"คุณผู้ชาย! คุณผู้ชาย! กรุณาหยุดก่อนครับ!" ชายหนุ่มรีบตามไปหลินตงไม่สนใจเขา หลังจากพลังจิตวิญญาณของเขาเต็มเปี่ยมแล้ว เขาพบกลิ่นอายที่เป็นของยอดฝีมือรายการมังกรน่าจะเป็นฟางเจิ้งกั๋วครั้งที่แล้วที่เมืองชูเฉิง เขาเคยเจอกับฟางเจิ้งกั๋วหลังจากขึ้นไปที่ชั้นสองแล้ว หลินตงก็ตรงไปที่ห้องทำงานของฟางเจิ้งกั๋วชายหนุ่มตามหลังหลินตงมาโดยตลอดเมื่อมาถึงประตูห้องทำงานของฟางเจิ้งกั๋ว หลินตงก็เปิดประตูเข้าไปข้างในหลังจากเข้าไปในห้องแล้ว สิ่งแรกที่เห็นคือผู้ชายสุภาพในวัยสามสิบที่สวมแว่นตา"เลขาเฉิน! คุณผู้ชายท่านนี้บอกว่าเขาเป็นเพื่อนของผู้ว่าฟาง และจะขึ้นมาให้ได้! ผมหยุดเขาไม่ได้!" ชายหนุ่มกล่าว"คุณลงไปก่อนเถอะ!!!" เลขาเฉินพูด"ครับ!!! เลขาเฉิน!!!"ชายหนุ่มพูดจบก็หันหลังกลับและออกไป จากนั้นก็ปิดประตูเบา ๆ"คุณเป็นใคร? ชื่ออะไร? มาหาผู้ว่าฟางเรื่องอะไร?" เลขาเฉินพูดกับหลินตงหลินตงไม่ตอบและตะโกนตรงเข้าไปในห้องด้านในโดยตรง "ฟางเจิ้งกั๋ว ออกมาพบผม!""คุณนี่มันอวดดีจริงๆ!!!" เลขาเฉินลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธชี้ไปที่หลินตงแล้วพูด"โอ้? ผมอวดดีหรือว่าคุณอวดดี?" หลินตงพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
สมองของเลขาเฉินทำงานอย่างรวดเร็วต้องรักษางานของตัวเองไว้ให้ได้ ออกจากฟางเจิ้งกั๋วไม่ได้ไม่เช่นนั้นเขาก็จบแล้ว!!!ห้องทำงานฟางเจิ้งกั๋ว"ท่านสมาชิกสภาหลิน! เชิญดื่มชา!" ฟางเจิ้งกั๋วชงชาให้หลินตงด้วยตัวเองตอนนี้ไม่มีใครแล้ว แม้แต่คำเรียกฟางเจิ้งกั๋วก็เปลี่ยนหลินตงรับถ้วยชามา จิบแล้ววางลงบนโต๊ะชา ฟางเจิ้งกั๋วรู้ตัวตนของเขานั้นไม่ใช่เรื่องแปลกไม่อย่างนั้นคงไม่เคารพตัวเองมากขนาดนี้แน่นอน"ฟางเจิ้งกั๋ว! ผมมีเรื่องจะถามคุณ!" หลินตงกล่าว"ท่านสมาชิกสภาหลินเชิญพูด!""เรื่องตระกูลหวังแห่งเจียงเฉิงคุณรู้ไหม?""ท่านหมายถึงเรื่องของตระกูลหวังที่ร่วมมือกับตระกูลข่งที่เป็นตระกูลซ่อนเร้น?" ฟางเจิ้งกั๋วถาม"ใช่! เรื่องนี้แหละ!""รู้แน่นอน!""งั้นคุณในฐานะผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนาน คุณปล่อยให้ตระกูลซ่อนเร้นมาก่อกวนในดินแดนต้าเซี่ยของผมเช่นนี้? ผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนานของคุณไม่อยากทำแล้วใช่ไหม?""ท่านสมาชิกสภาหลินไม่รู้อะไร ไม่ใช่ว่าผมฟางเจิ้งกั๋วไม่ทำอะไรเลย ตอนนี้ต้าเซี่ยหกสิบหกมณฑล อย่างน้อยครึ่งหนึ่งมีตระกูลและนิกายซ่อนเร้นร่วมมือกับตระกูลท้องถิ่น ตระกูลและนิกายซ่อนเร้นเหล่านี้มีค
"ท่าน... ท่าน... ท่านสมาชิกสภาหลิน คุณ... คุณ... คุณ..." ฟางเจิ้งกั๋วถึงกับพูดติดอ่างผู้พิทักษ์ระดับเทพในวัยยี่สิบต้น ๆ!ไม่ต้องพูดถึงต้าเซี่ย แม้แต่ในประวัติศาสตร์นับพันปีในโลกก็ไม่เคยปรากฏมาก่อนนี่เป็นยุคที่ยิ่งใหญ่และหลินตงที่อยู่ตรงหน้าเขา ถูกลิขิตให้เป็นผู้ชายที่ครองยุคสมัยนี้เขาต้องกอดต้นขาของหลินตงให้แน่นเพราะพลาดโอกาสนี้ไป เขาก็จะไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาและถ้าคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ เขาก็อาจถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์นี่เป็นสิ่งล่อใจที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้"ฟางเจิ้งกั๋ว! ถ้าคุณยังอยากเป็นผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนานต่อไป อย่ากลัวอะไร กล้าหาญหน่อย ในฐานะที่เป็นนักรบก็ต้องมีเลือดที่นักรบควรมี นับประสาอะไรกับคุณยังเป็นคนต้าเซี่ย เรื่องของตระกูลข่งในครั้งนี้ ให้ผมหลินตงมาเชือดไก่ให้ลิงดู ผมต้องการให้ทุกนิกายและตระกูลที่ซ่อนเร้นในต้าเซี่ยรู้ว่าใครก็ตามที่ทำให้ต้าเซี่ยวุ่นวาย มีจุดจบเพียงจุดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือฆ่า... ล้าง... เผ่า... พันธุ์!!!"หลังจากหลินตงพูดประโยคสุดท้ายทีละคำแล้ว โมเมนตัมทั้งตัวก็ถึงจุดสูงสุดฟางเจิ้งกั๋วยอดฝีมือในระดับเริ่มต้นรายการมังกร ตอนนี้แค่นิ้
หลังจากพลังของหลินตงถึงขั้นสูงสุด เขาก็เก็บกลับคืนฟางเจิ้งกั๋วรู้สึกโล่งใจทันทีมือทั้งสองข้างค้ำพื้น หายใจเข้าฟอดใหญ่ เหงื่อบนหน้าผากตกลงมาเหมือนหยดน้ำ ก่อตัวเป็นรอยน้ำบนพื้นอย่างรวดเร็ว"ท่าน... ท่านสมาชิกสภาหลิน! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป... ผมฟางเจิ้งกั๋วจะยึดท่านเป็นผู้นำและเชื่อฟังคำสั่งของท่าน ไม่กล้าคิดเห็นแก่ตัวเด็ดขาด" ฟางเจิ้งกั๋วพูดพลางหายใจหอบ"เห็นแก่ตัวหรือไม่ผมจะไม่สนใจ คนเราก็มีความเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น แต่ต่อหน้าภาพรวม ผมหวังว่าคุณจะตัดสินใจได้ถูกต้อง ถ้าให้ผมรู้ว่าคุณทำลายผลประโยชน์ของต้าเซี่ย ผลที่ตามมาคุณก็น่าจะรู้" หลินตงยืนขึ้นและพูดกับฟางเจิ้งกั๋วอย่างวางตัว"ท่านสมาชิกสภาหลิน! ผมเข้าใจ! จากนี้ไปผมจะทำตามที่คุณต้องการอย่างแน่นอน ทำในสิ่งที่ตัวเองควรทำ""อย่างนั้นก็ดี!!! ต้าเซี่ยมีผมกับลุงซ่งอยู่ ท่ามกลางความวุ่นวายที่กำลังจะเกิด จะกลายเป็นดินแดนที่บริสุทธิ์ พวกนิกายและตระกูลที่ซ่อนเร้นเหล่านั้น ใครก็ตามที่กล้ากระโดดออกมาก่อกวนในต้าเซี่ยของผม ผมก็จะทำลายคนนั้น วันมะรืนจะเป็นฉลองวันเกิดแปดสิบปีของชายชราตระกูลลู่ ในงานเลี้ยงวันเกิดผมจะทำให้ตระกูลข่งรู้ถึงผลของก
หลังจากหลินตงออกจากที่ทำการผู้ว่าราชการมณฑลเจียงหนานก็ขับรถไปจนถึงโรงแรมโกลเด้นลิฟเขามาที่นี่เพื่อกินข้าวดี ๆ สักมื้อหลายวันมานี้ยุ่งจนหัวหมุน แม้กระทั่งข้าวก็ไม่ได้กินดีและก็แวะมาดูว่าป้าทั้งสองว่าเป็นอย่างไรบ้างหลังจากฝึกฝนมาเป็นเวลานาน น่าจะปรับตัวได้แล้วมั้ง!หากความสามารถเพียงพอ หลินตงก็เตรียมที่จะให้พวกเขารับช่วงต่อโรงแรมโกลเด้นลิฟถ้าให้พวกเขาเข้ามารับช่วงต่อในตอนแรกคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน ความสามารถไม่พอ ต้องค่อยเป็นค่อยไปตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้วเนื่องจากทำมานานขนาดนี้แล้วน่าจะมีความเข้าใจเชิงลึกในการบริหารโรงแรมแล้วบูกาติมังกรบินขับเข้าไปในลานจอดรถโรงแรมโกลเด้นลิฟ จอดรถไว้ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลินตงเดินเข้าไปในโรงแรมโกลเด้นลิฟ ภายใต้สายตาที่ถ่อมตัว เคารพ และอิจฉาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทันทีที่เข้าไปในประตู พนักงานต้อนรับหน้าตาดีรูปร่างสูงสี่คนก็โค้งคำนับและตะโกน "ยินดีต้อนรับ!!!"หลินตงเดินเข้าไปในห้องโถงทันใดนั้นผู้จัดการล็อบบี้สาวสวยวัยยี่สิบก็เข้ามาต้อนรับ"คุณผู้ชายคะ! ไม่ทราบว่ามาพักโรงแรมหรือทานอาหารคะ?""มาใหม่ใช่ไหม? ค
จากนั้นเรียกหาแผนกจัดเลี้ยง ให้พวกเขารีบเตรียมโต๊ะอาหารชั้นยอดและส่งให้ไปท่านประธานอย่างรวดเร็วข่าวที่ว่าท่านประธานหลินตงมาที่โรงแรมโกลเด้นลิฟก็แพร่กระจายไปทั่วโรงแรมโกลเด้นลิฟอย่างรวดเร็วทุกคนเริ่มยุ่งพยายามสร้างความประทับใจให้กับท่านประธานหลินตงกำลังนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลขหนึ่งของตัวเองไม่นานผู้จัดการของโรงแรมโกลเด้นลิฟก็มาถึงเป็นชายวัยกลางคนวัยสี่สิบกว่า ส่วนชื่อว่าอะไรนั้น หลินตงลืมไปแล้วจริง ๆ เขาจำได้แค่ว่าหลังจากจ้าวซวนถูกเขาส่งออกไปข้างนอกแล้ว ได้แต่งตั้งรองประธานขึ้นมาคนหนึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภายหลังทำให้เขาไม่ค่อยได้อยู่ในมณฑลเจียงหนานและไม่มีเวลามาที่โรงแรมโกลเด้นลิฟเลย"ประธานหลิน! ทำไมไม่แจ้งให้ผมทราบก่อนว่าท่านจะมา ผมจะได้พาคนไปต้อนรับท่าน" หยางฟานกล่าวอย่างระมัดระวังหลินตงจำเขาไม่ค่อยได้ แต่เขาจำประธานหลินตงคนนี้ได้ดีไม่นานมานี้บริษัทลงทุนตงไหลได้จัดการประชุมผ่านวิดีโอ ในฐานะผู้จัดการของโรงแรมโกลเด้นลิฟ ภายใต้บริษัทลงทุนตงไหล เขาก็มีโอกาสที่ได้เข้าร่วมเช่นกันคำพูดของหลินตง จนถึงตอนนี้เขาก็ยังจำได้ชัดเจน"ผมไม่ชอบอะไรเอิกเกริกเหล่านี้ ดังนั้
หลินตงมองไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเพิ่งพูดประโยคนี้จบก็ใช้จิตวิญญาณสังเกตหยางฟานหากหยางฟานมีอารมณ์แปรปรวนเช่นไม่พอใจ หลินตงก็จะไม่ใช้เขาอีกต่อไปแต่หยางฟานเพียงแค่แสดงอารมณ์ที่ตื่นเต้นเท่านั้น น่าจะกลัวตัวเองถูกไล่ออก ดังนั้นจึงเน้นว่าจะช่วยเหลือพวกป้าและจัดการโรงแรมให้ดีการใช้คนสำหรับหลินตง ความสามารถไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนิสัยใจคอไม่ว่าจะมีความสามารถแค่ไหน นิสัยไม่ดี เขาจะไม่ใช้แน่นอนเพราะเขาแตกต่างจากเจ้านายคนอื่นเจ้านายคนอื่น ๆ ตราบใดที่คุณมีความสามารถ สามารถสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับเขาได้ แม้ว่าจะมีความผิดบางอย่างก็จะทำเป็นไม่เห็นแต่หลินตงไม่ใช้ เขาก็ไม่ต้องการให้คุณหาเงินให้เขาเท่าไหร่ เพราะเงินของตัวเองก็ใช้ไม่หมดแล้ว แล้วหาเงินต่อไปจะมีประโยชน์อะไรแต่ดูจาการแสดงออกของหยางฟานเมื่อกี้ก็ไม่เลวเลยสามารถแต่งตั้งขึ้นไปได้บริษัทใหญ่อย่างบริษัทลงทุนตงไหลต้องการคนมากมายโรงแรมโกลเด้นลิฟเป็นเพียงทรัพย์สินที่ไม่โดดเด่นที่สุดของบริษัทลงทุนตงไหล"หยางฟาน! เดี๋ยวผมจะมอบโรงแรมโกลเด้นลิฟให้ป้าของผมบริหาร ต่อไปคุณจะไม่ได้เป็นผู้จัดการแล้ว
"แล้วนายกลับมาครั้งนี้วางแผนจะอยู่นานแค่ไหน?" หลิวแย่นเหมยถาม"ขึ้นอยู่กับสถานการณ์! น่าจะแค่ไม่กี่วัน กินข้าวกันก่อนเถอะ! อีกเดี๋ยวผมมีเรื่องจะบอกพวกคุณ"ทั้งสองครอบครัวรวมทั้งหลินตงก็เริ่มรับประทานอาหารโต๊ะอาหารชั้นเลิศขนาดใหญ่ ทั้งหมดปรุงด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุดของโรงแรมหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ...หลินตงวางตะเกียบลงแล้วถามว่า "ป้าเล็ก ป้าใหญ่ ตอนนี้พวกคุณทำงานเป็นยังไงบ้าง?""ไม่เลว!!!"ทั้งสองตอบพร้อมกัน"การดำเนินงานของโรงแรมเข้าใจหรือยัง?""น่าจะพอได้หมดแล้ว!!!""งั้นก็ดีแล้ว! ฉันวางแผนว่าจะเอาโรงแรมโกลเด้นลิฟออกจากบริษัทลงทุนตงไหล มอบให้พวกคุณดูแล! กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือต่อไปโรงแรมโกลเด้นลิฟจะเป็นของพวกคุณสองคน เงินที่หามาได้ก็เป็นของพวกคุณเอง คุณสองคนถือหุ้นคนละห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พวกคุณคิดว่าไง?"อะไรนะ???ทั้งสองครอบครัวที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็สับสนต่างรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยหลินตงจะโรงแรมโกลเด้นลิฟให้พวกเขาจริง ๆ เหรอ?นี่เป็นโรงแรมระดับแปดดาวที่มีมูลค่าเกือบสองหมื่นล้าน กำไรหลายพันล้านต่อปี ทั้งมณฑลเจียงหนานมีอยู่ที่เดียว"เสี่ยวตง!!! นี่... นี่ไม่ได้! เรา..
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน