“เธอกับลูกเป็นสมบัติของฉัน ถึงเธอจะหนีไปสุดขอบฟ้ายังไงก็ไม่มีทางพ้นมือฉันหรอก ฉันต้องตามหาจนเจอนั่นแหละ ของๆ ฉันยังไงก็เป็นของฉัน” วราพิชชาจ้องหน้าคนพูด แล้วก็หลุดปากต่อว่าออกไปอย่างเหลืออด “ฉันกับลูกไม่ใช่สมบัติของคุณค่ะ แต่ฉันเป็นรอยด่างในชีวิตคุณ ที่คุณพยายามจะลบมันทิ้งต่างหากล่ะคะ” โดมินิคจ้องหน้าคนพูดอย่างโกรธปนน้อยใจ ต้องให้เขาแสดงออกแบบไหนนะเธอถึงจะเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร คนไม่เคยง้อคนอื่นคิดอย่างกลัดกลุ้มแกมวิตก ก่อนจะหันไปมองแซมการ์ดคู่ใจ แซมพยายามที่จะช่วยเจ้านายอย่างสุดความสามารถ “คุณวราและคูณหนูเป็นคนพิเศษสำหรับเจ้านายครับ เจ้านายพยายามตามหาคุณวรามานานแล้ว พอดีมีปัญหาไม่สามารถกลับมาเมืองไทยได้ตามกำหนด เพราะว่านายใหญ่ล้มป่วยพวกเราเลยต้องอยู่ดูอาการก่อน” “ไปบอกทำไมล่ะ หล่อนไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ฉันเผลอแปบเดียว เธอก็หายไป ยังไม่ทันได้บอกอะไรคิดไปเองทั้งนั้น” โดมินิคพูดเสียงสะบัด แต่ไม่ยอมมองหน้าวราพิชชา เขาเมินหน้าหนีบอกแบบงอนๆ ทำเอาคนที่ได้ยินมองเจ้านายแบบขำๆ เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายง้องอนใครมาก่อน
View Moreบทที่1.จุดกำเนิดของเรื่อง
วราพิชา มโนสา สาวน้อยวัยใสเติบโตขึ้นในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ‘อุ้มรัก’ และเพิ่งเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง กำลังพยายามหางานทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอได้อาศัยอยู่และเติบโตขึ้นมา วราพิชชาเติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าใครเป็นทั้งพ่อและแม่ เพราะเธอถูกทิ้งไว้ในโรงพยาบาล หลังจากแม่ผู้ให้กำเนิดคลอดเธอออกมา และถูกส่งต่อมาอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็ก ‘อุ้มรัก’ จนกระทั่งเติบโต อยู่ในความดูแลของสถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ แห่งนี้โดย ผอ.ชลธิชา ที่ขออุปการะไว้โดยที่วราพิชชาไม่โดนส่งไปอยู่ที่อื่นหลังจากโตเป็นสาว เหมือนเด็กคนอื่นๆ หรือเมื่อมีคนมาขอไปอุปการะ ความที่วราพิชชาว่าง่ายไม่เกี่ยงงาน เธออาสาช่วยงานทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้ จนเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของทุกๆ คนที่ทำงานอยู่ในบ้าน ’อุ้มรัก’ มีพนักงานอยู่เพียงไม่กี่คน ดั่งเช่น ป้าพิมพ์แม่ครัว ครูน้อย ครูเก๋ และก็ลุงชด รปภ.และก็ครูผู้ช่วยอีก2-3คน จนเธอสมัครงานได้งานที่ ร.ร Grand Hotels.แห่งนี้ เนื่องจากคุณอุษาที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่ที่ร.ร Grand Hotels เป็นเพื่อนกับป้าพิมพ์ๆ จึงฝากฝังมาให้ทำงานที่ร.ร Grand Hotels ได้
สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ มีภาระค่าใช้จ่ายสูงมากในแต่ละเดือน แล้วเงินเดือนจากการทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดก็ได้เยอะมากกว่า ถ้าเทียบกับทำงานสายตรงกับที่ได้ร่ำเรียนจบมา ร.ร Grand Hotels.ในขณะนั้น เปิดรับพนักงานเพิ่มขึ้น จึงทำให้วราพิชชาตัดสินใจเข้ามาทำงานทันทีที่ป้าพิมพ์เสนอแนะ วราพิชชาไม่เลือกงานจึงไม่เห็นว่าการทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดประจำร.ร.จะเป็นงานที่ต้อยต่ำ เมื่อ วราพิชชาทำงานสุจริต และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน จึงไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างดูถูก เมื่อเงินทุกบาททุกสตางค์ที่วราพิชชาได้รับมานั้นหามาด้วยลำแข้งตัวเองไม่ได้พึ่งพาใคร
