Share

Chapter 1 บทลงโทษ

last update Last Updated: 2025-04-21 16:31:52

ตึง!

"เฟลอร์! ข้าไม่เคยบอกเจ้าแล้วหรืออย่างไร?"

หญิงสาวผมสีเงินตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความงุนงงขณะที่กำลังเลื่อนสายตาขึ้นไปมองบุรุษที่ผลักเธอจนล้มลงกับพื้น

"..เดลรอย? นายหมายความว่ายังไง-"

ชายคนนั้นมองเธอด้วยสายตาเฉียบคม เย็นชา ดั่งว่ากำลังสั่งเธอให้หุปปากของเธอไป

'เรียกองค์ชายด้วยคำไร้มารยาทอีกแล้ว'

'ตระกูลไฮปาเตียสไม่สั่งสอนมารยาทให้ลูกสาวคนที่สองเลยหรือ'

'เธอเคยอาศัยอยู่ในสลัมนี้ คงติดเป็นนิสัยป่าเถื่อนจนแก้ไม่หายแล้วสินะ'

เสียงซุบซิบรอบตัวแปรเปลี่ยนเป็นหนามพิษ เธอกวาดสายตาไปรอบๆขุนนางในงานเลี้ยง

เธอไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น

ดั่งกับเสียงซุบซิบรอบตัวเงียบลง หูของเธออื้อ ไม่ต้องการฟังคำครหารอบตัว สายตากลับไปมุ่งตรงยังสองคนตรงหน้า

มงกุฎราชกุมาร เดลรอย เดอ โยเซฟา วัลธอร์

ยืนอยู่ข้างกับ...ออโรร่า ฟอน ไฮปาเตียส พี่สาวของเธอ

พวกเขาเป็นเหมือนดั่งกับคู่พระคู่นาง ดั่งกับตัวเอกของนิยายรักโรแมนติกที่ทั้งสองจะได้ครองรักกันตลอดไปหลังจากกำจัดตัวร้ายลง

และเธอ เฟลอร์ ฟอน ไฮปาเตียส  ไม่เคยเป็นอะไรไปมากกว่า...ตัวร้ายในเรื่องนั้น

"ข้าไม่สามารถตอบรับความรู้สึกที่เจ้ามีต่อข้าได้"

 เสียงรอบตัวยิ่งดังขึ้นไปอีก สายตาของทุกคนจับจ้องมายังจุดเดียว

'อ่อ…แบบนี้นี่เอง'

'ถึงว่าทำไมองค์ชายเดลรอยถึงดูอึดอัดอยู่เรื่อยทุกๆครั้งที่อยู่ใกล้เธอ…'

'โชคดีแล้วที่เขาเลือกคุณออโรร่า'

เดลรอย...

ตลอดเวลา5ปีที่เรารู้จักกันมา

มันไม่มีค่าอะไรสำหรับนายเลยงั้นหรอ

คำมั่นสัญญา ของขวัญ รวมถึงหัวใจของฉัน

คลาสเรียนกฎหมาย การเมือง ประวัติศาสตร์ ทุกๆอย่างที่ฉันไม่ชอบ ฉันเรียนมันก็เพื่อนาย

สงคราม วิชาดาบ วิธีใช้ธนู ฉันเรียนมัน ฉันรู้ทั้งรู้ว่าร่างกายฉันไม่เหมาะกับดาบ แต่ฉันก็ยังทำมันเพื่อนาย

เวทมนตร์ที่ฉันพยายามเรียนรู้เจียนตาย ก็เพื่อนาย

ชุดทุกชุดที่ฉันใส่ ฉันตั้งใจเลือก คุณภาพที่ดีที่สุด งดงามที่สุด และหรูหราที่สุด ก็เพื่อนาย

ทุกฟรังก์ทุกซูร์ที่ฉันใช้ไป ก็เพื่อให้นายประทับใจที่สุด

นายรู้ดีมาตลอดว่าฉันรู้สึกยังไงกับนาย เดลรอย

แต่นายก็จะทิ้งมันไป ดั่งกับว่ามันไม่มีค่าอะไรงั้นหรอ

นายทิ้งมันไป..อย่างเลือดเย็น ไม่สนใจใยดีอะไรกับความรู้สึกของฉันเลยแม้แต่นิด

เดลรอย...

ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!!!

"เฟลอร์ ฟังพี่ก่อนนะ-"

หญิงสาวดวงตาสีอเมทิสต์ค่อยๆลุกยืนขึ้น ข้างกายกำหมัดแน่น ดวงตาที่แต่ก่อนเบิกกว้างจากความตกใจ ถูกแทนที่ด้วยความครุกกรุ่นที่กำลังปะทุออกมา

"ท่านพี่ออโรร่า ท่านหลบไป!"

"ห๋า-!?"

ผัวะ!

เสียงของหมัดซัดเข้าหน้าชายหนุ่มดวงตาสีขาว อย่างรุนแรงในทันทีจนเขาทรงตัวไม่อยู่ ล้มลงไปกับพื้น

ขุนนางภายในงานเริ่มแตกตื่นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

'อ-องค์ชาย!?'

'นังนี้มันบ้าไปแล้ว!'

'นี้นางกล้าโจมตีองค์ชายงั้นหรอ!?'

ชายหนุ่มดวงตาสีไข่มุกนำมือกุมหน้าตัวเองไว้แน่น ดวงตาเบิกโพลง ยังตกใจจากการกระทำของหญิงสาว

เฟลอร์ไม่พูดอะไรให้มากความ ง้างมือเตรียมที่จะตีอีกครั้ง

ฟ้าว!

อัศวินหลายคนพากันกรูเข้ามา รีบเข้าประชิดตัวของหญิงสาวนัยตาสีม่วง ยกดาบขึ้นมาและชี้ไปยังคอของเธอ

 หญิงสาวดวงตาสีชมพูไม่เคลื่อนไหวอะไร ยังอยู่นิ่ง ดวงตาเบิกโพลงขณะที่มองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความสับสน

ในความโกลาหลที่เกิดขึ้น สตรีที่เป็นต้นเหตุยืนนิ่งพร้อมกับยกมุมปากขึ้นมาด้วยความสะใจ

จนกระทั่ง

"เงียบ! งานเลี้ยงสังสรรค์วันประสูติพระเจ้าแท้ๆ พวกเจ้าโหวกเหวกโวยวายอะไรกัน!?"

เสียงทรงอำนาจตวาดลั่น

ทุกคนชะงัก

เจ้าของเสียงนั้นคือ...

ราชินีแอกเนส เดอ โยเซฟา วัลธอร์

ผู้ปกครองคนปัจจุบันของอาณาจักรวัลทอร์เรีย และมารดาของมงกุฎราชกุมารคนปัจจุบัน

เสียงก้าวเดินของราชินีแอกเนสดังไปทั่วท้องพระโรง เปลี่ยนบรรยากาศโกลาหลให้กลายเป็นเงียบสงบได้ในพริบตา

ขุนนางทั้งหมดก้มหัวคุกเข่าลงด้วยความเคารพและหวั่นเกรง ยกเว้นหญิงสาวที่เป็นต้นเหตุความโกลาหล

ราชินีแอกเนสมองภาพตรงหน้าเพียงแวบเดียว ก่อนจะยกมือขึ้นช้าๆ แล้วพูดด้วยเสียงที่ทรงอำนาจ 

“ปลดอาวุธและถอยออกไป”

เหล่าอัศวินลังเล แต่เมื่อได้รับสัญญาณจากแม่ทัพ พวกเขาก็จำใจลดดาบลงและก้าวถอยหลัง ทิ้งให้เฟลอร์ยืนเผชิญหน้ากับราชินีตามลำพัง

"เฟลอร์ ฟอน ไฮปาเตียส"

ราชินีเอ่ยเสียงเรียบ ไม่ใช่ด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่ก็ไม่ใช่ความเอ็นดู

เสียงนั้นเต็มไปด้วยแรงกดดันจนใครหลายคนในห้องอดตัวสั่นไม่ได้

“เจ้าใช้กำลังกับองค์รัชทายาท ท่ามกลางงานเลี้ยงของราชสำนัก แถมยังทำภายในวันประสูติพระเจ้า”

เสียงกระซิบเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง

‘จบแล้วแน่ๆ’

‘ราชินีต้องไม่ไว้หน้าแน่นอน’

‘แม้นางจะเป็นลูกของตระกูลดยุก แต่ก็ไม่พ้นโทษสินะ’

"เฟลอร์ ข้าจะไม่ประหารเจ้า เพื่อเห็นแก่สายสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์วัลธอร์กับตระกูลไฮปาเตียส"

เสียงกระซิบเงียบลงทันที

องค์ชายเดลรอยหันหน้ามาทางราชินีแอกเนสด้วยความตกใจ

"ท่านแม่-"

"เงียบ!"

เขาเงียบไป ยังมองมารดาของเขาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจในการกระทำของเธอ

ราชินีพูดต่อโดยไม่สนใจสายตาลูกชายของตน

“แต่ในฐานะคนที่บังอาจทำร้ายองค์ชายรัชทายาทต่อหน้าสาธารณชน งานเลี้ยงวันประสูติพระเจ้า ไม่มีใครจะรอดพ้นจากความผิดได้แม้แต่เจ้าก็ตาม"

"...ฝ่าบาท"

"โทษของเจ้าสำหรับการกระทำที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ ใช้กำลังในงานเลี้ยงราชสำนัก ข้าจะลงโทษเจ้าให้ไปอยู่ในดันเจี้ยน ฝึกควบคุมพลังและจิตใจของเจ้าเป็นเวลา 3 เดือน"

“และในระหว่างนั้น เจ้าจะต้องไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานสังคมใดๆ ของราชวงศ์ทั้งสิ้น”

ทุกคนในงานพากันตะลึงกับบทลงโทษนี้  มันไม่ใช่บทลงโทษที่เบา แต่มันก็ไม่ได้รุนแรงพอที่จะทำลายอนาคต

ราชินีแอกเนสหันหลังเดินกลับไปอย่างสง่างาม ก่อนจะกล่าวปิดท้ายโดยไม่หันกลับมา

"แต่หากเจ้ากระทำผิดอีกครั้ง คราวหน้า ข้าจะไม่เข้าข้างเจ้าเช่นนี้อีก"

เฟลอร์เผยยิ้มออกมาท่ามกลางความเงียบงันของทั้งงาน รอยยิ้มที่ไม่ใช่ยิ้มอ่อนหวานหรืออ่อนแอ แต่มันคือรอยยิ้มของคนที่เพิ่งได้ปลดพันธนาการบางอย่างในใจออก

หญิงสาวคุกเข่าลงต่อหน้าราชินีแอกเนสอย่างสง่างาม

ชุดเดรสสีชมพูปลิวระเรื่อจากแรงลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่าง เส้นผมสีเงินสว่างทอประกายสะท้อนกับแสงจากโคมระย้า

เธอยกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคงและหนักแน่น

"ขอขอบพระทัยสำหรับความเมตตา…

ขอให้พระราชินีทรงอายุยืนนานหมื่นปี"

ดันเจี้ยนงั้นหรอ? ก็เอาสิ ฉันไม่กลัวหรอกนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จะไม่ทนกับบทบาทนางร้าย [รีไรท์ตอนจบ]   Chapter 2 ดันเจี้ยนแห่งรากเหง้า(1)

    "เฟลอร์! ลูกกล้าทำแบบนั้นได้ยังไงกัน!?"เสียงสูงบาดเเก้วหูของหญิงสาวผมเทาดังขึ้น เธอคือแม่ของเฟลอร์ หัวหน้าตระกูลไฮปาเตียส อเดลีน ฟอน ไฮปาเตียสมันทำให้เฟลอร์คิดถึงเรื่องราวที่คุณครูสอนการเมืองเล่าให้เธอฟังแม่ของเธอเป็น1ใน3อัครเสนาบดีของอาณาจักรวัลทอร์เรีย ซึ่งแบ่งเป็น3เขตการดูแลแบ่งเป็น เขตตะวันออก เขตตะวันตก และเขตเมืองหลวงแม่ของเธอดูแลเขตเมืองหลวงในอดีตว่ากันว่า เธอเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเคาท์ไฮปาเตียสที่กำลังล่มสลาย จนเธอได้เข้าร่วมสงครามระหว่างอาณาจักรไกเซอร์รีสและอาณาจักรวัลทอร์เรียและได้ทำผลงานอันยิ่งใหญ่นั้นคือการนำกองทัพจนสามารถเอาชนะอาณาจักรไกเซอร์รีสได้ และได้การปรบรางวัลเป็นความมั่งคั่งอันมหาศาลและเกียรติยศอันล้นเหลือจากตระกูลเคาท์ที่ใกล้ล่มสลาย แปรเปลี่ยนเป็นตระกูลดยุคอันทรงเกียรติภายในพริบตาเดียวในวันฟ้าใสวันหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังกลับเมืองหลวงจากภารกิจ เธอได้พบรักกับลูกชายคนสุดท้องของบารอนเธอหลงในสเน่ห์และความหล่อเหลาของ ซิลเวสเตร ฟอน ซามูเอลจนโงหัวไม่ขึ้น ซิลเวสเตร ฟอน ซามูเอล ชายหนุ่มผู้งดงามราวภาพวาด มีรอยยิ้มอ่อนโยนและวาจานุ่มนวลยิ่งกว่าใคร ท่ามกลางเหล่าทหารหย

  • จะไม่ทนกับบทบาทนางร้าย [รีไรท์ตอนจบ]   Chapter 1 บทลงโทษ

    ตึง!"เฟลอร์! ข้าไม่เคยบอกเจ้าแล้วหรืออย่างไร?"หญิงสาวผมสีเงินตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความงุนงงขณะที่กำลังเลื่อนสายตาขึ้นไปมองบุรุษที่ผลักเธอจนล้มลงกับพื้น"..เดลรอย? นายหมายความว่ายังไง-"ชายคนนั้นมองเธอด้วยสายตาเฉียบคม เย็นชา ดั่งว่ากำลังสั่งเธอให้หุปปากของเธอไป'เรียกองค์ชายด้วยคำไร้มารยาทอีกแล้ว''ตระกูลไฮปาเตียสไม่สั่งสอนมารยาทให้ลูกสาวคนที่สองเลยหรือ''เธอเคยอาศัยอยู่ในสลัมนี้ คงติดเป็นนิสัยป่าเถื่อนจนแก้ไม่หายแล้วสินะ'เสียงซุบซิบรอบตัวแปรเปลี่ยนเป็นหนามพิษ เธอกวาดสายตาไปรอบๆขุนนางในงานเลี้ยงเธอไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้นดั่งกับเสียงซุบซิบรอบตัวเงียบลง หูของเธออื้อ ไม่ต้องการฟังคำครหารอบตัว สายตากลับไปมุ่งตรงยังสองคนตรงหน้ามงกุฎราชกุมาร เดลรอย เดอ โยเซฟา วัลธอร์ยืนอยู่ข้างกับ...ออโรร่า ฟอน ไฮปาเตียส พี่สาวของเธอพวกเขาเป็นเหมือนดั่งกับคู่พระคู่นาง ดั่งกับตัวเอกของนิยายรักโรแมนติกที่ทั้งสองจะได้ครองรักกันตลอดไปหลังจากกำจัดตัวร้ายลงและเธอ เฟลอร์ ฟอน ไฮปาเตียส ไม่เคยเป็นอะไรไปมากกว่า...ตัวร้ายในเรื่องนั้น"ข้าไม่สามารถตอบรับความรู้สึกที่เจ้ามีต่อข้าได้" เสียงรอบตัวยิ่งดัง

  • จะไม่ทนกับบทบาทนางร้าย [รีไรท์ตอนจบ]   ปฐมบท นิทานก่อนนอน

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในอาณาจักรที่ชื่อว่า วัลทอร์เรียภายในนั้น มีตระกูลหนึ่งนามว่า ไฮปาเตียสตระกูลขุนนางผู้มั่งคั่ง สูงศักดิ์ และเปี่ยมไปด้วยเกียรติยศ ในวันที่ท้องฟ้าสว่างไสว ราวกับมีบิดาแห่งแสงส่องยิ้มมาให้ เสียงระฆังดังขึ้นทั่วเมือง ราวกับเป็นการประกาศว่า 'ปาฏิหาริย์ได้ถือกำเนิดแล้ว'เด็กหญิงคนหนึ่งลืมตาดูโลก เธอมีเส้นผมสีเงินจาง ราวกับเสี้ยวจันทร์บนฟากฟ้า ดวงตาสีม่วงอ่อนล้ำลึก ประหนึ่งเก็บดวงดาวเอาไว้จากทั้งจักรวาล“ลูกสาวของพ่อ จะต้องเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลก” เสียงหัวเราะของพ่อดังระงมราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ แม่อุ้มเธอไว้แนบอก แนบหัวใจ กล่อมเธอด้วยมือที่อ่อนโยนกว่าดอกไม้แรกแย้ม พร้อมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นยิ่งกว่าแสงตะวันยามเช้า ส่วนพี่สาวของเธอ... หญิงสาวผู้สมบูรณ์แบบ ผมทองราวแสงอรุณ ยืนมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน และไกลเกินเอื้อมในเวลาเดียวกันแต่แล้ว... ในค่ำคืนที่ทุกคนหลับใหลไปพร้อมกับความสุข เด็กสาวผมสีเงินก็หายไปเงียบเชียบ... ไร้เสียงกรีดร้อง... ไร้ร่องรอยให้ติดตาม... ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปจากโลกนี้ได้อย่างไร ไม่มีใครรู้ว่าใครลักพาเธ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status