หนูนาทำตามแต่ก็ส่งคำสั่งต่อไปด้วยทันที “ราย...ละเอียด...อื้ม!” หนูนาครางออกมาเมื่อปีเตอร์เข้าไปในตัวเธอ แต่เธอยังไม่ยอมขยับ แต่รับรู้ตัวตนที่คับแน่นในตัวเธอ
“เจซี...ไม่ใช่คนรักของผม...ขยับ...ที่รัก...ได้โปรด” ปีเตอร์ให้รายละเอียดพร้อมทั้งอ้อนวอน มือทั้งสองข้างวางไว้ที่สะโพกกลมมนนั้น และนำพาให้เธอขยับตามจังหวะที่เขาอ้อนวอน
“เล่า...ต่อ” หนูนาขยับตามจังหวะมือของปีเตอร์
“เป็น...เพื่อนที่รู้จัก...กันมานาน...” ปีเตอร์เล่าพร้อมกับนอนลงไปทำให้จุดประสานแนบแน่นขึ้น “เรา...สองคนคบกัน...แต่ไม่เคยรักกัน...เร็วอีกที่รัก...อ้าร์ส...อ้าร์สสส”
“แล้ว...ทำ...ไม...เขา...ต้อง...ลัก...พา...ตัว...หนูนา...อ้าร์ส...” แต่ละคำของหนูนาช่
หนูนายืนอยู่ข้างๆ บาบาร่าข้างเตียงผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินที่ยืนมองร่างของเธอนอนอยู่เต็มไปด้วยอุปกรณ์การแพทย์มากมาย “คุณแม่หมายความว่าอย่างไรคะ” “จำไว้...ความรักของพีทจะนำทางหนูกลับมา” บาบาร่ากลับพูดอีกอย่างและเธอก็ค่อยๆหายไป “คุณแม่...คุณแม่คะ...” หนูนาพยายามเรียกท่านและฉุดรั้งท่านไว้แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะทันทีที่คุณแม่บาบาร่าหายไป ความมืดมิดก็เข้าครอบคลุมทั่วบริเวณที่เธออยู่ หนูนาหันไปทางไหนทุกอย่างคือความืดมิด และพื้นที่แห่งนี้ก็มีเพียงเธอคนเดียว “พีท...ฮือ ฮืออออ ช่วยหนูนาด้วย...หนูนากลัวเหลือเกิน” หนูนาค่อยๆนั่งลงกอดเข่าร้องไห้ หลังจากที่เธอทั้งพยายามเดินและวิ่งหาแสงสว่างแต่ก็ไร้วี่แววสิ่งที่ค้นหา&n
หนูนามองการกระทำของปีเตอร์ด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอตื่นเต้นและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดและร่วมรักกับชายคนนี้ และทันทีที่ลิ้นร้ายของสามีโลมเลียความเป็นหญิงของเธอ หนูนาเกิดอาการเกร็งและความเสียวซ่านก่อตัวขึ้นมากมาย ยามที่ ลิ้นหนานั้นละเลียดบริเวณกลีบดอกไม้งามของเธอ หนูนาร้องครางออกมาอย่างพึงพอใจและยิ่งเสียงครางของหนูนาดังมากขึ้นเท่าไหร่ก็เป็นดั่งเครื่องยนต์หล่อลื่นให้กับปีเตอร์ ทำให้เขาเร่งจังหวะของลิ้นผสมกับดูดกลืนธารน้ำจากปากถ้ำสวรรค์นั้นไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่หยดเดียว “พีท...หนูนา...ไม่ไหวแล้ว” เสียงหวานๆของภรรยาดังออกมา ปีเตอร์สอดใส่ลิ้นเข้าๆออกๆในถ้ำสวรรค์อย่างรวดเร็วและถี่ๆ เสียงครางของหนูนาร้องออกมาตลอดการกระทำนั้นสลับกับเรียกชื่อสามีที่รัก “อ่าซ์...พีท...พีท...อ้าร์ส...กรี๊ดดดดดด” และเมื่อสิ้นเสียงกรี๊ดร้องก็ตามด้วยเสียงดูดกลืนกินของปีเตอร์แทนที่ ปีเตอร์ดื่มกินสิ่งที่ดับความหิวโหยของเขาอย่างไม่เกรงใจว่าดอกกุหลาบงามนั้นจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงสดและอาจทำให้กลีบดอกบวมหนาขึ้นตามแรง
ปีเตอร์ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจถึงความเป็นห่วงจากคนรอบข้าง แต่เขาอยากเจ็บเขาอยากลงโทษตัวเอง ที่เขาไม่สามารถดูแลหนูนาให้ปลอดภัยได้ อยู่ๆ ปีเตอร์ก็คุกเข่าลงไปกับพื้นน้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาคมทั้งสองข้างอย่างไม่อาจจะเก็บกักมันได้ เพราะตอนนี้เขารู้สึกกลัวเหลือเกิน เขากลัวเหลือเกิน “หนูนา...อย่าทิ้งผมไปนะ...คุณทำให้ผมกลัวเหลือเกิน” ปีเตอร์คร่ำครวญเหมือนเด็ก จอนนี่และมาเซลมองภาพนั้นแล้วต้องเสมองไปทางอื่น เพราะทั้งสองกำลังรู้สึกสงสารชายตรงหน้าและเสียใจที่ไม่อาจช่วยอะไรได้นอกจากยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ จอนนี่ยกมือห้ามพยาบาลที่กลับมาอีกครั้งด้วยบางอย่างที่อยู่ในมือ “พีท...หนูนาไม่อยากเห็นพีทร้องไห้เลย...ฮือ ฮืออออ” หนูนานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าชายที่กำลังเสียน้ำตาปากพึมพำร้องเรียกแต่เธอ สองมือของหนูนากอบกุมที่แก้มที่ชื้นเปียกไปด้วยน้ำตาลูกผู้ชาย 
เพราะเขาเองก็มองเห็นถึงความผิดปกตินั้นเหมือนกัน แต่เวลานี้เขาต้องนำหนูนาถึงมือหมอให้เร็วที่สุด หนูนาหลับตาลงพร้อมแนบใบหน้าที่มีน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาคมนั้น ถ้าเธอต้องตายไปตอนนี้เธอก็พร้อมยอมรับเพราะเธอได้อยู่ในอ้อมกอดของสามีสุดที่รักของเธอแล้ว “เพียงแค่นี้ก็เพียงพอ” หนูนาพึมพำออกมาเบาๆ ปัง ปัง เสียงปืนกระทบกับผนังตู้คอนเทนเนอร์ดังสนั่นหวั่นไหวออกมาทุกทิศทางแต่เป้าหมายเดียวกันทันที เมื่อปีเตอร์กำลังจะออกจากตู้คอนเทนเนอร์ ทุกคนต่างหลบหาที่กำบังและหาช่องเพื่อตอบโต้กลับ “นาย!” มาเซลร้องออกมาอย่างตกใจ เพราะทั้งปีเตอร์และหนูนามีน้ำสีแดงไหลออกมาจากหัวไหล่ของปีเตอร์และจากต้นแขนของหนูนา การเคลื่อนไหวของปีเตอร์ช้าลงตอนที่โดนสาดกระสุนมาเพราะเขาคอยระมัดระวังหนูนา “คงโดนลูกหลง...ห้ามเลือดคุณนีน่าก่อน” มาเซลมองตามนั้นฉีกชายเสื้อของตัวเอง
เพราะเส้นทางหลักของเขานั้นเป็นเส้นทางปืนของนักแม่นปืนได้เป็นอย่างดี แต่ถ้านักแม่นปืนคนไหนก็ตามแต่ ที่ตัดสินใจยิงออกมาแล้วนั้นก็เป็นแสดงตำแหน่งออกมาและบอกได้เลยว่าหลังจากนั้นเพียงสามสิบวินาที จะเป็นลมหายใจสุดท้ายของนักแม่นคนนั้นทันที “ทุกคนระวังตัว...” ปีเตอร์บอกกับทุกคนและเมื่อเข้าใจกันต่างก็แยกย้ายกระจายออกไป ปีเตอร์รอสักสองสามนาทีให้ทีมของจอนนี่ และ เจฟ เคลื่อนกำลังออกไปและเขาก็ส่งสัญญาณเตรียมพร้อมและก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหวเขาหันไปทางมาเซลเพื่อยืนยันการมาถึงของรถพยาบาลที่จุดนัดหมาย ปีเตอร์มั่นใจมาเซลในการจัดการเรื่องนี้และความแน่นอนที่มีมากขึ้นเพราะทีมของนิกส์มือขวาอีกคนของเขาเป็นผู้คุ้มกันรถพยาบาลมายังจุดนัดหมาย ด้วยการวางแผนและกำลังคน ปีเตอร์คาดหวังร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ปีเตอร์ค่อนข้างมั่นใจอีกอย่างว่า คนที่แมรี่หรือชายคนรักว่าจ้างมาคงมีแค่กำลังคนแต่ไร้ฝีมือ เพราะถ้าคนมีฝีมือก็จะเป็นที่รู้จักของพ่
เพราะเขาเพียบพร้อมมากในเรื่องหน้าตาและรูปร่าง และมีอยู่วันหนึ่งที่เธอไปพบคุณเอียน ผู้จัดการเขากำลังให้รายละเอียดเพิ่มเติมกับเลขาคนใหม่แทนคนเดิมที่ขอลาออกเนื่องจากเธอแต่งงานและต้องติดตามสามีไปอยู่ที่อิตาลี่ และหนูนาเผอิญได้ยินข้อกำหนดเพิ่มเติมของปีเตอร์ว่าเขาจะไม่รับงานถ่ายแบบ เล่นหนัง และรับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของสินค้าตัวไหนทั้งสิ้น แต่เขาจะใช้สินค้าของผู้สนับสนุนในยามที่ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ เข็มขัด หมวก นาฬิกา แว่นตา และนั้นเป็นสิ่งใหม่ที่หนูนาพึ่งรู้ และเธอก็เคยถามคุณเอียน แต่คุณเอียนก็บอกเพียงแต่ว่าปีเตอร์เขาขอไว้แบบนี้ เหตุผลที่แท้จริงคืออะไรตัวคุณเอียนเองก็ไม่ทราบ แต่เขาก็บอกว่าอาจจะไม่มีอะไรซับซ้อนก็เป็นได้ เพราะปีเตอร์เขาไม่ชอบความวุ่นวายและเขาก็อยากมีเวลาส่วนตัวเหลือบ้าง “ทำไมจู่ๆถึงถามและอยากรู้ขึ้นมา” ปีเตอร์ยังไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับตั้งคำถามกลับ หนูนาจึงให้รายละเอียดตามที่ได้ยินมาบางส่วนให้ ปีเตอร์ได้รู้&nbs