโดม
บทที่10.ท้องแล้วจร้า(ทำไงดี)เช้าวันใหม่วราพิชชาตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนล้า เธอจมอยู่กับความรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา จมอยู่กับน้ำตามาทั้งคืน หันมองรอบตัวข้างกายที่นอนราบเรียบเย็นเฉียบ หมอนไม่มีรอยยุบ โดมินิคคงไม่ได้กลับมานอนที่นี่ เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ ขยับก้าวลงจากเตียงด้วยร่างกายอ่อนเพลีย ความรู้สึกวิงเวียนถาโถมเข้าใส่จนต้องเกร็งตัวจับขอบเตียงไว้จนแน่น ต้องหยุดอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าเคลื่อนไหวตัวไปพักใหญ่ๆ คงเป็นเพราะช่วงนี้พักผ่อนน้อย เพราะเมื่อคืนเธอร้องไห้จนดึก เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผม ระบบภายในร่างกายปั่นป่วนลมในช่องท้องพยายามดันเอาทุกๆ สิ่งภายในออกมา วราพิชชาถลาเข้าห้องน้ำ ยืนเกาะขอบอ่างล้างหน้าจนแน่น เมื่ออาเจียนเอาน้ำรสขมๆ ที่อยู่ภายในกระเพาะอาหารออกมา เนื่องจากเมื่อตอนเย็นมีเหตุขัดใจกันกับโดมินิค วราพิชชามัวแต่เสียอกเสียใจจนไม่ได้กินอาหารเย็น ทำให้เมื่ออาเจียนจึงไม่มีอะไรออกมา เสียงอาเจียนดังอยู่พักใหญ่ จนวราพิชชาหมดแรงรูดลงไปกองอยู่ที่พื้น วราพิชชาตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อนึ