Home / ระบบ / ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70 / ตอนที่1 เกิดใหม่ทั้งทีกลายเป็นเด็กทารก

Share

ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70
ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70
Author: เฟยเทียน / เงาจันทราสีหมึก / กัญญ์ญาภัค

ตอนที่1 เกิดใหม่ทั้งทีกลายเป็นเด็กทารก

หรูฟู่ซิงอินฟลูเอนเซอร์ด้านการท่องเที่ยวไม่รู้เลยว่าการ มายังหมู่บ้านแห่งหุบเขาชื่อดังกำลังจะเปลี่ยนชีวิตของตนไปตลอดกาล

ในขณะที่เจ้าตัวกำลังชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามริมหน้าผาก็ได้ปรากฏการณ์ประหลาดทำให้หญิงสาวก้าวเท้าพลาดจึงเป็นเหตุให้ร่างของเธอร่วงสู่หุบเหวเบื้องล่างทันที

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างยาวนานทว่ากลับไม่มีใครได้ยินและแม้กระทั่งแสงสว่างจ้าที่จู่ ๆ ก็ปรากฏออกมาก็ไม่มีใครเห็นเช่นกัน

ภายในป่าอันมืดมิดแห่งหนึ่งท่ามกลางสายตาของสัตว์ร้ายที่กำลังออกหาอาหารในยามราตรี ฉับพลันก็มีแสงเจิดจ้าครอบคลุมต้นไผ่กอใหญ่กอหนึ่งก่อนที่สัตว์ป่าเหล่านั้นจะล่าถอยไป

ภายในห่อผ้านั้นมีร่างของเด็กทารกเพศหญิงผิวกายของนางขาวราวกับไข่ปอกใบหน้าของเจ้าตัวสงบนิ่งแสดงว่าเด็กน้อยกำลังเข้าสู่ห้วงนิทรา กลิ่นกายของนางทำให้สัตว์ป่าเกิดความตะกละ

ในขณะที่สัตว์ร้ายกำลังย่างเท้ามาทางห่อผ้าอย่างมาดร้ายฉับพลันพวกมันเหล่านั้นก็ต่างกระเจิดกระเจิงรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจนชนกันเองราวกับว่าห่อผ้านี้มีความอันตรายซ่อนอยู่

‘ข้าจะต้องปกป้องเจ้านายให้ดี’ เสียงลึกลับดังขึ้น

หลังจากความมืดผ่านพ้นก็เป็นแสงสว่างรำไรของเช้าวันใหม่เข้ามาแทนที่ แต่กว่าแสงเงินแสงทองจะเริ่มจับขอบฟ้าก็เลยเวลาอรุณแรกไปถึงหนึ่งชั่วโมง

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะช่วงนี้เป็นฤดูหนาวดังนั้นกว่าแสงแรกของวันจะโผล่พ้นทิวเขาจึงค่อนข้างช้ากว่าเวลาปกติ

หรูฟู่ซิงผู้ยังไม่รู้ว่าตัวเองได้กลายเป็นเด็กทารกกำลังหลับใหลด้วยความเหนื่อยระคนอ่อนเพลีย

‘เจ้านายตื่น!’ น้ำเสียงของเด็กน้อยทำให้หรูฟู่ซิงคิดว่าตัวเองหูฝาดจนกระทั่งได้ยินอีกครั้ง

‘เจ้านายรีบตื่น หากไม่ตื่นจะแย่เอานะ’ น้ำเสียงเล็ก ๆ นี้ดูร้อนใจเป็นอย่างมาก

“แอ้!” (ตื่นแล้ว) “แอ้ แอ้ อ๊ะ!” เสียงที่เปล่งออกมาหาใช่คำพูดของเจ้าตัว (เกิดอะไรขึ้น ฉันเป็นอะไร แล้วเสียงที่ได้ยินเป็นใคร) หล่อนคิดอย่างหวาดกลัวก่อนจะเริ่มปวดศีรษะ

