Se connecterฟู่เฉินมองสวีจือหรู แววตาซับซ้อน เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หยิบแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาเท่านั้น แล้วดื่มเข้าไปอึกใหญ่ตอนนี้สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่มาก เขาต้องการระบายอารมณ์ แต่เขากลับไม่คิดที่จะแสดงความอ่อนแอของตนเองต่อหน้าสวีจือหรู“อาเฉิน คุณอย่าเป็นแบบนี้เลยนะคะ มีเรื่องอะไรก็พูดกับฉัน ฉันจะช่วยคุณคิดหาวิธีด้วยกัน” สวีจือหรูเดินไปที่ข้างกายของฟู่เฉิน แล้วโอบกอดเขาอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงของเธออ่อนโยน ราวกับสามารถเยียวยาความเจ็บปวดทั้งหมดของขาได้“จือหรู คุณว่า คนที่อยู่ข้างกายของผม จริงใจกับผมทุกคนหรือเปล่า?” อยู่ ๆ ฟู่เฉินก็เอ่ยปาก น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ แฝงไปด้วยความสงสัยที่อยากจะสังเกตร่างกายของจือหรูชะงักเล็กน้อย ทว่าไม่นานเธอก็ฟื้นคืนความสงบอย่างรวดเร็ว เธอเงยหน้าขึ้น มองไปที่ฟู่เฉิน แววตาจริงใจ “อาเฉิน คุณกำลังพูดอะไรอยู่คะ? แน่นอนว่าต้องจริงใจต่อคุณอยู่แล้ว คุณเป็นถึงประธานของฟู่ซื่อกรุ๊ป ใครจะกล้าไม่จริงใจกับคุณล่ะ?”ฟู่เฉินไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่กอดสวีจือหรูเอาไว้แน่นเท่านั้น เขาต้องการการปลอบโยนของเธอ ต้องการการสนับสนุนของเธอ ทว่าความกังขาภายในใจของเขากลับไม่สามารถขจัดออกไ
เขานัดพบกับหนิงหนานเสว่ที่ร้านอาหารหรูหราแห่งหนึ่ง เขานั่งอยู่ตรงนั้น มองหนิงหนานเสว่ค่อย ๆ เดินเข้ามา ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่ยินยอมหนิงหนานเสว่สวมชุดราตรีสีแดง แลดูสง่างามและสูงส่ง ใบหน้าของเธอประดับไปด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ“ประธานฟู่ ไม่เจอกันนานนะคะ” หนิงหนานเสว่นั่งลงตรงข้ามกับฟู่เฉิน น้ำเสียงแฝงไปด้วยความประชดประชัน “ดูท่าช่วงนี้ประธานฟู่จะไม่ค่อยสบายเท่าไรนะคะ”“หนิงหนานเสว่ เธออย่าได้ใจเกินไปนัก!” น้ำเสียงของฟู่เฉินแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง “เธอคิดว่าชนะแล้วงั้นเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้นะ ฉันจะไม่ให้เธอทำสำเร็จอย่างแน่นอน!”“ประธานฟู่ ฉันไม่ได้พูดเลยนะคะว่าฉันชนะ ฉันแค่บอกว่ากำลังทำการค้าเท่านั้นเอง” น้ำเสียงของหนิงหนานเสว่แฝงไปด้วยความขี้เล่น “แต่ท่าทางย่ำแย่ของประธานฟู่ในตอนนี้ ทำให้คนอื่นรู้สึกสงสารจริง ๆ”“เธอ...” ฟู่เฉินถูกคำพูดของหนิงหนานเสว่ทำให้โมโหจนพูดไม่ออก เขากำหมัดแน่น แทบอยากจะฉีกหนิงหนานเสว่ออกเป็นชิ้น ๆ“ประธานฟู่ คุณอย่าโกรธสิคะ ฉันเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง” หนิงหนานเสว่พูดด้วยรอยยิ้ม แววตาของเธอเต็มไปด้วยการ
อีกด้านหนึ่ง สวีจ้าวเริ่มเร่งรัดสวีจือหรูให้รีบควบคุมฟู่เฉินเอาไว้ให้อยู่หมัด เพื่อที่จะได้ยึดกุมทรัพย์สินของฟู่ซื่อกรุ๊ปได้อย่างสะดวก ภายนอกเธอรับปากสวีจ้าว แต่ในใจกลับมีแผนของตนเองสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่แค่เพียงทรัพย์สินของฟู่ซื่อกรุ๊ป เธอยังต้องการฟู่เฉินด้วย เธอต้องการให้ฟู่เฉินไปจากเธอไม่ได้ราคาหุ้นของฟู่ซื่อกรุ๊ปราวกับว่าวที่สายขาด ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในห้องทำงานอึดอัดจนทำให้หายใจไม่ออกฟู่เฉินจ้องมองดูตัวเลขที่น่าสะเทือนใจบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่ละสายตา คิ้วขมวดมุ่น ขมับเต้นตุบ ๆ เขารู้สึกไร้พลังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาณาจักรธุรกิจที่เคยภาคภูมิใจ ตอนนี้กลับสั่นคลอนจนเกือบจะล้ม ราวกับสามารถพังทลายได้ตลอดเวลา ฟู่เฉินกุมมือของสวีจือหรูเอาไว้แน่น รู้สึกถึงความอบอุ่นของฝ่ามือเธอ เขาสูดหายใจลึก พยายามทำให้ตนเองสงบลง “จือหรู ผมรู้ว่าคุณสนับสนุนผมมาตลอด ผมรู้สึกขอบคุณคุณมากจริง ๆ ”สวีจือหรูอิงแอบอยู่ในวงแขนของฟู่เฉิน รอยยิ้มอย่างมีความสุขปรากฏอยู่บนใบหน้า เธอพูดอย่างแผ่วเบาที่ข้างหูของฟู่เฉิน “อาเฉิน คุณเป็นคนที่ฉันรักที่สุดตลอดไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จ
“เสี่ยวหลี่ ตรวจสอบช่องโหว่ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ปอย่างชัดเจน และตอนนี้พวกเขาก็หมดสภาพเรียบร้อยแล้ว”หนิงหนานเสว่กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน พลางมองไปยังรายงานที่อยู่ในมือ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่มั่นใจในตนเอง“หนิงหนานเสว่ เธอคิดจะทำยังไง?” ซ่งซือหลี่นั่งอยู่ตรงข้ามกับหนิงหนานเสว่ หมุนปากกาในมือไปพลาง ถามเธอไปพลาง“ฉันต้องการให้ฟู่เฉินได้ลิ้มรสชาติของความสิ้นหวัง” หนิงหนานเสว่กล่าวอย่างเย็นชา สายตาของเธอฉายแววเย็นเยียบ“ดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอคิดจะเอาจริงแล้วสินะ” ซ่งซือหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอแล้วกัน”ในงานเลี้ยงการกุศล หนิงหนานเสว่ได้พบกับฟู่เฉินอีกครั้งเธอสวมชุดราตรีสีแดง แลดูสง่างามและสูงส่ง เมื่อเทียบกับฟู่เฉินที่อยู่ในชุดสูทรองเท้าหนังทว่าท่าทางเหนื่อยล้ากลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง“ประธานฟู่ ไม่เจอกันนานนะคะ” หนิงหนานเสว่เดินเข้ามาหา ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ นำเสียงสงบ ฟู่เฉินมองดูรอยยิ้มที่เชื่อมั่นในตนเองของหนิงหนานเสว่ รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ประธานหนิง ดูเหมือนว่าช่วงนี้เธอจะสุขสบายดีสินะ”“ต้องขอบคุณประธานฟู่ ฉันสุขสบายดี
หนิงหนานเสว่กลับมาถึงบ้าน เจียงเหยียนเชินเตรียมอาหารเย็นมากมายไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น หารือแผนการในขั้นต่อไปการยื่นขอสินเชื่อธนาคารของฟู่ซื่อกรุ๊ปถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เหตุผลก็คือสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ปน่าเป็นห่วง มีความเสี่ยงสูงเกินไปภายในห้องทำงานท่านประธาน ฟู่เฉินโยนเอกสารลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด เกิดเสียงทึบออกมาเขานวดหว่างคิ้ว พยายามคลายความเหนื่อยล้าหลายวันมานี้ แต่กลับพบว่าทุกอย่างไร้ประโยชน์สวีจือหรูยกนมร้อนเดินเข้ามา แธอสวมชุดนอนสีชมพูอ่อน ดูอ่อนโยนและเป็นกันเอง“อาเฉิน อย่าเหนื่อยเกินไปเลยค่ะ ดื่มนมแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถอะ” เสียงของเธออ่อนโยน แฝงไปด้วยความเจ็บปวดใจฟู่เฉินรับนมมา แล้วดื่มไปอึกหนึ่ง ความอุ่นของนมเหมือนจะคลายความหงุดหงิดภายในใจของเขาได้เล็กน้อย“จือหรู ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทย่ำแย่มาก ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี” เขาถอนหายใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไร้กำลังสวีจือหรูเดินไปที่ด้านหลังของฟู่เฉิน แล้วนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา การเคลื่อนไหวของเธอนุ่มนวลและเอาใจใส่“อาเฉิน ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้
สวีจ้าวคิดจะฉกฉวยผลประโยชน์ตอนที่ผู้อื่นโชคร้าย ทว่าตอนนี้เพื่อบริษัทแล้ว เขาจำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอของสวีจ้าว“ฉันจะพิจารณาดู” ฟู่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความหงุดหงิดเมื่อสวีจ้าวเห็นดังนั้น ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่พึงใจฟู่เฉินเดินมาถึงทางตันแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคงต้องยอมรับเงื่อนไขของเขาอีกด้านหนึ่ง หนิงหนานเสว่เริ่มแอบสืบสวนสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ป เธอพบจุดบางอย่างที่น่าสงสัย เงินทุนของฟู่ซื่อกรุ๊ปเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โครงการจำนวนมากมีการรายงานผลกำไรที่เป็นเท็จวิกฤตของฟู่ซื่อกรุ๊ปร้ายแรงยิ่งกว่าที่เห็นภายนอกอย่างมาก“รุ่นพี่ ฉันตรวจพบบางอย่างที่น่าสนใจค่ะ” หนิงหนานเสว่นำผลการตรวจสอบส่งให้กับเจียงเหยียนเชิน“ทางฉันก็จะรวบรวมข้อมูลภายในบางส่วนของฟู่ซื่อกรุ๊ปไว้ด้วยเหมือนกัน สถานการณ์ของพวกเขาไม่สู้ดีนักจริง ๆ” เจียงเหยียนเชินตอบกลับ“อืม ถึงเวลาแล้วค่ะ” สายตาของหนิงหนานเสว่ฉายแววเย็นเยือก เธอจะไม่ปล่อยฟู่เฉินไปอย่างแน่นอนภายในโรงพยาบาล สวีจือหรูยังคงเล่นบทสะใภ้ยอดกตัญญูต่อหน้าแม่ฟู่อยู่ทุกวันเธอจะมาส่งอาหารที่เตรียมมาอย่างพิถีพิถันให้กับแม่ฟู่ และย




![บำเรอรักบอดี้การ์ดของคุณพ่อ [ Love Slave ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


