“ก็เมื่อวันก่อนพราวไปหาพี่พลอยที่บ้าน คุณภูเค้าบอกว่าพี่พลอยขอให้เค้ามาส่งที่นี่เพราะอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ แถมยังบอกว่าพี่พลอยไม่ยอมรับการรักษาอีกต่อไป พราวพยายามโทรหาพี่พลอยเท่าไหร่ก็ไม่ติด พอวันหยุดก็เลยขับรถมาหานี่ไง” เธออธิบายขณะทายาที่มือให้พี่สาว
“เป็นอย่างที่คุณภูพูดนั่นแหละ”
“อะไรทำให้พี่พลอยตัดสินใจแบบนี้คะ ก่อนหน้านี้ก็บอกพราวเองว่าอยากหายไวๆ จะได้รีบหางานทำแล้วก็จะได้ไม่ต้องเป็นภาระใครอีก”
“พี่...พี่ไม่อยากเป็นภาระใครตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อยากให้คุณภูต้องใช้เงินเยอะๆ เพื่อรักษาพี่อีกแล้ว แค่คุณภูส่งพราวเรียนก็พอแล้ว”
“แต่คุณภูเค้าก็เคยบอกว่าเค้าเต็มใจดูแลพวกเรานะคะ เพราะก่อนหน้านี้ครอบครัวเราก็เคยช่วยเหลือครอบครัวคุณภูตั้งเยอะ”
“พี่ไม่อยากให้เค้ามาเสียเงินรักษาพี่อีก”
“แล้วถ้าเป็นเงินของพราวล่ะคะ ถ้าพราวมีเงินพี่พลอยจะยอมรักษาต่อไหม”
พลอยฟ้านั่งเงียบก่อนจะพยักหน้าตอบ “อืม” เธอรับปากไปส่งๆ เพราะรู้ว่ายังไงน้องสาวของเธอก็ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าผ่าตัดให้เธออยู่แล้ว
พราวฝนยิ้มกว้าง อย่างน้อยตอนนี้พี่สาวของเธอก็รับปากที่จะรักษาต่อด้วยเงินของเธอ แม้จะไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมารักษาก็ตาม แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเธอก็คงมีทางออกแน่ ยังไงเธอก็จะปล่อยให้พี่สาวมีสภาพเหมือนคนพิการทางสายตาต่อไปไม่ได้
“แล้วคุณภูเค้าได้คุยอะไรกับพราวอีกรึเปล่า”
“เปล่านะคะ พี่พลอยคิดว่าเค้าจะคุยอะไรกับพราวเหรอ”
“เปล่าหรอก พี่ว่าช่วงนี้พราวอยู่ห่างๆ เค้าจะดีกว่า”
“มีอะไรรึเปล่าพี่พลอย” พราวฝนเริ่มขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกได้ว่าบทสนทนาของพี่สาวของเธอแปลกไป
“เปล่าหรอก พี่แค่ไม่อยากให้เราไปรบกวนคุณภูมากแค่นั้นเอง งานเค้าก็น่าจะยุ่งมากแล้วไม่อยากให้มีเรื่องอะไรไปกวนใจเค้าน่ะ”
“อ๋อ เรื่องนั้นพี่พลอยไม่ต้องห่วง พราวแทบจะไม่ได้ไปยุ่งกับเค้าเลย เค้าจะส่งข้อความมาบอกพราวแค่วันที่โอนเงินให้ใช้เท่านั้น”
“ดีแล้วล่ะ”
สองพี่น้องนั่งคุยกันเรื่องสัพเพเหระได้ครู่หนึ่ง จากนั้นพราวฝนก็เข้าครัวไปทำอาหารให้พี่สาว และอาหารที่รับประทานได้ตอนนี้ก็คือของแห้งเท่านั้น เธอเลยต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้พี่สาวได้รับประทานไปก่อน จากนั้นก็ขับรถไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆ เพื่อหาซื้อผลไม้มาติดตู้เย็นเอาให้คนเป็นพี่
จากนั้นก็ขับรถเข้าไปที่ร้านอาหารตามสั่งที่เธอเคยมาบ่อยๆ ตอนเด็กๆ ครั้งที่พ่อของเธอพามาบ้านพักตากอากาศก็จะมารับประทานอาหารที่ร้านนี้
พราวฝนเอาเงินที่เก็บหอมรอมริบจากการที่ได้จากภูมินทร์รายอาทิตย์มาผูกปิ่นโตกับร้านอาหารตามสั่งเป็นค่าอาหารรายอาทิตย์ เพื่อให้ร้านค้าได้เอาอาหารไปส่งให้พี่สาวของเธอทุกวัน จะได้ไม่ต้องห่วงว่าพี่สาวของเธอจะบาดเจ็บจากการทำอาหารรับประทานอีก
“ขอบใจนะพราวที่เป็นห่วงพี่” เมื่อรู้ว่าน้องสาวจัดแจงให้คนมาส่งอาหารให้ทุกวันพลอยฟ้าก็รู้สึกซึ้งในน้ำใจของน้องมาก เธอก็ไม่ได้อยากทำตัวให้น้องต้องห่วง แต่ก็ติดที่เธอต้องอยู่ที่นี่ตามคำสั่งของภูมินทร์ และไม่สามารถพูดเรื่องที่เธอประสบอยู่ในตอนนี้ได้
“เราก็เหลือกันอยู่แค่สองคน ไม่ให้พราวห่วงพี่พลอยจะให้ห่วงใคร ไว้พราวจะมาใหม่อาทิตย์หน้านะพี่พลอย อยู่ที่นี่ก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ อย่าหาเรื่องทำให้ตัวเองเจ็บตัวอีกล่ะ”
“เราก็ดูแลตัวเองให้ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องห่วงพี่หรอก ตาพี่ก็ยังพอจะมองอะไรเห็นอยู่บ้าง ไม่ได้ลำบากอะไร”
สองพี่น้องนั่งกอดกันครู่หนึ่งพราวฝนก็ถึงเวลาที่จะต้องขับรถกลับ เพราะไม่อยากขับรถในเวลาฟ้ามืด ใจของพราวฝนอยากจะคะยั้นคะยอให้พี่สาวกลับไปอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และรักษาตัวให้หาย
แต่จากการที่คุยด้วยมาทั้งวันเธอก็รู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถบังคับจิตใจพี่สาวได้ ทำได้ดีที่สุดก็คือการหาคนส่งข้าวส่งน้ำ และไปหาเพียงอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น ภาวนาว่าพี่สาวของเธอจะเปลี่ยนใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองในเร็ววัน
หญิงสาวในเดรสชุดนอนตัวยาวสีขาวยืนกอดอกหลับตาพิงขอบหน้าต่าง เธอฟังเสียงหรีดหริ่งเรไรและเสียงน้ำตกที่ไหลผ่านหลังบ้านยามค่ำคืนอยู่อย่างนั้นนิ่งๆ กำลังหวนนึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่ครอบครัวมาพักผ่อนกันที่พร้อมหน้าพร้อมตา
“คุณพ่อขา พลอยอยากให้คุณพ่อทำบ้านอยู่บนต้นไม้จังเลยค่ะ”
“พ่อคงทำให้ไม่ได้หรอกลูก ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้มาสัตว์อาศัยอยู่มากมาย หนูเห็นพวกกระรอกพวกนั้นไหม”
“เห็นค่ะ”
“ถ้าเราไปทำบ้านบนนั้น กระรอกพวกนั้นก็จะไม่มีที่วิ่งเล่นนะครับ”
“พลอยเข้าใจแล้วค่ะ พลอยไม่อยากได้แล้ว พลอยสงสารน้องกระรอก”
“เก่งมากลูก ลูกสาวของพ่อต้องเป็นคนที่มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์แล้วก็สัตว์ตัวน้อยตัวใหญ่ให้มากๆ”
“ค่ะคุณพ่อ”
บทสนทนาของเธอในวัยสิบขวบกับคนเป็นพ่อกึกก้องอยู่ในโสตประสาท เธอคิดถึงเวลาของความสุขในวันวานตอนนั้นเหลือเกิน แต่ก็ทำได้แค่รำลึกความทรงจำเท่านั้น หากตอนนี้พ่อของเธอยังอยู่ เธอก็คงไม่มาเจอเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้
“แล้วคุณก้อยจะโดนกี่คดีคะ เธอทำไปเพราะแค่ความรักคำเดียวจริงๆ”“วิธีรักในทางที่ถูกมันก็มี แต่สิ่งที่เธอทำมันคือการเห็นแก่ตัวแล้วก็โหดร้ายเกินมนุษย์ พี่เองก็เคยตกอยู่ในวังวนมืดบอดเหมือนเธอ แต่ดีที่พี่ไม่ทำร้ายพลอยจนถึงแก่ชีวิต คิดแล้วก็...”“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอดีตอีกแล้วก็ได้ค่ะ”“อืม พี่ดีใจที่พี่ปกป้องพลอยกับลูกเอาไว้ได้ ไม่อย่างงั้นพี่คงใจสลาย พักผ่อนเถอะนะ พี่จะนอนอยู่ข้างๆ พลอยไม่ห่างไปไหน” เขาค่อยๆ พาคนในอ้อมกอดลงนอนที่เตียงกว้าง“ค่ะ” พลอยฟ้าค่อยๆ หลับตาลงซุกอยู่กับอกอุ่น รู้สึกขอบคุณชายหนุ่มเหมือนกันที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยและอยากปกป้องจนเธอรู้สึกอุ่นใจได้เร็วแม้จะผ่านเรื่องร้ายๆ มาไม่ถึงวัน“นี่ถ้าพราวอยู่กับพี่พลอยตอนนั้นต้องได้ตบหน้ายัยก้อยนั่นสักทีสองทีแล้ว ดีนะที่หลานพราวไม่เป็นอะไร” พราวฝนบ่นอุกขณะนั่งเรือข้ามฝั่งไปที่เกาะพร้อมกับภควัตร ภคพลและขวัญฤดี พอรู้ว่ากวินตราก่อวีรกรรมอะไรกับพี่สาวของเธอเอาไว้บ้างก็อยากจะฉีกเนื้อยัยคนหน้าเนื้อใจเสือนั่นเป็นชิ้นๆ“โหดเหลือเกินนะคุณ” ภควัตรเพิ่งเห็นพราวฝนโมโหหนักก็ครั้งนี้ จะว่าไปเวลาหญิงสาวโกรธก็น่ากลัวสำหรับเขาอยู่เหมือนกัน
“พี่ภูคะ พี่หมอมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ บอกว่าด่วนมาก”ภูมินทร์รีบรับโทรศัพท์มือถือจากอารียาขณะที่กำลังดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดวานแต่งริมชายหาด ไม่รู้อคิณมีเรื่องด่วนอะไรจะคุยกับเขา แต่ถ้าหาดจะมาบอกว่าติดงานมาไม่ได้เขาได้เคืองแน่ เพราะก่อนหน้านี้รับปากเขาเอาไว้อย่างดิบดีแล้วว่าจะมางานแต่งให้ได้“ว่าไงคิณ อย่าบอกว่าจะมาไม่ได้นะ” เขาเอ่ยหยอกปลายสายสีหน้าระรื่น แต่เมื่อได้ยินเรื่องที่อคิณแจ้งให้ทราบก็เริ่มหน้าถอดสี“คุณก้อยเข้ามาทำอะไรในนี้คะ” พลอยฟ้าเข้าห้องนอนมาได้ก็แปลกใจที่เห็นกวินตราอยู่ในนี้ แถมเธอยังฉีกกล่องของขวัญที่เธอเตรียมเอาไว้ให้ภูมินทร์ยับยู่ยี่คามืออีก“มาก็ดีแล้ว”“โอ้ย” กวินตรากระชากพลอยฟ้าเหวี่ยงไปที่พื้น จากนั้นก็คร่อมหญิงสาวเอาไว้“คนอย่างแกไม่สมควรจะได้มีชีวิตที่มีความสุขอีพลอย คนที่ควรจะมีความสุขอยู่ตอนนี้คือกู”เพียะ “อ๊าย”เสียงร้องของความเจ็บปวดของพลอยฟ้าดังไปถึงหูภูมินทร์ที่กำลังวิ่งขึ้นบันไดนำหน้าอารียาขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน“กูจะทำให้มึงตายไปพร้อมลูก” กวินตราคว้ามีดสั้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงหมายจะแทงเข้าไปที่หน้าท้องของพลอยฟ้า แต่พลอยฟ้าก็คว้าข้อมือกวินตราเอาไว
“ก็อย่างที่พี่เคยบอก ตอนที่พี่ไม่รู้เหตุผลว่าพี่ภูทำร้ายพี่ทำไมพี่ก็ทั้งโกรธทั้งเกลียดเค้า แต่พอรู้เหตุผลก็กลายเป็นพี่รู้สึกผิด แล้วก็สงสารพี่ภูที่สูญเสียคนรักไปก็เพราะพี่”“แล้วพี่ภูเค้าได้บอกไหมว่าเค้ารู้สึกดีกับพี่พลอยตอนไหน”“เค้ารู้สึกผิดเรื่องที่ทำลงไปกับพี่ก็เลยพยายามดูแลพี่เพื่อแก้ไขสิ่งที่ผ่านมา อยู่ๆ กันไปก็เกิดความรักความผูกพันธ์ขึ้นมามั้ง” เธอไม่อยากพูดเรื่องรายละเอียดยิบย่อยไปมากกว่านี้เพราะนั่นจะเท่ากับว่าเธอต้องพูดเรื่องที่แก้วเกล้าไม่ได้มีลูกกับภูมินทร์ แล้วก็เรื่องที่ภูมินทร์แกล้งเธอจนถูกพวกวัยรุ่นฉุดด้วย เมื่อเรื่องราวร้ายๆ มันผ่านไปแล้วเธอก็อยากให้มันเป็นแค่ความลับเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องพูดถึงมันอีก“อย่างนี้นี่เอง พราวดีใจนะที่พี่สองคนหัวใจตรงกัน พราวอยากเห็นพี่พลอยมีความสุขแบบนี้ตลอดไปนะ”“ขอบใจนะพราว ขอบใจที่ห่วงพี่ตลอด แล้วเรื่องเรากับคุณพัตรล่ะ ทุกอย่างโอเคไหม”“ก็ดีค่ะ ถึงคุณพัตรจะดูกะล่อนแล้วก็เจ้าเล่ห์ไปหน่อย แต่เค้าก็เป็นคนที่รักษาคำพูดเป็นที่หนึ่งเลยนะคะ”“แสดงว่าบ้านนี้เค้าถูกเลี้ยงให้เป็นสภาพบุรุษกันจริงๆ สินะ คุณพลก็ดูอบอุ่นสุภาพแล้วก็ให้เกีย
พักหลังมาก็เห็นว่าหมอหนุ่มดูร่าเริงดี คิดว่าจะตัดใจจากพลอยฟ้าได้แล้วเสียอีก ที่ไหนได้พอรู้ข่าวว่าหญิงสาวจะแต่งงานกลับจะหนีหัวใจตัวเองไปที่ต่างประเทศเสียอย่างนั้นสาวเจ้าเข้ามาถึงห้องทำงานของหมอหนุ่มได้ก็วางกล่องขนมเค้กตรงหน้าของเขาเช่นวันอื่นๆ ที่ผ่านมา “แอ้มได้ข่าวว่าพี่หมอจะไปเรียนต่อที่อเมริกา จะไปจริงๆ เหรอคะ”“รู้มาจากไหน”“คุณพ่อบอกค่ะ”“พี่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ถ้าเป็นไปได้พี่ก็อยากไปเรียนต่อ”“เป็นเพราะพี่หมอรู้เรื่องที่พลอยจะแต่งงานใช่ไหมคะ”“เกี่ยวอะไรกับงานแต่งคุณพลอย” อคิณส่ายหัวน้อยๆ ไม่เข้าใจว่ามีอะไรที่ทำให้อารียาคิดแบบนั้น“ก็พี่หมอชอบพลอย แล้วก็ยังตัดใจจากพลอยไม่ได้ แอ้มพูดถูกใช่ไหมคะ ถ้าพี่หมอยอมมองคนอื่นบ้างก็คงไม่ต้องหนีหัวใจตัวเองแบบนี้” อารียาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจจนหมอหนุ่มดูออก เขาจึงอมยิ้มมุมปากหลังจากหญิงสาวพูดจบ“ห่วงพี่มากเลยเหรอ”“ค่ะ ห่วงมาก แอ้มไม่เข้าใจว่าทำไมพี่หมอไม่ลืมพลอยซะที”“เรื่องคุณพลอย พี่ทำใจได้ตั้งนานแล้ว พี่ไม่ฝืนให้หัวใจตัวเองต้องจมอยู่กับรักที่เป็นไปไม่ได้ อีกอย่างพี่ก็พอจะรู้ว่าพี่ควรจะสนใจใคร”“พี่หมอกำ
“ได้สิ พี่พร้อมตอบทุกอย่าง”“ทำไมพี่ภูถึงได้เปลี่ยนไปได้คะ”“พี่รู้ตัวแล้วว่าพี่ไม่ได้คิดกับพลอยแค่พี่น้อง ตั้งแต่ที่พี่ไม่ชอบให้คุณพลมายุ่งกับพลอย แล้วก็ไม่ชอบให้คุณพัตรมาทำให้พลอยดีใจ แทนที่จะเป็นพี่ที่ทำทุกอย่างให้พลอย แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าพลอยคิดยังไงกับพี่”“รู้ว่าคิดอะไรคะ”“พี่ได้ยินทั้งหมดตอนที่พลอยคุยกับคิณ ทำไมไม่เคยบอกให้พี่รู้”“พลอยรู้ว่าพี่ภูไม่มีทางมองพลอยนี่คะ” พลอยฟ้าหน้าร้อนผ่าวไม่กล้าสบตากับคนที่กำลังชันหัวมองจ้องหน้าเธอไม่วางตา“เค้าเรียกคิดไปเอง เมื่อคืนนี้คุณย่าคุยกับพี่ว่าให้มาคุยกับพลอยเรื่องงานแต่ง อยากจะให้มีขึ้นเร็วๆ นี้ไหม”“พลอยแล้วแต่พี่ภูเลยค่ะ อะไรที่พี่ภูมีความสุข พลอยเห็นด้วยค่ะ”“เพราะเราเป็นแบบนี้ไงพี่เลยตกหลุมรักเราง่ายๆ” พูดจบก็กระชับกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น จะว่าไปเรื่องราวของเขากับเธอเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่พลอยฟ้าก็ไม่เคยคิดแก้แค้นการกระทำของเขาทั้งที่ถือไพ่เหนือกว่าเพราะมีน่าของเขาเป็นคนหนุนหลัง เธอเป็นห่วงคนอื่นก่อนเสมอ เขาแพ้ความดีข้อนี้ของเธอจริงๆ“พี่ภูหายโกรธพลอยเรื่องคุณพัตรหรือยังคะ พลอยไม่อยากให้พี่ภูคิดมาก”“อืม พี่ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า
หลังจากภูมินทร์ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ พลอยฟ้าก็เปลี่ยนความสนใจที่ดินเป็นผืนท้องทะเลในเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตก เธอเดาไม่ออกเหมือนกันว่าภูมินทร์จะสร้างบ้านบนผืนดินแห่งนี้ในรูปแบบไหน แต่เธอเชื่อว่ามันคงเป็นบ้านพักตากอากาศที่วิวทิวทัศน์สวยที่สุดอีกหลังหนึ่งเลยก็ว่าได้สาวเจ้าเอาแต่เพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ที่นี่จนลืมเวลา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าภูมินทร์หายไปนานแล้วเธอก็เริ่มหันกลับมามองหาเขา ทว่ามองหาไปรอบตัวแล้วก็มองไม่เห็นเธอรีบเดินกลับไปที่รถบ้านก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าภูมินทร์อยู่ที่นี่ มองไปยังป่าสนแล้วก็ไม่เจอใคร เธอจึงรีบสาวเท้าไปที่ริมชายหาดเผื่อว่าชายหนุ่มจะอยู่แถวนั้นก็ไม่มี หัวใจตอนนี้เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นกลัว“พี่ภูคะ พี่ภูอยู่ไหนคะ” ขอบตาของพลอยฟ้าเริ่มร้อนผ่าว น้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม ภาพวันที่เขาทิ้งเธอให้เดินคนเดียวข้างถนนวันนั้นมันกลับมาอีกแล้ว เขาแกล้งเธออีกแล้วใช่ไหม“ร้องให้ทำไมพลอย” ภูมินทร์เดินเข้ามายืนตรงหน้าพลอยฟ้าที่กำลังร้องให้สะอึกสะอื้น“พี่ภู” เธอโผเข้ากอดเขาเอาไว้แน่น “พลอยนึกว่าพี่ภูทิ้งพลอยให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว” โล่งใจเหลือเกินที่เขาไม่ได้คิดจะทิ้งเธ