เข้าสู่ระบบแชร์
บทที่ 1370
บทที่เกี่ยวข้อง
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1371
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน ทำให้คนอย่างหวงฝู่ซีเยว่รู้สึกเขินอายเล็กน้อยแต่พวกเธอไม่ได้โต้แย้ง ชัดเจนว่าพวกเธอยอมรับคำว่าแฟนสาวของหลินตงในใจแต่หลินตงเลือกที่จะเพิกเฉยต่อมันโดยตรงยิ่งอธิบายมากเท่าไหร่ เรื่องแบบนี้ก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงควรเมินต่อมันไปดีกว่าอย่างไรก็ตาม มีคนคนหนึ่งอยู่ที่นั่นซึ่งมีความคิดที่แตกต่างนั่นคือมู่หรงฉิงเกอในเวลานั้น หลินตงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของคนรุ่นใหม่ในต้าเซี่ย และได้รับชัยชนะครั้งสุดท้ายของพันธสัญญาสิบปีแต่ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเธอสิ่งนี้ทำให้มู่หรงฉิงเกอไม่พอใจอยู่บ้างตอนนี้ที่หลินตงพบผู้หญิงมากมายแต่ยังคงไม่ต้องการเธอ กลับทำให้เธอยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีกไม่ใช่ว่ามู่หรงฉิงเกอชอบหลินตงมากขนาดนั้นแต่เป็นการกระทำของหลินตง ที่ทำให้เธอเสียหน้าและคุนหลุนก็เสียหน้าเช่นกันมู่หรงฉิงเกอเป็นศูนย์กลางความสนใจเสมอมา ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนตั้งแต่เด็กสภาพแวดล้อมเช่นนี้หล่อหลอมธรรมชาติที่ภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเธอมู่หรงฉิงเกอมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมันสามารถจุดประกายการแข่งขันเพื่อชิงทาย
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1372
ทำไมมู่หรงฉิงเกอถึงแสดงความเป็นศัตรูกับตัวเขาเขาไม่คิดว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่เป็นศัตรูกันใช่ไหม!จนถึงตอนนี้ ทั้งสองยังไม่พูดอะไรกันถึงสิบคำยิ่งกว่านั้นมู่หรงฉิงเกอยังมาจากนิกายคุนหลุนความสัมพันธ์ระหว่างต้าเซี่ยและคุนหลุนยังคงดีมากเมื่อจัดสรรทรัพยากร หลินตงก็ดูแลคุนหลุนเป็นพิเศษเช่นกันแม้ว่าทั้งสองจะไม่ใช่เพื่อนกัน แต่ก็ไม่สามารถเป็นศัตรูกันได้แต่การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาไม่สามารถโกหกได้หลินตงรู้สึกสับสนเขาไม่สามารถคิดออกว่า อะไรผิดพลาดที่ทำให้มู่หรงฉิงเกอเกิดความเกลียดชังต่อเขาอาจเป็นความเกลียดชัง.....ที่เกิดจากความรักหรือเปล่า?เป็นไปไม่ได้!!!พวกเขาสองคนพบกันเพียงไม่กี่ครั้งและพูดกันไม่ถึงสิบคำ แล้วตอนนี้เธอจะตกหลุมรักแล้วเหรอ?เสน่ห์ต่อผู้หญิงของเขามีมากขนาดนี้เลยเหรอ?แม้แต่ผู้หญิงอย่างมู่หรงฉิงเกอที่งดงามอลังการที่ไม่มีใครเทียบได้ก็ยังหลงใหลในตัวเขาเองอย่างสุดหัวใจ?และเพราะเธอไม่สามารถมีเขาได้ นั่นจึงกลายเป็นความเกลียดชัง?หลินตงนึกในใจอย่างอดภาคภูมิใจในตัวเองไม่ได้ต้องบอกว่าด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของระบบและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น หลินตงจึง
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1373
หลังจากการสนทนาของทั้งสองจบลงไป๋หลี่เหยียนหงก็พูดขึ้นว่า: "เนื่องจากทุกคนมาถึงแล้วฉันคิดว่าเรื่องที่บ้านคงจัดการเรียบร้อยแล้ว เรามาเตรียมตัวออกเดินทางกันเถอะ!""พี่หง! โปรดไปที่ดวงดาวจักรพรรดิที่ใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือกก่อน ฉันไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะกลับมาหลังจากออกจากกาแล็กซีครั้งนี้ ฉันมีบางอย่างที่ต้องอธิบาย ท้ายที่สุดแล้ว ฉันคือเจ้าแห่งกาแล็กซีนี้""โอเค! ไปที่ดวงดาวจักรพรรดิก่อนเถอะ"สำหรับคำขอเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จากหลินตงไป๋หลี่เหยียนหงย่อมไม่ปฏิเสธเป็นธรรมดาหลังจากพูดจบ เธอก็โยนเต่าตัวเล็กในมือขึ้นไปบนฟ้าเมื่อเต่าตัวเล็กลอยขึ้่นไปบนฟ้า มันโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเกาะขนาดย่อมๆ ทันที ปิดกั้นท้องฟ้าและดวงอาทิตย์"ไปกันเถอะ!!!" ไป๋หลี่เหยียนหงเหลือบมองทุกคนแล้วพูดจากนั้นก็บินขึ้นไปเฉินจิงจื่อหานพร้อมด้วยสาวใช้สี่คนขึ้นไปพร้อมกับไป๋หลี่เหยียนหงหลินตง ยุนซี และคนอื่นๆ เคยเห็นเต่าตัวใหญ่ตัวนี้มาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่แปลกใจและทำตามมีเพียงมู่หรงฉิงเกอ ลั่วหงอวี๋ และซูยิงเสวี่ยเท่านั้นที่ไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน พร้อมด้วยสีหน้าตกใจแต่เพียงชั่วพริบตา
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1374
หากเต่าตัวใหญ่ขนาดนั้นปรากฎตัวเหนือดวงดาวจักรพรรดิ มันคงทำให้คนนับไม่ถ้วนตกใจอย่างแน่นอนหลินตงลุกขึ้นอย่างรวดเร็วมาถึงดวงดาวจักรพรรดิเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?แถมเร็วกว่าตอนที่เขากลับมาอีกต่างหากเต่าตัวใหญ่ตัวนี้เป็นสายพันธุ์อะไรกัน?ไม่เพียงแค่เปลี่ยนขนาดเล็กใหญ้ได้อย่างอิสระแม้แต่ความเร็วก็ยังน่ากลัวมากหากมีโอกาสในอนาคต เขาก็อยากจับมาสักตัวไว้ขี่เอง จะได้ไม่ต้องลำบากหลินตงเดินออกจากพระราชวังเพียงลำพัง ผ่านม่านแสงชั้นหนึ่ง และมาถึงด้านหลังของเต่าตัวใหญ่ เขาฉีกรอยแยกมิติออกอย่างง่ายดาย แล้วเดินออกไปเขาเพิ่งผ่านม่านแสงชั้นนั้น ซึ่งเป็นสิ่งกั้นที่ปกป้องพระราชวังนี่คือรอยมิติสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายยกเว้นอาณาจักรนิรันดรแล้ว อาณาจักรนิรันดรครึ่งขั้นเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดที่นี่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ส่วนคนอื่นๆ เมื่อพวกเขาสูญเสียการปกป้องร่างกายจะสลายทันทีเพราะทนแรงกดดันไม่ไหวแม้แต่จุดสูงสุดของระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกันดังนั้นเมื่อเข้าไปในพระราชวัง ไป๋หลี่เหยียนหงจะเตือนทุกคนไม่ให้ออกจากพระราชวัง และสามารถเคลื่อนที่ได้เฉพาะภายในพระราชวังเท่านั้นหลิน
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1375