ความทรงจำก่อนหน้าถาโถมเข้ามา (ฉันตายแล้ว) น้ำตาของหญิงสาวไหลออกมาอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่รู้เลยว่าเสียงของตนที่เป็นเพียงเด็กทารกกำลังดังลั่นออกไปไกลทั่วทั้งผืนป่า

‘เจ้านาย อย่าร้อง’ เสียงลึกลับดังขึ้นในหัวของหรูฟู่ซิ่ง จึงทำให้หญิงสาวในร่างของเด็กทารกรู้สึกตื่นตระหนกเธอพยายามเหลียวซ้ายแลขวาแต่ก็จนใจทั้งนี้เป็นเพราะกล้ามเนื้อคอของเธอยังไม่อาจทำได้ดั่งใจหมาย

(ฮือ ๆ ฉันกลายเป็นคนพิการไปแล้ว) เจ้าตัวคิดอย่างฟุ้งซ่าน

‘เจ้านาย คุณเงียบก่อน หากคุณยังร้องไห้ต่อไป ระวังจะเรียกสัตว์ร้ายมานะ’ เสียงลึกลับเอ่ยเตือนอย่างหวังดี

เหมือนว่าคำพูดนี้ของเสียงลึกลับจะได้ผล หรูฟู่ซิงหยุดเสียงร้องของตนลงราวสั่งได้

“คุณเป็นใคร อยู่ที่ไหนฉันตายไปแล้วไม่ใช่หรือ ที่นี่คือนรกหรือว่าสวรรค์กัน” คำพูดของเธอเจือเสียงสะอื้น

‘ผมไม่ใช่ทั้งนรกและสวรรค์ แต่ผมเป็นระบบ’

“ระบบ ระบบอะไร ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่” หรูฟู่ซิงส่งเสียงเป็นภาษาทารกออกมาถึงจะเป็นอย่างนี้ทว่าเธอกลับสื่อสารกับระบบได้อย่างเข้าใจ

‘เจ้านายทำเพียงแค่คิดก็ได้ไม่ต้องส่งเสียง ไม่อย่างนั้นเจ้านายจะไม่ปลอดภัยนะ’ เสียงลึกลับที่เรียกตัวเองว่าระบบกล่าวเตือนอีกคำรบ

‘ก็ได้ ว่าแต่เธอมาอยู่กับฉันได้ยังไง’ ตอนนี้หรูฟู่ซิงเริ่มเข้าใจสถานการณ์ของตนแล้วเพียงแต่เธอยังไม่รู้ว่าตอนนี้จากร่างกายสวยงามของสาวน้อยวัยยี่สิบกว่าปีได้กลายมาเป็นเด็กทารกตัวจ้อย

‘เจ้านายผมเจอกับคุณด้วยความบังเอิญทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดของช่วงเวลาจึงทำให้คุณตกอยู่ในอันตรายเพราะความผิดพลาดนี้ ดังนั้นทางศูนย์ใหญ่ของผมจึงได้ให้ผมทำสิ่งต้องห้ามคือการใช้ไทม์แมชชีนย้อนเวลา เพียงแต่....เพียงแต่เครื่องย้อนเวลายังอยู่ในขั้นตอนทดลอง ดังนั้นร่างของคุณจึงตัวหดอีกทั้งยังต้องมาอยู่ในยุคอื่น’ คำตอบของเสียงลึกลับทำให้หรูฟู่ซิงตัวชาวาบ

‘เธอพูดให้ชัดเจน อะไรที่ว่าตัวหด อะไรคือยุคอื่น’ เสียงของเจ้าตัวสั่นอย่างไม่อาจควบคุม

จากทว่าในตอนแรกที่คิดว่าตัวเองตายแล้วจากการตกเขา กลับกลายเป็นว่าเธอยังไม่ตายเพียงแต่สิ่งที่รับรู้ใหม่นี้กลับทำให้หญิงสาวรู้สึกช็อกยิ่งกว่า

‘คือว่าตอนนี้เจ้านายกลายเป็นเด็กทารกอายุไม่น่าจะเกินสามเดือน และยุคนี้เท่าที่ผมลองตรวจสอบปรากฏว่าคือปี1970ของประเทศซีครับ’ จบคำพูดนี้ของระบบสติของหรูฟู่ซิงก็ดับลง

‘เจ้านาย!!’ เสียงลึกลับเล็ก ๆ รีบตะโกนเรียกหญิงสาวในรูปลักษณ์ของเด็กทารกอย่างตกใจ

ในระหว่างที่หรูฟู่ซิงสลบเพราะความตกใจที่ได้รับ ระบบก็คอยกางอาณาเขตปกป้องเด็กน้อยเอาไว้ด้วย

เวลาผ่านไปร่วมสองชั่วโมงในที่สุดเด็กน้อยก็เปิดเปลือกตาของตนขึ้นดวงตากลมโตบริสุทธิ์ดุจน้ำค้างยามเช้าทำให้ระบบผู้เฝ้าดูรู้สึกทั้งสงสารและเห็นใจต่อโชคชะตาของเธอเป็นอย่างมาก

‘เจ้านายไม่ต้องกลัวนะ ผมจะปกป้องคุณเอง’

‘ฉันยังไม่ตื่นจากฝันอีกเหรอ’ หรูฟู่ซิงกล่าวเสียงเครือ

‘เจ้านายอย่าร้อง’ ‘จะไม่ให้ฉันร้องไห้ได้ยังไงปีนี้ฉันเพิ่งจะอายุยี่สิบห้าเองนะ ยังเที่ยวไม่ทั่วก็ต้องมาอยู่ผิดยุค นายจะให้ฉันอยู่ที่นี่ได้ยังไงอีกทั้งตอนนี้ยังกลายเป็นเด็กทารกอีก ยุคนี้ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าโหดร้ายมากขนาดไหน จบเห่แล้วชีวิตฉัน’ หรูฟู่ซิงคร่ำครวญ

‘เจ้านายมีผมอยู่ เจ้านายไม่ต้องกลัว’

‘ไม่ต้องกลัวได้จริงเหรอ นายเป็นระบบอยู่ในหัวของฉัน ส่วนฉันร่างกายเป็นเพียงเด็กแบเบาะ’ คำพูดของหรูฟู่ซิงทำให้ระบบเกิดความเงียบ

หรูฟู่ซิงนิ่งตรึกตรองก่อนที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบชวนน่าอึดอัดนี้

‘ก่อนอื่นหากเราจะอยู่รอดนั่นคือต้องหาคนมาเลี้ยงฉันก่อน แต่ในยุคนี้ผู้คนต่างอดอยากถึงขนาดแทะรากไม้ นายคิดว่าจะอยากมีคนรับเลี้ยงเด็กที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดตัวเองไหม หรือถึงมีแต่ในยุคที่ยึดถือผู้ชายเป็นใหญ่ฉันซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงคงไม่แคล้วถูกเลี้ยงเหมือนทาสอย่างแน่นอน’ คำพูดของหรูฟู่ซิงทำให้ระบบเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว

‘เจ้านายขอแค่มีคนรับเลี้ยงคุณก็พอใช่ไหม’

‘ไม่พอ! หากว่าฉันเจอพวกค้ามนุษย์ล่ะ ฉันคิดว่าพอโตขึ้นมาหน่อยคงได้ถูกขายราวกับไม่ใช่คน’ หรูฟู่ซิงแย้งทันควัน

‘เจ้านายไม่ต้องกังวล ผมจะตรวจสอบคนในหมู่บ้านรวมถึงละแวกนี้ให้ดี ว่าแต่เจ้านายคุณต้องการเลือกคนที่ฐานะด้วยหรือเปล่า’

‘เรื่องฐานะไม่จำเป็นเพราะหากฉันไปอยู่กับคนรวยแต่ทว่านิสัยแย่ฉันก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น ดังนั้นนายเลือกเอาคนที่นิสัยเถอะ ตรวจสอบให้ละเอียดอย่าให้ผิดพลาด’

‘เจ้านายวางใจได้เลย ผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด’ ระบบตอบรับด้วยความมั่นใจ

ส่วนหรูฟู่ซิงในร่างของเด็กทารกนั้น ในตอนนี้เจ้าตัวคล้ายกับรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมากถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่หลังจากปลงตก (ในเมื่อยังมีชีวิตอีกทั้งยังมีระบบพ่วงเข้ามาด้วย ถ้าอย่างนั้นก็จงใช้ชีวิตใหม่นี้ให้ดีก็แล้วกัน แต่ทว่าก่อนอื่นนั้นคงต้องอยู่ที่ระบบแล้วละว่าจะเจอครอบครัวที่มีน้ำใจกับเธอหรือเปล่า) เจ้าตัวได้แต่คิดอย่างคาดหวัง

หนึ่งชั่วโมงถัดมา ‘เจ้านายผมเจอครอบครัวที่คิดว่าเหมาะสมสามครอบครัวละ เจ้านายจะลองฟังดูไหม’

‘ได้ เธอลองพูดมา’

‘ครอบครัวแรกเป็นครอบครัวจางครอบครัวนี้มีบุตรชายทั้งหมดสามคนแต่ละคนต่างแต่งงานกันหมดแล้ว ฐานะนับว่าไม่แย่เพียงแต่ผู้นำครอบครัวค่อนข้างตระหนี่ เขาต้องการเด็กผู้หญิง’

‘ตัดทิ้งไป คนตระหนี่ขืนอยู่ด้วยในอนาคตหากเกิดอะไรขึ้นรับรองเขาขายฉันทิ้งอย่างไม่ลังเลแน่’ หรูฟู่ซิงตอบปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิดหลังจากฟังจบ

‘ได้ ถ้าอย่างนั้นเป็นครอบครัวที่สอง ครอบครัวนี้เป็นคนมีฐานะปานกลางมีลูกชายสองคน สะใภ้แต่ละคนยังไม่มีใครท้องดังนั้นจึงต้องการหาเด็กมาเลี้ยงเพียงแต่แม่สามีค่อนข้างจุกจิกจู้จี้’

‘ตัดทิ้ง รีบ ๆ ตัดทิ้งเลย หากฉันถูกรับไปเลี้ยงนะไม่แน่ว่าพอมีคนตั้งครรภ์ขึ้นมาฉันคนนี้ได้กลายเป็นลูกชังแน่ อีกทั้งงานบ้านทั้งหมดคงตกอยู่กับฉันทั้งหมดด้วย’

เมื่อระบบฟังเจ้าตัวก็เห็นพ้องดังนั้นจึงได้กล่าวถึงครอบครัวสุดท้ายออกมา

‘ตกลง ถ้าอย่างนั้นก็ครอบครัวหรูก็แล้วกัน’

‘เดี๋ยวนะ แซ่หรูอย่างนั้นหรือก็เหมือนกับฉันเลยนี่’ หรูฟู่ซิงเอ่ยขัดโดยที่ระบบยังพูดไม่ทันจบ

‘ครับ แต่ว่าเจ้านายครอบครัวนี้ค่อนข้างน่าสงสารมาก ทั้งฐานะยากจนและคนในครอบครัวมีทั้งป่วยและพิการ’

หรูฟู่ซิงรู้สึกว่าชะตาชีวิตในชาตินี้ของตนเหตุใดช่างอาภัพมากกว่าชาติก่อนกัน

‘เธอลองพูดมาก่อน’

‘ครอบครัวนี้มีสมาชิกอยู่ทั้งหมดสี่คน หญิงวัยกลางคนมีลูกชายคนเดียวอายุยี่สิบห้าปีเขาเคยเป็นทหาร แต่ต่อมาได้รับบาดเจ็บทำให้กลายเป็นคนพิการเดินไม่สะดวกแม้จะได้รับเงินตอบแทนแต่ก็ถูกคนเอารัดเอาเปรียบจนตอนนี้แทบไม่เหลือแม้แต่ข้าวสารจะกรอกหม้อ

เขาแต่งงานแล้วซึ่งภรรยาเป็นคนที่ผู้เป็นแม่ช่วยชีวิตไว้จากพวกค้ามนุษย์ด้วยความบังเอิญและหญิงสาวคนนี้จำไม่ได้ว่าครอบครัวของตัวเองอยู่ที่ไหนดังนั้นจึงได้ขออาศัยอยู่กับผู้มีพระคุณเพื่อตอบแทน

แต่ยุคนี้เจ้านายก็รู้ว่าปากของชาวบ้านนั้นน่ากลัวมากเพียงใด พวกเขาต่างพากันเอาหญิงสาวไปพูดคุยกันสนุกสนานทำให้หญิงสาวตัดสินใจแต่งงานกับลูกชายพิการของหญิงวัยกลางคนเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้จึงมีลูกชายตัวน้อยหนึ่งคน

สถานะครอบครัวลำบากมากเพราะแม่สามีเกิดเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังจากการทำงานหนัก ถึงจะเป็นอย่างนี้ทว่าหญิงวัยกลางคนก็ไม่เคยเอาเปรียบลูกสะใภ้ อีกทั้งยังช่วยหล่อนทำงานทุกอย่างด้วย’

น้ำตาของหรูฟู่ซิงไหลพรากหลังได้รับฟังข้อมูลของครอบครัวนี้ ‘ระบบ นายมียาหรือของล้ำค่าอะไรบ้างไหม’

‘คุณอยากช่วยพวกเขา’

 ‘ใช่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รับเลี้ยงฉันก็ตาม แต่ว่าหากปล่อยครอบครัวนี้ให้เผชิญความทุกข์ยาก ฉันรู้สึกว่าโลกช่างไม่ยุติธรรมกับเขาเพราะการที่ชายหนุ่มคนนั้นต้องกลายมาเป็นคนพิการก็เพราะไปรับใช้ชาติมิใช่หรือ

อย่างนี้ก็นับได้ว่าเขาเป็นวีรบุรุษแต่ทำไมเขาจะต้องอยู่อย่างอดสูแบบนี้ด้วยล่ะ’ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กทารกน้อยได้ดังไปไกลจนกระทั่งเข้าหูของหญิงสาวกับบุตรชายคู่หนึ่ง

“แม่ ผมได้ยินเสียงร้องไห้” เสียงพูดไม่ชัดของบุตรชายทำให้จ้าวเหยาตั้งใจฟัง “แม่ก็ได้ยิน พวกเราจะไปดูดีไหม”

“แม่ไปเถอะ พ่อเคยบอกว่าแม้ว่าพวกเราจะยากจนแต่หากเมื่อไหร่เจอคนตกทุกข์ได้ยาก หากช่วยเหลือได้ก็จงทำให้สุดความสามารถ” เด็กชายตัวผอมยืดอกพูดในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อคอยพร่ำสอนไม่ตกหล่นแม้ว่าจะไม่ค่อยชัดนักก็ตามทว่าคนเป็นแม่ก็เข้าใจในสิ่งที่เขากล่าว

 “ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปดูกัน แต่ว่าควรชวนพ่อของลูกไปด้วย”

   “ครับ” น้ำเสียงพูดไม่ชัดของเจ้าตัวตอบรับอย่างเชื่อฟัง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    ตอนที่34 ครัวเรือนหมื่นหยวนในพริบตา

