แชร์

บทที่ 3 สามีคนใหม่ 2/2

ผู้เขียน: กะปอมพ่นไฟ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-15 19:20:49

“เช่นนั้นข้าแทงสูง”

หลี่หยวนจื่อวางเงินมากถึงสามร้อยตำลึงทอง ส่วนเหวินมู่หยางหยิบจำนวนเงินทั้งหมดออกมาวาง

“หากครั้งนี้ท่านชนะก็เอาเงินของข้าไปได้ทั้งหมดเลย”

“โอ้...ท่านกุนซือช่างใจป้ำเสียเหลือเกิน งั้นข้าจะบอกแล้วกันว่าอนุของข้าถึงนางจะผิวกายขาวเนียนละเอียด กลิ่นกายหอมกรุ่น แต่ใบหน้าของนางกลับอัปลักษณ์ เหตุเพราะอุบัติเหตุจากการโดนน้ำร้อนลวก แต่ข้าขอรับประกันได้เลยว่านางยังคงความบริสุทธิ์อยู่ขอรับ”

จางเฟินเยว่กำมือแน่นด้วยความโกรธ ถ้าไม่เห็นว่าครั้งนี้อู๋ซานจะมอบสัญญาการเป็นทาสของเหยาเหยามาเป็นการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ด้วย นางคงไม่ยอมมาเป็นของเดิมพันที่มีชีวิตของเขาหรอก ครั้งนี้สามีผู้นี้ยังกล้านำเรื่องของนางมาพูดราวกับจะประจานนางเสียอย่างนั้น รอให้นางหลุดพ้นจากที่นี่ไปก่อนเถิด นางจะต้องให้คนตระกูลอู๋ชดใช้อย่างสาสม

“ข้าไม่รังเกียจ เช่นนั้นเรามาต่อกันเถอะ”

จางเฟินเยว่มองเหวินมู่หยางนิ่ง นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงได้ทุ่มเงินหมดหน้าตักขนาดนี้ ที่บอกว่าไม่รังเกียจเพราะไม่สนใจ หรือไม่ให้ค่านางกันแน่

เสียงลูกเต๋าครั้งสุดท้ายดังกริ๊งได้เรียกสติของจางเฟินเยว่ให้กลับมา ก่อนที่เหวินมู่หยางจะเปิดชามกระเบื้องออกเพื่อเผยให้เหินลูกเต๋าด้านใน ลูกเต๋าสองลูกแรกออกหนึ่งแต้ม อู๋ซานก็กระหยิ่มยิ้มดีใจ ครานี้เขาจะต้องชนะเป็นแน่ แต่เมื่อแต้มของลูกเต๋าที่สามออกหนึ่งแต้มเช่นกัน เขาก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยความยินดี

“ออกสามแต้ม ครั้งนี้ข้าก็ชนะสินะ ฮ่าฮ่า”

เหวินมู่หยางหัวเราะขำ “ลูกเต๋าทั้งสามออกแต้มหนึ่งเท่ากับว่าเป็นเลขตอง ครั้งนี้ข้าชนะ”

“ฮะ! ทำไมกัน” อู๋ซานใบหน้าเลิ่กลั่ก ออกสามแต้มเขาชนะมิใช่หรือ

“นี่เจ้าไม่ได้ฟังเลยหรือ หากออกเหมือนกันทั้งสามลูก เจ้าจะเป็นฝ่ายชนะ”

หลี่หยวนจื่อไขความเข้าใจผิดของอู๋ซาน ก่อนเขาจะนำเงินมอบให้กับเหวินมู่หยาง

“ยินดีด้วย ครานี้เจ้าได้สตรีนางนี้ไปครองเสียแล้ว จวนของเจ้าก็คงจะไม่ร้างไร้สตรีเสียที”

“ขอบคุณขอรับท่านแม่ทัพ”

