ที่ตั้งกองทหารรับจ้างเปลวไฟนี่คืออาคารร้างที่ผ่านสงครามมาหลังจากทำความสะอาดง่าย ๆ ก็มีเต็นท์หลายสิบหลังถูกตั้งไว้ด้านนอกเซียวพ่อจวินนั่งอยู่บนที่นั่งหลักในห้องนั่งเล่น เว่ยโหย่งและหลี่กั๋วปิงยืนอยู่ข้างหลังเขา มีคนมากกว่าสิบคนในชุดต่าง ๆ นั่งอยู่ข้างใต้ แต่พวกเขาทั้งหมดแสดงท่าทีเหยียดหยามเสียงอึกทึกครึกโครมทั่วห้องโถง ต่างคนต่างคุยเรื่องของตัวเอง ดูเหมือนจะไม่เห็นเซียวพ่อจวินผู้รักษาการแทนกัปตันในสายตาเลยทางด้านขวามือของเซียวพ่อจวินมีชายหนุ่มอายุสามสิบปีคนหนึ่งนั่งอยู่ ตอนนี้เขาหลับตาและไม่พูดอะไรสักคำ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาเซียวพ่อจวินก็ปวดหัวเช่นกัน ในเวลาเพียงยี่สิบวัน สมาชิกหลายพันคนที่ได้รับคัดเลือกจากเปลวไฟถูกแบ่งออกเป็นทีมเล็ก ๆ มากกว่าสิบทีมโดยคนเหล่านี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หัวหน้าทีมเล็ก ๆ เหล่านี้แต่ละคนแข็งแกร่งกว่าเขา ในเขตที่วุ่นวายนี้ซึ่งให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งโดยสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งในรายการเสือระดับกลางของเขาไม่เพียงพอจริง ๆถ้าไม่ใช่ว่าทุกคนต้องรับเงินจากเขา ตำแหน่งของเขาคงไม่รู้ว่าถูกครอบครองโดยใครไปแล้ว"รองกัปตันเซียว กัปตันจะมาเมื่อไรกัน
ตราบใดที่มีผลประโยชน์ก็จะเป็นเหมือนแมลงวัน บินมาจากทุกทิศทุกทางด้วยความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถสั่นสะเทือนคนกลุ่มนี้ได้ทำไมนายน้อยหลินยังไม่มา? ??ถ้ายังไม่มาตัวเองก็จะฝืนต่อไปไม่ไหวแล้วเดิมทีคุยกันไว้ว่าจะมาภายในยี่สิบวัน แต่ตอนนี้ก็เกือบจะยี่สิบห้าวันแล้วในขณะที่เซียวพ่อจวินหมดหนทางหลัวซาที่หลับตาอยู่ก็พูดว่า "นั่งลงให้หมด รอกัปตันมาค่อยว่ากัน""หลัวซา ที่นี่มีแต่นายคนเดียวที่อยากแก้แค้น พวกเราทุกคนทำเพื่อเงินเท่านั้น นายอยากตาย อย่าลากพวกเราไปด้วย แม้ว่านายจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถหยุดพวกเราทุกคนที่นี่ได้" หน้าบากพูด"ฉันจะพูดอีกครั้ง!!! นั่งลง รอกัปตัน!!!""นาย..."หน้าบากอยากจะพูดอะไรอีกหลัวซาลืมตาขึ้นมามองอย่างรวดเร็วหน้าบากรู้สึกเพียงแสงเย็นส่องเข้ามา ทำให้เขาตัวสั่นไปทั้งตัวตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซาอย่างแน่นอน!!!นี่เป็นความคิดแรกของเขา"เอาล่ะ ฉันเห็นแก่นาย จะรอจนถึงเที่ยง!!!"หลังจากที่หน้าบากพูดจบก็นั่งลง คนอื่นก็นั่งตามไปด้วยเซียวพ่อจวินถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลินตงบอกเขาล่วงหน้าว่าเขาจะมาถึงวันนี้หวังว่านายน้อยหลินจะมาทันเวลามาถึงเที่