    คล้อยหลังจากรถยนต์คันหรูจากไป เมิ่งหลิงก็หันมาหาคนที่ไปบอกพวกตนที่บ้านว่าหรูจื่อไปทำให้คนขุ่นเคืองทันที“สหายคนนั้นหยุดเดี๋ยวนี้” เสียงของเมิ่งหลิงตะโกนอย่างดุดันชายร่างผอมสวมเสื้อผ้าหยาบเหมือนกับชาวบ้านทั่วไปสะดุ้งจนตัวโยน“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” เขาแย้งอย่างร้อนตัว“ไม่ผิด! คุณไปบอกพวกเราว่าหรูจื่อถูกจับเพราะไปทำให้คนใหญ่คนโตขุ่นเคืองเขาถึงได้ตามมาเอาเรื่องไม่ใช่เหรอ อย่างนี้จะเรียกว่าไม่ผิดได้ยังไง” เมิ่งหลิงไม่ปล่อยผ่าน“หวังเค่อ คุณไปพูดอย่างนั้นได้ยังไงครับ การที่คุณทำให้คนอื่นเสียหายเช่นนี้ ห็นทีว่าผมคงจะต้องส่งคุณไปให้ผู้กำกับสวีปรับทัศนคติ” คำพูดของเจิ้งฟู่ฉีทำให้เข่าของเจ้าของชื่อพลันอ่อนยวบ“หัวหน้าหน่วยเจิ้ง ผมอาสาไปส่งเขาเอง” ฉางซูเหิงกล่าวออกมาเสียงดังโดยมีซ่งเจียหาวพยักหน้าสนับสนุน“ผมไม่ไป ผมขอโทษ ปล่อยผมไปเถอะ ต่อไปนี้ผมรับรองว่าจะไม่พูดจาเหลวไหลแบบนี้อีกแล้ว” ชายคนนั้นเอ่ยขอร้องทั้งน้ำตา หว่างขาของเขามีน้ำไม่พึงประสงค์ไหลออกมาจนเปียกชุ่ม“เหม็นชะมัด! พวกเราแยกย้าย” ชาวบ้านจำนวนมากที่หวังชมเรื่องสนุกพากันถ

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    ตอนที่33 ความมโนของคน

    นายทหารคนนี้พาชายหนุ่มทั้งคู่เดินมายังห้องทำงานของเจ้าของบ้านที่กำลังมีใบหน้าเคร่งเครียดเสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่เขากำลังลูบแหวนหยกที่สวมติดนิ้วโป้งข้างขวาในยามมีเรื่องไม่สบายใจ“เข้ามา” น้ำเสียงดุดันดังขึ้นก่อนประตูจะเปิดออกจากคนด้านนอก“สหายเจียง คุณมาแล้ว” เจ้าของห้องลุกขึ้นยืนอย่างมีความหวังเมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นใคร“สวัสดีครับท่าน” เจียงหย่งเฉียงถอดหมวกค้อมเอวลงกล่าวทักทายอย่างสุภาพ“ไม่ต้องมากพิธี ว่าแต่นี่ใครอย่างนั้นเหรอ” ชายวัยกลางคนที่อยู่ในห้องเดินเข้ามาหาเขาอย่างสนิทสนมพร้อมกับส่งสายตาเป็นสัญญาณให้นายทหารคนนั้นออกไปเสียงประตูปิดลง เจียงหย่งเฉียงจึงได้แนะนำหรูจื่อออกมาด้วยรอยยิ้ม “น้องชายของผมเองครับ” น้ำเสียงของเขาฉายแววภาคภูมิใจอยู่ในที“น้องชาย! ใช่คนที่สหายเล่าให้ฟังเมื่อครั้งก่อนหรือเปล่า อืมดูหน่วยก้านไม่เลวแต่ว่าทำไมถึง” คำพูดของเขาหยุดลงเมื่อสังเกตเห็นการเดินของหรูจื่อ“สวัสดีครับ ผมหรูจื่อและนี่ลูกสาวของผมอ้ายอ้าย” หรูจื่อหาได้รู้สึกถึงปมด้อยของตนถอดหมวกค้อมเอวลงทักทายเขาและแนะนำเจ้าตัวเล็กในกระเป๋

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    ตอนที่32 ของหายาก

    เสียงหวูดรถไฟดังกังวานไปทั่วสถานีเพื่อเตือนผู้คนให้เตรียมตัว “รถไฟมาแล้ว” เจียงหย่งเฉียงพูดขึ้นพลางกระชับกระเป๋าถือทำจากหนังสีน้ำตาลอ่อนในมือและเมื่อขบวนรถไฟสีเขียวเข้มที่มีเส้นคาดสีเหลืองจอดนิ่งอยู่บนราง ผู้โดยสารที่สวมเสื้อผ้าล้วนแล้วแต่เป็นสีเข้มแบบเรียบง่าย หรือไม่ก็เป็นชุดทหารตามความนิยมก็เริ่มทยอยกันเดินออกจากตู้ด้วยท่าทางไม่รีบไม่ร้อนเจ้าตัวเล็กในกระเป๋าเป้สะพายด้านหน้าของคนเป็นพ่อมองผู้คนในยุคนี้ที่หลายคนแบกกระสอบผ้าป่านขึ้นบ่าหรือไม่บางคนก็ถือกล่องไม้มัดด้วยเชือกป่านอย่างสนใจจนกระทั่งเธอได้เข้ามาด้านในขบวนรถไฟ ดวงตาของเด็กหญิงก็ไม่วายมองสำรวจทางนั้นทีทางนี้ทีด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกคำรบตัวม้านั่งโดยสารเป็นไม้แข็งเรียงกันสองฝั่ง บางส่วนมีเบาะหนังแบบเก่าซึ่งเริ่มลอกออกเนื่องจากผ่านการใช้งานหนักมาอย่างยาวนานพื้นที่ตรงกลางทางเดินค่อนข้างคับแคบจากการที่มีสิ่งของรวมถึงสัมภาระล้นออกจากการถูกวางกองไว้ใต้ที่นั่งหรือบนชั้นวางเหล็กเหนือหัว จึงทำให้ทุกสิ่งดูระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ เสียงพูดคุยของผู้คนที่มาอยู่ด้วยกันเป็นจำนวนมากดังจอแจแล

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    ตอนที่31 ขาทองคำ

    เป๋าเอ๋อร์ นายช่วยดูหน่อยสิว่าพ่ออยู่ที่ไหน ทำไมเย็นป่านนี้แล้วเขาถึงยังไม่กลับมาอีก เจ้าตัวเล็กที่กำลังชะเง้อคอยาวคล้ายยีราฟเข้าไปทุกทีอดเป็นกังวลไม่ได้จึงได้สื่อสารกับระบบคู่หูอย่างกังวลได้เลยครับ สิ้นคำของระบบเจ้าตัวพลันรับรู้ได้ทันทีว่าบิดาของเจ้านายอยู่ตรงไหนและกำลังทำอะไร‘พ่อ! คุณกำลังทำอะไรอยู่ครับ ทำไมถึงยังไม่กลับบ้านอีก’ หรูจื่อค่อนข้างตกใจในเสียงที่ได้ยิน‘ท่านเทพเหรอ พอดีว่าผมกำลังดูเจ้าพืชต้นนี้อยู่เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนว่ามันคืออะไร แต่สหายจิงบอกว่ามันคือโสม แต่หล่อนก็ไม่มั่นใจพวกเราจึงได้แต่รั้ง ๆ รอ ๆ ว่าจะเอายังไงดี’‘มันคือโสมและอายุของมันไม่น้อยกว่าห้าสิบปีดังนั้นพ่อสามารถขุดมันขึ้นมาได้เลย แต่จะต้องระวังรากของมันหน่อยหากว่ารากมีความสมบูรณ์มากราคาเองก็จะดีตามมาด้วยเช่นกัน’เมื่อหรูจื่อได้ยินคำพูดยืนยันเช่นนี้ดังนั้นเจ้าตัวจึงไม่รอช้าเขาจึงนั่งยองและใช้มีดสั้นที่เหน็บเอวเอาไว้เริ่มทำการขุดดิน รอบ ๆ ต้นพืชชนิดนี้อย่างระมัดระวัง“พี่ชาย คุณทำอะไร” ฉางซูเหิงถามขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้“สหายจ