ร.ร Grand Hotels.มีสาขาไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย หลังจากเข้ามาทำงานได้ไม่นาน เธอก็เป็นที่รักใคร่ของผู้ร่วมงานรวมถึงหัวหน้างานด้วย พนักงานผู้ชายหลายคนเพียรพยายามเข้ามาตีสนิท แต่ วราพิชชาไม่เคยสนใจ เงินเดือนออกก็เอาไปให้ครูน้อย เหลือติดตัวไว้นิดหน่อยพอใช้จ่ายกับเก็บออมไว้บ้าง เพราะต้องการช่วยเหลืออยากให้น้องๆ ที่สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ มีโอกาสได้เรียน จะได้มีโอกาสเหมือนที่เธอเคยได้รับมา จนวันที่เกิดเรื่องนั่นแหละ พัชรีเพื่อนร่วมงานโทรศัพท์เข้ามาขอร้องให้วรพิชชาอยู่ทำงานแทนเพราะติดธุระไม่สามารถมาทำงานตามเวลาเดิมได้
วราพิชชาจึงต้องไปทำงานแทนในคืนนั้น โดยทำหน้าที่แทนพัชรี พัชรีทำความสะอาดในโซน VIP เพราะอยู่มานาน วรพิชชาเริ่มทำงานทันทีที่ได้รับมอบหมายจนเรียบร้อยดี กำลังเตรียมตัวจะกลับ เธอเก็บอุปกรณ์ไว้ในรถอุปกรณ์ทำความสะอาด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น…
กริ๊ง... วราพิชชาเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ทันทีที่มันดังกังวานขึ้นมา
“ไม่ทราบว่าใครรับค่ะ โทรจากฟร้อนลอบบี้มีห้องโซนVIP...โทรมาแจ้ง ต้องการแม่บ้านไปเก็บเศษแก้วที่ห้อง 1023 ด่วนค่ะ”
“วราพิชชาเองจ้ะนิสา เดี๋ยววราไปจัดการให้เอง”
“อ้าว...วราเองเหรอ!!! แล้วทำไมวรายังไม่กลับบ้านละ วันนี้อยู่เวรเช้าไม่ใช่เหรอ”
“พอดีพี่พัชรีติดธุระน่ะ วราเลยต้องมาทำงานแทน”
“ยัยนั่นอีกแล้ว...ทำไมวราต้องทำงานแทนเขาตลอดเลย หัดปฏิเสธบ้างสิ ไม่อย่างนั้นก็มารบกวนอยู่เรื่อยๆ”
“บ่นเป็นยายแก่เลยนะนิสา...เดี๋ยวค่อยบ่นต่อจ้ะ ให้วราไปทำงานก่อนเดี๋ยวลูกค้าตำหนิเอาได้”
“อืม... ระวังตัวด้วยล่ะ เออ...แล้วแอบดูให้หน่อยได้ไหม ได้ข่าวว่า คุณโดม... โดมินิค ลูกชายคุณเดวิดกับคุณแพรไหมมาพักอยู่โซน VIP ดูให้หน่อยว่าเขาหล่อเหมือนในข่าวหรือเปล่า รูปตามหน้าหนังสือพิมพ์ถ่ายมาไม่ชัดเลย ว่าแต่ต้องให้นิสารอกลับพร้อมกันไหม วันนี้พี่เอกมารับด้วยนะ” นิสาพูดจบพร้อมกับหัวเราะคิกคักออกมาอย่างพอใจ
“ไม่ต้องรอหรอกจ้ะ...วราเลิกตั้งห้าทุ่มกว่าๆ ถ้านิสารอจะดึกเกินไป... วราไปก่อนนะถ้าเจอคุณโดมพรุ่งนี้จะเล่าให้นิสาฟังตอนพักกินอาหารกลางวันจ้ะ”
วราพิชชาวางโทรศัพท์ แล้วก็รีบเข็นรถอุปกรณ์ทำความสะอาดตรงไปยังลิฟต์เพื่อปฏิบัติหน้าที่...
ติ้ง...เสียงลิฟต์ดังหลังจากที่เธอกดไปยังชั้นที่ต้องการ วราพิชชาเข็นรถอุปกรณ์ทำความสะอาดออกมา พลางมองดูหมายเลขห้อง แล้วรีบเข็นรถตรงไปทันที ก่อนจะเคาะประตูและยืนรออยู่หน้าห้องอย่างสำรวม
“ขออนุญาต ทำความสะอาดค่ะ” เสียงเปิดประตูวราพิชชาจึงรีบขออนุญาตเข้าไปในห้อง
“เชิญครับ... ขอโทษด้วยนะ พอดีเจ้านายทำแก้วหล่นแตก รบกวนด้วยครับ”
วราพิชชามองคนพูด ซึ่งมีกริยานอบน้อมผิดกับรูปร่างที่ใหญ่โตตามสัญชาติ ฝรั่งผมทองตาสีฟ้าร่างกายสูงใหญ่ วราพิชชาจัดเตรียมอุปกรณ์ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง
“ทางนี้ครับ”
“ค่ะ”
วราพิชชาจับอุปกรณ์ ก้มลงเก็บเศษแก้วที่หล่นเกลื่อนอยู่บนพื้น เธอรีบเก็บเศษแก้วใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมมา ก่อนที่จะถามออกไป
“ขออนุญาตใช้ห้องน้ำด้วยนะคะ”
“เออ...”
ยังไม่ทันมีคำตอบ แต่วราพิชชาเร็วกว่า เธอก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว เพราะต้องการรีบทำงานให้เสร็จ เนื่องจากใกล้เวลาเลิกงานแล้ว เธอนำผ้าสะอาดมาชุปน้ำหมาดๆ เพื่อนำไปเช็ดเศษแก้วบนพื้น แต่ก่อนที่จะเดินออกไป ก็มีเสียงเรียกออกมาจากหลังผ้าม่านภายในห้องน้ำนั่นเอง
วราพิชชายืนตัวแข็งทื่อ สมองสั่งงานช้าลง
“หยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อยสิ” เสียงสั่งดังออกมาจากหลังผ้าม่านทึบผืนโต
วราพิชชาหันไปมองรอบตัว รีบเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ แล้วส่งให้คนหลังม่านทันที เธอรีบเดินออกจากห้องน้ำขาแทบพันกัน พลางสีหน้าตาเหยเก
แซมหัวเราะ”หึๆ…” ทันทีที่เห็นสีหน้าสาวน้อย
เมื่อวราพิชชาทำงานเสร็จเรียบร้อย กำลังเตรียมตัวจะกลับ
“แซม... ให้ใครหายาแก้ปวดให้หน่อยสิ ปวดหัวฉิบหายเลย...”
วราพิชชาอาปากค้างทันทีที่เงยหน้าขึ้นมอง เธอกำลังเก็บเศษแก้วอยู่แท้ๆ ผู้ชายตัวสูงใหญ่หุ่นล่ำมีกล้ามนิดหน่อยไม่ถึงกับเทอะทะ เขานุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวอย่างหมิ่นเหม่ มองดูแล้วน่าหวาดเสียว เพราะกลัวว่าผ้าผืนนั้นจะหลุดออกจากกัน ถ้าเขาขยับตัวแรงๆ ผมของชายหนุ่มมีสีน้ำตาลแดงยักโศกและยุ่งเหยิง ตาสีฟ้าน้ำทะเลเป็นประกาย จมูกโด่งเป็นสัน เมื่อรวมกับปากบางเฉียบได้รูป จึงทำให้รูปหน้าน่ามองยิ่งขึ้น ผิวเขาขาวๆมาก ขาวเสียจนจนสีผิวของวราพิชชาดำไปเลย ถ้าเทียบกับชายร่างใหญ่ที่ยืนโดดเด่นอยู่กลางห้อง เขาเป็นผู้ชายที่จัดอยู่ในกลุ่มหน้าตาดีมากๆ ถ้าตอนนี้นิสาได้เห็น คงต้องร้องกรี๊ดกราดอย่างสุดปลื้มใจแน่นอน
วราพิชชาคิดถึงสีหน้าของนิสาหากเผชิญหน้ากับชายหนุ่มผู้นี้ เธอจึงเสก้มหน้าอมยิ้ม โดยลืมไปว่าเธอต้องรีบออกมาจากห้องเพื่อกลับบ้าน เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงานเข้าไปทุกที
ปัง... เสียงประตูปิดตามหลัง ทันทีที่แซมเดินออกจากห้องไป เพื่อหายาแก้ปวดตามคำสั่งของเจ้านาย
“ใคร... เธอเป็นใคร แล้วเข้ามาทำไมในห้องฉัน” วราพิชชาสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เสียงตวาดกับวงหน้ากระด้างจนเจ้าตัวนึกขยาด
หนุ่มเจ้าของห้องกำลังมองมาที่วราพิชชาที่ยืนอยู่กลางห้อง
วราพิชชาจึงตอบออกไป แล้วก็รีบขยับตัวเตรียมออกจากห้องของเขาทันที
“ดิฉันแม่บ้านค่ะ...เข้ามาทำความสะอาด เรียบร้อยแล้วขออนุญาตกลับเลยนะคะ”
โดมินิคมองมาที่วราพิชชาอย่างสำรวจ ผู้หญิงคนนี้ตัวเล็กมากถ้าเทียบกับเขาเอง แต่อะไรในตัวไม่เล็กตามไปด้วยแฮะ...คะเนได้จากสายตาแล้วไม่น่าจะพลาด เมื่อเขากวาดตาสำรวจจนทั่วทั้งด้านบนและด้านล่าง ดูๆ แล้วหน้าอกน่าใจก็น่าจะซักประมาณสามหกอัพ ขนาดเกินตัวไปหน่อย แถมหน้าตายังดูเด็กมากๆถึงยี่สิบเหรอเปล่าก็ไม่รู้ได้ ปากแดงๆ ตาโตๆ โดมินิคเจอมาเยอะ ทั้งเนื้อนมไข่ แต่หากลองเด็กสาวอ่อนเยาว์ดูบ้างก็ไม่ติด เขาขี้เกียจเรียกแซม ดูแล้วลักษณะแล้วน่าจะสะอาดพอใช้ โดมินิคคิดพลาง เดินตรงเข้าไปยังจุดที่วราพิชชายืนอยู่อย่างสำรวม
“ต้องการเงินเท่าไร ถ้าเธอต้องค้างที่นี่คืนนี้ บอกแซมนะแล้วตามฉันเข้ามาในห้อง ฉันจะเข้าไปรออย่าให้นานล่ะ...ฉันไม่ชอบรออะไรนานๆ”
บอกจบโดมินิคก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องนอนทันที เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะโดนปฏิเสธ
วราพิชชากำมือเรียวจนปลายเล็บจิกเข้าไปในเนื้ออุ้งมือ เธอกัดริมฝีปากล่างจนแน่น เพื่อข่มกลั้นความโกรธ ผู้ชายมักจะมองเพศหญิงเป็นที่ระบายอารมณ์ ผู้ชายคนนี้คงใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอด ผู้หญิงที่เขาเจออาจจะเต็มใจสนองอารมณ์กลัดมันให้เขา แต่ไม่ใช่เธอ
เธอรีบเดินออกไปจากห้องทันทีอย่างฉุนเฉียว และอารมณ์โกรธที่เริ่มเดือดปุดๆ
ผ่านไปพักใหญ่ๆ ปัง… เสียงประตูเปิด ก่อนจะมีเสียงเดินย้ำเท้าเข้ามาหาเบาๆ
“ฉันคอยนานแล้วนะ เธอนั่งคำนวนเงินค่าจ้างนานไปนะ ถ้านานมากไปกว่านี้ ฉันก็ไม่ต้องการแล้วล่ะ”น้ำเสียงเย็นเฉียบตามอารมณ์กรุ่นๆ เขาเริ่มอารมณ์ไม่ดีที่สาวน้อยใช้เวลาคิดนานเกินควร
“ร้านขายยาปิดแล้วครับ เลยต้องวนรถหลายรอบ กว่าจะหาร้านขายยาที่ยังเปิดขายอยู่เจอ เลยใช้เวลานานไปหน่อยครับ” แซมรายงาน พร้อมทั้งยื่นถุงที่บรรจุยาแก้ปวดหัวให้ตามที่โดมินิคต้องการ
โดมินิคลืมตาขึ้นมอง พลางถามแซมคนสนิททันที
“ตอนเดินเข้ามาเห็น ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างนอกหรือเปล่าละ”
“...ไม่เห็นมีใครนี่ครับ”
“ฉิบ...” เสียงสบถดังรอดไรฟัน สีหน้าโดมินิคบึ้งตึงกว่าเก่า อาการปวดหัวก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง เขาปวดข้างขมับ จนต้องรีบยกมือขึ้นคลึงไปมา
“แซม ผู้หญิงที่เข้ามาในห้องฉัน หล่อนทำงานอะไร ...อยู่ที่ไหน... กับใคร...” แซมขมวดคิ้วสีหน้างุนงงกับคำถามของเจ้านาย ที่ถามออกมารัวเร็วฟังแทบไม่ทัน เลยจำเป็นต้องถามย้ำกลับไป
“ผู้หญิงที่ไหนครับ?”
“ก็คนเมื่อกี้ไง คนที่อยู่ในห้องก่อนหน้านี้น่ะ”
“อ๋อ ...เธอเป็นแม่บ้านที่นี่ครับ”
“เธอฟังภาษาอังกฤษออกไหม...”
“น่าจะได้ครับ ผมก็พูดภาษาอังกฤษกับเธอนี่ครับ”
“แล้วทำไมเธอไม่ยอมอยู่วะ” เขาบ่นพึมพำ หลังฟังคำตอบของแซมจนจบ
“อะไรนะครับ”
แซมย้อนถามออกไป สีหน้ามึนๆ กับคำสั่ง แล้วก็รีบสังเกตอาการของเจ้านาย ก่อนจะเดินไปรินน้ำสะอาดใส่แก้ว พร้อมกับเดินมายื่นแก้วน้ำกับยาที่เตรียมไว้ให้แก่โดมินิค
“ยา... ครับ”
โดมินิครับยาแก้ปวดมาโยนเข้าปาก แล้วรีบดื่มน้ำตาม แล้วจึงหันไปกำชับแซมอีกครั้งหนึ่ง
“ข้อมูลทุกอย่างที่ฉันอยากรู้ เช้าฉันต้องได้รู้นะ และต้องรู้ทันทีที่ลืมตาตื่นด้วย”
เสียงปิดประตูดังปัง หลังจากที่โดมินิคเดินเข้าไปในห้องบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวเป็นอย่างดี
“เห้อ…” แซมถอนหายใจ
“เธอไปทำอะไรให้เจ้านายโกรธนะสาวน้อย” แซมรำพึงออกมาอย่างห่วงใยสาวน้อยที่ดูหน้าตาไม่มีพิษมีภัย จากนั้นแซมก็โทรสั่งการ์ดอีกที พร้อมทั้งกำชับว่า
“ข้อมูลทุกอย่างเช้าต้องได้ทันทีที่เจ้านายตื่นนะ ไม่อย่างนั้นตายทุกคน”
คำสั่งด่วน ปั่นป่วนบรรดาการ์ดไม่น้อย ให้ข้อมูลแม่บ้านคนหนึ่งตอนกลางคืน ไม่มีรายละเอียด เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร รู้แค่ผู้หญิงตัวเล็กผมยาว แถมยังต้องการรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนกับใคร ทำไมต้องถึงเร่งด่วนขนาดนั้น แต่ไม่มีใครกล้าถามกลับ พวกเขามองหน้ากัน แล้วก็แยกย้ายไปหาข้อมูล เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้า และต้องรีบให้ทันเวลา เนื่องจากรู้ถึงความใจร้อนของโดมินิคดี
โดมินิคนอนพลิกไปพลิกมากลางเตียง แม้จะอ่อนเพลียเพราะว่าการเดินทางไกล แถมทันทีที่มาถึงเมืองไทยก็เจอเพื่อนสนิทจัดงานเซอร์ไพรส์รอไว้ชุดใหญ่ จึงเสียพลังงานในการดื่มเหล้าเคล้านารีไปมากโข
โดมินิค โดนาแวนในวัยสามสิบสองปี เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และเป็นที่กล่าวขวัญอย่างทั่วถึง เป็นคนหนุ่มมีวิสัยทัศน์ ฉลาดเฉียบคม ไหวพริบดี แก้ปัญหาเก่ง จนไม่มีสิ่งใดที่โดมินิคอยากได้แล้วจะไม่ได้ ทุกๆ สิ่งที่เขาต้องการมักจะมากองตรงหน้า แม้ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงมาก็ตาม
“ทำไมเธอไม่ยอมฉันวะ หรืออยากวโก่งค่าตัว... มีแต่คนต้องการฉัน...ให้ฟรีก็เยอะ ผู้หญิงทั่วโลกมีแต่คนอยากนอนกับฉันทั้งนั้น เธอเป็นใคร กล้าดียังไงถึงเดินหนีฉัน แถมยังกล้าปฏิเสธฉันอีก ถ้าฉันไม่ได้เธอมาครองไม่ต้องมาเรียกฉัน โดมินิค โดนาแวน ฉันต้องการสิ่งใดแล้วไม่เคยผิดหวังสักที เราจะได้เห็นดีกันแน่”
โดมินิคครุ่นคิดถึงวิธีการที่จะทำให้สาวน้อยนิรนามที่ไม่รู้จักคนนั้น ยอมสยบอยู่ตรงหน้า เมื่อคิดแผนการจัดการได้พอให้อารมณ์เย็นขึ้นมาบ้าง เขาจึงสามารถข่มตาหลับลง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าสาวน้อยวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดเขาจนหลับ อย่างที่ยังไม่มีใครสามารถทำได้มาก่อน
“อีตาเศรษฐีบ้า คนอะไรไม่รู้ เห็นคนเป็นสิ่งของ เอะอะก็จะใช้เงินซื้อ อีตาบ้าหน้าตาก็ดีไม่น่านิสัยเสียเลย คนบ้า...” วราพิชชาบ่นไปตลอดทางอยากอารมณ์เสีย เมื่อเดินหนีออกมาจากห้องโดมินิคพ้น เธอไม่รู้เลยว่าอนาคตตนที่จะถึงต้องพัวพันกับชายผู้นี้อย่างไรบ้าง
บทที่18.ได้รักคืนรัง(ได้สามีลืมเพื่อนเลยนะ)นิสาปั่นจักรยานกลับจากตลาดโต้รุ่งในตอนสายๆ เพราะมัวไถลดูโน้นดูนี่จนสาย พอนึกขึ้นได้ว่า วราพิชชารออยู่ จึงรีบปั่นจักรยานกลับ สองข้างทางใบไม้เขียวชอุ่มไปหมด อากาศเย็นสบายจึงไม่รู้สึกว่าร้อนแม้จะเป็นเวลาสายแล้ว พอรถเลี้ยวพ้นมุมถนนมาอีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านที่วราพิชชาพักอาศัยอยู่ นิสาเขม้นมองอย่างแปลกใจ มีรถยนต์คันใหญ่จอดอยู่เยื้องกับตัวบ้าน ดูเหตุการณ์แล้วไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไร ไม่ทันได้นึกอะไรต่อ ก็เห็นฝรั่งตัวโตอุ้มน้องบาสออกมาจากตัวบ้าน นิสาตกใจเป็นอย่างมาก เธอรีบปั่นจักรยานมุ่งตรงไปที่ตัวบ้านสุดแรงที่มี เจ้ากรรมจักรยานก็ไม่เป็นใจให้ ดันมาโซ่หลุดพอดี ปั่นมาตั้งนานไม่เห็นเป็นอะไร พอรีบเท่านั้นแหละโซ่หลุดขึ้นมาเชียว นิสาทิ้งจักรยานลงเพราะไม่อยากเสียเวลา เธอกลัวว่าจะกลับไปช่วยเหลือวราพิชชาไม่ทัน เธอออกวิ่งด้วยแรงที่มีทั้งหมด แต่ดูเหมือนจะไม่ทัน มองไกลๆ โดมินิคฉุดกระชากวราพิชชาขึ้นรถยนต์คันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าบ้านที่เมื่อสักครู่ใหญ่มีคนของเขาอุ้มหลานของเธอขึ้นไปก่อนล่วงหน
บทที่16.เจอกันจนได้(ยุทธการง้อเมียจ้า) โดมินิคเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีความหวัง ในวันนี้ วันที่นักสืบที่ให้ติดตามความเคลื่อนไหวของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวราพิชชา โทรเข้ามาแจ้งว่า ทั้ง ผ.อ.ชลธิชาและ นิสาที่เป็นเพื่อนสนิทของวราพิชชามีทีท่าผิดปกติ ดูเหมือนจะมีข่าวแจ้งมาจากที่ไหนสักที่ ทำให้ทุกๆ คนมีความวิตกแสดงออกมาทางใบหน้าอย่างเห็นได้ชัfโดยเฉพาะนิสาถึงกับยกโทรศัพท์ขึ้นเช็กเกือบทุกชั่วโมง โดมินิคพยายามขอร้องและข่มขู่ทุกคนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร แต่เขาก็ไม่ละความหวังที่จะได้พบหน้าลูกและเมีย มันต้องมีช่องโหว่สักที่ละ คนที่ติดตามรายงานมาให้เขารับรู้ทุกๆ ชั่วโมง โดมินิคสงสัยว่าวันนี้น่าจะเป็นวันครบกำหนดคลอดของวราพิชชา เขาจึงให้นักสืบเพิ่มคนติดตามตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นสองเท่า โดมินิคอยากจะรู้ที่อยู่ของวราพิชชาก่อนที่เธอจะคลอด เขาอยากจะได้มีโอกาสเห็นตอนลูกถือกำเนิดออกมาดูโลกใบนี้อย่างใกล้ชิด แต่ความหวังที่จะได้เห็นตอนลูกเกิดดูริบหรี่เหลือเกิน ทุกคนพยายามปกปิดไม่มีใครหลุดแสดงพิรุธออกมาเลยสักคน แต่โดมินิคก็ไม่ละความพยายาม สักวันคงจะมีใครเผลอเรอหลุดพิรุธออกมาจ
บทที่14. ถึงแล้วประเทศไทย(เมียหายไปแล้ว)ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากเครื่อง โดมินิคตรงไปยังสำนักงานนักสืบด้วยความร้อนใจ เขารู้สึกเหมือนดวงใจหล่นหายไปครึ่งดวง จึงต้องรีบไปหารายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน แล้วค่อยกลับไปซักถามจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง มันต้องมีผู้หวังดีพาเมียเขาไปหลบซ่อนแน่ๆ ส่วนที่ทำงานอีกไม่นานหลังจากที่ตามหากันจนเจอทุกคนก็คงจะรู้ความจริงเองว่า วราพิชชาคือเมียของเขา เมื่อถึงที่หมายโดมินิคแทบจะกระโจนลงจากรถยนต์ไปด้วยความร้อนใจเขาเปิดประตูเข้าไปอย่างแรง ปัง เสียงประตูปิดกระแทกกันดังสนั่นไปทั้งสำนักงาน ทุกคนที่กำลังทำงานอยู่จึงเงยหน้ามามองเป็นจุดเดียวกัน เจ้าของสถานที่กุลีกุจอออกมาต้อนรับเมื่อเห็นว่าเขาเป็นใคร นักสืบรีบค้นเอกสารออกมาให้โดมินิคทันทีอย่างไม่ต้องเรียกร้อง โดมินิคมองหาที่นั่งภายในสำนักงานแล้วรีบเดินไปนั่งลงดูเอกสารตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน คมสันนักสืบเดินไปรินน้ำเย็นๆ มารับรองลูกค้าคนสำคัญ ดูจากสภาพร่าง
บทที่13.รู้ข่าวใจแทบสลายกว่าจะเคลียร์งานเคลียร์ตัวเองเรียบร้อย เวลาก็ผ่านไปหลายสัปดาห์ ช่วงนี้โดมินิคไม่ได้เปิดดู E-Mail ของนักสืบที่จ้างไว้ติดตามวราพิชชาเลย เขามัวแต่ยุ่งกับการแก้ปัญหาเรื่องของอิสเบลกว่าจะแก้ไขได้ เวลาก็ผ่านไปหลายอาทิตย์ เรื่องนี้จบลงเพราะคนของเขาสืบจนเจอว่าใครเป็นพ่อเด็ก จึงลากตัวมาจัดการเคลียร์กับอิสเบลทันที “ว่าไงเธอจะยอมรับออกมาดีๆ หรือว่าต้องให้ใช้หลักฐานที่ผมมีเอาออกมายืนยัน” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมออกมาจากปากของโดมินิค อิสเบลตกใจมาก เมื่อโดมินิคนัดมาเจรจา แต่กลับได้เจอกับคนที่คาดไม่ถึง แต่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมรับความจริง จนโดมินิคต้องขู่ว่าถ้าตรวจDNA แล้วเขาไม่ใช่พ่อเด็ก ชีวิตการเป็นดารานางแบบของเธอคงต้องจบลง โดมินิคจะทำทุกวิธีทางที่จะทำให้อิสเบล ไม่มีที่ยืนอยู่ในสังคมอีก “ผมสัญญาว่าจะทำทุกทางเพื่อจะทำให้คุณไม่มีหน้าอยู่ในสังคมนี้ได้อีก ถ้าคุณยังจะยืนยัน
บทที่12.สาเหตุ (ที่เมียหนี)วันเวลาหมุนผ่านเวียนไปเพียงไม่นานก็ผ่านไปร่วมสี่เดือนแล้ว มีข่าวทางเมืองไทยส่งมาเป็นระยะๆแต่ตัวโดมินิคติดธุระไม่สามารถเดินทางกลับไปได้ หลังจากแด๊ดออกจากโรงพยาบาล กลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน งานของโดมินิคก็มีปัญหา จึงต้องออกเดินทางไปแก้ปัญหาในหลายๆ สาขาหลายๆ ประเทศ มีทั้งปัญหาใหญ่ๆ และปัญหาหยุมหยิมกวนใจ ทั้งที่ใจจริงแล้วโดมินิคอยากจะบินกลับไปง้อเมียเต็มที โดมินิคให้คนจับตาดูวราพิชชาไว้ ก็ไม่เห็นเธอมีทีท่าอะไร ยังคงไปทำงานตามปกติ เขาจึงนอนใจว่าวราพิชชาคงจะทำตามพันธะสัญญา นักสืบที่ติดตามจะรายงานโดมินิคทุกๆ สัปดาห์ทำให้คลายความคิดถึงไปบ้าง โดมินิคจ้องมองรูปถ่ายที่แนบมากับข้อมูลของวราพิชชาที่นักสืบแนบมาอย่างพิจารณาดูจากรูปเขาไม่ได้รู้สึกไปเองว่าวราพิชชาจะดูมีน้ำมีนวลดูอวบอิ่มขึ้น ดวงหน้าหวานแลดูเศร้าสร้อยก็จริง แต่ร่างกายแข็งแรงก็ดีแล้ว ในรูปเห็นมีแต่นิสาที่เป็นเพื่อนสนิทเท่านั้น โดมินิคจึงวางใจได้ว่าไม่มีใครมาเกาะแกะกับเมียเขา แต่ตอนนี้ซิโดมินิคกำลังเจอกับปัญหาใหญ่ นางแบบมีชื่อของที่นี่คนหนึ่งติดต่อมาว่าท้องกับโดม
บทที่10.ท้องแล้วจร้า(ทำไงดี)เช้าวันใหม่วราพิชชาตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนล้า เธอจมอยู่กับความรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา จมอยู่กับน้ำตามาทั้งคืน หันมองรอบตัวข้างกายที่นอนราบเรียบเย็นเฉียบ หมอนไม่มีรอยยุบ โดมินิคคงไม่ได้กลับมานอนที่นี่ เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ ขยับก้าวลงจากเตียงด้วยร่างกายอ่อนเพลีย ความรู้สึกวิงเวียนถาโถมเข้าใส่จนต้องเกร็งตัวจับขอบเตียงไว้จนแน่น ต้องหยุดอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าเคลื่อนไหวตัวไปพักใหญ่ๆ คงเป็นเพราะช่วงนี้พักผ่อนน้อย เพราะเมื่อคืนเธอร้องไห้จนดึก เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผม ระบบภายในร่างกายปั่นป่วนลมในช่องท้องพยายามดันเอาทุกๆ สิ่งภายในออกมา วราพิชชาถลาเข้าห้องน้ำ ยืนเกาะขอบอ่างล้างหน้าจนแน่น เมื่ออาเจียนเอาน้ำรสขมๆ ที่อยู่ภายในกระเพาะอาหารออกมา เนื่องจากเมื่อตอนเย็นมีเหตุขัดใจกันกับโดมินิค วราพิชชามัวแต่เสียอกเสียใจจนไม่ได้กินอาหารเย็น ทำให้เมื่ออาเจียนจึงไม่มีอะไรออกมา เสียงอาเจียนดังอยู่พักใหญ่ จนวราพิชชาหมดแรงรูดลงไปกองอยู่ที่พื้น วราพิชชาตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อนึ
บทที่8.ยอมจำนนโดมินิครีบตามวราพิชชา เข้าไปในห้อง หลังจากพริสากลับไปแล้ว เขาเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าวราพิชชาเตรียมตัวจะนอน เธอเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอน และกำลังนั่งหวีผมอยูหน้ากระจกเงา โดมินิคทำเนียนเดินเข้าไปถอดนาฬิกาวางลงข้างๆ เห็นวราพิชชาสะดุ้งจนตัวโยน “เตรียมน้ำให้หน่อยสิอยากอาบน้ำ…” เขาบอกแล้วก็เดินไปนั่งบนเตียงทำไม่รู้ไม่ชี้ “ค่ะ” วราพิชชารับคำ เดินเลี่ยงไปทำตามคำสั่งที่ได้รับ วราพิชชาส่งค้อนมาให้โดมินิค และเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ นึกทำร้ายร่างกายโดมินิคเป็นครั้งแรก หากเห็นเลือดคงช่วยให้อารมณ์ตนเองดีขึ้น เธอถอนใจ พยายามปลง เขาเพิ่งจะจี๋จ๋ากับผู้หญิงอื่นมา ยังมีหน้ามาป่วนเปี้ยนใกล้ๆ ให้เธอเตรียมน้ำให้อาบ พอเปิดน้ำใส่อ่างจนเต็ม วราพิชชาจึงเดินออกมาเพื่อจะบอกกับโดมินิค เป็นจังหวะเดียวกับที่โดมินิคเดินสวนเข้ามาพอดี ช
บทที่7. แผน (รัก) ร้ายวราพิชชาทำงานตามหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมายมาอย่างเลื่อนลอย ร่างกายเธอยังระบมไม่หาย อาการปวดร้าวและอ่อนเพลียจากการหักโหมที่โดมินิคเรียกร้องตลอดทั้งคืนยังคงอยู่บนตัว เธอทำได้แค่หวั่นวิตกในอนาคตที่จะถึงข้างหน้า ในวันที่ต้องลาจาก คงจะมีแค่วราพิชชาเองเท่านั้นที่ต้องเสียใจ โดมินิคนั้นรอบๆกายเขามีแต่คนมารุมล้อมเอาใจด้วยคุณสมบัติที่มี หล่อ รวย เพอร์เฟค ในทุกๆ ด้านวราพิชชายังงงๆ อยู่ เธอกับโดมินิคไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกันได้ ผู้บริหารระดับสูงกับพนักงานทำความสะอาด ที่เหมือนอยู่คนละโลก ไม่หน้าเชื่อว่าจะมาเจอกัน ใครจะไปคิดว่าโดมินิคเป็นคนชอบเอาชนะแบบนี้ วราพิชชาเองก็มีข้อเสียเปรียบ ทำให้โดมินิคเข้ามาเหยียบย่ำได้ เธอจำเป็นต้องทนก้มหน้ารับกรรมไป จนกว่าจะถึงวันที่หลุดพ้นและมีอิสระภาพอีกครั้ง ไม่แน่ว่ามันอาจจะใช้เวลาไม่นาน โดมินิคมีหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย เขาต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา โรงแรมในเครือโดโนแวนมีอยู่ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก อีกไม่นานเขาก็ต้องจากไปไปตรวจงาน อาจจะใช้เวลาไม่ครบตามกำหนดที่ตกลงกันไว้โดมินิคนั่งค
บทที่6.เจ้าของเจ้าชีวิตแต่ไม่ใช่เจ้าของหัวใจ (เหรอป่าว)วราพิชชาลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าตามเวลาปกติของตัวเอง เธอขยับตัวอย่างปวดร้าว กะพริบตาไปมาก่อนจะสะดุ้งสุดตัว รีบยันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงภายในห้องสุดหรู สภาพบนเตียงที่ยับย่น บ่งบอกเหตุการณ์ณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ผ้าห่มผืนหนากองตกอยู่ที่เอวบางทำให้คนที่เพิ่งเปิดประตูห้องน้ำออกมาชะงัก เขามองเธอด้วยแววตาละห้อยละเหี่ย วราพิชชาลดสายตามองตาม เธอรีบกระชากผ้าห่มคลุมร่างกายเปล่าเปลือยอย่างร้อนรน“ตื่นแล้วเหรอ”เธอรีบยกมือปิดปาก กลั้นเสียงกรีดร้องอยู่ใต้ผ้าห่ม น้ำตาเอ่อคลอดวงตาก่อนจะหยดลงตามหางตา เธอตกเป็นของเขาแล้วจริงๆ เพื่อทดแทนบุญคุณ บวกกับความสงสารพี่น้องภายในสถานเลี้ยงเด็ก ‘อุ้มรัก’ จากนี้ไปคงต้องก้มหน้าจำทนจนกว่าจะถึงวันที่มีอิสรภาพ“วันนี้ผมคงไม่ออกไปไหน วราละจะออกไปไหนรึเปล่า” มีเสียงอู้อี้ดังออกมาจากผ้าห่มผืนโต“วราต้องไปทำงานค่ะ ขออนุญาตใช้ห้องน้ำนะคะ”“ตามใจ ผมสั่งอาหารเช้าไว้ให้ รีบออกมากินก่อนไปท
Comments