"พวกนายอยากไม่เกรงใจใคร???"เสียงดังขึ้นในห้องโถงที่กว้างขวาง!!!ทุกคนมองตามเสียงนั้นและเห็นชายหนุ่มสวม เห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งสวมหน้ากากเงินครึ่งหน้ายืนอยู่ที่ประตูห้องโถงในที่สุดนายน้อยหลินก็มาทันพวกเซียวพ่อจวินสามคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลัวซาลืมตาขึ้นและมองไปที่ร่างที่ประตู ไม่รู้สึกถึงรัศมีของบุคคลที่แข็งแกร่งจากตัวเขาเลย"นายเป็นใคร? หาเรื่องตาย?" หน้าบากมองไปที่หลินตงและด่าว่า"ปากเหม็นจริง ๆ!!! ตบปาก!!!"หลินตงเพิ่งพูดจบ"เพียะ!!!"เสียงหนึ่งดังขึ้นในห้องโถงทุกคนเห็นแต่หน้าบากใบหน้าครึ่งหนึ่งบวมแล้วคนอยู่ไหน???ทุกคนมองไปรอบ ๆ จึงพบว่าหลินตงกำลังนั่งอยู่ในที่นั่งของเซียวพ่อจวินแล้ว และเซียวพ่อจวิ ก็ยืนอยู่ข้างหลังเขานี่? ? ?เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น???ทุกคนงงกันหมด!!!ได้ยินเพียงประโยคเดียวว่า "ปากเหม็นจริง ๆ! ตบปาก!" ใบหน้าของหน้าบากก็บวมขึ้นและชายสวมหน้ากากเมื่อกี้ยังอยู่ที่ประตู ตอนนี้ได้นั่งที่นั่งหลักแล้วความเร็วนี้???เป็นสิ่งที่คนทำออกมาได้???หน้าบากในขณะนี้ยังปิดหน้าด้วยมือหนึ่ง มองไปที่หลินตงซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งหลักด้วยสายตาที่น่าหวาดกลัว
แค่ร่างกายของหลินตงถึงขีดจำกัดเหนือมนุษย์ก็เทียบเท่ากับจุดสูงสุดของรายการมังกรแล้ว ควบคู่ไปกับขีดจำกัดของพลังจิตวิญญาณ ความแข็งแกร่งของเขาได้แซงหน้าจุดสูงสุดของรายการมังกรไปแล้ว และก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งอย่าดูถูกก้าวเล็ก ๆ นี้ มันแสดงถึงอีกระดับหนึ่งแล้ว ขอบเขตที่เหนือกว่ารายการมังกร แต่อยู่ห่างจากระดับถัดไปอีกครึ่งก้าวนี่เป็นอาณาจักรที่หลายคนที่อยู่ในระดับสูงสุดของรายการมังกรใฝ่ฝันเพราะเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว การก้าวข้ามด่านต่อไปก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นพลังนี้ถูกปล่อยออกมาด้วยกำลังทั้งหมดของเขาห้องโถงอาคารทั้งหมดสั่นสะเทือนเล็กน้อยทุกคนในห้องโถงถูกหลินตงตั้งเป็นเป้าหมายในการกดดัน ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกแช่แข็งในก้อนน้ำแข็งทันทีไม่เพียงแต่ร่างกายจะหนาวเย็นเท่านั้น แม้แต่ขยับนิ้วก็ทำไม่ได้ด้วยซ้ำนี่เป็นการปราบปรามสองเท่าทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ ในขณะนี้พวกเขาเผชิญหน้ากับหลินตง เหมือนพวกเขาเผชิญหน้ากับศัตรูตามธรรมชาติในห่วงโซ่อาหาร พวกเขาไม่สามารถเกิดความคิดที่จะต่อต้านได้เลยในวงการศิลปะการต่อสู้ แม้ว่าพลังจะแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้มาก แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุการ
"ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้!!!" หลัวซาตอบอย่างกัดฟัน"เล่าสิ!!!"หลังจากหลินตงฟังเรื่องของหลัวซาจบ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมองเขาสูงเล็กน้อยลูกคนรวยที่มีชีวิตดีมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่ถูกกองทหารรับจ้างกระหายเลือดปล้นฆ่า เพื่อแก้แค้นให้พ่อแม่ เขามาที่ดินแดนวุ่นวายเพียงลำพัง สิบกว่าปีถึงเติบโตมาถึงจุดนี้ระหว่างนี้ได้ผ่านอันตรายเป็นตายมามากแค่ไหน เกรงว่าจะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้คนแบบนี้สมควรได้รับความชื่นชมจากเขาจริง ๆนี่ไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่ง!!!แต่เป็นจิตวิญญาณ!!!"ได้เลย!!!" หลินตงกล่าวเรื่องแบบนี้เขาไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ ตราบใดที่ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม กระบวนการไม่สำคัญเขาไม่มีความแค้นกับจอมทรราชย์ ฆ่าเขาเพียงเพื่อให้ตระกูลจางสูญเสียเครื่องมือปกป้องนี้ไป เพื่อลงมือกับตระกูลจางเพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วจอมทรราชย์จะตายด้วยมือใครก็เหมือนกันและจอมทรราชย์นี้ดูเหมือนจะเป็นคนที่ทำสิ่งชั่วร้ายมากมายจริง ๆ แล้ววงการทหารรับจ้างก็ไม่ได้เป็นคนชั่วทั้งหมด ทหารรับจ้างหลายคนรับหน้าที่เหมือนบอดี้การ์ดเพื่อปกป้องนายจ้างให้ปลอดภัยเช่นเดียวกับทีมเล็ก ๆ ของเซียวพ่อจวินที่เคยทำ"ข
"วันนี้ฉันได้กับกัปตันกองทหารรับจ้างเปลวไฟแล้ว แข็งแกร่งมาก!!!" หลัวซากล่าว"แข็งแกร่งขนาดไหน???""ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อต้านต่อหน้าเขาเลย น่าจะเกินจุดสูงสุดแล้ว ผ่านก้าวเล็ก ๆ นั้นไปแล้ว"อะไรนะ???ทุกคนมองดูหลัวซาด้วยความตกตะลึงพวกเขาเข้าใจโดยธรรมชาติว่าหลัวซาหมายถึงอะไรแต่สิ่งนี้จะเป็นไปได้ยังไง???กัปตันกองทหารรับจ้างที่จัดตั้งขึ้นใหม่กลับเป็นยอดฝีมือเหนือจุดสูงสุด!ใครจะเชื่อ? ? ?ไม่มีใครเชื่อ!!!แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ถึงระดับนั้น แต่พวกเขาติดตามหลัวซามาเป็นเวลาหลายปีและรู้ว่าก้าวเล็ก ๆ นั้นเป็นเรื่องยากเพียงใดจุดสูงสุดของรายการมังกรมีไม่มาก แต่ในบรรดาฐานคนหลายหมื่นล้านคนทั่วโลก ก็มีไม่น้อย แต่คนที่ก้าวข้ามก้าวเล็ก ๆ นั้นจริง ๆ นั้นหายากอย่างแน่นอนเพราะเมื่อก้าวข้ามจุดนั้นไป จะทะลุขอบเขตในตำนานนั้นก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นจอมทรราชย์ในฐานะยอดฝีมืออันดับหนึ่งรายการมังกร ก็อยู่แค่ระดับรายการมังกรเท่านั้นหากกัปตันเปลวไฟก้าวไปถึงขั้นนั้นจริง ๆ เขาก็ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของรายการมังกรอีกต่อไปถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ จอมทรราชย์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกัปตันเปลวไฟแน่นอน
พลังแข็งแกร่ง ไม่หยิ่งผยอง ยกเว้นเวลาปฏิบัติภารกิจจะเข้มงวดหน่อย ปกติทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้และพวกเขาก็เข้าใจว่าการปฏิบัติภารกิจที่เข้มงวดนั่นคือความรับผิดชอบต่อชีวิตของทุกคนหลังจากหลัวซาพูดโน้มน้าวทุกคนแล้ว ก็พาคนออกไปเขายังต้องไปรวบรวมคนให้มากขึ้นเพื่อโจมตีมุมมืดแม้ว่าจอมทรราชย์จะมีกัปตันจัดการ แต่ก็ยังมียอดฝีมือมากมายในกระหายเลือด ความแข็งแกร่งในปัจจุบันไม่เพียงพอเลยหลินตงบอกเขาตอนเขากำลังจะออกมาว่าสามารถจ้างกองทหารรับจ้างขนาดใหญ่หลายกองมาช่วยได้ในราคาสูง ตราบใดที่จอมทรราชย์มีคนจัดการ เชื่อว่าพวกเขาจะไม่ละทิ้งโอกาสที่ดีนี้ที่สามารถหาเงินและมีชื่อเสียงได้เขาก็รู้สึกว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีมาก เตรียมจะไปติดต่อทหารรับจ้างขนาดใหญ่หลายกองร้อย ดูว่าจะสามารถโน้มน้าวพวกเขาได้หรือไม่หลังจากที่หลัวซาจากไปแล้ว พวกเซียวพ่อจวินสามคนก็เดินเข้ามา"นายน้อยหลิน!""นายน้อยหลิน!""นายน้อยหลิน!"พวกเขาทั้งสามเรียกพร้อมกัน"ช่วงนี้ลำบากพวกคุณแล้ว!" หลินตงกล่าว"ลำบากก็ไม่ลำบากหรอกครับ แต่ถ้าคุณยังไม่มาอีก พวกเราคงรับมือไม่ไหวแล้วจริง ๆ ทหารรับจ้างเหล่านี้เป็นนักเลงเก่า ความแข็งแกร่
ดินแดนแห่งความวุ่นวายเคยเป็นประเทศที่มีอำนาจมาก แม้ว่าจะไม่ดีเท่ากับสองอาณาจักรต้าเซี่ยและอินทรี แต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่น ๆ มากเนื่องจากประเทศนี้มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์เกินมาก จึงถูกรัฐอินทรีสอดแนมมาเป็นเวลานาน แต่ด้วยข้อจำกัดของต้าเซี่ย ทำให้รัฐอินทรีไม่กล้าที่จะทำอะไรชัดเจนเกินไป ได้แต่เริ่มต้นจากภายในเท่านั้นหลังจากถูกรัฐอินทรีสอดแนมมานานหลายปี ในที่สุดประเทศก็ถูกแบ่งแยกจากภายใน เมื่อรัฐอินทรีต้องการยึดทรัพยากรของประเทศนี้ก็ถูกต้าเซี่ยขัดขวางต้าเซี่ยจะไม่อนุญาตให้รัฐอินทรีเพิ่มความแข็งแกร่งอีกต่อไปแน่นอน จักรวรรดิใหญ่ทั้งสองจำกัดซึ่งกันและกัน ซึ่งทำให้กองทหารรับจ้างมีโอกาสอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นดินแดนของทหารรับจ้าง และแม้แต่ประเทศเล็ก ๆ โดยรอบก็ยังส่งผู้คนที่ปลอมตัวเป็นทหารรับจ้างไปแย่งชิงทรัพยากรที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ที่วุ่นวายที่สุดในโลกรูปแบบจะคล้ายกับอำนาจของชนเผ่า กลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่เทียบเท่ากับชนเผ่าขนาดใหญ่ ครอบครองพื้นที่ที่มีทรัพยากรมากมาย กลุ่มทหารรับจ้างขนาดเล็กเทียบเท่ากับชนเผ่าขนาดเล็ก ครอบครองพื้นที่ที่มีทรัพยากรค่อน
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน