“คุณหนูหนิง คุณไม่รู้เหรอ? ลูกของคุณเป็นโรคมะเร็งกระดูกที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม อาจมีชีวิตอยู่ได้มากสุดสองเดือนเท่านั้น”“ถ้าผมจำไม่ผิด แม่ของคุณก็เสียเพราะโรคนี้”“ผมแนะนำว่า คุณเองก็ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดด้วย...”ทันใดนั้น หนิงหนานเสว่ก็รู้สึกเหมือนแรงทั้งหมดที่มีในร่างกายถูกดูดหายไปในพริบตาคำพูดของหมอวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่หยุดหย่อน เธอตัวสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้“เป็นอะไรเหรอคะ มามี้?” ฟู่สุยสุยเอ่ยเสียงใสพลางมองหนิงหนานเสว่ด้วยความเป็นห่วง “สุยสุยทำอะไรให้คุณแม่ไม่สบายใจหรือเปล่าคะ?”หนิงหนานเสว่มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ผอมซูบจนเห็นกระดูกของฟู่สุยสุยที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ“ถ้าเป็นความผิดของสุยสุย หนูขอโทษนะคะ” พูดจบ ฟู่สุยสุยก็ฝืนยิ้มออกมาอย่างเข้มแข็งหัวใจของหนิงหนานเสว่ปวดร้าวราวกับโดนทิ่มแทง เธอไม่อยากจะเชื่อว่าลูกรักของเธอเหลือเวลาแค่หกเดือน เธอไม่มีพ่อแม่ ไม่มีครอบครัว และชีวิตคู่ก็เหลือเพียงแค่ชื่อสุยสุยคือความหวังเดียวที่เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหนิงหนานเสว่กลั้นน้ำตาไว้ “แม่ไม่ได้ไม่สบายใจหรอก แม่ดีใจมากเลย เพราะสุยสุยกำลังจะหายดีแล้ว
Read More