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    ตอนที่35 เปิดบัญชี

    “เงินนี่มันจะไม่มากเกินไปหรือครับ” หรูจื่อมองธนบัตรที่วางเป็นปึก ๆ ตรงหน้าถามออกมาด้วยความกังวล“ไม่มากหรอก น้องหรูรับไปเถอะอย่าได้เกรงใจ แต่ผมขอแนะนำให้สหายนำเงินไปฝากกับธนาคารของรัฐจะดีกว่าเงินมากแบบนี้พกไปไหนมาไหนด้วยย่อมไม่ปลอดภัย เอาอย่างนี้ก็แล้วกันผมจะให้เจียงเทาพาไป” เถากวางโถวพูดเองเออเองเสร็จสรรพ“ถ้าอย่างนั้น ผมต้องขอรบกวนท่านแล้ว” หรูจื่อเองก็เห็นด้วยแม้ว่าท่านเทพจะสามารถช่วยรักษาเงินจำนวนนี้เอาไว้ได้ก็จริง แต่ว่าต่อหน้าคนที่ไม่รู้การที่เขาจะรับน้ำใจแบบนี้ไว้ย่อมไม่เสียหายในขณะที่ผู้ใหญ่กำลังเจรจา เจ้าตัวเล็กอ้ายอ้ายที่ถูกคุณนายของบ้านอุ้มออกมายังอีกห้อง ในตอนนี้เธอกำลังกลายเป็นตุ๊กตาตัวน้อยโดยการที่คุณนายกับลูกสาวจับแต่งตัวกำลังอ้าปากหาวด้วยความเบื่อหน่าย“แม่คะ เจ้าตัวเล็กคงจะง่วง” เถาเหลียนฮวาพูดขึ้นหลังจากเธอได้รับการตรวจร่างกายและมาเล่นกับเด็กหญิง“นั่นสิ จะว่าไปเด็กคนนี้ไม่งอแงเหมือนเด็กคนอื่นเลยน่ารักเลี้ยงง่ายและบางครั้งก็ดูเหมือนว่าจะฟังพวกเรารู้เรื่องด้วย” หลินหงพูดขึ้นพลางอุ้มเจ้าตัวน้อยมากล่อมนอนหรูจื่อที่เดินตามเจ้

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    ตอนที่27 ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว

    “หากคุณได้รับยาต่อเนื่องอาการคงไม่ร้ายแรงเท่านี้ แต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่ไม่สายจนเกินไป” หมอผู้อยู่ในชุดกราวน์สีขาวสวมหน้ากากอนามัยพูดขึ้นต้วนฉีเหวินไม่ได้ถูกจัดให้นอนในโรงพยาบาลเนื่องจากเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ ดังนั้นหลังจากรับยาเขาจึงต้องกลับมาพักที่บ้านซึ่งเรื่องนี้ย่อมนำพาความยินดีมาให้สองสามีภรรยาไม่น้อยเป๋าเอ๋อร์ นายไม่มียารักษาเหรอ เจ้าตัวเล็กหรูฟู่ซิงถามขึ้นในระหว่างที่พวกเธอกำลังนั่งรถลากกลับบ้านต้วนมีครับ แต่ที่ให้เขามาหาหมอก็เพื่อที่ผมจะได้นำยาออกมาใส่ให้เขากินได้สะดวก เป็นยังไงความคิดของผมฉลาดมากเลยใช่ไหมล่ะ หากเจ้าตัวมีหางหรูฟู่ซิงคาดว่าหล่อนคงจะได้เห็นหางเล็ก ๆ ของเขากระดิกไปมานายยอดเยี่ยมที่สุดในสามโลกเลยสหาย หรูฟู่ซิงไม่ทำให้เขาผิดหวังเธอกล่าวชมออกมาอย่างจริงใจเสียงหัวเราะอันเบิกบานของคนตัวเล็กทำให้นางเมิ่งกับหรูเฉินพลันเกิดความรู้สึกอารมณ์ดีตามรถลากทั้งสามคันกำลังเลี้ยวเข้าไปทางตรอกในทิศใต้ โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าได้มีคนจับตามองด้วยแววตาวาววับ “รีบไปบอกหัวหน้า” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นคล้อยหล

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status