เหวินมู่หยางก้มศีรษะยิ้มรับ แล้วหันหน้าไปมองจางเฟินเยว่นิ่ง ดวงตาคู่คมมองสบประสานดวงตาคู่กลมโตเนิ่นนานกว่าที่เขาจะผละออกมา

“ข้าแพ้แล้ว ท่านเอานางไปได้เลยท่านกุนซือ นางมีนามว่าจางเฟินเยว่ ตอนนี้นางมิใช่อนุของข้าแล้ว”

อู๋ซานเอ่ยพลางดันหลังจางเฟินเยว่ไปหาเหวินมู่หยาง เขายื่นมือมาจับข้อมือเล็กอันแสนบอบบางนั้นด้วยความเต็มใจ

“ขอบคุณท่านมาก”

ภายในรถม้าที่มีตราประจำตระกูลเหวินกำลังมุ่งหน้ากลับจวน หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีต่างนั่งเงียบ จนบรรยากาศระหว่างทั้งสองนั้นแสนอึดอัด จางเฟินเยว่วางมือประสานกันบนตัก ก่อนจะมองสามีคนใหม่เต็มตา

กุนซือหนุ่มผู้นี้ช่างมีรูปโฉมมิสามานย์เลย องคาพยพทั้งห้าของเขาล้วนคมคายสมกับเป็นบุรุษ แต่สิ่งที่ดูน่าดึงดูดเห็นจะเป็นแววตาคมเข้มที่อยู่ภายใต้คิ้วกระบี่นั้น นางมิอาจจะละสายตาไปจากเขาได้เลย กลิ่นอายที่รายล้อมอยู่รอบตัวเขาให้ความคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด บางคราคล้ายกับคนรู้จักแต่บางคราก็ราวกับคนแปลกหน้า นางรู้สึกสับสนนัก

จางเฟินเยว่เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบที่แสนอึดอัดนี้

“ข้ามีสิ่งหนึ่งอยากขอร้องท่าน ไม่รู้ว่าท่านกุนซือที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาจะอนุญาตหรือไม่เจ้าค่ะ”

ข้าเอ่ยยกยอถึงเพียงนี้ ท่านก็รีบตอบตกลงมาเร็ว ๆ เสีย หญิงสาวครุ่นคิดในใจ

“มีสิ่งใด” คิ้วกระบี่เลิกขึ้นเป็นคำถาม

“ข้ามีสาวใช้ผู้หนึ่งที่ติดตามมาด้วย นางมีชื่อว่าเหยาเหยา หากข้าอยากพานางไปอยู่ด้วยกัน ท่านกุนซือจะว่าอย่างไรเจ้าคะ”

นางกลั้นหายใจเพื่อรอคอยคำตอบ หวังว่าเขาจะใจกว้างมากพอนะ

“ย่อมได้”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” รอยยิ้มหวานประทับไปทั่วใบหน้างาม จนดวงตาของนางเล็กหยีคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว

เหวินมู่หยางชะงักไปเล็กน้อย ตัวเขาไม่ค่อยชมชอบรอยยิ้มของสตรีนัก เพราะเขามองว่าเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้ง ปั้นแต่งจนรู้สึกอึดอัดใจ แต่กลับสตรีตรงหน้ารอยยิ้มของนางกลับดูจริงใจนัก

“เจ้าไม่คิดจะเปิดเผยใบหน้ากับข้าหรือ ถึงใบหน้าของเจ้าจะมีรอยแผล แต่ข้าเป็นบุรุษที่อยู่แต่ในสนามรบ ย่อมไม่สนใจอยู่แล้ว”

จางเฟินเยว่ชะงักค้างไปครู่ ก่อนจะค่อย ๆ ปลดผ้าคลุมหน้าออกมา ทันทีที่ผ้าคลุมหน้าหลุดออกไป เหวินมู่หยางที่เคยสุขุมกลับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

สตรีตรงหน้ามีผิวกายที่ขาวเนียนอยู่แล้ว แต่ใบหน้าของนางกลับดูขาวอมชมพูระเรื่อ แก้มทั้งสองข้างมีเลือดฝาดสีแดงที่ขับให้นางดูน่ารักอ่อนหวาน ดวงตากลมโตที่เขามองว่าน่าสนใจนั้น แวววาวคล้ายดั่งดวงตากวาง จมูกโด่งเชิดขึ้นเล็กน้อยรับกับริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อ

หากกล่าวว่านางไม่ใช่หญิงงาม เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีใครงดงามได้เท่านางอีกแล้ว ไม่คิดเลยว่าสตรีที่งดงามเช่นนี้จะเป็นเพียงอนุของอู๋ซานเท่านั้น คนผู้นั้นขึ้นชื่อว่าชมชอบสาวงามมิใช่หรือ เหตุใดจึงปล่อยให้นางหลุดมือมาถึงเขาได้กันนะ

ชายหนุ่มขบคิดจนหัวแทบจะระเบิด เขาไม่สามารถขจัดความสงสัยนี้ไปได้เลย

“เจ้า...ไม่ได้มีรอยแผลเป็นนี่” กว่าเขาจะหาเสียงของตัวเองเจอก็ผ่านไปหลายลมหายใจแล้ว

“ข้าก็ไม่ได้บอกว่าข้ามีรอยแผลเป็นนี่เจ้าคะ เป็นผู้อื่นที่คิดเช่นนั้น”

หญิงสาวหัวเราะขำกับท่าทางของเขา นางเองที่เห็นใบหน้านี้ครั้งแรกก็อดใจเต้นแรงไม่ได้

จางเฟินเยว่ผู้นี้คือโฉมสะคราญที่แท้จริง!!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จางเฟินเยว่ ยอดอนุภรรยา   บทที่ 4 สตรีของท่านกุนซือเหวิน 2/2

    ที่เรือนรับรองแขกของจวนตระกูลเหวิน เสี่ยวฮวาผู้นำสารมาแจ้งแก่ลู่เหมยฮวา และ ‘ลู่เหมยลี่’ คุณหนูรองตระกูลลู่สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหวงซ่าง นางนั้นหมายมาดต้องการจะเป็นฮูหยินเอกของเหวินมู่หยาง แต่เมื่อได้รู้ว่าเขารับอนุเข้ามาใหม่ นางก็อยากจะชมโฉมสตรีผู้นั้น จึงได้ไปชักชวนพี่สาวมาด้วยกัน คาดไม่ถึงว่าอนุคนใหม่ของเขาจะเป็นอดีตอนุของพี่เขยเสียได้“เจ้าพูดใหม่สิ นางว่าอย่างไรนะ” ลู่เหมยฮวากัดฟันกรอดด้วยความโกรธ“คะ คืออี๋เหนียงไม่สะดวกเจ้าค่ะ หากอู๋ฮูหยินกับคุณหนูรองลู่ต้องการพบจะต้องส่งเทียบเชิญมาก่อนเจ้าค่ะ”“ช่างเหิมเกริมนัก เป็นแค่อนุต่ำศักดิ์แต่กล้าให้ข้าที่เป็นถึงฮูหยินเอกต้องเขียนเทียบเชิญมาก่อนหรือ นี่มันไม่เห็นหัวข้าเลยใช่หรือไม่ คิดว่าตัวเองเป็นอนุของท่านกุนซือแล้วคิดว่าข้าจะไม่กล้าแตะต้องมันอย่างนั้นหรือ”“ท่านพี่ใจเย็นก่อนเถิดเจ้าค่ะ ตอนนี้นางคงได้ใจว่าตัวเองเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวของท่านกุนซือ หากวันใดที่น้องตกแต่งเข้ามาแล้วย่อมจัดการให้นางหลาบจำเจ้าค่ะ”ลู่เหมยลี่ที่ใจเย็นและสุขุมมากกว่าเอ่ยเตือนพี่สาว วันนี้นางเพียงแค่มาหยั่งเชิงเท่านั้น ทีนี้ก็รู้แล้วว่าสตรีผู้นี้ไม่ได้เรีย

  • จางเฟินเยว่ ยอดอนุภรรยา   บทที่ 4 สตรีของท่านกุนซือเหวิน 1/2

    บทที่ 4สตรีของท่านกุนซือเหวินรถม้าขับเข้ามาจอดที่หน้าเรือนหลักของจวนตระกูลเหวิน ท่านกุนซือก้าวลงไปเป็นคนแรก ฝ่ามือหนายื่นออกไปให้อนุคนใหม่ของเขาจับลงมือของเขาลงมา จางเฟินเยว่มองฝ่ามือที่ใหญ่ของเขาแล้วจึงยื่นมือเล็กของตนวางลงไป ร่างบอบบางของนางก้าวลงมาจากรถม้าตามการจับจูงของเขาบ่าวไพร่ที่รอรับการกลับมาของผู้เป็นประมุขอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ท่านกุนซือผู้ขึ้นชื่อไม่ชมชอบสตรีกลับพาสตรีที่งดงามกลับมาที่จวนเช่นนั้นหรือนี่ช่าง...เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจนักทันทีที่ทั้งสองยืนอยู่ด้านหน้ารถม้า เหวินมู่หยางก็เอ่ยขึ้นเสียงดังก้องเพื่อให้ทุกคนได้คลายความข้อสงสัยลง เขาต้องการให้บ่าวไพร่รับรู้ถึงฐานะของจางเฟินเยว่“พ่อบ้านโจว ช่วยพาอนุจางไปพักยังเรือนไป๋หลานด้วย ต่อไปนี้นางจะเข้ามาอยู่ในฐานะอนุของข้า เป็นเจ้านายอีกคนหนึ่ง หวังว่าทุกคนควรรู้นะว่าต้องปฏิบัติกับนางอย่างไร” ประโยคท้ายเน้นย้ำกับบ่าวไพร่ทุกคน“เข้าใจแล้วขอรับ/เจ้าค่ะ”“วันนี้เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ส่วนสาวใช้ของเจ้า ข้าจะให้คนไปรับตัวนางที่จวนตระกูลอู๋เอง”“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”จางเฟินเยว่ย่อกายคารวะสามีใหม่ด้วยความนอบน

  • จางเฟินเยว่ ยอดอนุภรรยา   บทที่ 3 สามีคนใหม่ 2/2

    “เช่นนั้นข้าแทงสูง”หลี่หยวนจื่อวางเงินมากถึงสามร้อยตำลึงทอง ส่วนเหวินมู่หยางหยิบจำนวนเงินทั้งหมดออกมาวาง“หากครั้งนี้ท่านชนะก็เอาเงินของข้าไปได้ทั้งหมดเลย”“โอ้...ท่านกุนซือช่างใจป้ำเสียเหลือเกิน งั้นข้าจะบอกแล้วกันว่าอนุของข้าถึงนางจะผิวกายขาวเนียนละเอียด กลิ่นกายหอมกรุ่น แต่ใบหน้าของนางกลับอัปลักษณ์ เหตุเพราะอุบัติเหตุจากการโดนน้ำร้อนลวก แต่ข้าขอรับประกันได้เลยว่านางยังคงความบริสุทธิ์อยู่ขอรับ”จางเฟินเยว่กำมือแน่นด้วยความโกรธ ถ้าไม่เห็นว่าครั้งนี้อู๋ซานจะมอบสัญญาการเป็นทาสของเหยาเหยามาเป็นการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ด้วย นางคงไม่ยอมมาเป็นของเดิมพันที่มีชีวิตของเขาหรอก ครั้งนี้สามีผู้นี้ยังกล้านำเรื่องของนางมาพูดราวกับจะประจานนางเสียอย่างนั้น รอให้นางหลุดพ้นจากที่นี่ไปก่อนเถิด นางจะต้องให้คนตระกูลอู๋ชดใช้อย่างสาสม“ข้าไม่รังเกียจ เช่นนั้นเรามาต่อกันเถอะ”จางเฟินเยว่มองเหวินมู่หยางนิ่ง นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงได้ทุ่มเงินหมดหน้าตักขนาดนี้ ที่บอกว่าไม่รังเกียจเพราะไม่สนใจ หรือไม่ให้ค่านางกันแน่เสียงลูกเต๋าครั้งสุดท้ายดังกริ๊งได้เรียกสติของจางเฟินเยว่ให้กลับมา ก่อนที่เหวินมู่หยางจะเปิดช

  • จางเฟินเยว่ ยอดอนุภรรยา   บทที่ 3 สามีคนใหม่ 1/2

    บทที่ 3สามีคนใหม่กระดาษแผ่นใหญ่ที่มีแต้มจุดวงกลมในแต่ละช่องนั้นมีตั้งแต่หนึ่งจุดถึงหกจุด ถูกนำมาวางกางไว้บนกลางโต๊ะตรงหน้าของบุรุษทั้งสาม ชามกระเบื้องสีขาวที่มีลวดลายดอกเหมยฮวาถูกนำมาวางตรงหน้าเหวินมู่หยาง เมื่อเปิดชามอีกใบที่ครอบอยู่นั้นจะเห็นลูกเต๋าสีเขียวหยกสามลูก ที่มีแต้มตั้งแต่หนึ่งถึงหกแกะสลักอยู่บนลูกเต๋าทั้งหกด้าน ทั้งหมดถูกนำมาวางตรงหน้าของเหวินมู่หยาง บ่งบอกว่าเขาคือเจ้ามือในการละเล่นครั้งนี้จางเฟินเยว่เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ไม่ว่าจะชามกระเบื้องที่มีลวดลายวิจิตร และลูกเต๋าทั้งสามลูกนั้น ล้วนงดงามวิจิตรจนนางประหลาดใจ นางไม่เคยเห็นอุปกรณ์การเล่นไฮโลที่งดงามและควรค่าขนาดนี้มาก่อนเลยสายตาคู่หวานมองบุรุษผู้นั้นไม่วางตา ความสงสัยภายในใจและความอยากรู้ล้วนพุ่งเป้าไปที่บุรุษที่มีกลิ่นอายไม่ธรรมดานี้...เขาเป็นใครกันแน่!“อ่า...นี่คือไฮโลที่ท่านกุนซือบอกไว้เมื่อคราวก่อนใช่หรือไม่”อู๋ซานจ้องเขม็งด้วยความสนใจ หลี่หยวนจื่อเองก็จับจ้องไม่วางตาเช่นกัน“ใช่แล้ว นี่คือเกมไฮโลที่ข้าพูดไว้เมื่อคราวก่อน การเล่นนั้นง่ายมาก ข้าซึ่งเป็นเจ้ามือจะเขย่าลูกเต๋าที่อยู่ในชามที่ปิดเอาไว้ หลังจาก

  • จางเฟินเยว่ ยอดอนุภรรยา   บทที่ 2 ของเดิมพันมีชีวิต 2/2

    อู๋ซานพลันอารมณ์เสีย เขาจำได้ว่าคืนนั้นนางร้องห่มร้องไห้ราวกับจะขาดใจตาย พอเขาใช้กำลังเข้าข่มเหง นางก็คว้าแจกันตรงหัวเตียงมาฟาดศีรษะเขาในทันที ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจไม่หายเขาผู้นี้มีแต่สตรีวิ่งเข้ามาหา หาได้ต้องง้องอนสตรีเช่นนางไม่!!“พอดีเลย คืนพรุ่งนี้พี่นัดกับท่านกุนซือเหวินกับท่านแม่ทัพ พี่จะเอานางไปเป็นของเดิมพันในเกมวันพรุ่งนี้ หากชนะพี่ก็ได้กำไร หากแพ้ก็แค่เสียอนุที่หน้าตาอัปลักษณ์ไปคนหนึ่งเท่านั้น” อู๋ซานบอกเล่าแผนการของตนเองให้ฟัง“นี่ไม่ออกจะใจร้ายกับนางเกินไปหรือเจ้าคะ ผู้ใดในเมืองหวงซ่างไม่รู้บ้างว่าท่านกุนซือเหวินรังเกียจสตรี หากท่านพี่เอานางไปวางเป็นของเดิมพัน ท่านกุนซือเหวินจะไม่มีโทสะหรือเจ้าคะ”“เขาจะว่าอะไรข้าได้ ในเมื่อไม่มีกฎว่าห้ามนำอนุมาวางเดิมพันนี่น่า เพียงแค่นางมีค่ามากพอก็ใช้ได้แล้ว ข้าจำได้ว่านางมีผิวกายที่เนียนละเอียดราวกับหยกขาวมันแพะ กอปรกับกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของนาง แค่นี้ก็มากพอแล้วล่ะ”ลู่เหมยฮวากัดฟันแน่นด้วยความหึงหวง ปากบอกว่าหลงลืมมันไปแล้ว แต่จำได้แม้กระทั่งกลิ่นกายของมันเช่นนั้นหรือ ดีล่ะ! ใช้โอกาสนี้กำจัดนางแพศยานั่นออกไปจากจวนให้สิ้นเสีย“ดีเ

  • จางเฟินเยว่ ยอดอนุภรรยา   บทที่ 2 ของเดิมพันมีชีวิต 1/2

    บทที่ 2ของเดิมพันมีชีวิต“ที่ท่านหมอกล่าวมาจริงหรือไม่ อนุเจ็ดช่างน่าสงสารนัก” น้ำเสียงกลั้วหัวเราะดังขึ้นมาจากฮูหยินใหญ่แห่งจวนตระกูลอู๋นางคือลู่เหมยฮวาผู้กุมอำนาจของเรือนหลังทั้งหมด ใบหน้าที่งดงามเย้ายวนนี้กลับซ่อนความร้ายกาจเอาไว้มากมาย ไม่ว่าสตรีนางใดของสามีล้วนแต่ต้องเกรงกลัวนางทั้งสิ้น ล้วนเป็นเพราะอำนาจของตระกูลลู่ที่หนุนหลังนาง และความเจ้าแผนการของลู่เหมยฮวาด้วย“ขอรับ ช่างน่าสงสารอนุเจ็ดนัก บาดแผลของนางพุพองเป็นอย่างมาก ข้าน้อยจ่ายยาช่วยลดอาการอักเสบแล้ว ช่วงนี้อนุเจ็ดจึงต้องเก็บตัวอยู่แต่ในเรือน ไม่รู้ว่าหากแผลหายดีแล้วจะทิ้งรอยแผลเป็นหรือไม่”ท่านหมอก้มหน้าเอ่ยตอบด้วยความนอบน้อม หากความจริงถูกเปิดเผยว่าใบหน้าอนุเจ็ดไม่มีรอยแผลเป็นก็จะมาโทษเขาไม่ได้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้บอกว่านางจะมีรอยแผลเป็น แค่บอกว่าอาจจะเท่านั้นเอง“ไม่รู้ว่าท่านพี่รู้เข้าจะว่าอย่างไร สตรีที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าช่างอัปมงคลนัก เรื่องนี้ข้าคงต้องแจ้งให้ท่านพี่ทราบโดยด่วน ขอบคุณท่านหมอมากที่รักษาอนุเจ็ดจนสุดความสามารถ”ลู่เหมยฮวาแสยะยิ้มอย่างพอใจ นางพยักหน้าให้สาวใช้ข้างกายเป็นสัญญาณว่าให้มอบรางวัลกับท่านหม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status