หลินตงพูดไม่ออกเล็กน้อย เมื่อได้ยินบทสนทนาของเซี่ยอวิ๋นชวนและเซี่ยจิ่วโหยวเป็นครั้งแรกเขาไม่มีความสนใจที่จะแข่งขันกับตระกูลเซี่ย เพื่อควบคุมกาแล็กซีทางช้างเผือกเลยแต่เขาก็รู้ด้วยว่าตระกูลเซี่ยเป็นราชวงศ์ของกาแล็กซีทางช้างเผือกที่ควบคุมมันมาหลายปีทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ซึ่งแข็งแกร่งกว่าตระกูลเซี่ย และแน่นอนว่าพวกเขามีความคิดอื่นความแข็งแกร่งของหลินตงในอาณาจักรนิรันดรนั้น เปรียบเสมือนหนามที่ตอกลงบนหัวใจของตระกูลเซี่ยมาโดยตลอดดังนั้น! ตระกูลเซี่ยจึงต้องการใครสักคนนมาแบกรับหน้าที่นี้ ทะลุทะลวงไปยังอาณาจักรนิรันดร อย่างน้อยก็สามารถต่อกรกับหลินตงได้ พวกเขาถึงจะวางใจลงได้บ้างหลินตงก็ไม่มีทางออกที่ดีสำหรับสถานการณ์นี้เช่นกันไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ตระกูลเซี่ยก็จะไม่เชื่อเขาอย่างแน่นอนแต่ถ้าตระกูลเซี่ยรู้ว่าเขากำลังจะออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือก พวกเขาควรจะรู้สึกสบายใจบ้างฟังบทสนทนาของทั้งสองจบแล้วหลินตงก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นทันทีถ้าเขาปรากฏตัวตอนนี้ ก็ยิ่งจะทำให้สถานการณ์อึดอัดมากขึ้นเซี่ยอวิ๋นชวนกับเซี่ยจิ่วโหยวคงจะตกใจมากเพราะยังไง การพูดถึงคนที่อยู่ในระดับอาณาจ
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1376
เธอเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของแม่ แต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะกินจริงๆหลังจากหลินตงทะลุทะลวงเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร และกลายเป็นเจ้าแห่งกาแล็กซี ไม่ว่าจะเป็นพลัง สถานะ หรืออำนาจ ล้วนอยู่เหนือกว่าตระกูลเซี่ยทั้งหมดเซี่ยมู่ไม่อยากให้สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะเหตุนี้ ช่องว่างระหว่างเธอกับหลินตงจะยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ"เสด็จแม่! ลูกกินไม่ลงจริงๆ" เซี่ยมู่ส่ายหัวแล้วพูด"มู่มู่ ลูกมีอะไรหรือเปล่า? หลินตงแค่ออกไปทำธุระเอง ซึ่งเขาไม่ได้บอกว่าเขาจะไม่กลับมา ตอนนี้ลูกไม่ยอมกินข้าว และก่อนที่เขาจะกลับมา ร่างกายของลูกก็ทรุดโทรมไปแล้ว""เสด็จแม่! จริงๆ แล้วลูกก็รู้มาตลอด ว่าความรู้สึกของลูกที่มีต่อหลินตง มันก็แค่รักข้างเดียว แม้ว่าหลินตงจะช่วยชีวิตลูก แต่เขาปฏิบัติกับลูกเป็นเพียงเพื่อนแค่นั้น ลูกเคยคิดว่า ในฐานะองค์หญิงสิบเก้าของอาณาจักรกาแล็กซี หลินตงอาจเปลี่ยนใจได้ช้าๆ แต่ตอนนี้ที่เขาได้เข้าสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นเจ้าแห่งกาแล็กซี ทรงพลังยิ่งกว่าเสด็จพ่อองค์จักรพรรดิและปู่จิ่ว ลูกไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี?" เซี่ยมู่พูดด้วยอารมณ์หดหู่"มู่มู่! อย่าคิดแบบนั้น ลูกต้องมั่นใจกว่านี้ ลูกเป็นหนึ่งใน
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1377
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในห้องตำหนักของเซี่ยมู่!"โธ่ องค์หญิง ทำไมคุณถึงทำแบบนี้" หลินตงกล่าวอย่างหมดหนทางเดิมที เขามาพบเซี่ยอวิ๋นชวน เพื่ออธิบายว่าเขากำลังจะออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเซี่ยอวิ๋นชวนและเซี่ยจิ่วโหยวพูดคุยกันเองเพื่อหลีกเลี่ยงความอับอายหลินตงต้องถอยกลับก่อนแล้วค่อยกลับมาเขาจึงมาที่ตำหนักของเซี่ยมู่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้ยินการสนทนาของแม่และลูกสาวจริงๆ แล้ว หลินตงต้องการออกไปก่อนและไปหาเย่ชิงหวู่แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดสุดท้ายของเซี่ยมู่ที่พูดกับตัวเอง หัวใจของเขาก็อ่อนลงนี่คือข้อบกพร่องอย่างหนึ่งของเขาเป็นเพราะข้อบกพร่องนี้เอง ที่ทำให้มีผู้หญิงจำนวนมากรายล้อมเขาอยู่หลินตงคิดที่จะเปลี่ยนแปลงจุดนี้อย่างที่เขาว่ากัน สันดอนขุดได้ สันดานขุดยากนิสัยของคนๆ หนึ่งจะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายได้อย่างไรยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดว่านิสัยขอตัวเองมีตรงไหนไม่ดีก็นมนุษย์ไหม! ก็ต้องมีความรู้สึกกันบ้างเป็นธรรมดาถ้าจะใจดำไร้หัวใจขนาดนั้น แบบนั้นจะต่างอะไรกับเดรัจฉาน?ทันทีที่ได้ยินเสียงของหลินตง เซี่ยมู่ลับนิ่งงันหลังจากนั้นประมาณสองหรือสามวินาที
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1378
อย่างกับภรรยาสาวที่ถูกสามีผู้ชั่วร้ายทอดทิ้งในขณะนี้ หลินตงก็ตระหนักได้ว่า สิ่งที่เขาพูดดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ในเมื่อเย่ชิงหวู่ได้รับโอกาสให้เลือก เซี่ยมู่ก็ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันเช่นกันปฏิบัติต่างกันแบบนี้ ก็อดรู้สึกเจ็บไม่ได้จริงๆทันใดนั้น หลินตงก็นึกถึงคำพูดที่เซี่ยมู่เพิ่งพึมพำกับตัวเองเฮ้อ!!!ตัวเองทำอะไรผิดถึงต้องเจออะไรแบบนี้?ทำให้ผู้หญิงดีๆ ตั้งมากมาย ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับดูท่าคงต้องเปลี่ยนชื่อระบบของตัวเองซะแล้วอย่าเรียกมันว่าระบบศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงอีกต่อไปงั้นตั้งชื่อไปเลยว่า ระบบจีบสาวขั้นเทพ!“องค์หญิง! ครั้งนี้ฉันจะไปสู่อารยธรรมระดับสูงกว่า ฉันจะพาเพื่อนๆ ไปด้วย ซึ่งโอกาสมากกว่าที่จะก้าวข้ามอาณาจักรนิรันดรและมีอายุยืนยาวไม่สิ้นสุด หากองค์หญิงเต็มใจที่จะติดตามฉันไป ก็ควรบอกเสด็จพ่อเสด็จแม่และญาติของคุณ แล้วฉันจะพาคุณไปด้วย” หลินตงทำลายความเงียบและกล่าว"จริงเหรอ???" ความสุขในดวงตาของเซี่ยมู่ฉายแวบขึ้น"อืม! จริงเหรอ! แต่การจากไปครั้งนี้ อาจใช้เวลานานกว่าจะกลับมา""โอเค! งั้นฉันจะปรึกษากับเสด็จพ่อและเสด็จแม่ก่อนนะ" เซี่ยมู่ไม่ได้ตัดสินใ
บทล่าสุด
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1415
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1414
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1413
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1412
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1411
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1410
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1409
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1408
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ฉันเป็นมหาเศรษฐี ฉันขอเปิดเผย บทที่ 1407
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน
